The king of War - บทที่ 623 ดื่มเหล้าเพื่อให้ลืมความทุกข์
“เป็นนายจริงๆด้วย!”
ใบหน้าของซูวานดูประหลาดใจพร้อมกับรีบมานั่งที่ด้านหน้าของหยางเฉินและพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันก็เพิ่งจะคิดว่าหลังนี้ดูคุ้นๆ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นนายจริงๆ!”
“ทำไมมีนายคนเดียว?ฉินซีล่ะ?”
ซูซานถามด้วยรอยยิ้ม
หยางเฉินดูไม่กระตือรือร้นเท่าไรนัก ตอนที่เห็นซูซานในตอนแรกก็แปลกใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เขาพูดอย่างแผ่วเบาออกไปว่า “เธอพักผ่อนอยู่ที่บ้านน่ะ”
ซูซานนั้นไม่รู้ว่าบ้านที่หยางเฉินหมายถึงนั้นคือที่เมืองเยี่ยนตู ในใจของหล่อนมีความสุขอย่างลับๆ
หลังจากที่หยางเฉินได้ช่วยเหลือหล่อน หล่อนก็รู้สึกชอบหยางเฉินจนห้ามใจไม่อยู่แต่ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับฉินซีนั้นจึงทำได้แค่เพียงระงับความรักที่มีต่อหยางเฉินไว้
จู่ๆก็ได้มีโอกาสมาพบปะกับหยางเฉินเพียงลำพัง
ตอนนี้หล่อนดีใจเป็นอย่างมากที่ได้พบหยางเฉินที่เมืองเยี่ยนตูอีกครั้ง
สิ่งที่สำคัญเลยก็คือหยางเฉินอยู่คนเดียว
“หยางเฉิน นายคงไม่ได้ทะเลาะกับฉินซีหรอกใช่ไหม?ทำไมท่าทางดูหดหู่นักล่ะ?”
ซูซานรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของหยางเฉินจึงถามไปด้วยความสงสัย
“เปล่า!”
คำตอบของหยางเฉินนั้นเรียบง่าย
อย่างไรก็ตามภายในใจของซูซานกลับรู้สึกมีความสุข ยิ่งท่าทางของหยางเฉินแปลกไปเท่าไหร่ นั่นก็หมายความได้ชัดเลยว่าเขามีปัญหากับฉินซี
“มา ฉันดื่มเป็นเพื่อน!”
ซูซานพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับรินใส่แก้วของตนเองและดื่มหมดลงไปในคราวเดียวเหมือนกับหยางเฉิน
“พร๊วด!”
เพียงแต่เมื่อหล่อนดื่มไปเพียงหน่งคำก็ต้องบ้วนออกมาจนหมด หล่อนแลบลิ้นสีแดงฉานออกมาพร้อมกับใช้มือข้างพัดไปและบ่นไป “นี่มันเหล้าอะไรกัน?ทำไมมันเผ็ดขนาดนี้?นี่มันเหมือนกับแอลกอฮอล์เลยนะ”
เมื่อเห็นท่าทางที่ดูลำบากของซูซาน หยางเฉินก็รู้สึกเหมือนอยากจะหัวเราะออกมา
“นี่เป็นวอดก้าที่แรงที่สุดของที่นี่ นอกจากกลิ่นของเหล้าแล้วก็ไม่มีกลิ่นอะไรอื่นอีกเลย รสชาติจะแรง ฉุนจมูกให้ความรู้สึกกระตุ้นเหมือนไฟ” หยางเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายยังจะมายิ้มอีก!” ซูซานจ้องหยางเฉินอย่างดุเดือด
หยางเฉินไม่ได้สนใจนัก เดิมทีที่จิตใจหดหู่แต่กลับมีซูซานมาทำให้ขบขันได้ชั่วครู่
“เอาไวน์ผลไม้มาให้ฉันที” ซูซานเรียกพนักงานเสิร์ฟ
“หล่อนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” หยางเฉินถามขึ้นทันที
ซูซานถอนหายใจพร้อมกับอธิบาย “พ่อฉันต้องการให้ตระกูลซูมาตั้งรกรากที่เมืองเยี่ยนตูมาโดยตลอดก็เลยให้ฉันมาดูที่ทางทำงานก่อน”
“ตระกูลซูจะมาเมืองเยี่ยนตูงั้นเหรอ?” หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ตระกูลซูเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเจียงโจว ทุกอย่างๆนั้นอยู่ที่เจียงโจวหมด หากทำการย้ายมาที่เมืองเยี่ยนตู ไม่ต้องพูดถึงร่ำรวยที่สุดเลย ด้วยอำนาจทางการเงินของตระกูลซูนั้นไม่นับว่าเป็นคนร่ำรวยระดับล่างสุดด้วยซ้ำ
ในบรรดาเหล่าเศรษฐีในเมืองเยี่ยนตู มีใครบ้างล่ะที่ไม่ร่ำรวยกัน?มีกี่ตระกูลที่เป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่?
“ทำไม?นายดูถูกตระกูลซูงั้นเหรอ?” ซูซานจ้องไปที่หยางเฉินพร้อมกับถาม
หยางเฉินส่ายหัว “ยังไม่ถึงขั้นนั้น…ก็แค่แปลกใจที่ตระกูลซูร่ำรวยอยู่ที่เจียงโจวดีๆไม่ชอบแต่กลับเลือกที่จะมาโดนทารุณที่เมืองเยี่ยนตูได้ซะนี่”
ซูซานกลอกตามองบน “ไหนบอกว่าไม่ได้ดูถูกตระกูลซูกันไงล่ะ!”
หยางเฉินไม่พูดมาก เขาหยิบวอดก้าดื่มไปอีกแก้วในรวดเดียว
เมื่อเห็นท่าทางของหยางเฉินที่ดื่มหนัก ใบหน้าของซูซานก็ดูคลั่งไคล้
“หยางเฉิน แน่ใจใช่ไหมว่าไม่เป็นอะไร?”
ซูซานดูกังวล ดวงตากลอกไปหนึ่งรอบพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมโทรออก “ฉันจะโทรหาฉินซี”
“เดี๋ยวก่อน!”
หยางเฉินหยุดอย่างรวดเร็ว
เป็นเพราะเขารู้ความจริงบางอย่างและรู้สึกเสียใจ เขาไม่อยากให้ฉินซีต้องมาเห็นเขาในสภาพนี้และต้องมารู้สึกเสียใจไปด้วยกันก็เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงมาดื่มเหล้าที่บาร์นี้เพียงลำพัง
หากซูซานบอกฉินซีไปแล้วฉินซีจะคิดยังไงล่ะ
“นายยังจะมาบอกว่าไม่ได้มีปัญหากับเสี่ยวซีอีกเหรอ เห็นได้ชัดว่าทะเลาะกันก็เลยมาดื่มเหล้าเพื่อให้ลืมความทุกข์ไปว่างั้นเถอะ?”
ซูซานวางโทรศัพท์พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม
หยางเฉินขี้เกียจจะอธิบายจึงได้แต่กระดกเหล้าเข้าไป ในไม่ช้าวอดก้าหนึ่งขวดก็หมดลง
เดิมทีเขายังมีความคิดที่จะดื่มให้ลืมความทุกข์แต่เพราะซูซานปรากฏตัวขึ้นมาจึงทำให้เขานั้นไม่มีอารมณ์อีกต่อไป เขาลุกขึ้นและพูดว่า “ฉันไปก่อนนะ หล่อนก็รีบกลับไปพักผ่อนล่ะ!”
“เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ!” ซูซานรีบวิ่งตามไป
หลังจากตามหยางเฉินไปจนถึงด้านนอกก็ได้พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “หยางเฉิน นายเกรงใจกันเกินไปไหม จะพูดยังไงดีล่ะ พวกเราเป็นเพื่อนกันนะแต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่านายปฏิบัติห่างเหินกับฉันจังล่ะ?”
“หล่อนมีอะไรงั้นเหรอ?” หยางเฉินหยุดลงพร้อมกับมองและถามซูซานอย่างสงสัย
พูดตามตรงว่าเขาไม่ค่อยชอบผู้หญิงแบบนี้สักเท่าไหร่
หากไม่ใช่เพราะว่าหล่อนเป็นเพื่อนสนิทของฉินซีล่ะก็เขาก็คงไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนี้หล่อนมายุ่มย่ามกับตนและนั่นจึงทำให้หยางเฉินรู้สึกหมดความอดทนเล็กน้อย
“ดึกขนาดนี้แล้วนายจะให้ฉันกลับคนเดียวได้ยังไงกัน?นายต้องไปส่งฉันที่โรงแรมสิ!” ซูซานพูด
เขาที่เพิ่งดื่มวอดก้าไปหมดขวดเมื่อสักครู่นี้ก็อยากจะดื่มให้เมามายอีกครั้ง แต่ตอนนี้กลับเวียนหัวและต้องการจะนอนพักผ่อน
คืนนี้ดื่มมาหนักขนาดนี้ กลับบ้านไปก็คงจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก เขาเองก็ตัดสินใจที่จะนอนโรงแรมด้วยเช่นกัน
ไหนๆซูซานก็ต้องการให้ตนไปส่งอยู่แล้ว งั้นก็ไปส่งหล่อนแล้วค่อยเปิดห้องอีกห้องหนึ่งก็แล้วกัน
หลังจากตัดวินใจเรียบร้อยก็ได้ตอบรับกลับไป “ได้ ฉันจะไปส่งหล่อนเอง”
เมื่อเห็นหยางเฉินตอบรับ ใบหน้าของซูซานก็เปี่ยมไปด้วยความสุข “ขอบคุณฮีโร่หยางจริงๆ”
ซูซานพักที่โรงแรมฮิลตัน ระยะทางจากโรงแรมก็ไม่ไกลมากนัก นักแท็กซี่มาหนึ่งคันใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงที่หมาย
เพียงแต่เมื่อมาถึงที่หมาย หยางเฉินก็ได้ผล็อยหลับไปที่เบาะทางด้านหลังแล้ว
“หยางเฉิน!หยางเฉิน!”
ซูซานตะโกนร้องเรียกหลายครั้งแต่หยางเฉินนั้นก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ ใบหน้าของเธอแดงก่ำและรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ถึงแล้วเหรอ?”
หยางเฉินถูกซูซานพยุงให้เดินไปหลายก้าว เมื่อลมโกรกพัดโดนหน้าจึงทำให้ตื่นขึ้นมาหน่อยแต่เขาก็ยังคงเวียนหัวอยู่ดี
“นายระวังหน่อย ฉันพยุงนายอยู่!” ซูซานพูดเสียงเบาๆ
สมัยก่อนที่อยู่ชายแดนเหนือ เขาเป็นถึงผู้บัญชาการสูงสุดที่จะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาและนั่นทำให้เขาไม่ได้ดื่มเหล้ามาโดยตลอด
ในครั้งนี้ที่ออกจากชายแดนเหนือมาแล้วแต่เขาก็ยังคงมีนิสัยที่ไม่แตะเหล้าบุหรี่อยู่ เรื่องในวันนี้ที่เจอก็ทำให้รู้สึกหดหู่เสียใจบวกกับเมื่อเดินผ่านร้านบาร์จึงทำให้เกิดความอยากลองขึ้นมาสักหน่อย
เดิมทีเขาก็อยากดื่มให้เมาเพื่อลืมความทุกข์ไปดังนั้นจึงทำให้เมาได้ง่ายนัก ณ เวลานี้ เขาเกือบหลับและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครกันที่คอยพยุงเขาอยู่
ร่างทั้งร่างแทบจะพาดอยู่บนตัวของซูซาน ดังนั้นจึงปล่อยตัวเพื่อให้ซูซานพยุงเขาไป
ซูซานพยายามอย่างสุดความสามารถในการที่จะพาหยางเฉินมาที่ห้องของตน
เมื่อมาถึงห้อง หล่อนก็ได้หอบหายใจเฮือกใหญ่ “พระเจ้า ทำไมนายตัวหนักขนาดนี้เนี่ย?”
เมื่อเห็นหยางเฉินที่ถูกหล่อนโยนลงบนเตียงใหญ่ ดวงตาของซูซานก็เริ่มเร่าร้อนขึ้นมา
“ฉินซี คราวนี้มาโทษฉันไม่ได้นะ เป็นเพราะผู้ชายของเธอแข็งแกร่งเกินไปเกรงว่าผู้หญิงหน้าไหนก็คงอดใจชอบไม่ได้” ซูซานพูดพึมพำ
ในดวงตาคู่นั้นยังคงต่อสู้กันเองอยู่ แต่ทว่าในตอนนี้ในสมองของซูซานนั้นมีภาพของหยางเฉินที่เข้ามาช่วยหล่อนที่หน้าบ้านของตระกูลซูไว้เป็นครั้งแรก หล่อนรู้สึกว่าหัวใจของตนนั้นเต้นแรงพองโต
แม้ว่าเรื่องนั้นจะผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่ฉากนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในใจหล่อนเสมอมา
“แชะ แชะ แชะ!”
ซูซานหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพร้อมกับถ่ายรูปหยางเฉิน จากนั้นถ่ายรูปตัวเองนอนบนเตียงคู่กับหยางเฉินผ่านมุมของหล่อน
จากนั้นใบหน้าของหล่อนก็ปรากฏรอยยิ้มที่ประสบความสำเร็จออกมา