The king of War - บทที่ 644 รอนายดื่มเหล้าเคารพ
“แต่ว่านายต้องระวังนะ คุณชายเหลียงคนนั้นที่พวกเขาพูดถึง ชื่อว่าเหลียงหยุน เขาไม่ธรรมดาสักนิดเดียว อยู่ล่างแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ตระกูลเหลียงแกร่งสุด แม้กระทั่งมีข่าวลือว่า ตระกูลเหลียงอยากเบียดตัวเข้าแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู คือมีหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู จะถูกแทนที่”
ผังเสี่ยวเยว่พูดอย่างหน้าตาจริงจังทันใด เห็นได้ชัดว่า เธอก็กังวลกับการพบกันของหยางเฉินและเหลียงหยุนอยู่บ้าง
หยางเฉินหัวเราะแล้วถามว่า “เธอให้ฉันปลอมเป็นแฟนเธอ ความจริงก็เพื่อรับมือกับเหลียงหยุนคนนี้มั้ง?”
เมื่อถูกเปิดโปง ผังเสี่ยวเยว่ก็ไม่เขินอาย แต่กลับพูดด้วยท่าทางหยิ่งยโส “ในเมื่อเป็นนายแพ้ให้ฉันแล้ว ต้องรับปากข้อเสนอฉันข้อหนึ่ง นายผิดใจใคร ไม่เกี่ยวกับฉัน”
เธออาจจะรู้สึกว่าพูดประโยคนี้ไปไร้หัวใจอยู่บ้าง พูดจบ ก็กำชับอีกว่า “หยางเฉิน นายอย่าโอ้อวดเด็ดขาดเลยนะ ทนได้ก็ทนเอา อย่าเกิดความขัดแย้งกับเหลียงหยุนเด็ดขาด”
หยางเฉินยิ้มบอก “เมื่อกี้เธอไม่ใช่ยังพูดว่า ต่อให้ฉันผิดใจใครแล้ว ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเธอเหรอ?”
พอได้ยิน ผังเสี่ยวเยว่ถลึงตาใส่หยางเฉินแล้ว พูดอย่างอารมณ์เสีย “ถ้านายอยากจะผิดใจเหลียงหยุนให้ได้ ฉันก็ไม่สนนายแล้ว! ถึงตอนนั้นพลอยทำให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปลำบากไปด้วย อย่ามาโทษฉันแล้วกัน!”
“วางใจได้เลย ลูกหลานตระกูลเหลียงเล็กๆ คนหนึ่ง ฉันยังไม่เก็บมาใส่ใจหรอก”
หยางเฉินไม่คิดจะหยอกล้อผังเสี่ยวเยว่อีก หัวเราะบอกไป
ภายใต้การนำทางของผังเสี่ยวเยว่ อีกยี่สิบนาทีต่อมา หยางเฉินขับรถมาจอดที่ลานจอดรถหน้าประตูร้านอาหารแซ่เฉินแล้ว
“เสี่ยวเยว่ ทางนี้!”
ผังเสี่ยวเยว่เพิ่งลงรถมา หน้าประตูร้านอาหาร เสียงหญิงสาวที่ชัดแจ๋วดังขึ้นแล้ว
“นี่คือจางหรุ่ยเพื่อนร่วมห้องพักของฉัน”
ผังเสี่ยวเยว่ควงแขนหยางเฉินไว้ เดินไปทางหญิงสาว พลางแนะนำกับหยางเฉิน หลังจากเดินเข้าใกล้หญิงสาว ก็พูดกับจางหรุ่ยว่า “เสี่ยวหรุ่ย เขาคือหยางเฉินแฟนฉันเอง”
“นายคือหยางเฉินสินะ! เสี่ยวเยว่มักจะพูดถึงนายบ่อยๆ ตอนอยู่หอพัก ในที่สุดวันนี้ก็ได้เจอนายตัวจริงแล้ว สวัสดี!”
จางหรุ่ยกระตือรือร้นมาก ยื่นมือออกก่อน
หยางเฉินมองผังเสี่ยวเยว่ด้วยหน้าตาแปลกประหลาดแวบหนึ่ง จากนั้นถึงยื่นมือออกมาจับกับจางหรุ่ยสักหน่อย ยิ้มบอกว่า “เสี่ยวเยว่ก็พูดถึงเธอให้ฉันฟังบ่อยเหมือนกัน บอกว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องพักกับเธอ คือโชคที่สะสมมาจากชาติที่แล้ว”
“จริงเหรอ?”
จางหรุ่ยตื่นเต้นมาก หัวเราะพูดว่า “นึกไม่ถึงว่า ตำแหน่งของฉันในใจเสี่ยวเยว่สูงขนาดนี้”
มองทั้งสองที่แสร้งคล้อยตามกันพอรอดตัว ผังเสี่ยวเยว่ก็สีหน้าหมองคล้ำ
วันนี้ถือว่าเธอเจอกับหยางเฉินเป็นครั้งที่สอง และยังเป็นแฟนปลอมๆ ของเธอด้วย เคยพูดถึงหยางเฉินกับคนอื่นที่ไหนกัน?
สำหรับเรื่องที่เธอมักจะพูดถึงจางหรุ่ยกับหยางเฉิน ยิ่งปั้นน้ำเป็นตัวกว่า
“เสี่ยวหรุ่ย แฟนเธอล่ะ?” ผังเสี่ยวเยว่ถามขึ้นกะทันหัน
จางหรุ่ยพูดอย่างสง่างามมาก “ฉันเลิกกับเขาไปตั้งนานแล้ว”
“เลิกแล้ว?” ผังเสี่ยวเยว่ถามด้วยความสงสัย
จางหรุ่ยเหมือนไม่ยินยอมพูดเรื่องนี้มากเท่าไร เพียงแค่ส่ายหน้าแล้ว
ความจริง หล่อนเพิ่งเลิกกับแฟนหนุ่มเมื่อสักครู่นี้ พูดขึ้นมา ยังเพราะเนี่ยเจียเจียและโจวชินทั้งสองสาว บอกหล่อนก่อนล่วงหน้าว่า ผังเสี่ยวเยว่หาแฟนที่ขับรถหรูราคาสิบล้านคนหนึ่งมาแล้ว
ในบรรดาพวกหล่อนเพื่อนร่วมห้องพักสี่คนนี้ ผังเสี่ยวเยว่สวยที่สุด จากนั้นก็คือจางหรุ่ย
แต่ว่า ฐานะทางบ้านของจางหรุ่ย กลับสภาพแย่ที่สุด
โดยเฉพาะมองเห็นเนี่ยเจียเจียกับโจวชินหน้าตาสวยไม่สู้หล่อน คาดไม่ถึงจะหาแฟนที่ฐานะทางบ้านไม่เลวได้กันหมด ส่วนแฟนของหล่อน กลับเหมือนหล่อน มาจากชนบท
เดิมทียังมีผังเสี่ยวเยว่ที่ไม่มีแฟนคนเดียว แต่ว่าตอนนี้ แฟนของผังเสี่ยวเยว่ ครอบครองรถหรูราคาเป็นสิบล้าน กลับทำให้หล่อนยิ่งรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
แต่ว่านี่ก็ไม่เป็นอะไรหรอก เพราะวันนี้คนที่ชวนมาเลี้ยงข้าว เป็นคุณชายใหญ่ตระกูลร่ำรวยสุดๆ คนหนึ่ง ขอเพียงสามารถอ่อยอีกฝ่ายมาอยู่ในมือได้ ชาตินี้หล่อนคงสุขสบายไม่ต้องกังวลว่าจะอดตายแล้ว
นี่คือเหตุผลว่าทำไมหลังจากหล่อนมองเห็นหยางเฉิน จึงกระตือรือร้นมาก เพราะการนัดทานข้าวครั้งนี้ เดิมทีเป็นคุณชายเหลียงจัดขึ้นเพื่อผังเสี่ยวเยว่ ปัจจุบันนี้หยางเฉินเข้าร่วมด้วย คุณชายเหลียงก็ได้เพียงเลือกหล่อน
ในเวลานี้เอง จางหรุ่ยยื่นมือชี้ไปทางลานจอดรถทันใด “เป็นเจียเจียกับเสี่ยวชินพวกเขามากันแล้ว”
“พวกเรารีบเข้าไปเถอะ คุณชายเหลียงมาถึงแล้ว”
หลังเจียวต้าเหว่ยแฟนของโจวชินเดินเข้ามา พูดเร่งขึ้น
คาดไม่ถึง ตอนที่พวกเขามาถึงห้องอาหาร ชายหนุ่มที่เซตผมคนหนึ่ง นั่งอยู่บนเก้าอี้ใจกลาง
ดูขึ้นมาอีกฝ่ายอายุประมาณสามสิบปี หน้าตาดูไม่เลวเลย มีบุคลิกของพวกอ่อนต่อโลก
เห็นได้ชัด คนผู้นี้คือเหลียงหยุนนั่นเอง
“คุณชายเหลียง ขอโทษนะครับ ให้คุณรอนานแล้ว!”
เจียวต้าเหว่ยรีบเข้ามา หัวเราะแล้วพูดขึ้น
เหลียงหยุนหัวเราะส่ายหน้า “ได้เจอกับเสี่ยวเยว่ ต่อให้ฉันรอทั้งคืน ฉันก็ยอม!”
เขายังไม่ได้สำนึกถึงว่า ผังเสี่ยวเยว่ตามติดข้างกายหยางเฉิน
ได้ยินคำพูดของเหลียงหยุน หลายคนสีหน้าดูแย่อยู่บ้าง ทันใดนั้นเจียวต้าเหว่ยไม่รู้จะอธิบายอย่างไร โดยเฉพาะนัดทานข้าวของวันนี้ เดิมคือเหลียงหยุนเพื่อผังเสี่ยวเยว่ถึงมีขึ้น ปัจจุบันนี้ผังเสี่ยวเยว่กลับพาแฟนมาแล้ว
“คุณชายเหลียง นี่คือแฟนของฉันค่ะ หยางเฉิน!”
ผังเสี่ยวเยว่ควงแขนของหยางเฉินไว้ฉับพลัน มองเหลียงหยุนพลางบอกไป
เดิมทีเหลียงหยุนยังหน้าตายิ้มแย้ม หลังได้ยินประโยคนี้ของผังเสี่ยวเยว่ การแสดงออกบนหน้าก็แข็งค้างในชั่วพริบตา
ทันใดนั้น ทั้งห้องอาหารเงียบสงัด เจียวต้าเหว่ยและคนอื่นๆ ยิ่งไม่กล้าหายใจแรงกันทั้งนั้น
“คุณชายเหลียง มาค่ะ ฉันดื่มให้คุณแก้วหนึ่ง!”
ในเวลานี้เอง จางหรุ่ยเทเหล้าแก้วหนึ่งก่อนเอง ยกแก้วไปยังเหลียงหยุน
เหลียงหยุนถึงได้สติเข้ามา ที่นัยน์ตาลึกมีความทนไม่ไหวนิดๆ แวบผ่าน แต่ไม่ยอมแสดงออกมาต่อหน้าผังเสี่ยวเยว่
“นี่เสี่ยวเยว่ก็มีแฟนแล้วงั้นสิ!”
เหลียงหยุนไม่ได้สนใจว่าจางหรุ่ยจะดื่มเหล้าเคารพ แต่ว่ามองทางหยางเฉิน ยิ้มกริ่มพูดว่า “ใช่แล้ว นายชื่อหยางอะไร?”
เห็นได้ชัดว่าเสแสร้ง หยางเฉินชื่อที่ง่ายดายขนาดนี้ ผังเสี่ยวเยว่ก็เพิ่งแนะนำไปเมื่อสักครู่ เขาจะจำไม่ได้ได้อย่างไรกัน?
หยางเฉินไม่โกรธ ตอบกลับว่า “หยางเฉิน!”
“ไม่รู้ว่าน้องหยางเฉินทำงานที่ไหน?”
เหลียงหยุนยิ้มกริ่มถามขึ้น
ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาสังเกตดูหยางเฉินรอบหนึ่ง เหมือนกันกับตอนที่เนี่ยเจียเจียและโจวชินพวกเขาเพิ่งเจอหยางเฉิน ในสายตาเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม
ในสายตาพวกเขา เสื้อผ้าเก่าเน่าชุดนี้ของหยางเฉิน ล้วนเป็นของข้างถนน นอกจากหล่ออยู่หน่อย ก็ไม่มีตรงไหนดีเลย
“นักธุรกิจเท่านั้น ไม่มีอะไรให้พูดถึง!” หยางเฉินพูดจาเรียบนิ่ง
เขาเป็นประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เดิมตนเองก็คือนักธุรกิจ
เจียวต้าเหว่ยกลัวเหลียงหยุนจะเสียเกียรติต่อหน้าหยางเฉิน รีบบอกทันที “คุณชายเหลียงครับ คุณอย่าดูถูกน้องหยางเฉินเด็ดขาดนะครับ! ธุรกิจของบ้านเขา เกรงว่าไม่ธรรมดา รถของน้องหยางเฉิน เป็นถึงโฟล์คเภาตันรุ่นสั่งทำโดยเฉพาะที่ราคาหลักสิบล้านด้วยครับ”
“โอ๊ะ?”
เหลียงหยุนตกใจอยู่บ้างนิดหน่อย มองหยางเฉินอย่างลึกล้ำแวบหนึ่งพูดว่า “นึกไม่ถึง น้องหยางเฉินยังเป็นคนรวยซ่อนรูปด้วย แต่ว่าทำธุรกิจที่เมืองเยี่ยนตู ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีไว้ ธุรกิจถึงยิ่งทำยิ่งดีได้”
“คุณชายเหลียงพูดถูก โดยเฉพาะที่เมืองเยี่ยนตู ทุกที่ล้วนเจอบุคคลใหญ่โตได้ และยิ่งเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ บางส่วนอีก ถ้าเกิดไม่ระวังไปล่วงเกินบุคคลใหญ่โตเข้า เกรงว่าธุรกิจเล็กๆ ของเขา จะกลายเป็นธุรกิจขาดทุนแล้ว”
เจียวต้าเหว่ยหัวเราะนิดหน่อยพูดไป เห็นได้ชัดว่าจงใจพูดให้หยางเฉินฟัง
ฉือเจียงก็รีบพูดเหมือนกัน “โดยเฉพาะเป็นบุคคลใหญ่โตอย่างคุณชายเหลียงนี้ ฉันได้ยินว่าก่อนหน้านี้มีพวกไม่ดูตาม้าตาเรือ ล่วงเกินคุณชายเหลียงเข้า ผลปรากฏว่าวันต่อมา ทั้งตระกูลล้วนพังพินาศแล้ว?”
เหลียงหยุนฟังความหมายในคำพูดของเจียวต้าเหว่ยและฉือเจียงออก ชัดเจนว่ากำลังช่วยเขาขู่ขวัญหยางเฉิน