The king of War - บทที่ 791 ให้สัมภาษณ์นักข่าว
“คนงานในสถานที่ก่อสร้างมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสูง หากรอถึงเวลาเริ่มเปิดทำงานใหม่ มันยากที่จะหาคนงานได้เป็นจำนวนมากขนาดนั้น”
“เรื่องนี้ชัดเจนว่ามีคนต้องการเล่นงานพวกเรา ถ้าเราทำแบบนี้ มันจะไม่เป็นการเปิดทางสะดวกให้คนร้ายเหรอ?”
“บางทีสาธารณชนอาจจะคิดว่าเราท้อถอยจึงหยุดงาน”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “คุณคิดว่าถ้าเราไม่หยุดการก่อสร้าง ทางรัฐบาลจะยอมให้พวกเราดำเนินงานต่อไปได้เหรอ?”
ได้ยินดังนั้นลั่วปิงก็มีสีหน้าชะงักงันไปในทันที เขารู้ว่าสิ่งที่หยางเฉินพูดเป็นความจริง
ถึงอย่างไรก็มีคนตายแล้ว และเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด สถานที่ก่อสร้างต้องถูกสั่งปิดชั่วคราวอย่างแน่นอน
เขาลงทุนลงแรงไปเป็นจำนวนมากในโครงการเมืองจิ่วโจว ก็ย่อมรู้สึกไม่เต็มใจอยู่แล้ว
แต่ไม่ว่าจะไม่เต็มใจแค่ไหนก็ทำได้เพียงเท่านี้อยู่ดี
“คุณไม่ต้องกังวล เรื่องนี้สร้างความเสียหายให้พวกเรา จะต้องมีคนชดใช้ และต้องชดใช้เป็นสองเท่าด้วย!”
หยางเฉินกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา
“ผมเข้าใจแล้ว!”
ลั่วปิงกล่าวด้วยอารมณ์ผิดหวัง
ทั้งสองเพิ่งลงจากรถ ก็เห็นภายในสถานที่ก่อสร้างที่อยู่ไกลออกไป รายล้อมไปด้วยผู้คนเป็นจำนวนมาก
ทางตำรวจปิดล้อมสถานที่ก่อสร้างที่เกิดเหตุด้วยเทปกั้นของตำรวจ
ภายนอกวงล้อมมีนักข่าวแบกกล้องถ่ายอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ยังมีรถยนต์ทยอยมาถึงสถานที่ก่อสร้างทีละคัน ล้วนเป็นนักข่าวที่ได้ยินข่าวและตามมา
หยางเฉินขมวดคิ้วและถามว่า “คุณไม่ได้มอบหมายให้คนมาปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุล่วงหน้าเหรอ? ทำไมทางเข้าออกของสถานที่ก่อสร้างยังมีนักข่าวมาอยู่?”
ลั่วปิงก็รู้สึกแปลกใจมากเช่นกัน เขากัดฟันพูดว่า “ท่านประธาน ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
จากนั้นเขาก็โทรออกไปที่หมายเลขหนึ่ง
แต่ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่เห็นเขาพูดอะไร เห็นได้ชัดว่าติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้
“ไอ้เวรเอ๊ย!”
ลั่วปิงโทรติดๆ กันหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายก็ไม่รับสาย ลั่วปิงกัดฟันพูดว่า “ท่านประธาน ติดต่อผู้ดูแลสถานที่ก่อสร้างไม่ได้เลย”
“ถ้าผมเดาไม่ผิด เขาถูกซื้อตัวไปแล้ว สงสัยจะหนีไปแล้ว”
“ท่านประธาน ขอโทษครับ ผมไม่ดูคนให้ดี พาปัญหาใหญ่มาให้บริษัท!”
หยางเฉิน “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องไร้สาระ ไปจัดการแก้ปัญหาก่อน!”
“ครับ!”
ลั่วปิงรีบตอบกลับ
ยิ่งทั้งสองเข้าไปใกล้สถานที่เกิดเหตุเท่าไร สีหน้าของหยางเฉินก็ยิ่งมืดมนมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะสถานที่ก่อสร้างที่เกิดเหตุนั้นข้าวของกระจัดกระจาย เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากตอนที่เขามาตรวจสอบก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
สภาพสถานที่ก่อสร้างเช่นนี้เห็นชัดเจนว่าไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการผลิต
สภาพสถานที่ก่อสร้างแบบนี้ ไม่เกิดอุบัติเหตุสิน่าแปลก
“ลั่วปิง นี่น่ะหรือสถานที่ก่อสร้างที่คุณมาตรวจสอบทุกวัน?”
น้ำเสียงของหยางเฉินเต็มไปด้วยความโกรธ
ใบหน้าของลั่วปิงเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ รีบกล่าวว่า “ท่านประธาน ผมมาตรวจสอบทุกวัน! เมื่อวานตอนบ่ายผมเพิ่งมาที่สถานที่ก่อสร้าง มันไม่ได้อยู่ในสภาพนี้เลย”
“เมื่อวานตอนบ่ายสถานที่ก่อสร้างนั้นเป็นระเบียบมาก ผ่านไปแค่คืนเดียวทำไมถึงได้วุ่นวายขนาดนี้?”
เมื่อได้ยินคำพูดของลั่วปิง สีหน้าของหยางเฉินก็ผ่อนคลายลง ความโกรธจางหายไป เขาเข้าใจอะไรต่างๆ มากขึ้น
“หัวหน้าคนงานผู้รับผิดชอบเรื่องอุบัติเหตุก็หายตัวไป แม้กระทั่งผู้รับผิดชอบด้านการก่อสร้างก็หายไปด้วย ในชั่วข้ามคืนสถานที่ก่อสร้างก็เกิดความวุ่นวายอย่างคาดไม่ถึง”
หยางเฉินหรี่ตากล่าวว่า “ดูท่าทาง ศัตรูจะมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวพอสมควร การวางหมากน่าจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!”
ลั่วปิงได้สติกลับมา เขากัดฟันกล่าวว่า “คนต่ำช้าไร้ยางอายพวกนี้ เอาชีวิตคนมาเดิมพันกับพวกเรา!”
ทั้งสองคุยกันไปเรื่อยๆ ก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุแล้ว
“ที่รัก! ทำไมคุณจากไปแบบนี้? ต่อไปคุณจะให้ฉันกับลูกทำยังไง? คุณจะให้พ่อแม่ของเราทำยังไง?”
“ฉันไม่อยากอยู่แล้ว ฉันจะไปกับคุณด้วย!”
หญิงวัยกลางคนนั่งหมอบร้องไห้ฟูมฟายอยู่ข้างกายคนงานที่ประสบอุบัติเหตุ ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนแล้วเอาตัวพุ่งชนกำแพงที่อยู่ด้านข้าง
“รีบห้ามเธอไว้!”
ชายหนุ่มในเครื่องแบบคนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปห้ามหญิงวัยกลางคนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ข้างกายคนงานอีกคนหนึ่งก็มีหญิงวัยกลางคนร้องไห้ด้วยหัวใจที่แตกสลายเช่นกัน
ใกล้ๆ กันนั้นยังมีนักข่าวถือกล้องวิดีโอถ่ายภาพเหตุการณ์อยู่ กล่าวหาว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปนั้น “เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา”
ลั่วปิงโกรธจนแทบจะระเบิดแล้ว ขณะที่กำลังจะวิ่งเข้าไปห้าม ก็ถูกหยางเฉินห้ามไว้ “ถ้าไปห้ามนักข่าวพวกนี้ตอนนี้ มีแต่จะทำให้เรื่องวุ่นวายมากขึ้น”
ได้ยินดังนั้นลั่วปิงก็สงบลง กัดฟันพูดว่า “ไอ้พวกเวร น่าเกลียดชะมัด!”
“ประธานและผู้จัดการทั่วไปของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมาถึงแล้ว!”
ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนขึ้นมา สายตาของทุกคนทอดมาที่หยางเฉินและลั่วปิงทันที
ส่วนคนที่เพิ่งตะโกนได้เบียดหายเข้าไปในฝูงชน เข้าร่วมกลุ่มที่กำลังโกรธแค้นไม่พอใจหยางเฉินและลั่วปิง
แม้ว่าอีกฝ่ายจะพรางตัวได้ดี แต่ก็ยังไม่รอดพ้นสายตาของหยางเฉิน
เขาไม่ค่อยปรากฏตัว คนที่รู้ว่าเขาคือประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมีอยู่ไม่กี่คน แต่ชายวัยกลางคนเมื่อครู่ที่จำหยางเฉินได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนงานในสถานที่ก่อสร้าง
คนงานทั่วไปจะรู้จักหยางเฉินที่ไม่ค่อยได้ปรากฏตัวได้อย่างไร?
ถ้าบอกว่าเขาปกติ หยางเฉินไม่เชื่ออย่างแน่นอน
“หุบปากให้หมด!”
และในตอนนี้หยางเฉินก็แผดเสียงตะโกนใส่ เสียงนั้นดังหึ่งๆ อยู่ข้างหูของทุกคนราวกับเสียงฟ้าร้อง
“เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด ถ้ามีใครกล้าพูดมาก ก็อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ!”
หยางเฉินกล่าวด้วยสีหน้าข่มขู่
ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะได้สติกลับมา
“ทุกคนเห็นแล้วหรือยัง? ท่านนี้คือประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เห็นอยู่แล้วว่าสถานที่ก่อสร้างของพวกเขาไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย จึงทำให้เกิดการเสียชีวิตของคนหนุ่มสองคน”
“แต่ในฐานะที่เขาประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ไม่ได้มองปัญหาของบริษัทตัวเอง ตรงกันข้ามกลับมาข่มขู่พวกเรา”
“กิจการที่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลาแบบนี้ เรียกได้ว่าแสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ของผู้อื่นอย่างชัดเจน”
นักข่าวหลายคนแพนกล้องมาที่หยางเฉินแล้วประณามเขา คนที่ไม่รู้จะคิดว่าหยางเฉินชั่วร้ายมาก
ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไป ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้กับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปอย่างมหาศาล แต่จะสร้างปัญหามากมายให้ตัวหยางเฉินเองด้วย
หยางเฉินไม่สนใจเลย เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ให้คนไปบล็อกสัญญาณอินเทอร์เน็ตในสถานที่ก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว หมายความว่าตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ออกจากที่นี่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่จะไม่ถูกเปิดเผยออกไป
“สวัสดีครับ ผมชื่อกงเจิ้ง เป็นคนที่รับผิดชอบดูแลคดีนี้”
ในเวลานี้ชายวัยกลางคนในเครื่องแบบได้เดินเข้ามา แล้วยื่นมือให้หยางเฉิน
หลังจากหยางเฉินจับมือกับอีกฝ่ายแล้วก็กล่าวว่า “สวัสดีครับ ผมคือหยางเฉิน เป็นประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ถ้ามีอะไรที่ผมทำได้ จะให้ความร่วมมือแน่นอน!”
“ครับ!”
กงเจิ้งพยักหน้าและถามหยางเฉินอีกหลายคำถาม หยางเฉินตอบทีละคำถาม
“หัวหน้ากง ผมสงสัยว่าเรื่องนี้จะคนจัดการอยู่เบื้องหลัง”
หยางเฉินกล่าวขึ้นในทันใด
ลั่วปิงรีบเดินเข้ามา เล่าเรื่องหัวหน้าคนงานและผู้ดูแลสถานที่ก่อสร้างหายไป รวมถึงนักข่าวเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากเกิดเรื่องห้านาทีให้กงเจิ้งฟังทั้งหมด