The king of War - บทที่ 769 สองหมื่นล้าน
บ่ายวันนั้น หยางเฉินอยู่ในห้องทำงานชั้นบนสุดของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู นอกจากตระกูลหวงแล้ว ผู้มีอำนาจในตระกูลอื่นๆ ต่างพากันขอเข้าพบหยางเฉิน
“ท่านประธานครับ นอกจากตระกูลหวงและตระกูลซุน ตระกูลอื่นๆได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทหนึ่งหมื่นล้านแล้วครับ!”
ลั่วปิงไปหาหยางเฉิน แล้วรายงานอย่างตกตะลึง
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงแรมเยี่ยนตู แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูไม่ได้พูดกับคนภายนอก ลั่วปิงจึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
จู่ๆก็เห็นเงินหลายหมื่นล้านในบัญชีธนาคาร ทำให้เขาทึ่งมาก จึงมารายงานหยางเฉินเป็นคนแรก
หยางเฉินขมวดคิ้ว“ตระกูลซุนไม่ได้โอนเงินงั้นหรอ?”
ตระกูลหวงยังคงยืนอยู่ข้างเดียวกับตนตั้งแต่ต้นจนจบ แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องชดใช้อะไร แต่ตระกูลซุน หลงเถิงบอกแล้วนะว่า จะให้ตระกูลซุนชดใช้สองหมื่นล้าน
มาวันนี้ เมื่อเห็นตะวันใกล้จะตกดินแล้ว ตระกูลซุนก็ยังไม่โอนเงินมาอีก
จากนิสัยขี้กลัวอย่างซุนซวี่ ไม่มีทางไม่โอนเงินแน่
“ไม่มีจริงๆครับ”
ลั่วปิงตอบกลับตามความจริง
หลังจากที่หยางเฉินเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาของเขาก็เย็นวาบขึ้นมา“ดูท่า ตระกูลซุนจะไปเลียแข้งเลียขาใครอีกล่ะ”
ก่อนหน้านี้หลงเถิงพูดแล้ว จะให้ตระกูลซุนไสหัวออกไปจากเยี่ยนตู และยังจะให้ชดใช้เงินสองหมื่นล้านให้กับหยางเฉิน
และกิจการส่วนใหญ่ของตระกูลซุนก็อยู่ที่เยี่ยนตู ถ้าตระกูลซุนจะโอนย้ายทรัพย์สินทั้งหมด เกรงว่าจะต้องใช้เวลานานมาก
ดังนั้น ซุนซวี่ไม่กล้าไม่ชดใช้แน่นอน
แต่ทว่า ตอนนี้ตะวันใกล้ลับฟ้าแล้ว ซุนซวี่ยังไม่มีวี่แววชดใช้เงิน มีความเป็นไปได้แค่อย่างเดียว นั่นก็คือเขามีที่พึ่งพิงแล้ว
“คุณหยางครับ ตกลงเกิดเรื่องอะไรกันแน่ครับ หกในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู พร้อมใจกันโอนเงินให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปหนึ่งหมื่นล้าน?”
ในขณะที่ลั่วปิงยังรู้สึกทึ่งอยู่นั้น เงินในบัญชีของบริษัท จู่ก็เพิ่มขึ้นมาอีกหกหมื่นล้าน นี่เป็นเงินจำนวนมหาศาล
หยางเฉินพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉยว่า“นี่เป็นเงินค่าชดใช้ของพวกเขา คุณเอาไปใช้เถอะ”
ลั่วปิงตกตะลึง เงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ หยางเฉินกลับบอกว่าเขาว่า นี่คือเงินค่าชดใช้
ในตอนนี้เอ มือถือของหยางเฉินดังขึ้น นี่เป็นสายที่ไม่รู้จัก
เขาพึ่งรับสาย ก็พบว่ามีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น“น้องชาย มีเรื่องหนึ่งพี่ทำได้ไม่เรียบร้อย เกรงว่าจะทำให้นายผิดหวัง”
นี่คือเสียงของหลงเถิง หยางเฉินกล่าวอย่างยิ้มๆว่า“ที่แท้ก็เป็นพี่ใหญ่นี่เอง!ดูพี่พูดสิ ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องของเราก่อนหน้านี้ จะพูดเรื่องผิดหวังหรือไม่ผิดหวังได้ยังไงครับ?”
“น้องชายพูดถูก เพียงแต่ว่า เรื่องนี้พี่ใหญ่ช่วยนายได้ไม่เต็มที่ พี่จะต้องอธิบายกับนายให้ชัดเจน”
หลงเถิงพูดด้วยน้ำเสียงตึงเครียด“เมื่อกี้ ฉันได้ข่าวมาว่า ซุนซวี่ไอ้สารเลวนั่น มันไปเลียแข้งเลียขาของคลับหวงจิน”
“นายน่าจะรู้ ภูมิหลังของคลับหวงจิน อาศัยคนของตระกูลเฉาในราชวงศ์ ถึงพี่ใหญ่ฉันจะมีภูมิหลังเป็นคนของตระกูลหลงในราชวงศ์ แต่พี่ใหญ่อย่างฉันก็เป็นแค่ลูกที่ตระกูลหลงทอดทิ้ง ไม่สามารถเทียบอะไรกับญาติของราชวงศ์ได้”
“ซุนซวี่ไม่รู้ว่าไปพูดโน้มน้าวคลับหวงจินยังไง ตอนนี้คลับหวงจินปล่อยข่าวออกมาว่า ตระกูลซุนเป็นเพื่อนของตระกูลเฉา ใครกล้าแตะต้องตระกูลซุน ก็เท่ากับแตะต้องตระกูลเฉา”
“มีการคุ้มครองจากตระกูลเฉา ถึงเราจะร่วมมือกัน ก็ไม่มีทางขับไล่ตระกูลซูออกจากเยี่ยนตูได้หรอกนะ”
“ไม่เพียงเท่านี้ เกรงว่าที่พี่ใหญ่ช่วยนายขอค่าทำขวัญกับตระกูลซุนไปสองหมื่นล้าน ตระกูลซุนคงเตรียมจะเบี้ยวแล้วล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลงเถิง หยางเฉินก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
แน่นอนว่าเขารู้ถึงภูมิหลังของตระกูลเฉา แต่กลับคิดไม่ถึงว่า บทเรียนที่ให้กับคลับหวงจินจะไม่พอ พวกเขายังจะต่อกรกับเขาอยู่อีก
“ตอนนี้คนที่รับหน้าที่ดูแลคลับหวงจิน คือใครครับ?”
จู่ๆหยางเฉินก็ถามขึ้น
“เฉาจื้อ ทายาทของบ้านที่สามของตระกูลเฉา พึ่งรับหน้าที่ดูแลคลับหวงจินเมื่อหลายวันก่อน”หลงเถิงกล่าว
“ผมจำได้ว่า ผู้ที่รับผิดชอบคลับหวงจิน คือเฉาฮุยไม่ใช่หรอครับ?”
หยางเฉินถามอย่างสงสัย
ครั้งก่อนที่เขาไปเยือนคลับหวงจิน ยังชนะได้เงินตั้งหนึ่งหมื่นล้าน ตั้งแต่ครั้งนั้นมาเฉาฮุย ไม่เคยมาหาเรื่องตนอีกเลย
ตอนแรก เขายังเป็นกังวลว่าเฉาฮุยจะตามล้างแค้น แต่คิดไม่ถึงว่า ยังไม่ทันได้รอการมาแก้แค้นของเฉาฮุย เขาก็ถูกแทนที่ด้วยคนอื่นซะแล้ว?
มันเป็นแบบนั้น หลงเถิงจึงกล่าวว่า“ได้ยินมาว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีคนชนะเงินจากคลับหวงจินไปหนึ่งหมื่นล้าน ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่อยู่เหนือการควบคุมของผู้รับผิดชอบ”
“เฉาฮุยเป็นห่วงเรื่องนี้จะถูกเปิดโปงออกไป แล้วจะถูกตระกูลเฉาลงโทษ ดังนั้นจึงไม่ได้รายงานเรื่องนี้กับตระกูล”
“แต่สามวันก่อน ไม่รู้ว่าตระกูลเฉารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ได้ข่าวมาว่าเบื้องบนของตระกูลเฉารู้สึกโกรธมากๆ เขาส่งทายาทบ้านที่สามมาที่เยี่ยนตูอย่างรวดเร็ว สำหรับเฉาฮุย คงจะกลับตระกูล เพื่อรับผิดแล้วล่ะมั้ง?”
หยางเฉินขมวดคิ้วเป็นปม สิ่งที่หลงเถิงไม่รู้ก็คือ คนที่ชนะเงินหนึ่งหมื่นล้านจากคลับหวงจินก็คือเขา
เพราะว่าเรื่องนี้ แม้แต่เฉาฮุยก็ได้รับการลงโทษจากตระกูล และยังคนอื่นๆมาที่เยี่ยนตูอีกด้วย
คลับหวงจินคงจะพ่งเล็งตัวเองมานานแล้วล่ะ
เบื้องหลังของคลับหวงจนมีคนของตระกูลเฉาในตระกูล เมื่อถูกราชวงศ์จับจ้อง มันจึงไม่ใช่เรื่องดี
“ไม่รู้ว่า คนที่ชนะเงินพนันของคลับหวงจินไปหนึ่งหมื่นล้านเป็นใคร นั่นเป็นเงินหนึ่งหมื่นล้านเชียวนะ!”
หลงเถิงพูดอย่างสะท้อนใจ“แต่ครั้งนี้ เกรงว่าคนคนนั้นคงจะต้องซวยแน่ๆ กล้าชนะเงินของราชวงศ์ นี่ไม่ใช่การพนันชนะ แต่เป็นการตบหน้า ตบหน้าของราชวงศ์”
“เฉาจื้อคนนี้ ได้ข่าวมาว่าเป็นคนที่โหดเหี้ยมมากๆ เขาทำทุกอย่างเผด็จการ”
“หยางเฉิน นายระวังเฉาจื้อคนนี้ไว้ให้ดีนะ ตอนนี้ซุนซวี่ไปพึ่งพาเขาแล้ว สำหรับเงินสองหมื่นล้านนั่น เราปล่อยมันไปเถอะ อย่าไปยึดติดกับมันอีกเลย”
“สู้กับคนที่อาจจะได้เป็นราชาในอนาคต เราไม่มีโอกาสชนะเลยนะ”
หยางเฉินเข้าใจคนใหม่ที่มารับหน้าที่ดูแลหวงจิน เขาจึงหัวเราะไปด้วยพูดไปด้วยว่า“พี่ใหญ่วางใจเถอะครับ ผมแยกแยะได้!”
“แยะแยะได้ก็ดี ถ้าเจอเรื่องอะไร ก็ติดต่อฉันนะ พี่ใหญ่ไม่มีทางปฏิเสธแม้ตายเป็นหมื่นๆครั้ง!”
หลงเถิงพูดรับประกัน
“ครับ ถ้าผมต้องการอะไร จะบอกนะครับ!”
หยางเฉินพูดไปด้วยหัวเราะไปด้วย
หลังจากวางสาย สีหน้าของหยางเฉินก็ขรึมลง
เขาไม่ใช่คนโง่ สายจากหลงเถิง ดูเหมือนจะอธิบายเขาฟังเรื่องที่ว่าตระกูลซุนคิดจะเบี้ยว แต่ความจริงแล้ว กลับจงใจส่งข่าวเรื่องที่ว่าคลับหวงจินเปลี่ยนผู้ดูแลคนใหม่ให้ตนฟัง
ถ้าคนในตระกูลอื่นๆ ไม่รู้ว่าคนที่ชนะเงินของคลับหวงจินไปหนึ่งหมื่นล้านเป็นเขา ก็ช่างเถอะ แต่นี่คือหลงเถิง เขาจะต้องรู้ดีอย่างแน่นอน
หลงเถิงปากพูดเกลี้ยกล่อมเขา ว่าอย่าต่อกรกับตระกูลเฉา แต่ความเป็นจริงแล้วเขาจงใจกระตุ้น
“พี่เฉิน เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?”
ลั่วปิงเห็นสีหน้าของหยางเฉินเคร่งขรึมเล็กน้อย หลังจากวางสายไป จึงรีบถามไถ่
“ติดต่อซุนซวี่ เจ้าบ้านของตระกูลซุนให้ผมเดี๋ยวนี้!”
หยางเฉินกล่าว
ลั่วปิงรีบจัดการโทรหาซุนซวี่ทันที หลังจากรับสาย ก็ยื่นให้กับหยางเฉินทันที
“ใครน่ะ?”
หยางเฉินรับมือถือของลั่วปิงมา จากนั้นก็ได้เสียงจองหองของซุนซวี่ดังลอดออกมาจากปลายสาย
“เจ้าบ้านซุน สองหมื่นล้าน คุณคิดจะโอนมาเมื่อไรหรอครับ?”
หยางเฉินพูดอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม
เมื่อได้ยินเสียงของหยางเฉิน เห็นได้ชัดว่าซุนซวี่รู้สึกประหม่าเล็กน้อย หยางเฉินได้ยิน การหายใจของซุนซวี่ดูชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง
ผ่านไปไม่นาน ซุนซวี่ก็พูดอย่างเย้ยหยันว่า“คุณหยาง คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?เงินสองหมื่นล้านอะไรน่ะ?ผมไม่เห็นเข้าใจเลย?”