The king of War - บทที่ 739 นี่เป็นไปไม่ได้
เมื่อหม่าชาวที่กำลังต่อสู้กับชายแข็งแกร่งทั้งสองคนได้ยินเสียงของหยางเฉิน เขาจึงได้รีบถอยออกจากการต่อสู้ในทันที
ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาที หม่าชาวถูกทำร้ายสาหัสจากการร่วมมือกันของฝ่ายตรงข้าม ถ้าไม่ใช่เพราะพละกำลังของเขาก้าวหน้าล่ะก็เขาคงถูกฆ่าตายภายในเวลาไม่กี่วินาทีแน่ๆ
“พี่เฉิน อย่าให้ตายล่ะ!”
หม่าชาวพูดเตือนสติเมื่อเห็นการแสดงออกของหยางเฉิน เขาเป็นกังวลว่าหากหยางเฉินโกรธล่ะก็คงได้ฆ่าชายแข็งแกร่งสองคนนี้ตายเป็นแน่
เรื่องในวันนี้ เห็นได้ชัดว่ามันแปลกประหลาด
แม้จะอาศัยตระกูลหลีแต่ก็ยังไม่กล้าที่จะแตะต้องภรรยาของหยางเฉิน
โดยเฉพาะคนแข็งแกร่งขนาดนี้ที่ปรากฏพร้อมกันถึงสองคน ต่อให้เป็นแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็ไม่มีคนแข็งแกร่งได้เท่านี้
หยางเฉินไม่ตอบสนองใดๆ ลูกตาแฝงเจตนาฆ่าอันรุนแรงอยู่
ชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณเองก็รู้สึกได้ถึงภัยคุกคามที่มาจากหยางเฉิน การแสดงออกดูเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด
“หม่าชาว ทำไมนายกลับมาแบบนี้ล่ะ?รีบไปช่วยหยางเฉินสิ!”
เมื่อเห็นหม่าชาวถอยออกมาจากการต่อสู้ เย่ม่านจึงรู้สึกเป็นกังวลและรีบพูดออกมา
อวี๋เหวินเกาหยางเองก็รู้สึกเป็นกังวลมากเช่นกันเมื่อเห็นหม่าชาวสู้กับชายแข็งแกร่งสองคนนั้น เขาก็รับรู้ได้ถึงพละกำลังของพวกเขาว่ามันมีมากมายเพียงใด
แม้แต่ผู้นำของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเองก็ไม่เคยเห็นปรมาจารย์ที่มีความแข็งแกร่งเท่านี้มาก่อน
“หม่าชาว นายไปช่วยหยางเฉินเถอะ!” อวี๋เหวินเกาหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
หม่าชาวพูดด้วยใบหน้าที่ขมขื่นว่า “พวกนายวางใจเถอะ หากหยางเฉินลงมือล่ะก็พวกนั้นมีแต่ตายสถานเดียวแน่ๆ!”
อันที่จริงหม่าชาวต้องการจะบอกว่าเมื่อสักครู่เขาได้รับบาดเจ็บมาสาหัสแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้อยากจะไปข่วยหยางเฉินเท่าไหร่แต่ก็ไม่มีกำลังพอจะไปช่วยอะไรได้!
“จริงเหรอ?”
เย่ม่านรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
ตั้งแต่ที่หล่อนยอมรับว่าหยางเฉินเป็นลูกเขย หล่อนก็มักจะกระทำผิดต่อเขาเสมอและรู้สึกอยากชดใช้ให้มาโดยตลอด เมื่อวันนี้มาเห็นหยางเฉินต้องเผชิญหน้ากับต่อสู้กับปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ หล่อนจึงรู้สึกเป็นกังวล
“พวกคุณวางใจได้เต็มร้อยเลย”
หลังจากหม่าชาวพูดจบ เขาก็ไอออกมาสองสามครั้งพร้อมกับกระอักเลือดออกมา
จนถึงตอนนี้ผู้นำหลายคนจึงตระหนักได้ว่าหม่าชาวนั้นบาดเจ็บสาหัสภายในระยะเวลาอันสั้นนี้
“นายบาดเจ็บเหรอ?”
เย่ม่านอุทานออกมา
หม่าชาวพยักหน้า ร่างกายรู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก
“หรือว่า พวกเราจะใช้มือปืนซุ่มยิงกันดี?” เย่ม่านมองไปที่อวี๋เหวินเกาหยางพร้อมกับถาม
อวี๋เหวินเกาหยางถอนหายใจออกมาและพูดว่า “คนแข็งแกร่งสองคนนั้นน่ากลัวเกินไป ไม่มีทางที่มือปืนซุ่มยิงจะล็อกเป้าหมายได้หรอก หากต้องใช้มือปืนซุ่มยิงจริงๆล่ะก็อาจจะไปทำร้ายโดนหยางเฉินก็เป็นได้”
“งั้นนายบอกฉันสิว่าทำยังไงดี?”
เย่ม่านรู้สึกไม่พอใจกับคำตอบของอวี๋เหวินเกาหยางเป็นอย่างมาก หล่อนพูดดวงตาแดงก่ำว่า “เขาเป็นลูกของคุณ หรือว่าคุณจะแค่มองดูเขาไปต่อสู้คนเดียวอย่างเงียบๆแบบนี้น่ะเหรอ?”
หม่าชาวที่อยู่ด้านข้างรู้สึกขมขื่นหัวใจเป็นอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่าเย่ม่านนั้นไม่เชื่อว่าหยางเฉินจะสามารถจัดการชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณสองคนนั้นได้
สีหน้าของอวี๋เหวินเกาหยางดูเคร่งขรึมและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มออกมาว่า “นั่นก็เพราะว่าเขาเป็นลูกชายของฉันน่ะสิ ฉันถึงได้เป็นกังวลมากกว่าไง เพียงแต่หยางเฉินกำลังต่อสู้กับคนแข็งแกร่งระดับนี้ พวกเรามีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปแทรกเหรอ?”
“คุณหยางเริ่มลงมือแล้ว!”
ขณะนี้เองก็มีคนอุทานออกมา
เย่ม่านและอวี๋เหินเกาหยางจึงรีบหันไปดูอย่างรวดเร็ว
“โป้ง!”
“โป้ง!”
เมื่อพวกเขามองไปที่สนามรบแห่งนั้นก็เห็นชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณค่อยๆลอยออกไปทีละคน
ผู้คนดูว่างเปล่าแต่กลับมีเลือดกระอักออกมาจากปาก
ร่างของทั้งสองตกลงที่พื้นอย่างแรง เมื่อพวกเขาพยายามกระเสือกกระสนลุกขึ้นมาก็พบว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากเหลือเกิน
ตอนนี้ทุกๆคนดูตกตะลึงกันไปหมด!
เย่ม่านและอวี๋เหวินเกาหยางอ้าปากค้างด้วยสีหน้าที่ดูเหลือเชื่อ
แม้ว่าพวกเขาจะเคยเห็นความแข็งแกร่งของหยางเฉินมาก่อน แต่มาวันนี้ได้มาเจอกับคนแข็งแกร่งสองคนนี้ พละกำลังนั้นก็ดูมีมากกว่าคนที่เขาเคยเจอเมื่อก่อนอีก
ความแข็งแกร่งระดับนี้เกรงว่าอาจจะมาจากตระกูลเดอะคิงหรือไม่ก็มาจากราชวงศ์เป็นแน่?
คนแข็งแกร่งที่เก่งกาจเช่นนี้ ยังไม่ทันที่พวกเขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรก็เห็นพวกเขาทั้งสองคนถูกโจมตีลอยล่องออกไปกว่าสิบเมตรแถมยังกระอักเลือดอีกด้วย
ความแข็งแกร่งของหยางเฉินนั้นมีมากถึงขั้นนี้เชียวหรือ?
ผู้นำตระกูลหวงอย่างหวงเทียนเชิงก็ได้แต่ตัวสั่นออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อก่อนตอนที่ตระกูลหวงยอมจำนนต่อหยางเฉินก็เป็นเพราะว่าแรงกดดันจากหยางเฉินนี่แหละ เขามองหาโอกาสที่จะควบคุมหยางเฉินมาโดยตลอด
แต่วันนี้เขากลับตระหนักได้ว่าความคิดของเขานั้นช่างกล้าหาญเสียจริง
หากต้องการทรยศหยางเฉินจริงๆล่ะก็เกรงว่าตระกูลหวงคงจะต้องถูกทำลายเป็นจุณแน่ๆ
“ชนะแล้ว?”
เย่ม่านที่ดูเอื่อยเฉื่อยไปครู่หนึ่งก่อนจะถามออกมาด้วยสีหน้าที่ดูเหลือเชื่อ
อวี๋เหวินเกาหยางแม้จะตกใจแต่เมื่อรู้ว่าตัวตนของหยางเฉินคือผู้รักษาดินแดนเหนือ เขาก็สงบลงมา
หม่าชาวไอสองสามครั้งก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันบอกแล้วไงว่าสองคนนี้ข่มขู่อะไรพี่เฉินไม่ได้หรอก ทำไมพวกคุณถึงไม่เชื่อกันนะ?”
ขณะนี้เอง ดวงตาของหยางเฉินเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
หลังจากขับไล่ชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณไปแล้วเขาก็ได้เดินก้าวเท้าขึ้นไปด้านหน้า
ดวงตาของชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณนั้นเต็มไปด้วยความตกใจ พวกเขาเป็นคนแข็งแกร่งที่ตระกูลเซวบ่มเพาะมาอย่างลับๆ แม้ว่าจะเป็นคนแข็งแกร่งอันดับสองของตระกูลเซวแต่ก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาอยู่ดี
แต่วันนี้ดูเหมือนว่าชายหนุ่มวัยยี่สิบหกคนนี้จะสามารถเอาชนะพวกเขาได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว
สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกหลงผิดขึ้นมาในทันที ศิลปะการต่อสู้ระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาอย่างโชกโชนนั้นก็คือเสียเวลาเปล่าสินะ
ไม่เช่นนั้น การที่พวกเขาฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้มากว่าสิบปีจะมาแพ้ให้กับชายหนุ่มที่อายุเพียงยี่สิบหกปีได้อย่างไรกัน?
“บอกมาว่าใครส่งพวกแกมากัน?”
หยางเฉินเหยียดสายตาลงมามองพวกเขาทั้งสองพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกราวกับว่าเจตนาในการฆ่านั้นได้กลืนพวกเขาไป
“ฆ่า!”
แม้ทั้งสองจะตกใจกับความแข็งแกร่งของหยางเฉินแต่ดวงตากลับไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย
พวกเขาไม่ได้ตอบคำถามของหยางเฉินและพุ่งเข้าในหยางเฉินอีกครั้ง
“ปึง!”
“ปึง!”
เพียงแต่ครั้งแรกที่พ่ายแพ้ให้กับหยางเฉิน พวกเขาเองก็บาดเจ็บสาหัสกันอยู่แล้ว จะไปมีโอกาสอีกได้อย่างไรกัน?ไม่แตกต่างจากครั้งก่อน ร่างของพวกเขาทั้งสองคนถูกโจมตีจนลอยล่องออกไปกว่าสิบเมตร
นี่เป็นสถานการณ์ที่หยางเฉินนั้นยั้งมือเอาไว้ ไม่เช่นนั้นล่ะก็พวกเขาทั้งสองคงกลายเป็นศพไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว
“บอกฉันมาว่าใครส่งพวกแกมา?”
หยางเฉินถามขึ้นอีกครั้ง เจตนาฆ่าในแววตาของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
ในครั้งนี้ ทั้งสองคนไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่จะพยายามจะคลานลุกขึ้นมา
ทั้งสองมองหน้ากันด้วยสายตาที่แน่วแน่
“ตระกูลเซวส่งพวกแกมาสินะ?”
ทันใดนั้นหยางเฉินก็ได้เอ่ยปากพูดออกมา
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน สีหน้าของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามการที่สีหน้าเปลี่ยนไปในชั่วพริบตานี้ก็ถูกหยางเฉินจับสังเกตเอาไว้ได้ เมื่อทั้งสองคนตระหนักได้ว่าพวกเขาได้เผยเรื่องตระกูลเซวออกมา มันก็สายไปเสียแล้ว
แต่เมื่อเรื่องถึงจุดนี้และพวกเขาไม่มีกำลังจะทำอะไรได้อีกจึงได้แต่มองหน้ากันพร้อมกับกัดถุงยาพิษและกรอกเข้าปาก
แทบจะในตอนนั้นที่พวกเขาทั้งสองกระอักฟองสีขาวออกมา ร่างกายชักกระตุกสองสามทีและจากนั้นก็ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆอีก
หยางเฉินยังคงยืนอยู่ที่เดิม รูม่านตาสีดำอันมืดมิดของเขากรมีเจตนาในการฆ่าแฝงอยู่
“ตระกูลเซว!ในเมื่อต้องการจะเล่นกับฉันล่ะก็ฉันจะเล่นเป็นเพื่อนเอง!”
ทันทีที่หยางเฉินเอ่ยปากออกมา ดวงตาของเขาก็ดูเหมือนวาบเจตนาการฆ่าออกมา
ในเวลาเดียวกัน ที่คฤหาสน์ส่วนตัวในเขตชานเมืองในเมืองเยี่ยนตู
เซวหยวนป้ายืนอยู่ที่ด้านหน้าของหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจรดเพดานจ้องมองออกไป ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวอย่างไร้เหตุผลและรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยอยู่ภายใน
“เป็นไปไม่ได้ หยางเฉินต้องตายอย่างแน่นอนสิ!”
เซวหยวนป้านึกถึงความเป็นไปได้พร้อมกับรีบปฏิเสธตนออกมา