The king of War - บทที่ 938 ปกป้องภรรยา
วินาทีนี้ สีหน้าของอู่หนิงเปลี่ยนไป แรงกดดันอันมหาศาล อย่างไม่สามารถเทียบได้ ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝุ่นผงเล็กๆ
“พลั่ก!”
วินาทีต่อมา ฝ่ามือหนึ่งกระแทกที่หน้าอกอู่หนิง ตัวของเขากระเด็นไปในอากาศ และร่วงลงตรงเท้าของกวนหงอี้
“ถ้าลูกชายของนาย ไม่วิงวอนเพื่อลูกศิษย์ฉัน ตอนนี้นายกลายเป็นศพไปแล้ว!”
เสียงอันเย็นชาดังขึ้นตามมา
กวนเย่วเบิกตาโต มองแผ่นหลังกว้าง ที่ยืนขวางหน้าตัวเอง ด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ จู่ๆ น้ำตาไหลออกมา
กวนหงอี้ที่นั่งหน้าสุด ลุกขึ้นทันที แววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
เพราะเขาเห็นชัดเจน คนที่แค่ปรากฏตัว ก็ตบอู่หนิงจนปลิว คือหยางเฉิน
ไม่เพียงแค่กวนหงอี้ คนในห้องโถงงานเลี้ยงคนอื่นๆ ต่างก็มีสีหน้าตกตะลึง พากันเบิกตาโต
“นาย นายเป็นใคร”
กวนเจิ้นไห่ หัวหน้าศาลายุติธรรมของตระกูลคิงกวน มองหยางเฉิน และถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
กวนเจิ้นไห่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้น สามารถควบคุมศาลายุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านพละกำลังหรือฐานะ ล้วนสูงส่งทั้งหมด
ทว่าตอนนี้ เขากลับเห็นคนหนุ่ม อายุไม่ถึงสามสิมปี ปรากฏตัวด้วยวิธีที่แข็งแกร่งขนาดนี้
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกผวาที่สุดคือ อู่หนิงหัวหน้ารองของตระกูลอู่หวง ไม่สามารถรับการโจมตีของหยางเฉินได้สักนิด
คนที่เป็นหัวหน้ารองของตระกูลอู่หวง พลังวิถีบู๊จะด้อยได้อย่างนั้นหรือ
ถึงเขาไม่ได้ปลดปล่อยพละกำลังของตัวเอง แต่คนในที่นี้ต่างรู้ดี พละกำลังของอู่หนิง อย่างน้อยต้องอยู่ในแดนราชาขั้นกลาง
นี่เป็นคนที่มีพลังวิถีบู๊แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง แต่กลับโดนฝ่ามือของหยางเฉิน ที่อายุไม่ถึงสามสิบปี ตบจนปลิว ไม่ต้องคิดก็รู้ถึงความน่ากลัวของหยางเฉิน
ทว่าหยางเฉินกลับไม่สนใจความตกใจของทุกคน หันไปมองกวนเย่ว ที่น้ำตานองหน้า จิตใจสับสนเป็นอย่างมาก
พูดขึ้นมา เขาเจอกับกวนเย่วแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ตอนที่กวนเย่วบังกระสุนให้เขา โดยไม่สนใจความเป็นตายของตัวเอง ผู้หญิงแสนดีคนนี้ ก็อยู่ในใจของหยางเฉินแล้ว
แน่นอนว่าไม่ใช่ความสัมพันธ์ ที่อยู่ในใจแบบชายหญิง แต่เป็นเหมือนความรู้สึกของพี่ชายที่มีให้น้องสาว
“อาจารย์!”
กวนเย่วพูดเสียงสะอื้น
ตั้งแต่ถูกกวนหงอี้พากลับมาที่ตระกูลคิงกวน เธอใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ทุกวัน อยากหนีออกจากตระกูลคิง ที่เหมือนกรงขังไร้จิตใจแห่งนี้
แต่แผลโดนยิงสาหัสมาก อย่าว่าแต่หนีออกจากตระกูลคิงกวนเลย ขนาดอยากออกจากห้องตัวเองอย่างเงียบๆ ก็ยากมาก
จิตใจของเธอก็ขัดแย้งกันมาก ทั้งกังวลว่าหยางเฉินจะมาช่วยเธอ ที่ตระกูลคิงกวน ทั้งกังวลว่าถ้าหยางเฉินมาแล้ว จะโดนผู้แข็งแกร่งตระกูลคิงกวน ล้อมโจมตีและฆ่า
มองกวนเย่วที่มีสีหน้ากังวล หยางเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน “อย่าคิดมาก มีฉันอยู่ ใครก็ไม่สามารถบังคับให้เธอทำเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบ”
ทันใดนั้น กวนเย่วอบอุ่นในใจ ราวกับลืมความไม่ยุติธรรม และความทุกข์ ที่ได้รับในช่วงนี้ ไปจนหมด
“หยางเฉิน คิดไม่ถึงว่านายจะกล้ามาคฤหาสน์คิงกวน!”
กวนหงอี้ตั้งสติได้ เขากัดฟันพูดออกมา
ตอนนี้ทั้งตระกูลคิงกวน ในบรรดาคนที่เคยเจอหยางเฉิน เจ้าชายรองกวนหงเหว่ยกับลุงเต๋อ ได้ฆ่าตัวตายไปแล้ว ก่อนตายวิงวอนให้หยางเฉิน ปล่อยตระกูลคิงกวนไป
กวนซินก็โดนหม่าชาวฆ่าตายเมื่อคืนวาน
ตอนนี้คนที่เคยเจอหยางเฉินในตระกูลคิงกวน มีเพียงกวนหงอี้ที่ยังมีชีวิตอยู่
หยางเฉินไม่สนใจกวนหงอี้ แต่พูดกับกวนเย่วว่า “เธอไปรออีกด้านก่อน เรื่องที่เหลือ ฉันจัดการให้เธอเอง!”
“นายเป็นใครกันแน่”
ขณะนั้น อู่หนิงเดินเข้ามา แต่สีหน้าเขาซีดเผือด
เมื่อกี้ตอนจะฆ่ากวนเย่ว หยางเฉินปรากฏตัวอย่างแข็งแกร่ง ตบเขาด้วยฝ่ามือเดียวจนปลิว อวัยวะภายในของเขา ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
อู่หนิงเป็นคนจัดการเรื่องต่างๆ ซึ่งเป็นหัวหน้ารองในตระกูลอู่หวง คนที่มาถึงขั้นนี้อย่างเขา ไม่ได้โง่อยู่แล้ว
แค่ฝ่ามือเดียวของหยางเฉิน ก็ไม่สามารถรับมือได้ เขาไม่สู้ตายกับหยางเฉินแน่นอน
เมื่อรู้ว่าอู่หนิงเดินเข้ามา กวนเย่วตั้งสติได้ จู่ๆ เธอร้อนใจ จับแขนของหยางเฉินทันที “อาจารย์ไม่ต้องสนใจฉัน รีบออกไปจากที่นี่”
“คุณวางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไร แค่แต่งงานกับตระกูลอู่หวงเอง ไม่ว่ายังไงต่อไปก็ต้องแต่งงานอยู่ดี จะแต่งกับใครก็ได้ทั้งนั้น”
พูดจบ กวนเย่วมองกวนหงอี้ แล้วพูดว่า “ลุง ฉันเป็นผู้หญิงของตระกูลคิงกวน ฉันรู้ว่าหน้าที่ของตัวเองคืออะไร ฉันก็รู้ว่าลุงต้องการอะไร ขอแค่ลุงยอมปล่อยอาจารย์ฉันไป รอฉันแต่งเข้าตระกูลอู่หวง สิ่งที่ลุงอยากได้ ฉันให้ได้”
กวนหงอี้มุมปากกระตุก ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะให้สิ่งที่ฉันต้องการได้หรือไม่ แต่ตระกูลอู่หวงจะยอมให้เธอแต่งงานหรือเปล่า
หัวหน้าอันดับสองของตระกูลอู่หวง โดนตบจนปลิว ที่ตระกูลคิงกวน ไม่ว่าคนที่ทำร้ายอู่หนิงคือใคร ตระกูลคิงกวนต้องรับผิดชอบอยู่ดี
“หุบปาก!”
กวนหงอี้แผดเสียงออกมา จากนั้นจึงมองหยางเฉิน “เมื่อคืนวาน น้องของนายบุกเข้ามาในคฤหาสน์คิงกวน ฆ่าผู้หญิงในตระกูลต่อหน้าฉัน วันนี้นายยังกล้ามาคฤหาสน์คิงกวน คงเบื่อชีวิตยืนยาวเกินไป ของตัวเองแล้วสินะ”
“แต่น้องชายของนายโชคดีไม่เลว โดนคนช่วยไป แต่กลัวว่านายจะโชคไม่ดีขนาดนั้น”
เมื่อกวนหงอี้พูดจบ ผู้คุ้มกันของคฤหาสน์คิงกวนสิบกว่าคน พุ่งเข้ามาล้อมหยางเฉินเอาไว้ตรงกลางทันที
กวนเจิ้นไห่เป็นหัวหน้าศาลายุติธรรม ถึงขัดแย้งกับกวงหงอี้ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาต้องร่วมมือกันก่อน
“พี่น้องศาลายุติธรรม ออกมาให้หมด!”
เมื่อกวนเจิ้นไห่ออกคำสั่ง ผู้มีความสามารถของศาลายุติธรรม ในชุดเครื่องแบบเหมือนกัน จำนวนสิบกว่าคน ปรากฏตัวในห้องโถงงานเลี้ยง
ทันใดนั้น ในห้องโถงงานเลี้ยง เต็มไปด้วยคนมีความสามารถ ของตระกูลคิงกวน
จู่ๆ กวนเย่วร้อนใจ “พวกนายใครกล้าแตะต้องอาจารย์ฉัน ก็ข้ามศพฉันไปก่อน!”
“ในเมื่อเธอรนหาที่ตาย งั้นอย่าหาว่าลุงไม่เกรงใจแล้วกัน!”
ในแววตาของกวนหงอี้ เต็มไปด้วยความอาฆาตรุนแรง
ในความคิดของเขา คนมีความสามารถวิถีบู๊อย่างหยางเฉิน เป็นอันตรายต่อตระกูลคิงกวนมากที่สุด
ยังไม่ถึงสามสิบปี ก็แข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าให้เวลาเขาอีกสิบปี เขาจะแข็งแกร่งถึงขั้นไหนกัน
ความสามารถเช่นนี้ ในเมื่อทำประโยชน์ให้ฉันไม่ได้ งั้นต้องฆ่าเท่านั้น
“พวกนายห้ามรังแกภรรยาฉัน!”
ทันใดนั้นร่างอ้วนท้วน พุ่งเข้ามา ยื่นแขนทั้งสองข้างออกมา บังกวนเย่วเอาไว้ด้านหลัง
คนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นอู่จื่อไค ลูกชายโง่ของอู่หนิง
มองคนโง่อย่างอู่จื่อไค กวนเย่วมีสีหน้าตกใจ เธอคิดไม่ถึงว่า เพิ่งเจอหน้ากัน อู่จื่อไคก็ปกป้องตัวเอง
หยางเฉินก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป มองอู่จื่อไคอยู่อย่างนั้น
เขาดูออกว่าอู่จื่อไค เป็นผู้ใหญ่ที่มีความบกพร่องทางปัญญา ไอคิวคงจะหยุดอยู่แค่เจ็ดขวบ
ถึงจะบกพร่องทางด้านไอคิว แต่กลับมีจิตใจที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา
เทียบกับพวกคนเห็นแก่ได้ในตระกูลใหญ่ที่อยู่ตรงนี้ ช่างแตกต่างกันมาก
แต่น่าเสียดายที่เขามีความบกพร่องทางด้านไอคิว
อู่หนิงขมวดคิ้ว “จื่อไค กลับมา!”
เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉิน และกลัวตัวตนของหยางเฉิน ในเมื่อตระกูลคิงกวนเตรียมจัดการหยางเฉิน เขาไม่ก้าวก่ายอยู่แล้ว
เมื่อถึงตอนนั้น ถึงหยางเฉินจะมีปูมหลังที่ยิ่งใหญ่จริง ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
แต่ถ้าอู่จื่อไคเข้าไปก้าวก่าย แล้วเป็นเรื่องใหญ่ เขาคงไม่มีปัญญาชดใช้
“พ่อ ผมจะปกป้องภรรยาผม!”
อู่จื่อไคมองอู่หนิงด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วเอ่ยขึ้น