The king of War - บทที่ 771 การโจมตีของเฉาจื้อ
เฉาจื้ออายุประมาณสามสิบ แต่งตัวหรูหรา บนข้อมือมีนาฬิกาโรเล็กซ์หนึ่งเรือน เป็นนาฬิกาสะสมที่มีมูลค่าหลักสิบล้าน
ใบหน้าอ่อนเยาว์ แต่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง
“แม้แต่ชายหนุ่มคนหนึ่งยังจัดการไม่ได้ แกมันเศษสวะจริงๆ!”
เฉาจื้อมองไปที่ซุนซวี่แล้วพูดด้วยความเย็นชา ไม่ปิดบังสายตาดูถูกที่ตนมีต่อซุนซวี่แม้แต่น้อย
ซุนซวี่พยักหน้าแล้วพูดอย่างประจบสอพลอว่า“คุณชายเฉาสั่งสอนได้ถูกต้องครับ ทั้งตระกูลซุนของเรา ล้วนเป็นเศษสวะ ถ้าไม่เป็นเพราะการมาเยือนของคุณชายเฉา เกรงว่าจากนี้ไป เยี่ยนตูจะไม่เหลือตำแหน่งของตระกูลซุนอีก”
“หยุดพล่ามได้แล้ว แกบอกว่าหยางเฉินคนนั้น มันจะปรากฏตัวขึ้นเมื่อไร?”
เฉาจื้อถามอย่างเย็นชา
ซุนซวี่กล่าวว่า“ถ้าผมเดาไม่ผิด เขาน่าจะอยู่ระหว่างทางแล้ว อีกประมาณยี่สิบนาที เขาจะต้องมาถึงแน่!”
“ดี งั้นฉันจะรออีกยี่สิบนาที!”
เฉาจื้อกล่าวอย่างเย็นชา แล้วก้าวออกไปข้างหน้า
ด้านหลังของเขา มีชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ดุจดั่งเงาติดตามตัว ทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต
ซุนซวี่ไม่กล้าเข้าใกล้แม้แต่น้อย เหมือนว่าเข้าใกล้เพียงนิด จะถูกอีกฝ่ายฆ่ายังไงอย่างงั้น
“คุณชายเฉา นี่เป็นเอกสารสัญญาที่ผมเตรียมไว้ครับ ผมได้เซ็นไปแล้ว ขอแค่คุณเซ็นลงไป สัญญาก็จะมีผลในทันที จากนี้ไปทุกอย่างในตระกูลซุน ก็จะเป็นของคุณชายเฉา”
ซุนซวี่หยิบเอกสารสัญญาออกมาหลายฉบับ แล้วใช้สองมือยื่นส่งให้กับเฉาจื้อ
เฉาจื้อหยิบสัญญาแล้วโยนไปให้ทนายที่ติดตามมาด้วย
หลังจากที่ทนายพลิกอ่านดู ก็นำสัญญาส่งคืนให้กับเฉาจื้อ“คุณชายเฉาครับ ไม่มีปัญหาครับ!”
“ถือว่ารู้ตัว!”
ใบหน้าของเฉาจื้อเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย เขามองไปที่ซุนซวี่แล้วพูดว่า“จากนี้ไป ตระกูลซุน จะเป็นตระกูลที่รับใช้ฉันเป็นการส่วนตัว”
“ถ้าหากมีวันใด ฉันได้ขึ้นเป็นราชาของตระกูลเฉา จะถือว่าตระกูลซุนมีผลงาน!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ซุนซวี่ก็ดีใจมาก เขารีบกล่าวว่า“ขอบคุณครับคุณชายเฉา!ขอบคุณครับคุณชายเฉา!”
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ภายในชั่วพริบตา ตะวันก็คล้อยตกดินไป
ลั่วปิงโทรหาหยางเฉิน“ท่านประธานครับ ตระกูลซุนยังไม่โอนเงินมาครับ”
“ดี ผมรู้แล้ว!”
หยางเฉินที่ได้รับสาย ก็ไม่ได้รู้สึกผิดคาดแต่อย่างใด ทุกอย่างอยู่ในการคาดการณ์ของเขา
หลังผ่านไปยี่สิบนาที หยางเฉินก็ขับรถมาที่หน้าประตูของคฤหาสน์ขนาดใหญ่
และบนประตูของคฤหาสน์ ก็มีตัวอักษรเขียนไว้ว่า“ตระกูลซุน”
“ปึ้ง!”
หยางเฉินดีดนิ้วดังเป๊าะ ก้อนหินก้อนหนึ่งก็ปลิวด้วยความเร็ว ป้ายของตระกูลซุน ก็ล่วงลงมาทันที แล้วตกใส่พื้นอย่างแรง จนแตกเป็นเสี่ยงๆ
“คุณเป็นใคร?ถึงได้กล้ามาทำป้ายตระกูลซุนแตกเป็นเสี่ยงๆแบบนี้ รนหาที่ตายใช่ไหม!”
ยามของตระกูลซุน รีบพุ่งเข้ามา แล้วตะคอกใส่หยางเฉินด้วยความโมโห
“ไสหัวไปซะ!”
หยางเฉินตะคอก เท้าเหยียบลงพื้น
“ผึ่ง!”
ในขณะที่ยามรักษาความปลอดภัยของตระกูลซุนหลายคนกำลังตกตะลึง ที่ที่หยางเฉินใช้เท้าเหยียบ เป็นรอยบุ๋มลงไป
นี่เป็นพื้นที่ปูด้วยหินอ่อน เชียวนะ แต่กลับถูกหยางเฉินเหยียบจนแตกละเอียด กระทั่งยังเป็นรอยบุ๋มลงไป
พลังนี้ เกรงว่าจะสามารถถีบสิงโตตัวผู้ตายได้?
“ตระกูลซุนมีแขกคนสำคัญมาเยี่ยมเยือน คุณจะเข้าไปไม่ได้นะ!”
ยามตระกูลซุนหลายคนพุ่งตัวออกมา ชั่วพริบตาเดียวก็สามารถล้อมหยางเฉินไว้ได้ ยามที่เป็นหัวหน้า กัดฟันพูดว่า
เจ้าบ้านมีคำสั่งลงมาเมื่อสักครู่แล้ว ให้พวกเขาเฝ้ารักษาประตูตระกูลซุน ห้ามให้ใครหน้าไหนรบกวนแขกที่มาเยี่ยมเยือน
ตอนนี้ หยางเฉินบุกเดี่ยวมาแบบนี้ แน่นอนว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้เข้าไปได้
สายตาทั้งคู่ของหยางเฉินหรี่ตาลง“พูดด้วยดีๆไม่ชอบกันใช่ไหม!”
เมื่อสินเสียง หยางเฉินก็หายวับไปทันที
“ปึ้งๆๆ!”
ยามของตระกูลซุนหลายคนยังไม่ทันไหวตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พบว่าตัวเองถูกจู่โจมจนวกระเด็นไปแล้ว
และหยางเฉิน ไม่แม้แต่จะมองคนพวกนั้น เขาเอามือไพล่หลัง แล้วก้าวเข้าไปในตระกูลซุน
“ผู้บุกรุก!”
“มีผู้บุกรุก!”
ทันใดนั้น ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลซุน ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น บอดี้การ์ดที่สวมชุดยูนิฟอร์มของตระกูลซุน พุ่งตัวออกมาจากทั่วทิศ แล้วขวางหยางเฉินไว้
ความแข็งแกร่งที่หยางเฉินแสดงออกมา ทำให้คนในเหตุการณ์พากันตกตะลึง
“นี่ไอ้หนุ่ม ตกลงนายเป็นใครกันแน่?ถึงกล้าบุกเข้ามาในตระกูลซุน กำลังรนหาที่ตายอยู่ใช่ไหม!”
ในเวลานี้เอง มีร่างของชายวัยกลางคน ก้าวออกมาข้างหน้า สายตาทั้งคู่ดุจเหยี่ยว จ้องเขม็งไปที่หยางเฉิน
รอบตัวของหยางเฉิน ล้วนเต็มไปด้วยคน เมื่อมองไปแล้ว มีผู้แข็งแกร่งของตระกูลซุนอย่างน้อยหลักร้อยคน
“บอกให้ซุนซวี่ไสหัวออกมาซะ!”
หยางเฉินกล่าวอย่างเย็นชา
สิ่งที่ทำให้ผู้แข็งแกร่งของตระกูลซุนทึ่งก็คือ คำพูดของหยางเฉินที่พูดออกจากปากเขา มันกลับเหมือนกับเสียงฟ้าร้องที่ดังกึกก้อง ที่ปกคลุมทั่วทั้งตระกูลซุน
“ตระกูลซุนกำลังต้อนรับแขกคนสำคัญอยู่ นายอยากพบเขาไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ต้องนัดล่วงหน้าสามวัน!”
ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“ฉันขอเตือนให้นายออกไปซะ ไม่อย่างนั้นถ้าไปรบกวนแขกของเจ้าบ้าน นายรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ!”
“ดูท่า ตระกูลซุนจะตัดสินใจเดินทางมืดมนสินะ”
หยางเฉินหรี่ตาลง“ในเมื่อตระกูลซุนรนหาที่ตาย งั้นฉันจะสงเคราะห์เอง!”
เมื่อสินเสียง เขาก็เดินต่อไปยังข้างหน้า ไม่มีทีท่าจะหยุดก้าวเท้า สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา
“ขวางเขาไว้!”
ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าเมื่อเห็นแบบนั้น จึงรีบตะโกนสั่งทันที
ผู้แข็งแกร่งห้าหกคน ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน โดยพุ่งตรงไปยังหยางเฉิน
“ไสหัวไปซะ!”
หยางเฉินตะคอก ในระหว่างเดิน เพียงแต่ใช้ฝ่ามือฟาดไปข้างหน้า
“เพี๊ยะ!”
เสียงตบที่เสียงแทงแก้วหูดังสนั่นขึ้น ผู้แข็งแกร่งของตระกูลซุนที่อยู่ข้างหน้า ถูกฝ่ามือฟาดกระเด็นออกไป
“รนหาที่ตายเองนะ!”
ผู้แข็งแกร่งอีกคนพุ่งไปข้างหน้า ด้วยความเดือดดาล เขาเหวี่ยงหมัดออกไป ตรงไปยังศีรษะของหยางเฉิน
“ปึ้ง!”
หยางเฉินเกวี่ยงหมัดไปที่จมูกของเขา ตามด้วยเสียงกระดูกของจมูกหัก ผู้แข็งแกร่งของตระกูลซุน กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วปลิวกระเด็นออกไป
ต่อมา ก็มีผู้แข็งแกร่งสามคน กำหมัดชูออกไปพร้อมกัน โดยจู่โจมไปที่หยางเฉิน
“ปึ้งๆๆ!”
ทุกคนไม่เห็นหยางเฉินเคลื่อนไหวเท่าไรนัก เห็นเพียงแค่เขาจู่ๆก็หายไป แล้วปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ผู้แข็งแกร่งที่จู่โจมหยางเฉิน ก็แทบจะกระเด็นออกไป ในเวลาพร้อมๆกัน
ตั้งหยางเฉินเริ่มลงมือ ทุกอย่างก็เกิดขึ้นภายในระยะเวลาสั้นๆไม่กี่วินาที
ผู้แข็งแกร่งตระกูลซุนที่เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตา พวกเขาก็ต้องถึงกับเบิกตากว้าง ด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ
“นี่เป็นไปได้ยังไง?”
มีคนพูดอย่างตกตะลึงว่า“ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้เป็นผู้แข็งแกร่งของตระกูลซุน ทำไมถึงถูกล้มด้วยภายในกระบวนท่าเดียว?เขากำลังเล่นกลอยู่หรอ?”
“ไอ้โง่ เล่นกลอะไรทำให้คนของเราบาดเจ็บแบบนี้?เขาเป็นอดฝีมือ เป็นยอดฝีมือที่แท้จริง!”
มีผู้แข็งแกร่งอีกคนตกใจจนขวัญเสีย เขากัดฟันพูด
ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้า ตอนนี้ถึงกับสีหน้าซีดเผือด
เดิมทีเขาคิดว่า หยางเฉินถึงจะเก่งแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ในเงื้อมมือของผู้แข็งแกร่งของตระกูลซุนมากมายขนาดนี้ หยางเฉินก็ไม่มีทางมีชีวิตรอดไปได้หรอก
แต่เมื่อเห็นว่า ผู้แข็งแกร่งของตระกูลซุนพุ่งเข้าไปทางหยางเฉิน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถแตะต้องหยางเฉินได้ ในทางกลับกันยังถูกหยางเฉินจู่โจใจนปลิวกระเด็นออกไป
ผู้แข็งแกร่งที่ถูกตระกูลซุนจู่โจทจนกระเด็น ล้วนเป็นการจู่โจมกระทันหัน
ราวกับว่าในสายตาของเขา ผู้แข็งแกร่งที่ตระกูลซุนใช้เงินมหาศาลเพื่อฟูมฟักออกมานั้น เปราะบางสะกิดนิดเดียวก็ล้มไม่เป็นท่า
“ลุย!ลุยให้หมด!จัดการให้มันพิการก่อน!”
จู่ๆชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าก็ตะโกนขึ้นมา