The king of War - บทที่ 828 ไวน์แดงมีปัญหา
เซี่ยเหอรู้ดี ก่อนหน้านี้ หวู่เทียนโหย่วเพิ่งดื่มจนอาเจียนเป็นเลือดและหมดสติไป เธอกังวลว่าจะเกิดเรื่อง พอหวู่เทียนโหย่วจะดื่มต่อ เธอรีบห้ามเขาไว้ “พอแล้ว!”
“ขอเพียงต่อไปคุณไม่รังควานฉันอีก และอย่าไปหาเรื่องหยางเฉิน ฉันก็จะให้อภัยคุณ”
หวู่เทียนโหย่วรู้สึกโกรธเล็กน้อยในใจ แต่ซุนจื้อเจียว อยู่ด้วย เขาก็ไม่กล้าที่จะระเบิดออกมา พูดได้เพียงว่า “เซี่ยเหอ คุณวางใจเถิด ต่อไปผมจะไม่รังควานคุณอีกเด็ดขาด และผมจะไม่ไปหาเรื่องหยางเฉินอีก”
“หวู่เทียนโหย่วฉันขอเตือนคุณ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เซี่ยเหอก็เป็นน้องสาวของฉัน ถ้าฉันรู้ว่าคุณกล้ารังแกเธอ ดูว่าฉันจัดการกับคุณยังไง”
หวู่เทียนโหย่วรีบแสดงท่าที “พี่สาววางใจได้ ผมสาบานว่า จะไม่รังแกเธออีกเด็ดขาด”
“ก็คิดอยู่ว่าคุณไม่กล้า!”
ซุนจื้อเจียวพูดอย่างเย็นชา
ทันใดนั้นเซี่ยเหอก็รู้สึกว่าความไร้อำนาจที่เกิดขึ้นในใจของเธอ ซุนจื้อเจียวแสดงความเป็นมิตรกับเธอมาก แม้แต่หวู่เทียนโหย่วสถานะที่อยู่ในใจของซุนจื้อเจียวยังไม่สำคัญเท่าเธอ
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เซี่ยเหอไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ตามใจ
“เซี่ยเหอคุณก็อย่าเรียกฉันว่าประธานซุนอีกเลย ต่อจากนี้คุณก็เรียกฉันว่าพี่สาว” จุ่ๆซุนจื้อเจียวก็พูดขึ้นอีก
เซี่ยเหอไม่ต้องการคบหาสนิทกับซุนจื้อเจียวมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “ประธานซุนยังไงก็ตาม ฉันเป็นศิลปินของบริษัทบันเทิงซิงเฉิน ท่านเป็นผู้จัดการของบริษัทการบันเทิงซุนซื่อพวกเราสนิทกันเกินไปฉันเกรงว่าคนอื่นจะเอาไปนินทา”
“ใครกล้า?”
ซุนจื้อเจียวสีหน้าหยิ่งผยอง “ฉันซุนจื้อเจียวเป็นพี่น้องกับคุณ นั่นเป็นเรื่องระหว่างพวกเรา ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ใครกล้านินทาคุณ?”
“ถ้าเป็นพนักงานของบริษัทบันเทิงซิงเฉิน ฉันจะไล่พวกเขาออก”
“ถ้าเป็นศิลปิน ฉันจะบล็อกทั้งเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ตพวกเขาให้หมด ใครกล้าพูดคุณ ฉันจะทำให้คนนั้นลำบาก”
น้ำเสียงของซุนจื้อเจียวเย็นชามาก ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้พูดโกหก
เซี่ยเหอมึนงงสับสน เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมซุนจื้อเจียวถึงใจดีกับตัวเองนัก เกินความคาดหมายของเธออย่างสิ้นเชิง
“เซี่ยเหอ คุณดูแลผิวพรรณของคุณยังไง? เนียนนุ่มละเอียดมาก”
ทันใดนั้นซุนจื้อเจียวก็เอื้อมมือออกไปสัมผัสใบหน้าของเซี่ยเหอเบาๆ และกล่าวด้วยสีหน้าชื่นชม
เมื่อถูกซุนจื้อเจียวสัมผัสที่แก้ม เซี่ยเหอรู้สึกไม่คุ้นเคย รีบหลบหลีกเลี่ยงโดยไม่รู้ตัว
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เซี่ยเหอกล่าวอย่างเขินอายเล็กน้อย
ซุนจื้อเจียวยิ้ม และดึงมือเซี่ยเหอไว้ “เซี่ยเหอ จากนี้ไปคุณก็เป็นคนของฉัน อย่าทำกับฉันเหมือนเป็นคนแปลกหน้า แบบนี้มันไม่ดี”
ครั้งนี้ แม้แต่คำพูด ก็ดูผิดปกติไปเล็กน้อย
เซี่ยเหอรีบดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว
แม้แต่หวู่เทียนโหย่ว ที่อยู่ด้านข้างก็แปลกใจเล็กน้อย
ซุนจื้อเจียวจับมือถือแขนเซี่ยเหอ ดูยังไงก็รู้สึกไม่ถูกต้อง
ถ้าซุนจื้อเจียวเป็นผู้ชาย แค่การกระทำของเธอเมื่อกี้ ก็เพียงพอที่จะสรุปได้ว่าเธอกำลังคิดเกินเลยเอาเปรียบเซี่ยเหอ
“เซี่ยเหอ คุณหลบทำไม? ฉันไม่ได้เป็นสัตว์ป่า ดูสิทำให้คุณกลัวขนาดนี้”
ซุนจื้อเจียวพูดอย่างลำบากใจ
ขณะที่กำลังจะเอื้อมมือไปคว้ามือของเซี่ยเหอ เซี่ยเหอก็รีบหลบเลี่ยง
เซี่ยเหอรู้สึกโกรธแล้วจริงๆ “ประธานซุน คุณมีธุระอะไรก็บอกฉันมาตรงๆ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำ เกรงว่าจะอยู่ที่นี่นานเกินไปไม่ได้”
ซุนจื้อเจียวเลิกคิ้วทันที “คุณจะมีธุระอะไรได้ แม้ว่าจะมีธุระจริงๆ แล้วมีอะไรจะสำคัญไปกว่าการกินข้าวกับฉัน? ”
น้ำเสียงของซุนจื้อเจียวเอาแต่ใจมาก แต่ในฐานะทายาทสายตรงของตระกูลซุน และเธอควบคุมกิจการของตระกูลซุนหลายแห่ง เธอมีคุณสมบัติที่จะเอาแต่ใจได้จริงๆ
เซี่ยเหอขยับริมฝีปากสีแดงของเธอ และเปิดปากพูดว่า “อีกสักครู่แฟนของฉันก็จะมารับฉัน”
“แฟน?”
สีหน้าของซุนจื้อเจียวบึ้งลงทันที รอยยิ้มเมื่อกี้หดหายไปอย่างสิ้นเชิง
แม้แต่หวู่เทียนโหย่วก็รู้สึกได้ถึงความโกรธของ ซุนจื้อเจียว
“เซี่ยเหอ คุณยังกล้าพูดถึงหยางเฉิน?”
หวู่เทียนโหย่วรีบพูดขึ้น “ต่อหน้าพี่สาวของผม เขาเป็นแค่เศษขยะ ผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับเขา ถ้าเขากล้ามา ผมจะให้เขามาได้แต่กลับไปไม่ได้! ”
ถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ หวู่เทียนโหย่วจุ่ๆ ขัดจังหวะซุนจื้อเจียวจะต้องโกรธแน่นอน
แต่คราวนี้ซุนจื้อเจียวกลับไม่ได้โกรธ เพียงแค่มองไปที่เซี่ยเหออย่างเย็นชา
ดูเหมือนว่าเธอจะยอมรับคำพูดของหวู่เทียนโหย่ว ถ้าหากหยางเฉินกล้ามาจริงๆ เธอก็จะไม่ปล่อยหยางเฉินไป
เซี่ยเหอรู้สึกกังวลเล็กน้อย ถ้าซุนจื้อเจียวต้องการทำร้ายหยางเฉินจริงๆ เกรงว่าหยางเฉินคงจะประสบกับปัญหาใหญ่จริงๆ
“ประธานซุน ตกลงคุณต้องการอะไร?”
เซี่ยเหอถามด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
ซุนจื้อเจียวหรี่ตาทั้งคู่ลงเล็กน้อย หยิบขวดไวน์แดงที่พิ่งเปิดออกเมื่อกี้ผลักไปข้างหน้า “เซี่ยเหอ หากคุณดื่มขวดนี้หมด ฉันก็จะไม่ถือสาหยางเฉิน”
ไวน์แดงขวดนี้ แม้จะมีแค่ครึ่งขวด แต่สำหรับเซี่ยเหอที่ปกติไม่ค่อยดื่ม ก็มากเกินพอแล้ว
เซี่ยเหอสีหน้าดิ้นรน ถ้าเธอดื่มครึ่งขวดนี้ เธอต้องเมาแน่นอน
หากเมา แล้วใครจะรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงคำเตือนของผู้กำกับหลี่ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าซุนจื้อเจียวคนนี้ไม่ธรรมดา
แต่ว่า ถ้าเธอไม่ดื่ม ซุนจื้อเจียวก็จะไม่ปล่อยหยางเฉิน
“เซี่ยเหอ ฉันรับรองได้เลยว่าถ้าคุณเมา ฉันรับรองว่า จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้ชายคนไหนแตะต้องคุณแม้แต่ปลายนิ้วเด็ดขาด”
ทันใดนั้นซุนจื้อเจียวก็พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
ด้วยคำพูดของซุนจื้อเจียวนี้ เซี่ยเหอก็รู้สึกวางใจมากขึ้น
“ก็ได้ ฉันจะดื่ม!”
ในที่สุดเซี่ยเหอก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
เธอไม่ลังเลอีก หยิบไวน์แดงครึ่งขวดขึ้นมาดื่มทันที
ดวงตาของซุนจื้อเจียวระยิบระยับ ดูเหมือนในดวงตาของเธอมีความตื่นเต้นเล็กน้อย
ทันใดนั้น หวู่เทียนโหย่วตัวสั่นทั้งตัว สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เขาคุ้นเคยกับแววตาของซุนจื้อเจียวแบบนี้เป็นอย่างดี นี่เป็นแววตาที่ผู้ชายแสดงเมื่อพวกเขาต้องการสาวงามที่ดึงดูดใจ ถึงจะแสดงแววตาแบบนี้
เพียงแต่ สิ่งที่น่าตกใจของหวู่เทียนโหย่วคือ ซุนจื้อเจียวเป็นผู้หญิง ทำไมเธอถึงแสดงแววตาแบบนี้ต่อเซี่ยเหอ?
เมื่อรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ซุนจื้อเจียวแตะเนื้อต้องตัวเซี่ยเหอ
ทันใดนั้นหวู่เทียนโหย่วกล้าคาดเดาในใจ หรือว่าซุนจื้อเจียวชอบผู้หญิง?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของหวู่เทียนโหย่วสีหน้าท่าทีมหัศจรรย์มาก
มีแต่ความเป็นไปได้แบบนี้เท่านั้น ถึงจะสามารถอธิบายทุกอย่างให้เข้าใจได้
“ตึ้ง!”
ในขณะนี้ เซี่ยเหอดื่มไวน์แดงครึ่งขวดจนหมด วางขวดไว้บนโต๊ะอาหาร มองไปที่ซุนจื้อเจียวแล้วพูด “ประธานซุน ฉันหวังว่าคุณจะรักษาคำพูด”
พูดจบ เซี่ยเหอก็รู้สึกว่าหน้ามืดโลกหมุน สะดุดเท้า และล้มลงบนเก้าอี้โดยตรง
เมื่อมองเห็นเซี่ยเหอที่เมาแล้ว แววตาของซุนจื้อเจียวเต็มไปด้วยความร้อนแรง พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอน ฉันจะรักษาคำพูด ถ้าคุณเมาแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนมาแตะต้องเธอ”
พูดจบเธอก็เดินไปหาเซี่ยเหอ
แม้ว่าเซี่ยเหอจะดื่มมาก แต่ไวน์แดงจะเมาช้า จะไม่เมามากในทันที
เพียงแต่ เมื่อกี้เธอดื่มไวน์แดงครึ่งขวดหมดอึดเดียว และจากที่เธอไม่เคยดื่ม เลยรู้สึกพุ่งขึ้นสมองเล็กน้อย
เมื่อเห็นซุนจื้อเจียวเดินเข้ามาหาตัวเองทีละก้าว เซี่ยเหอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ประธานซุน คุณอย่าแตะต้องตัวฉัน”
ขณะที่ซุนจื้อเจียวเอื้อมมือออกไปจับมือเซี่ยเหอ เซี่ยเหอก็ดึงมือกลับทันทีราวกับไฟฟ้าช็อต
ตั้งแต่วันแรกที่เซี่ยเหอเข้ามาในกองถ่าย หวู่เทียนโหย่วก็อยากได้เซี่ยเหอแล้ว เพียงแต่เขาไม่มีโอกาส