The king of War - บทที่ 675 ไม่ตาบอดอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ยังแสดงทีท่าว่ารักกันปานจะกลืนกิน บัดนี้กลับทำตัวเหมือนคู่แค้น
สีหน้าของโม่ตงซวี่น่าดูชมมาก ภายในจิตใจเขาโกรธถึงขีดสุด ทว่าไม่กล้าแสดงออกแม้แต่น้อย
“เหม่ยจวน ผมผิดไปแล้ว ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง คุณพูดถูก ผมเป็นแค่ขยะ เพราะผมตระกูลซุนถึงต้องเจอปัญหาใหญ่ขนาดนี้ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผม”
โม่ตงซวี่จับไหล่ของซุนเหม่ยจ่วนและพูดอย่างมีอารมณ์ “คุณจะทิ้งผมไปไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นผมตายแน่ เห็นแก่ความเป็นสามีภรรยาตลอดหลายปีมานี้ของเรา คุณช่วยผมอีกสักครั้งเถอะ ขอร้องล่ะ”
โม่ตงซวี่รู้ดีกว่าขอเพียงตัวเองยังได้คบกับซุนเหม่ยจวนต่อก็จะมีทางรอด แต่ถ้าหากไปจากตระกูลซุนเขาก็จะหมดทางรอดจริงๆ
กำลังของเขาเพียงคนเดียวไม่มีทางต่อกรกับหยางเฉินได้แน่
“ไอ้ขยะ ไสหัวไปนะ” ซุนเหม่ยจวนตบหน้าโม่ตงซวี่หนึ่งฉาดและพูดด้วยความโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุด
“คุณหยาง ความผิดทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มีโม่ตงซวี่เป็นตัวการทั้งหมด ถ้าไม่ใช่เพราะเขาอยากแก้แค้นซ่งหวาหย่า พวกเราก็คงไม่ต้องล่วงเกินคุณไปด้วยค่ะ”
หลังจากซุนเหม่ยจวนตะคอกใส่โม่ตงซวี่เสร็จแล้วก็ขอร้องหยางเฉินต่อ “คุณเป็นคนใหญ่คนโต ต้องแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้แน่นอนค่ะ คนที่ผิดคือโม่ตงซวี่แต่แรก ต่อให้ก่อนหน้านี้ฉันเคยดูถูกคุณ ก็คงไม่ผิดจนถึงตาย”
“ใช่ๆๆ คนที่ผิดคือโม่ตงซวี่ ไม่เกี่ยวอะไรกับลูกสาวของผมนะครับ คุณหยาง คุณวางใจได้ หลังจากนี้ผมจะสั่งสอนลูกสาวให้ดี ส่วนขยะอย่างโม่ตงซวี่แล้วแต่คุณจะจัดการเลยครับ หลังจากนี้เขาไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลซุนของเราอีก”
ซุนซวี่ก็รีบบอก
“คุณหยาง แล้วก็มีพวกเราด้วยค่ะ ก่อนหน้านี้พวกเราไม่น่าดูถูกคุณกับเสี่ยวหย่าเลย พวกเราผิดไปแล้ว แต่ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของโม่ตงซวี่คนเดียว ถ้าพวกเราไม่ถูกเขาสั่งมาก็คงไม่ขัดข้อคุณกับเสี่ยวหย่าขนาดนั้นค่ะ”
“ใช่แล้ว ไม่ว่ายังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับเสี่ยวหย่าในมหาวิทยาลัยถึงสี่ปี ถ้าไม่ใช่ไอ้สารเลวอย่างโม่ตงซวี่ยุยง พวกเราจะกลั่นแกล้งคุณกับเสี่ยวหย่าได้ยังไงกัน”
“คุณหยาง ตัวการของวันนี้คือโม่ตงซวี่ คุณดูความจริงออกอยู่แล้ว คุณหยางโปรดปล่อยพวกเราไปด้วยนะคะ”
……
บรรดาเพื่อนร่วมรุ่นที่ตอนแรกคอยช่วยโม่ตงซวี่กลั่นแกล้งหยางเฉินและซ่งหวาหย่าบัดนี้เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แทบอยากจะเข้าไปฆ่าโม่ตงซวี่ด้วยซ้ำ
หยางเฉินมองหมากัดกันด้วยรอยยิ้มกว้างไม่พูดจา ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆอย่างนั้น
สีหน้าโม่ตงซวี่บิดเบี้ยวไปหมด หลายปีก่อนเขาคิดว่าซ่งหวาหย่าหลอกให้เขารักเพราะซ่งหวาหย่าไม่เป็นที่ต้อนรับของตระกูลซ่ง และถึงขั้นหายไปก่อนแต่งงานหนึ่งวันด้วยซ้ำ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแก้แค้นซ่งหวาหย่า เขาอุตส่าห์เกาะซุนเหม่ยจวนได้และได้เห็นความหวัง
วันนี้เพิ่งจะได้กลับประเทศ แต่เดิมกำลังเตรียมรับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ที่ซุนซื่อกรุ๊ป รุ่งเรืองไร้ขีดจำกัด
ผ่านไปอีกไม่กี่สิบปีหลังจากซุนซวี่สละตำแหน่งแล้ว ภรรยาของเขาซุนเหม่ยจวนก็จะได้เป็นผู้นำตระกูลซุน แต่ด้วยความสัมพันธ์ของเขาและซุนเหม่ยจวน ตำแหน่งผู้นำก็ต้องเป็นของเขาอยู่แล้ว
เขาอุตส่าห์ได้ทุกอย่างนี้มา แต่ทุกอย่างก็ถูกทำลายไปเพราะซ่งหวาหย่า
บัดนี้ บรรดาเพื่อนร่วมรุ่นที่เคยสนิทกับเขามากกลับเปลี่ยนฝั่ง จะผลักเขาออกมารับผิดชอบทุกอย่าง เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอัปยศถึงเพียงนี้
“เสี่ยวหย่า ผมผิดไปแล้ว”
ในขณะที่ทุกคนโทษโม่ตงซวี่ จู่ๆโม่ตงซวี่ก็คุกเข่าไปทางซ่งหวาหย่า เขามองซ่งหวาหย่าอย่างลึกซึ้งพร้อมกล่าว “เสี่ยวหย่า ความจริงแล้วตอนที่ผมแยกกับคุณ ผมมีชีวิตที่แย่มากในต่างถิ่น”
“คุณรู้มั้ย วันแรกที่ผมแยกจากคุณก็เสียใจแล้ว เพราะผมพบว่าผมได้รักคุณอย่างสุดหัวใจไปแล้ว”
“ผมคิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับคุณ จึงคิดจะสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองอยู่ข้างนอกแล้วถึงกล้ากลับมาพบคุณ”
“ถ้าไม่ใช่นังชั่วซุนเหม่ยจวนคนนี้ที่บีบบังคับให้ผมต้องคบกับเธอ ผมจะอยู่กับเธอได้ยังไงกัน”
“เสี่ยวหย่า คุณต้องเชื่อผมนะ ที่ผมคบกับเธอเพราะถูกบังคับ ถึงยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของผู้นำตระกูลซุน ถ้าผมไม่แต่งงานกับเธอ ตระกูลซุนต้องไม่ปล่อยผมไปแน่”
“เสี่ยวหย่า ผมจะไปหย่ากับนังชั่วนี้พรุ่งนี้เลย แล้วเราค่อยแต่งงานกัน หลังจากนี้ผมจะไม่ไปจากคุณอีก ทั้งชีวิตนี้ก็จะไม่ห่างคุณแม้แต่ก้าวเดียว ผมสาบาน”
โม่ตงซวี่คุกเข่าแทบเท้าซ่งหวาหย่าและพูดด้วยสีหน้าลึกซึ้ง
ทุกคนอึ้งกันหมดเมื่อเห็นการกระทำของเขา ไม่ใช่เพราะ “ความลึกซึ้ง” ของเขา แต่เพราะความไร้ยางอายของเขา
มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่เชื่อคำพูดหน้าด้านของเขา
ซุนซวี่พลันสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา ถ้าโม่ตงซวี่กลับไปคบกับซ่งหวาหย่าจริงๆ ด้วยความสัมพันธ์ของซ่งหวาหย่าและหยางเฉิน ตระกูลซุนได้ซวยแน่
“โม่ตงซวี่ คุณว่ายังไงนะ”
ซุนเหม่ยจวนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะบันดาลโทสะ “ตอนนั้นคุณต่างหากที่เป็นคนจีบฉัน มารับมาส่งฉันไปทำงานทุกวัน ฉันมันตาบอดเองถึงได้เชื่อคำพูดของคุณ คิดไม่ถึงเลยนะว่าคุณจะบอกว่าฉันบีบบังคับให้คุณคบกับฉันเหรอ?”
“โม่ตงซวี่ ไอสารเลว คุณคิดว่าคุณพูดแบบนี้แล้วซ่งหวาหย่าจะเชื่อคำพูดโป้ปดของคุณเหรอ”
ซุนเหม่ยจวนทั้งโกรธทั้งอาย น้ำตาไหลไม่หยุด
ไม่ว่ายังไงโม่ตงซวี่ก็เป็นสามีที่เธอแต่งงานด้วยมาหลายปี และเธอรักผู้ชายคนนี้มาตั้งหลายปี
“เสี่ยวหย่า คุณเห็นรึยัง ผู้หญิงคนนี้เอาแต่ใจขนาดนี้ ทำแล้วยังไม่ยอมรับอีก ช่างเป็นผู้หญิงที่อำมหิตเหลือเกิน”
โม่ตงซวี่คิดจะเสแสร้งต่อไป
ทว่าซ่งหวาหย่าดูออกแล้วว่าโม่ตงซวี่เป็นคนยังไง จะใจอ่อนได้ยังไง
เธอส่ายหัวด้วยความเยาะเย้ยตัวเอง “ตอนนั้นฉันต้องตาบอดขนาดไหนถึงรักคนอย่างคุณ”
พูดจบเธอก็หันไปมองหยางเฉิน “พี่หยาง พี่ไม่ต้องห่วงฉันนะคะ พี่จะจัดการคนพวกนี้ยังไงแล้วแต่พี่เลย”
หยางเฉินดูออกว่าซ่งหวาหย่าปล่อยวางโม่ตงซวี่ได้แล้วจริงๆ มิฉะนั้นคงไม่พูดแบบนี้หรอก
เขามีสีหน้าปลาบปลื้ม รู้สึกว่าทุกสิ่งที่ทำลงไปในคืนนี้ไม่เสียเปล่า
ในที่สุดผู้หญิงโง่ๆคนนี้ก็หายโง่แล้ว
“เสี่ยวหย่า ผมพูดจริงๆนะ คนที่ผมรักมีแต่คุณเท่านั้นมาตลอด”
โม่ตงซวี่ร้อนใจ รีบสาบาน “ถ้าผมโกหกคุณแม้แต่คำเดียว ผมก็คือเดรัจฉานและไม่ตายดี”
“นายหุบปากได้แล้ว ขืนพูดมากกว่านี้อีกฉันจะให้นายไม่ตายดีตอนนี้ก็ยังได้” หยางเฉินพูดเสียงเย็น
โม่ตงซวี่ถึงได้หยุดอ้อนวอนซ่งหวาหย่า และรีบขอร้องหยางเฉินต่อ “ก็ได้ครับคุณหยาง ผมจะไม่ราวีเสี่ยวหย่า ผมยอมแพ้ครับ แต่ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ คุณหยางได้โปรดปล่อยผมไปเถอะครับ หลังจากนี้ผมจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกระทำเอง”
“พิสูจน์อะไร? พิสูจน์ว่านายมันต่ำช้าขนาดไหนเหรอ หรือว่าต้องรอให้นายได้เกาะคนที่มีเบื้องหลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าแล้วมาเอาคืนฉัน” หยางเฉินถามถากถาง