The king of War - บทที่ 674 ภัยถึงชีวิต
ซุนซวี่ออกแรงตบจริงๆ หลังจากเขาตบไป หน้าของซุนเหม่ยจวนก็ปรากฏรอยฝ่ามืออย่างชัดเจน
ส่วนโม่ตงซวี่ นาทีที่เห็นซุนซวี่คุกเข่าแทบเท้าหยางเฉินก็ตกใจจนนิ่งอึ้งไป ขณะนี้หน้าตาไม่อยากจะเชื่อสุดๆ
“พ่อคะ พ่อตบหนูได้อย่างไร?”
ซุนเหม่ยจวนตาแดงก่ำ สีหน้าเหลือเชื่อ พ่อที่รักและตามใจตัวเองมายี่สิบกว่าปี ไม่เคยแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเล็บ กลับตบหน้าเธอต่อหน้าทุกคน และสั่งให้เธอคุกเข่าร้องขอชีวิตกับหยางเฉิน
“เพียะ!”
ซุนซวี่ตบไปอีกฉาด หนนี้แรงกว่าเมื่อกี้ซะอีก ซุนเหม่ยจวนมีเลือดไหลซิบๆที่มุมปาก
“แล้วก็ขยะอย่างแก ช่างเป็นเรื่องน่าอับอายจริงๆที่แกแต่งเข้ามาในตระกูลซุนของเรา!”
ซุนซวี่ถีบโม่ตงซวี่และพูดเสียงเกรี้ยวกราด “แกก็คุกเข่าลงซะ”
โม่ตงซวี่รู้สึกอัดอั้นตันใจสุดๆ โดยเฉพาะที่ต้องโดนพ่อตาตัวเองดูถูกขนาดนี้ต่อหน้าซ่งหวาหย่า
แต่ต่อให้อัดอั้นตันใจ ทุกอย่างที่เขามีในตอนนี้ก็ได้มาจากซุนซวี่ทั้งนั้น เขาต้องอดทนไว้และคุกเข่าลงพื้นอย่างแรง
จวบจนนาทีนี้ซุนเหม่ยจวนถึงตระหนักได้ในที่สุดว่าพ่อของตัวเองกลัวหยางเฉินมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะตบเธอได้ยังไง
เธอก็คุกเข่าลงไปโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ทว่าในสายตาเต็มไปด้วยความเจ็บใจ
ในสายตาของเธอ หยางเฉินเป็นเพียงคนจนๆ แต่ตอนนี้แม้แต่พ่อตัวเองยังต้องคุกเข่าแทบเท้าหยางเฉินเพื่ออ้อนวอน แล้วเธอล่ะจะไปมีค่าอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน
“คุณหยาง ฉันผิดไปแล้ว”
ทันใดนั้นซุนเหม่ยจวนก็กัดฟันเอ่ยขึ้น เธอรู้ว่าหากตัวเองไม่ยอมขอโทษ สิ่งที่ตามมาเกรงว่าจะร้ายแรงมาก
ไหนจะโม่ตงซวี่อีก เขาเองก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บใจ “ขอโทษครับ ผมไม่ควรไปมีเรื่องกับคุณ”
“คุณหยาง พวกเราก็สำนึกผิดแล้ว คุณได้โปรดใจกว้างปล่อยพวกเราไปเถอะ”
“คุณหยาง ไม่ว่ายังไงพวกเราก็เรียนมหาวิทยาลัยกับเสี่ยวหย่ามาสี่ปี หวังว่าคุณจะเห็นแก่หน้าเธออย่าถือสาพวกเราเลย”
“เสี่ยวหย่า พวกเราสำนึกในความผิดตัวเองแล้ว หลังจากนี้เราไม่กล้าทำกับเธอแบบนั้นแล้ว เธอช่วยพวกเราหน่อยเร็ว บอกให้พี่ชายเธอปล่อยพวกเราไปเถอะ พวกเราขอร้องล่ะ”
…..
พวกเขาก่นด่าหยางเฉินและซ่งหวาหย่าก่อนหน้ามากเท่าไหร่ ตอนนี้ก็ขอร้องอ้อนวอนด้วยท่าทีต่ำต้อยเท่านั้น
โดยเฉพาะหยางซง ซางเสี่ยวเซียและหวางหวนสามคนที่หวาดผวาสุดๆ แทบอยากจะลงไปกราบกรานสำนึกผิด
หยางเฉินกลับไม่แม้แต่จะมองพวกเขาด้วยซ้ำ เพียงแต่ยิ้มกว้างมองพวกซุนซวี่ “ซุนซวี่ คุณน่าจะรู้จักนิสัยของฉันนะ ฉันไม่ใช่คนหาเรื่องคนอื่นก่อน”
“เมื่อกี้ลูกสาวและลูกเขยของคุณดูถูกเหยียดหยามฉันและน้องสาวสารพัดสารเพ และลั่นวาจาว่าจะฆ่าพวกเราด้วย”
“คุณว่าถ้าฉันขอให้คุณฆ่าลูกสาวและลูกเขยของคุณเพื่อรักษาตระกูลซุนไว้คงไม่เกินไปใช่มั้ย ถึงยังไงพวกเขาก็เป็นฝ่ายล่วงเกินฉันก่อน และจะเอาชีวิตของฉันและน้องสาวด้วย”
หยางเฉินเผยรอยยิ้มสดใส ทว่าซุนซวี่เห็นแล้วกลับขนลุกซู่ไปทั้งตัว
หลังจากได้ยินคำพูดของหยางเฉินแล้ว ซุนเหม่ยจวนและโม่ตงซวี่กลัวจนฉี่แทบราด พวกเขาอยากจะฆ่าหยางเฉินก็จริง แต่นั่นภายใต้สถานการณ์ที่พวกเขาทึกทักเอาเองว่าหยางเฉินเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า
บัดนี้แม้แต่ซุนซวี่ยังคุกเข่าร้องขอชีวิต เพียงพอจะให้รู้แล้วว่าตัวตนของหยางเฉินนั้นไม่ธรรมดา
หากหยางเฉินจะเอาชีวิตพวกเขาจริงๆ ต่อให้เป็นซุนซวี่ก็ปกป้องพวกเขาไม่ได้
ซุนซวี่ตัวสั่นเทิ้ม พลังของหยางเฉินนั้นเขาเคยเห็นมานานแล้ว ต่อให้เขาพาผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดของตระกูลซุนมาก็ไม่ใช่คู่มือของหยางเฉินหรอกนะ!
“คุณหยางครับ ผมมีลูกสาวแค่คนเดียว คุณช่วยเห็นแก่หน้าผมปล่อยเธอไปได้มั้ยครับ ไม่ว่าคุณจะเรียกร้องอะไรก็บอกผมได้หมด ขอเพียงผมทำได้ ผมไม่มีทางปฏิเสธเด็ดขาด”
ซุนซวี่รีบบอก
หยางเฉินถามด้วยรอยยิ้มกว้าง “หน้าของคุณ มีค่าสำหรับผมเหรอ?”
ทุกคนรู้สึกเพียงระทึกขวัญ ซุนซวี่คุกเข่าขอร้องแล้วหยางเฉินยังไม่ไว้หน้าเลย
จนถึงนาทีนี้ซุนเหม่ยจวนและโม่ตงซวี่ถึงรู้ว่าคราวนี้พวกเขาสร้างปัญหาใหญ่หลวงแล้วจริงๆ ต่อให้ไม่ตาย เกรงว่าพวกเขาก็ต้องแบกรับผลอันร้ายแรงที่ตามมา
ซุนซวี่ปาดเหงื่อที่หน้าผาก ฝืนยิ้มและเอ่ยขึ้น “คุณหยางครับ ต่อหน้าคุณหน้าของผมเป็นแค่ขยะ ผมจะกล้าขอให้คุณไว้หน้าผมได้ยังไง”
“ผมกำลังขอร้องอ้อนวอนคุณให้ไว้ชีวิตลูกสาวผม แน่นอนผมรู้ดีครับว่าลูกคนนี้เป็นลูกเนรคุณ บังอาจล่วงเกินคุณหยางก็สมควรตายแล้ว”
“แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นลูกสาวของผม หากมีความหวังแม้แต่นิดเดียวผมก็ต้องรักษาไว้”
“ในสายตาของคุณหยาง เธอเป็นเพียงมดปลวก จะเป็นหรือตายก็ไม่มีผลกระทบอะไรต่อคุณหยางเลยสักนิด แต่ถ้าคุณหยางยอมปล่อยลูกสาวผมไป ไม่แน่ว่าอาจจะได้ผลประโยชน์ที่ไม่เลวก็ได้นะครับ”
คำพูดของซุนซวี่ชัดเจนจนไม่รู้จักชัดเจนยังไงอีก เขาตั้งใจจะแลกชีวิตของซุนเหม่ยจวนด้วยผลประโยชน์มหาศาล
“ในใจของคุณ ลูกสาวคุณมีค่าเท่าไหร่เหรอ?” จู่ๆหยางเฉินก็ถามขึ้น
ซุนซวี่ผงะไปนิดหน่อยก่อนจะรีบตอบ “สำหรับคุณหยางเธอเป็นแค่ขยะ แต่ถึงยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของผม ในใจของผมเธอมีค่าจนไม่อาจประเมินเป็นราคาได้ครับ”
“ในเมื่อคุณบอกว่าลูกสาวของคุณมีค่าจนประเมินราคาไม่ได้ งั้นคุณบอกผมหน่อยว่าคุณตั้งใจจะใช้ของล้ำค่าที่ประเมินราคาไม่ได้ชิ้นไหนมาแลกกับชีวิตลูกสาวคุณ” หยางเฉินถาม
ซุนซวี่แทบจะร้องไห้อยู่แล้ว ตัวเองบอกว่าซุนเหม่ยจวนมีค่าจนประเมินราคาไม่ได้ก็ไม่ถูก บอกว่าไม่มีค่าเลยสักนิดก็ไม่ถูก
“เช่นนั้นคุณหยางว่าจะเอายังไงดีครับที่คุณจะยอมไว้ชีวิตลูกสาวผม” ซุนซวี่ถาม
“ฉันต้องการทั้งตระกูลซุน!” ทันใดนั้นหยางเฉินก็เอ่ยขึ้น
เมื่อเขาเอ่ยคำนี้ออกไป ทุกคนก็ตะลึงกันหมด
ตัวซุนซวี่เองยิ่งอกสั่นขวัญผวา ตกใจจนตัวสั่น
“ฉันไม่อยากทำให้คุณลำบาก ตอนนี้คุณมีสองตัวเลือก ไม่ลูกสาวคุณตาย ก็ตระกูลซุนต้องหายไป”
รอยยิ้มบนใบหน้าหยางเฉินหายไปแล้ว เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
ซุนเหม่ยจวนมึนงงไปหมด เพราะเรื่องที่ตัวเองดูถูกคนอื่นถึงกับนำพาภัยถึงชีวิตมาสู่ตระกูลซุนเลยหรือนี่
ซุนซวี่ก็มีสีหน้าสับสน ให้เขายอมทิ้งตระกูลซุนนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่จะให้เขาทิ้งลูกสาวเพียงคนเดียวก็เป็นไปไม่ได้
“เพียะ!”
ในตอนนั้นเอง เกิดเสียงตบหน้าดังลั่น
สายตาของทุกคนเพ่งไปทางนั้นในชั่วพริบตา
ทุกคนเห็นซุนเหม่ยจวนหน้าตาโกรธเกรี้ยว คำรามใส่โม่ตงซวี่ด้วยตาแดงก่ำ “เพราะขยะอย่างคุณคนเดียว ตั้งแต่ที่คุณแต่งเข้าตระกูลซุนของเรา ตระกูลซุนมองทุกอย่างให้คุณ”
“คุณพ่อของฉันถึงขั้นคิดจะให้คุณรับผิดชอบดูแลธุรกิจตระกูลซุนที่อยู่ภายในประเทศด้วยซ้ำ และให้คุณเป็นผู้จัดการใหญ่ บัดนี้ตระกูลซุนของเรากลับต้องถูกทำลายเพราะคุณ”
“โม่ตงซวี่ ฉันจะบอกคุณให้นะ คุณมันเป็นแค่ขยะที่ไร้ประโยชน์ ตอนนั้นฉันคงตาบอดไปเองถึงได้แต่งงานกับคุณ”
“พรุ่งนี้ฉันจะไปหย่ากับคุณ หลังจากนี้ระหว่างฉันกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”
ซุนเหม่ยจวนอารมณ์เดือดสุดๆ เธอชี้หน้าโม่ตงซวี่และด่าอย่างกราดเกรี้ยว