The king of War - บทที่ 886 สั่งสอนกวนซิน
การพบกับหยางเฉินก็ทำให้เธอโกรธมากอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีคุณตู้เข้ามาตบหน้าเธออีก นี่คือการดูถูกเธออย่างใหญ่หลวงที่สุด
“ต่อให้ผมฆ่าคุณ คุณก็ตายเปล่า คุณเชื่อไหม?”
ดวงตาของคุณตู้เปล่งประกายพลังอาฆาต
ในฐานะยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งตระกูลเซว เขาจะใจดีได้อย่างไร?
อีกอย่างเขาก็ไม่ได้มีเจตนาพูดให้กลัว ด้วยตัวตนและศักยภาพของเขา ต่อให้เขาฆ่ากวนซิน สุดท้ายเรื่องนี้ก็อาจจะคาราคาซัง
ตระกูลเซวและตระกูลกวนต่างก็เป็นหนึ่งในตระกูลเดอะคิง มีความแข็งแกร่งพอๆ กัน หากทั้งสองตระกูลต่อสู้กัน สุดท้ายก็จะพบกับความสูญเสียกันทั้งสองฝ่าย
ยิ่งไปกว่านั้น เขาคือยอดฝีมือตระกูลเดอะคิง
ตระกูลกวนคงไม่ให้เขาต้องชดใช้กันด้วยชีวิตจริงไหม?
ถ้ายืนกรานที่จะให้คุณตู้ชดใช้ด้วยชีวิตของเขา ลำพังเขาเพียงคนเดียว ก็สามารถฆ่าคนของตระกูลกวนได้ตามความพอใจแล้ว ถึงตอนนั้นตระกูลกวนก็จะยิ่งประสบความสูญเสียมากขึ้น
ขณะที่กวนซินกำลังจะด่าต่อ ผู้เฒ่าตระกูลกวนก็รีบปิดปากของเธอไว้
“คุณหนู คุณหุบปากไว้ดีกว่า! คุณตู้พูดถูก ถ้าเขาจะฆ่าคุณ คุณก็ตายเปล่า”
“ถ้าคุณยังดื้อดึงที่จะหยาบคายกับคุณตู้ ผมก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”
“ผมหวังว่า คุณจะใจเย็นลงได้ ถ้าจะเสียมารยาทกับคุณตู้จริงๆ ผมแนะนำให้คุณติดต่อกับกษัตริย์กวนก่อน”
ผู้เฒ่าตระกูลกวนพูดจบก็ปล่อยมือออก
แม้ว่ากวนซินจะเคยกำเริบเสิบสานและโอหังอวดดี แต่เธอก็ไม่ใช่คนโง่ที่ไม่มีสมอง ถ้าไม่อย่างนั้นกษัตริย์กวนจะไม่ส่งเธอไปที่เมืองเยี่ยนตูหรอก
ในเวลานี้เธอใจเย็นลงมากแล้ว ยอดฝีมืออันดับหนึ่งข้างกายกษัตริย์เซว คนแบบนี้ต้องฆ่าเธอแน่ เธอยังจะต้องตายเปล่าอีก
“ผัวะ!”
กวนซินตอบโต้โดยการตบกลับ ตบอย่างแรงเข้าไปที่ใบหน้าของผู้เฒ่าตระกูลกวน แล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “ถ้าคุณไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอีก ฉันจะฆ่าคุณ!”
ผู้เฒ่าตระกูลกวนจะหลบก็หลบได้ แต่เขาไม่หลบ
เขารู้ว่ากวนซินเพิ่งเสียหน้าต่อหน้าหยางเฉินและคุณตู้ พอเห็นว่ากู้หน้าไม่ได้แล้ว ก็ทำได้เพียงระบายความโกรธใส่เขา
คุณตู้ถอนหายใจใส่อย่างเย็นชา “กษัตริย์กวนเป็นถึงราชา แต่ดันมีหลานสาวที่หยิ่งผยอง น่าสงสารจริงๆ!”
กวนซินกัดริมฝีปาก ไม่กล้าพูดอะไรอีก
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
คุณตู้เดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าหยางเฉินแล้วเอ่ยปากถามขึ้น
หยางเฉินยิ้มหยอกเย้า “คุณคิดว่าผมจะเป็นอะไรได้เหรอ?”
คุณตู้ยิ้มแห้ง “ผมนี่พูดไม่คิด ฮ่าฮ่า!”
พอเห็นท่าทางพินอบพิเทาของคุณตู้เมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน ผู้เฒ่าตระกูลกวนก็ตกใจ
ถ้าเขาไม่รู้จักตัวตนของคุณตู้ ต้องไม่เชื่อแน่นอนว่าหยางเฉินจะมีความเกี่ยวข้องกับคุณตู้
และดูเหมือนว่าคุณตู้จะเป็นฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือหยางเฉินเองอีกด้วย
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
คุณตู้ยิ้มแล้วมองมาที่กวนซิน เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนทันที หรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ผมไม่สนหรอกว่าตระกูลกวนของพวกคุณกับคุณหยางจะมีความบาดหมางอะไรกัน แต่วันนี้ผมขอพูดไว้ตรงนี้เลยว่า ใครกล้าเป็นศัตรูของคุณหยาง ก็ถือว่าเป็นศัตรูกับผมด้วย”
กวนซินกัดริมฝีปากแดงและกัดฟันถามว่า “คุณตู้ เขาเป็นแค่ประธานบริษัทในเมืองเยี่ยนตูเท่านั้น คุณเป็นถึงยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว ทำไมคุณต้องช่วยเขาด้วย?”
“หุบปาก!”
คุณตู้ตวาดใส่อย่างเย็นชา “ถ้ากล้าเสียมารยาทกับคุณหยางอีกครั้ง ผมจะฆ่าคุณก่อนเลย!”
เอะอะก็จะฆ่าแกงกัน ไฟโทสะลุกโหมอยู่ในใจกวนซิน แต่ก็ต้องหุบปาก
“พาตัวกวนเย่วออกมา!”
หยางเฉินขี้เกียจคุยเรื่องไร้สาระ ในเมื่อคุณตู้ออกหน้า ก็ปล่อยให้เขาออกหน้าเถอะ
ตัวเขาก็ไม่ยินดีที่จะเปิดเผยตัวเองด้วย
ถ้ามีคุณตู้อยู่ ก็จะเป็นการช่วยเขาปกปิดได้หลายเรื่อง
กวนซินไม่พูดอะไร แค่มองหยางเฉินด้วยสายตาเย็นชา
“คุณหยางถามน่ะ ทำไมคุณถึงไม่ตอบคำถาม?”
คุณตู้ขมวดคิ้วถาม
“นำตัวกวนเย่วออกมา!”
กวนซินมีสีหน้าไม่ยินยอม กัดฟันพูดด้วยความโกรธ
ไม่นานกวนเย่วก็ถูกนำตัวออกมา
แต่เมื่อหยางเฉินได้เห็นกวนเย่ว เขาก็โมโหจัดขึ้นมา
“นี่คุณอยากตายหรือไง?”
หยางเฉินแผดเสียงลั่น “ถ้าอย่างนั้นผมก็จะสงเคราะห์ให้!”
วินาทีถัดมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้ากวนซิน คว้าคอเสื้อเธอยกขึ้นมา
ผู้เฒ่าตระกูลกวนไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ตั้งตัว เจ้านายของตัวเองถูกกำหนดความเป็นความตายโดยใครบางคน เขาถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง
จนกระทั่งในเวลานี้เองที่เขาตระหนักได้ว่า ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านั้นน่ากลัวเพียงใด
กวนเย่วที่เดิมทีอยู่ในอาการสะลึมสะลือ เมื่อได้เห็นหยางเฉินทำกับกวนซินเหมือนเป็นลูกไก่ ขณะที่ยกขึ้นมาด้วยมือเดียวนั้น เธอก็ตาสว่างขึ้นมาทันที
“อาจารย์ อย่านะ!”
กวนเย่วรีบวิ่งเข้ามาคว้าแขนของหยางเฉินไว้แล้วทำหน้าอ้อนวอน “อาจารย์ เพื่อเห็นแก่ผู้หญิงคนนี้ มันได้ไม่คุ้มเสียเลย คุณรีบปล่อยเธอไปเถอะ”
ใครจะคาดคิดว่า กวนเย่วจะอ้อนวอนให้กวนซิน
เหตุผลที่เขาหยางเฉินระเบิดอารมณ์ก็เพราะเห็นแผ่นหลังของกวนเย่วที่แดงฉานไปด้วยเลือด ใบหน้าก็ซีดมาก ถึงได้เกิดความคิดจะฆ่ากวนซินขึ้นมา
“ผู้หญิงคนนี้ทำกับคุณแบบนี้ คุณยังขอความเมตตาให้เธออีกเหรอ?”
หยางเฉินขมวดคิ้วถาม
กวนเย่วทอดสายตาไปที่กวนซิน สีหน้าซับซ้อน เธอเม้มริมฝีปากแน่น ผ่านไปครู่หนึ่ง ถึงได้มองมาทางหยางเฉินและพูดว่า “อาจารย์ ปล่อยเธอไปเถอะ!”
“โครม!”
เสียงดังสนั่น ร่างของกวนซินกระเด็นออกไปทันที ก่อนจะกระแทกเข้ากับหน้าต่างของวิลล่า
“เพื่อเห็นแก่กวนเย่ว ผมจะไว้ชีวิตคุณไปก่อน หากมีครั้งหน้า จะฆ่าอย่างไร้ความปรานี!”
หยางเฉินมองไปทางวิลล่าด้วยสายตาอาฆาตพลางเอ่ยขึ้น
ผู้เฒ่าตระกูลกวนตกใจมาก พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวหยางเฉินให้ความรู้สึกกดดันจนเขาหายใจไม่ออก
“ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล”
หยางเฉินเดินตรงเข้าไปอย่างไม่รีรอ คว้าเอวกวนเย่วแล้วอุ้มขึ้นมา
ใบหน้าที่เคยซีดของกวนเย่วแดงระเรื่อขึ้นทันที
แต่ในเวลานี้ เธอไม่มีเรี่ยวแรงจะดิ้นรนขัดขืนเลยจริงๆ เธอถูกกวนซินใช้กำลังพามาที่นี่ และไม่มีรับการรักษาใดๆ บาดแผลของเธอฉีกขาดอีกครั้ง เธอเสียเลือดมากเกินไป
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอดวงแข็ง ก็อาจจะตายที่นี่เพราะเสียเลือดมากเกินไปแล้ว
“คุณตู้ เขาเป็นใครกันแน่?”
จนกระทั่งหยางเฉินพากวนเย่วออกไป ผู้เฒ่าตระกูลกวนจึงได้เอ่ยปากถาม
คุณตู้ยิ้มจางๆ “ผมก็ไม่รู้ว่าเขาคือใคร แต่เพื่อเห็นแก่มิตรภาพเนิ่นนานหลายปีระหว่างตระกูลเซวและตระกูลกวน ผมขอเตือนตระกูลกวนว่า อย่าไปยั่วยุเขาเด็ดขาด มิฉะนั้นผลที่ตามมาจะรุนแรงมาก”
พูดจบคุณตู้ก็หันหลังเดินจากไป
ผู้เฒ่าตระกูลกวนรู้สึกสับสนและสะเทือนใจอย่างที่สุด
แม้แต่คุณตู้ก็ยังพูดแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นหยางเฉินนั้นเก่งกาจแค่ไหนกันนะ?
เมื่อครู่ตอนที่หยางเฉินลงมือกับกวนซิน เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบโต้
ความเร็วนั้นเหมือนชั่วพริบตาเดียว
“อย่าบอกนะว่า ชายหนุ่มคนนั้นเป็นยอดฝีมือแดนราชาเช่นเดียวกับคุณตู้?”
ทันใดนั้นผู้เฒ่าตระกูลกวนก็บ่นพึมพำกับตัวเอง
เมื่อเขาพูดออกมาเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็ซีดเผือดลงถึงขีดสุดอย่างกะทันหัน
เขาไม่เคยเห็นยอดฝีมือแดนราชาอย่างชายหนุ่มผู้นี้มาก่อน ต่อให้เป็นราชวงศ์และตระกูลเดอะคิง ก็มีเพียงผู้นำของพวกเขาเท่านั้น ยังมียอดฝีมือระดับสุดยอดที่อยู่ข้างกายผู้นำเหล่านี้เท่านั้น ที่จะเป็นยอดฝีมือแดนราชาได้
แต่ยอดฝีมือแดนราชาทุกคนก็ล้วนเป็นผู้เฒ่าอายุ 70-80 ปี และยังมีผู้เฒ่าประหลาดอายุกว่าร้อยปีที่เก็บตัวฝึกฝนมาตลอดทั้งปี
อย่าว่าแต่ยอดฝีมือแดนราชาอายุยี่สิบกว่าเลย แม้จะเป็นยอดฝีมือแดนราชาที่อยู่ในวัย 40-50 เขาก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
“คุณผู้หญิง คุณโอเคไหม?”
ทันใดนั้นผู้เฒ่าตระกูลกวนก็นึกถึงกวนซินขึ้นมา เขารีบวิ่งเข้าไปในวิลล่า
เห็นเพียงใบหน้าของกวนซินเต็มไปด้วยเลือด ดูน่าอนาถอย่างยิ่ง
“ไอ้สารเลว ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแก!”
กวนซินคำรามด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว ดวงตาทั้งสองแดงก่ำ ดูเหมือนจะคลุ้มคลั่ง
ผู้เฒ่าตระกูลกวนย่อมเข้าใจอยู่แล้ว กวนซินบอกว่าต้องการฆ่าใคร ก็มีแต่หยางเฉินเท่านั้น