The king of War - บทที่ 656 ไปพบเขา
หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันให้เวลาพวกคุณครึ่งชั่วโมง ภายในครึ่งชั่วโมง ถ้าพ่อของคุณไม่มา งั้นฉันก็คงต้องไปตระกูลไช่เองแล้ว แต่ถึงเวลานั้นเรื่องจะรุนแรงมากกว่านี้ไหม ฉันไม่รับประกัน”
หลังพูดจบ หยางเฉินโบกมือ “แยกย้าย”
ด้วยคำสั่งของหยางเฉิน คนนับพันจากไปโดยไม่ลังเล ราวกับกระแสน้ำที่ไหลกลับในพริบตา
หยางเฉินเหลือบมองไช่โหย่วเหวยอย่างเฉยเมย “ฉันจะรออยู่ที่นี่ ให้เวลาคุณแค่ครึ่งชั่วโมง”
หลังจากพูดจบ เขาหันหลังเดินเข้าไปในร้านอาหาร ไม่กลัวแม้แต่น้อยว่าไช่โหย่วเหวยจะพาคนนับร้อยพุ่งเข้าฆ่าตนเองตอนนี้
ในใจของไช่โหย่วเหวยก็สับสนมาก เขาไม่คิดจะลงมือกับหยางเฉินตอนนี้เหรอ?
แต่เมื่อมองดูท่าทางมั่นใจของหยางเฉินที่สามารถเรียกคนนับพันมาได้ภายในสิบนาทีเพียงคำเดียว เขาก็ไม่กล้า
“พวกเรากลับ!”
ไช่โหย่วเหวยกัดฟันพูดขึ้น
ในชั่วพริบตา ร้านอาหารแซ่เฉินที่มีคนมากมายเมื่อกี้ ก็สงบลงในทันใด
“หยางเฉิน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
หยางเฉินกลับไปที่ห้องอาหารส่วนตัวก่อนหน้านี้ ผังเสี่ยวเยว่รีบลุกขึ้นต้อนรับเขาด้วยสีหน้ากังวล
หยางเฉินส่ายหน้า สั่งเฉินอิงเหาว่า “คุณให้คนไปส่งเสี่ยวเยว่กลับบ้าน!”
“ฉันไม่กลับ!”
ใครจะไปรู้ว่าผังเสี่ยวเยว่จะส่ายหน้าปฏิเสธในทันที พูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “ฉันรู้ว่าคุณอยากจะไล่ฉันกลับ เดิมทีเรื่องวันนี้เกิดขึ้นเพราะฉัน ฉันไปไหนไม่ได้! ”
“เป็นเพราะตระกูลไช่ไม่ยอมไกล่เกลี่ยแต่โดยดีเหรอ? หรือจะให้ฉันไปขอร้องตระกูลไช่ ให้เขาปล่อยคุณไป”
เมื่อได้ยินคำพูดของผังเสี่ยวเยว่ จู่ๆ หยางเฉินก็รู้สึกเหมือนกับชนะ ในที่สุดครั้งนี้ผู้หญิงคนนี้ก็ทายผิด
“ฉันพูดผิดไปเหรอ?”
เมื่อเห็นสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องของหยางเฉิน ผังเสี่ยวเยว่ขมวดคิ้วถามขึ้น แต่ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจมาก
เธอเห็นสีหน้าจริงจังและตึงเครียดจากใบหน้าของเฉินอิงเหา แต่ในสายตาของหยางเฉินกลับมองไม่เห็นอะไรเลย เพียงรู้สึกได้ว่าในใจของหยางเฉินสงบมากในตอนนี้ ราวกับว่าเรื่องของตระกูลไช่ไม่ได้สำคัญอะไรนัก
“เธอสบายใจได้ ตระกูลไช่ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ขอแค่เธอกลับไปตอนนี้ ฉันถึงจะไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลอีก เธออยู่นี่รังแต่จะเป็นภาระของฉันมากกว่า” หยางเฉินพูด
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของผังเสี่ยวเยว่เต็มไปด้วยความผิดหวัง มองหยางเฉินอย่างจริงจัง เข้าใจว่านี่เป็นความจริงจึงพูดว่า “ก็ได้! งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ!”
หยางเฉินพยักหน้า
เวลาเพียงไม่นาน เฉินอิงเหาก็ให้คนไปส่งผังเสี่ยวเยว่ เขาก็ส่งแฟนของเขากลับบ้านเหมือนกัน ทันใดนั้น ในห้องอาหารส่วนตัวเหลือเพียงหยางเฉินและหม่าชาว และเฉินอิงเหาสามคน
“คุณหยาง ครั้งนี้ท่านจะต้องช่วยผมนะครับ! ผมฆ่าคนของตระกูลไช่ ตระกูลไช่ต้องไม่ปล่อยผมไปง่ายๆแน่ๆ ” สีหน้าของเฉินอิงเหาหวาดกลัว
หยางเฉินพูดว่า “นี่ทำให้คุณกลัวแล้วเหรอ?”
เฉินอิงเหากลัวจริงๆ แต่ก็ไม่กล้ายอมรับ ได้แค่ส่ายหัว “มีคุณหยางอยู่ ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!”
“ในเมื่อไม่กลัว งั้นก็เรียกคนมาสิ!” หลังจากนั้นก็รออย่างสบายใจ รอตระกูลเฉินรับช่วงต่อจากตระกูลไช่” หยางเฉินพูดขึ้น
เฉินอิงเหาอึ้งไปชั่วครู่ “เรียกคน? คุณหยางต้องการกี่คนครับ?”
หยางเฉินพูดไม่ออก ถ้าจะให้เรียกคนมาจริงๆ เขาก็คงไม่ให้คนนับพันกลับไป
หม่าชาวทนดูต่อไปไม่ได้จึงยิ้มอย่างเบิกบานใจ “พี่เฉินบอกให้คุณเรียกคนกุมอำนาจของตระกูลเฉินมา ไม่อย่างนั้น คุณสามารถเป็นตัวแทนตระกูลเฉินรับช่วงต่อจากตระกูลไช่ได้ไหมล่ะ?”
หลังจากได้ยินคำพูดของหม่าชาว เฉินอิงเหาถึงรู้สึกตัว เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณปู่ของผมยกตำแหน่งผู้นำให้พ่อของผมแล้ว เมื่อกี้ผมได้แจ้งให้เขารู้แล้ว เขาน่าจะใกล้ถึงแล้ว”
น้ำเสียงจบลง ก็มีเสียงคนเคาะประตูห้องอาหารส่วนตัว
หลังจากเฉินอิงเหาเปิดประตูก็เห็นร่างชายวัยกลางคนกำลังยืนอยู่หน้าประตู นั่นก็คือเฉินเห้าลูกชายของเฉินซิงไห่
“ป๊า! ”เฉินอิงเหาเรียกแล้วรีบหลีกทางให้
“คุณหยาง!”
หลังจากเฉินเห้ามาถึงด้านหน้าของหยางเฉิน เขาก็พูดขึ้นด้วยความเคารพ
หยางเฉินพยักหน้าเล็กน้อย “ในเมื่อท่านผู้นำเฉินมีความคิดที่อยากจะมาขยายธุรกิจในเมืองเยี่ยนตู คนตระกูลเฉินในเมืองเยี่ยนตูน่าจะมีไม่น้อยใช่ไหม?”
“คุณหยาง คนส่วนใหญ่ของตระกูลเฉินต่างมาอยู่ที่เมืองเยี่ยนตูแล้ว รอฟังคำสั่งของคุณหยางอยู่ตลอด คุณหยางอยากจะสั่งอะไร สั่งมาได้เลยครับ” เฉินเห้าพูด
“ให้คนตระกูลเฉินเตรียมตัวให้พร้อมก็พอ” หยางเฉินพูดอย่างราบเรียบ
“ครับ!” เฉินเห้าตอบแล้วรีบไปจัดการ
อีกด้าน ไช่โหย่วเหวยพาคนกลับไป มุ่งหน้าไปที่บ้านตระกูลไช่
“ป๊า เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
ไช่โหย่วเหวยโทรศัพท์รีบพูดขึ้น
“เกิดเรื่องอะไร?” ไช่หวงรีบถามขึ้น
ไช่หวงคือผู้นำตระกูลไช่ ปัจจุบันสถานบันเทิงครึ่งหนึ่งของเมืองเยี่ยนตูถูกสร้างขึ้นโดยเขา
ไช่โหย่วเหวยไม่รอช้ารีบเล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้โดยไม่ตกหล่น
“ป๊า ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี? เขาบอกให้ป๊าไปคุยกับเขา แน่นอนว่าต้องเรียกข้อเสนอเยอะแน่นอน” ไช่โหย่วเหวยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ไช่หวงไม่พูดอะไรและหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ชายหนุ่มที่สามารถเรียกคนนับพันมาได้ภายในสิบนาทีนั้นไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน ในเมื่อเขาอยากเจอฉัน ฉันก็คงจะต้องไปหาเขา”
“ป๊า ป๊าไปไม่ได้! ” เห็นได้ชัดว่านี่คืองานเลี้ยงที่หงเหมิน(Hongmen Banquet)ชัดๆ ถ้าป๊าไปแล้วเขาจะเอาชีวิตป๊าล่ะ ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไง”
ไช่โหย่วเหวยรีบพูดว่า “สู้ตอนนี้พวกเราเรียกรวมพลแล้วไปฆ่าเขาที่ร้านอาหารแซ่เฉินเสียดีกว่า!”
“เขาเรียกคนนับพันแล้วยังไง? พวกเราสามารถเรียกคนได้มากกว่าเขาแน่!”
ไช่โหย่วเหวยกัดฟันพูดด้วยความแค้น
“ถ้าไม่แน่ใจ แกคิดว่าเขาจะปล่อยแกกลับมางั้นเหรอ?”
ไช่หวงถอนหายใจอย่างเยือกเย็น “เขาไม่กลัวเพราะมีที่พึ่งพิง เขาไม่กลัวตระกูลไช่เลย!”
เดิมทีไช่โหย่วเหวยคิดว่าหลังจากมาหาไช่หวงแล้ว จะคิดหาทางเอาคืนหยางเฉิน แต่คำพูดของไช่หวงทำให้เห็นได้ชัดว่ากลัวหยางเฉิน
“ป๊าจะไปพบเขาจริงๆเหรอ?” ไช่โหย่วเหวยถามด้วยความประหลาดใจ
ไช่หวงพยักหน้า พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตายของตระกูลไช่ ฉันไม่ไปไม่ได้!”
“มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั่งครับ?”
ไช่โหย่วเหวยแง้มมุมปากถาม
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ตอนนี้แกพาไช่เหวินไปร้านอาหารแซ่เฉินกับฉัน” ไช่หวงขมวดคิ้วพูด
“พาไปกี่คนครับ?” ไช่โหย่วเหวยถามอีก
“พาคนไป?”
ไช่หวงพูดด้วยความโกรธเคือง “พวกเรากำลังจะไปขอโทษเขา แกจะเอาพวกไป อยากตายหรือไงฮะ?”
เมื่อเห็นพ่อของตนโกรธ ไช่โหย่วเหวยจึงไม่กล้าพูดไร้สาระอีก รีบตอบทันใด “ครับ!”
หลังจากไช่โหย่วเหวยจากไป ไช่หวงโทรศัพท์หาใครบางคนที่ไม่ได้โทรหามานานแล้ว อีกฝ่ายรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น “ว่ามา!”
“ตระกูลไช่มีปัญหาแล้ว!” ไช่หวงพูด
“เวลา สถานที่!” อีกฝ่ายพูด
ไช่หวงเหลือบมองเวลา หยางเฉินบอกให้พวกเขาไปหาภายในครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ล่วงเลยมา 15 นาทีแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “15 นาทีหลังจากนี้ ร้านอาหารแซ่เฉิน!”
“โอเค!”
การตอบกลับของอีกฝ่ายยังคงเรียบง่ายเหมือนเดิม แล้ววางสายไป
ภายในห้องราชาสุดหรูในร้านอาหารแซ่เฉิน
“พี่เฉิน นี่พี่กำลังวางแผนที่จะควบคุมตระกูลมหาเศรษฐีของเมืองเยี่ยนตูทั้งหมดไว้ในมือ!” หม่าชาวถามด้วยรอยยิ้ม
หยางเฉินส่ายหน้า “ฉันไม่เคยคิดจะควบคุมตระกูลไหนทั้งนั้น ที่ทำไปก็เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น”