The king of War - บทที่ 647 สู้กันเอง
“น้องชายของนายเพิ่งจะทำตัวไม่สุภาพกับเพื่อนของฉัน พวกเราแค่ช่วยคนเท่านั้นและถึงแม้น้องชายของนายจะถูกทุบตี มันก็คือการหาเรื่องใส่ตัว ฉันขอแนะนำพวกนายว่าทางที่ดีที่สุดคืออย่าทำตัวบุ่มบ่ามอีก”
เหลียงหยุนเดินออกมาและมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่สงบพร้อมกับพูดว่า “ถือว่าเห็นแก่หน้าของฉัน พวกนายไปเสียเถอะ!”
ผู้นำของอีกฝ่ายขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปที่เหลียงหยุนหัวจรดเท้าและได้เอ่ยปากถามไปว่า “นายเป็นคุณชายจากตระกูลไหนกัน?”
“ฉันเป็นลูกชายคนโตรุ่นที่สามของตระกูลเหลียง เหลียงหยุน มีปู่ของฉันเป็นผู้นำตระกูลเหลียง!” เหลียงหยุนกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“เย็ดแม่!เป็นแค่เศษเดนไร้ประโยชน์ของพวกตระกูลชั้นสองยังจะมีหน้ามาตอแหลกับฉันอีกนะ?ต่อให้เป็นปู่ของนายก็จะยังกล้ามาขอเกียรติศักดิ์ศรีจากไช่เหวินอย่างฉันงั้นเหรอ?”
ไช่เหวินกล่าวอย่างโกรธเคือง
เมื่อได้ยินชื่อเต็มของอีกฝ่าย สีหน้าของเหลียงหยุนก็เปลี่ยนไปในทันทีพร้อมกับพูดอย่างประหลาดใจว่า “นาย…นายคือไช่เหวินจากตระกูลไช่งั้นเหรอ?”
“ชื่อเต็มของฉัน นายมีคุณสมบัติที่จะเรียกงั้นเหรอ?”
ไช่เหวินก้าวขึ้นไปข้างหน้าพร้อมกับตบไปที่หน้าของเหลียงหยุนและถามอย่างโกรธเคือง
เมื่อเห็นเหลียงหยุนถูกตบ ฉือเจียงและเจียวต้าเหว่ยที่ทำตัวหยิ่งยโสเมื่อสักครู่ก็ถึงกับตะลึงตาค้างและแข้งขาทั้งสองข้างก็อ่อนปวกเปียกไปหมด
ขนาดเหลียงหยุนยังโดนตบเข้าให้แล้วพวกเขาล่ะ?
ประเด็นคือคนที่ตบหน้าเหลียงหยุนคือคนของตระกูลไช่และชายหนุ่มที่พวกเขาเพิ่งไปต่อสู้ด้วยก็คือน้องชายของไช่เหวิน
ผู้หญิงสองคนอย่างโจวชินและเนี่ยเจียเจียที่ตกใจมากจนหน้าตาซีดเผือดไปหมดก็ได้เผลอไปคว้าแขนของแฟนเอาไว้โดยไม่รู้ตัว
จางหรุ่ยผู้ซึ่งหวังจะได้รับความรักที่ทะนุถนอมจากเหลียงหยุนก็ถึงกับตะลึงงัน ชายหนุ่มที่เพิ่งมาลวนลามเธอเมื่อสักครู่นี้นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนของตระกูลไช่
หากรู้ก่อนหน้านี้ล่ะก็เธอจะไปทำตัวรักใคร่กับเหลียงหยุนทำไมกัน?ไปเข้าหาชายหนุ่มจากตระกูลไช่ไม่ดีกว่าหรอกเหรอ?
“คุณชายเหวิน ผมผิดไปแล้ว โปรดให้อภัยผู้น้อยอย่างผมด้วยเถอะครับ ทำกับผมเหมือนเป็นเพียงการผายลมออกมาก็พอเถอะครับ!” ใบหน้าของเหลียงหยุนเต็มไปด้วยความอ้อนวอน
“เพี๊ยะ!”
ไช่เหวินตบเข้าไปที่หน้าของเหลียงหยุนพร้อมกับพูดอย่างโกรธเคืองว่า “นี่แม่มึงคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติที่จะเป็นลมตดของฉันงั้นเหรอวะ?”
เหลียงหยุนแทบจะร้องไห้ออกมา “คุณชายเหวิน แม้แต่การผายลมของท่านผมก็ไม่อาจเป็นได้ ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะนะครับ!”
“เพี๊ยะ!”
ไช่เหวินตบไปอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง “นายกล้ามาทำน้องชายของฉันและยังจะมาขอให้ฉันปล่อยนายไปอีกงั้นเหรอ?”
“ตุ้บ!”
เหลียงหยุนทนแรงกดดันของไช่เหวินไม่ไหวอีกต่อไปจึงได้คุกเข่าทั้งสองข้างลงพร้อมกับพูดอ้อนวอนว่า “คุณชายเหวิน ท่านต้องการลงโทษยังไงก็เชิญเลย ผมยอมแล้ว!แต่โปรดเบามือหน่อยก็พอ!”
“ตุ้บ!”
“ตุ้บ!”
เมื่อเห็นเหลียงหยุนคุกเข่าลง ฉือเจียงและเจียวต้าเหว่ยก็ได้คุกเข่าตามพร้อมกับอ้อนวอนอย่างขมขื่น
“หนุ่มน้อย นายล่ะ?” ไช่เหวินมองไปที่หยางเฉินในทันที
หยางเฉินนั้นอยู่ที่นั่งชั้นพิเศษเดียวกับพวกฉือเจียง เขาจึงคิดว่าหยางเฉินต้องมากับพวกนี้ด้วยอยู่แล้ว
หยางเฉินพูดเบาๆ “ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับพวกเขาซะหน่อย”
“เสี่ยวกวาง มีหนุ่มน้อยคนนี้อยู่ในกลุ่มที่ลงมือไหม?” ไช่เหวินหันไปถามชายหนุ่มที่ถูกพวกฉือเจียงรุม
ไช่กวางเหลือบมองหยางเฉิน เมื่อแน่ใจว่าไม่มีเขาอยู่ในนั้นก็ได้ส่ายหัวออกมา “ไม่มีเขาอยู่ในนั้น!”
“ขี้ขลาดจริงๆ!” เนี่ยเจียเจียพูดเบาๆอย่างดูถูกดูแคลน
โจวชินและจางหรุ่ยเองต่างก็มองไปที่หยางเฉินอย่างดูถูก ดูเหมือนว่าพวกหล่อนจะไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เห็นหยางเฉินมีท่าทีหลีกเลี่ยงเช่นนี้แต่กลับไม่รู้เลยว่าตั้งแต่ที่พวกหล่อนเห็นหยางเฉินในค่ำคืนนี้ก็เอาแต่พูดใส่ร้ายป้ายสีเขามาโดยตลอด
หยางเฉินไม่ได้สนใจแต่อย่างใด เขาแพ้ให้กับผังเสี่ยวเยว่ก็เลยต้องปลอมตัวมาเป็นแฟนให้ก็เท่านั้น ตราบใดที่ผัวเสี่ยวเยว่ปลอดภัยไร้กังวล เขาก็จะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องของคนอื่น
“เสี่ยวกวาง นายอยากจะลงโทษพวกระยำนี้ยังไงก็แล้วแต่นายเลยนะ!” ไช่เหวินไม่ได้สอบสวนอะไรหยางเฉินต่อพร้อมกับพูดกับไช่กวาง
ไช่กวางขึ้นไปต่อยและเตะเข้าไปที่เหลียงหยุน เหลียงหยุนตะโกนร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ความเย่อหยิ่งเมื่อตอนอยู่ที่นั่งชั้นพิเศษไปอยู่ไหนแล้วล่ะ?
เมื่อไช่กวางเตะตีจนเหนื่อยแล้วก็ได้พูดออกมาอย่างเหนื่อยหอบว่า “แกเป็นไอ้สารเลวที่ลงมือได้อย่างน่าเกลียดชังที่สุด แม้แต่ฉันก็ยังกล้ามาทำได้ แกนี่มันตาบอดมองไม่เห็นของที่สูงค่าจริงๆ”
“ใช่ใช่ใช่ คุณชายกวางพูดได้ถูกต้องแล้ว เหลียงหยุนอย่างผมนี้มันช่างตาบอดจริงๆถึงได้จำคุณชายหวางไม่ได้ ไม่เช่นนั้นต่อให้มอบความกล้ามาให้ผมล่ะก็ผมก็คงไม่กล้าที่จะลงมือเป็นแน่!”
เหลียงหยุนเหมือนคนที่ช่างประจบสอพลอ เขาพูดอย่างหน้าไม่อาย
เดิมทีเขาคิดว่าต่อให้เขาไม่ตายก็คงถูกเฆี่ยนจีจนพิการแน่ๆ ไม่คิดเลยว่าไช่กวางจะทำเพียงแค่ชกต่อยเขาเพียงสองสามทีซึ่งนั่นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
“ในเมื่อเป็นแค่หมาตัวหนึ่ง ฉันก็จะไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรกับนายอีก ไม่เช่นนั้นหากไปคิดเล็กคิดน้อยกับหมาก็มีแต่จะด้อยค่าของตัวฉันอีกไม่ใช่เหรอ?”
“พวกเราก็เป็นหมาเช่นกัน ไม่กล้าที่จะทำอะไรคุณชายกวางหรอกครับ ได้โปรดคุณชายกวางปล่อยหมาสองตัวอย่างพวกเราไปเถอะนะครับ” เจียวต้าเหว่ยและฉือเจียงรีบพูดออกมา
ไช่กวางหัวเราะอย่างดูถูก “แม้ว่าฉันจะไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับพวกหมาแต่ว่าการที่พวกนายมาลงไม้ลงมือกับฉันมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยไปได้ พวกนายสองคนสู้กันเองสิ ใครแพ้ฉันจะหักขาหมาตัวนั้นแหละ!”
เมื่อคำพูดของไช่กวางออกมา เจียวต้าเหว่ยก็ได้ชกหมัดเข้าไปที่ใบหน้าของฉือเจียงอย่างจัง
สติของฉือเจียงที่เพิ่งกลับมาก็ได้เตะเข้าไปที่เจียวต้าเหว่ยในทันทีพร้อมกับพูดอย่างโกรธเคืองว่า “แกกล้ามาตีฉันเหรอ ฉันจะฆ่าแก!”
“เย็ดแม่มึงสิฉือเจียง นึกไม่ถึงเลยว่าแกจะกล้าตีฉัน เบื่อที่จะใช้ชีวิตแล้วสินะ?” เจียวต้าเหว่ยชกออกไปอีกครั้ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เมื่อมองฉือเจียงกับเจียวต้าเหว่ยสู้กันเอง ไช่เหวินและคนอื่นๆต่างก็พากันหัวเราะออกมายกใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและภาคภูมิใจ
เนี่ยเจียเจียและโจวชินที่เห็นแฟนของตนนั้นกำลังสู้กันเองก็แทบอยากจะร้องไห้ออกมา อย่างไรก็ตามนี่เป็นคำสั่งของไช่กวางและพวกหล่อนก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งอะไร ได้แต่มองดูอยู่เงียบๆ
แต่ตัวการที่ทำให้เกิดเรื่องอย่างจางหรุ่ยกลับมีความหยอกล้อเย้าแหย่ฉายอยู่ในดวงตา
ในบรรดารูมเมทของเธอ เห็นได้ชัดว่ารูปร่างหน้าตาของเธอเป็นรองผังเสี่ยวเยว่เท่านั้นแต่ทำไมถึงหาแฟนได้จนที่สุดเลยล่ะ
ในตอนนี้ผังเสี่ยวเยว่เองก็หาแฟนที่ร่ำรวยมากๆได้อีกซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากไปกว่าเดิม
ขณะนี้เองที่เธอได้มองไปที่ไช่กวาง ดวงตาของเธอก็มีแสงสว่างประกายวาบ
ยิ่งเธอมองไปที่ไช่กวางเธอก็ยิ่งรู้สึกถึงความแข็งแกร่งกล้าหาญมีพลังและความหล่อเหลาอีกด้วย ในใจก็แอบรู้สึกโกรธที่ทำไมเมื่อสักครู่เธอถึงไม่พบความดีเลิศเลอของไช่กวาง?
เธอถูกรูมเมททั้งสามคนกดดันมาเป็นเวลาสี่ปีเต็มๆ นี่ก็กำลังจะจบการศึกษาแล้ว ตนต้องโจมตีกลับแล้วงั้นเหรอ?
แฟนของโจวชินและเนี่ยเจียเจียก็กำลังต่อสู้กันเองเพราะคำพูดของไช่กวางอยู่และแม้แต่เหลียงหยุนก็คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับทำตัวเป็นหมา
หากวันนี้ได้เหยียบหยางเฉินให้จมดินได้อีกคน วันนี้เธอก็คงถือว่าได้เหยียบย่ำเพื่อนรูมเมททั้งสามคนของเธอแล้ว
“หยางเฉิน นายยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม?เพื่อนของนายโดนตีขนาดนี้นายก็ยังมุดหัวหดอยู่ในกระดอง มองดูอยู่ได้เหรอ?” จางหรุ่ยพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่โกรธจัด
แววตาที่ฉายแววความเสียใจและความชอบของหญิงสาวขณะที่มองไปที่ไช่กวางนั้นไม่อาจละพ้นสายตาของหยางเฉินได้
อีกทั้งยังมีสีหน้าท่าทางที่ดูบิดเบี้ยวของหญิงสาวคนนี้อีก หยางเฉินที่ได้เห็นเองกับตาก็รู้ดีเลยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดทำอะไรอยู่
“ฉันสนิทกับพวกเธองั้นเหรอ?” หยางเฉินถามอย่างเยาะเย้ย
ผังเสี่ยวเยว่เองก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าขนาดเหลียงหยุนยังต้องคุกเข่าอ้อนวอนนั้นหมายความคนที่อยู่ตรงหน้านี้คงมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่ๆ การที่จางหรุ่ยมาขอให้หยางเฉินช่วยนั้นไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกเหรอ?