The king of War - บทที่ 952 เงาคนหนุ่ม
เจียงหลงเฟยกัดริมฝีปากแน่น ในใจหวาดผวาเป็นอย่างมาก เขาอยากช่วยเจียงลี่มาก แต่เมื่อเจอหงต้าเฉียง ที่มีพลานุภาพเช่นนี้ เขาก็ไม่กล้า
ยิ่งไปกว่านั้น ในลานบ้านที่อยู่ตรงหน้า ยังมีบุคคลยิ่งใหญ่สองคน ที่มีตัวตนน่าหวาดผวา
เขาไม่สงสัยเลย ถ้าเขาจะขัดขวางจริงๆ ถึงเป็นกษัตริย์กวนออกหน้าเอง ก็อาจไม่สามารถคุ้มครองตระกูลเจียงได้
“ไอ้เด็กเวร! แกไปล่วงเกินใคร ยังไม่รีบคุกเข่าอ้อนวอนอีก”
จู่ๆ เจียงเฟยหลงตวาดออกมาอย่างโมโห
“ตุ้บ!”
เจียงลี่ทำตัวอยู่เป็นอย่างมาก รีบคุกเข่าลงทันที หันไปพูดเสียงดัง ทางในลานบ้าน “นายท่าน ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ คุณปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ ต่อไปผมไม่กล้าอวดดีแล้ว ไม่กล้าเอาปืนจ่อหัวคุณอีกแล้ว”
เมื่อได้ยินที่เจียงลี่พูด เจียงหลงเฟยโมโหจนแทบบ้า เมื่อกี้เจียงลี่อวดดีจริงๆ แถมยังเอาปืนจ่อหัวคนที่มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่กว่าหงต้าเฉียงเสียอีก
มิน่าอีกฝ่ายถึงจะยิงเขาตาย
“ไอ้สารเลว ถ้าฉันไม่ตีแกตาย! แกกล้าไร้มารยาทกับบุคคลยิ่งใหญ่ของอาณาจักรรบ”
เจียงหลงเฟยพุ่งไปข้างหน้าทันที ยกขาถีบเจียงลี่จนล้มลงกับพื้น ขาทั้งสองข้างกระทืบลงไปที่ตัวเจียงลี่ไม่หยุด
เขาใช้แรงเป็นอย่างมาก เขาไม่กล้าออมแรง
ตอนนี้มีเพียงการใช้วิธีนี้ มาทำให้ความโกรธของเจ้าพ่ออาณาจักรรบคลายลง
แต่ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นหยางเฉิน หรือต่งจ้านกัง ที่อยู่ในลานบ้าน ก็ไม่หันกลับมามอง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา
“ถึงสามนาทีแล้ว!”
ขณะนั้น เสียงของหงต้าเฉียงดังขึ้นอีกครั้ง ตามมาด้วยคำสั่ง “พาตัวไป!”
“ครับ!”
นักรบสองคนก้าวเข้าไปทันที จับแขนเจียงลี่ทั้งซ้ายและขวา ขณะกำลังจะพาตัวไป
“พ่อ ช่วยผมด้วย! ช่วยผมด้วย! อย่าให้พวกเขาพาตัวผมไป ไม่งั้นพวกเขาฆ่าผมแน่ ผมไม่อยากตาย ผมยังไม่อยากตาย!”
เจียงลี่ตระโกนเสียงดัง ดิ้นไปมาสุดชีวิต
แต่ทว่าเขาถูกผู้แข็งแกร่งของอาณาจักรรบทั้งสองคนจับไว้ จะดิ้นหลุดได้อย่างไร
“ตุ้บ!”
เจียงหลงเฟยพุ่งเข้าไปในลานบ้าน และคุกเข่าลงด้านหลังต่งจ้านกัง พูดเสียงดังว่า “นายท่านช่วยไว้ชีวิตลูกชายผมสักครั้งเถอะครับ ผมยอมแลกด้วยชีวิตของตัวเอง!”
“ไสหัวไป!”
ต่งจ้านกังตวาดอย่างโมโห
เจียงหลงเฟยกลัวสุดขีด แต่ไม่กล้าลุกขึ้น ก้มหน้ากัดฟันพูด “นายท่าน รู้แต่เลี้ยงลูกไม่อบรม ไม่สั่งสอน เป็นความผิดของพ่อแม่ เจียงลี่ทำผิดมหันต์ เป็นความผิดของคนเป็นพ่ออย่างผม ที่ไม่สั่งสอนเขาให้ดี จึงทำให้เขาเหิมเกริมและล่วงเกินนายท่านเช่นนี้”
“แต่ผมมีสายเลือดเพียงคนเดียว นายท่านช่วยไว้ชีวิตเขาเถอะครับ ถ้าต้องการสิ่งชดใช้ คนเป็นพ่ออย่างผม ยอมแบกรับแทนเขาทั้งหมด!”
หงต้าเฉียงช็อกไปตั้งนานแล้ว จนตอนนี้ เขาเพิ่งตั้งสติได้ และรีบพุ่งเข้ามา
“เจียงหลงเฟย นายรีบไสหัวออกไป!”
ต่งจ้านกังเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ของอาณาจักรรบ ตอนนี้ยังมีหยางเฉิน คนที่ขนาดเขายังไม่รู้ว่าเป็นใคร เจียงหลงเฟยบุกเข้ามาแบบนี้ นี่กำลังรนหาที่ตายไม่ใช่หรือไง
รนหาที่ตายยังไม่เท่าไร ยังจะพลอยทำให้ตัวเองลำบากไปด้วย!
“ในเมื่อนายอยากตาย งั้นฉันจะสนองให้!”
ต่งจ้านกังพูดเสียงเย็นชา จากนั้นมองหงต้าเฉียง แล้วพูดว่า “รีบออกคำสั่ง นักรบอาณาจักรรบของเมืองกษัตริย์กวนทั้งหมด ออกเดินทางไปโจมตีตระกูลเจียงเดี๋ยวนี้”
“ครับ!”
หงต้าเฉียงรีบตอบรับ
“นายท่าน!”
เจียงหลงเฟยช็อกไปแล้ว
เขาแค่อยากช่วยลูกชายตัวเอง ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยลูกไม่ได้ แถมตระกูลเจียงทั้งตระกูล ยังพลอยลำบากไปด้วย
“ทำผิด ก็ต้องชดใช้!”
ต่งจ้านกังมองเจียงหลงเฟยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ และเอ่ยขึ้น
“ฉันทำให้ตระกูลเจียงพลอยลำบากไปด้วย ฉันทำให้ตระกูลเจียงพลอยลำบากไปด้วย!”
สีหน้าของเจียงหลงเฟยเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เขารู้ว่าอำนาจของตระกูลเจียงหายไปแล้ว ถึงต่งจ้านกังยอมไว้ชีวิตเขา เขาก็ไม่สามารถพัฒนาเพียงคนเดียวได้
“นายท่าน ผมไม่กล้าร้องขออะไรมาก ขอแค่นายท่านรักษาชีวิตของสายเลือดตระกูลเจียง เราสองพ่อลูกยอมชดใช้ด้วยชีวิต นายท่านช่วยเมตตาตระกูลเจียงด้วยนะครับ!”
เจียงหลงเฟยตะโกนเสียงดัง ทันใดนั้นเขายกแขนข้างหนึ่ง จู่ๆ พลานุภาพอันน่ากลัวปกคุลมที่ฝ่ามือของเขา
ขณะนั้น ขนาดหงต้าเฉียง ก็รู้สึกได้ถึงพลานุภาพ
“นายท่าน ระวัง!”
หงต้าเฉียงพุ่งเข้าไปทันที เขายืนบังต่งจ้านกังเอาไว้ เขากลัวว่าเจียงหลงเฟย ใกล้ตายแล้วจะคิดร้าย ฆ่าต่งจ้านกัง
แต่ทว่าวินาทีต่อมา ฝ่ามือของเจียงหลงเฟย ตบลงไปยังหน้าผากของตัวเอง
เขายอมตาย เพื่อที่จะรักษาสายเลือดของตระกูลเจียงเอาไว้
“ปึก!”
ขณะที่ฝ่ามือของเจียงหลงเฟย กำลังจะตบไปที่หน้าผากของตัวเอง จู่ๆ พลานุภาพอันทรงพลังถาโถมเข้ามา เสียงปะทะอันอึกทึกดังขึ้น ร่างของเจียงหลงเฟยกระเด็นไปในอากาศ
แต่ทว่าพลังนี้ไม่ใช่การจู่โจม เห็นตัวของเจียงหลงเฟยโดนโจมตี จนกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดสักนิด
ทันใดนั้น เจียงหลงเฟยเบิกตาโต มองเงาที่โจมตีเขาจนปลิว ด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแค่ชายหนุ่ม
เมื่อกี้ หยางเฉินหันหลังให้เขา เขาจึงสัมผัสได้เพียงว่า เงานี้ยังอายุน้อยมาก แต่ไม่คิดไม่ฝันจริงๆ เจ้าของเงานี้ เป็นชายหนุ่มอายุไม่ถึงสามสิบปี
“ฉันบอกว่าห้ามให้เห็นเลือด ตอนยังไม่ฝังศพหมอเทวดาเฝิง!”
หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้น คำพูดเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึง นอกจากต่งจ้านกังที่รู้ตัวตนของหยางเฉิน คนอื่นต่างไม่รู้ว่าหยางเฉินเป็นใคร
ไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการทางทหารสูงสุด ของอาณาจักรรบเมืองกษัตริย์กวน อย่างหงต้าเฉียง หรือเจียงหลงเฟยจากตระกูลเจียง ล้วนเข้าใจว่าหยางเฉินเป็นคุณชายตระกูลร่ำรวย ตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ถึงทำให้คนอย่างต่งจ้านกังปฏิบัติอย่างนอบน้อม
จนเมื่อหยางเฉินลงมือ พวกเขาจึงรู้ว่า หยางเฉินไม่ได้พึ่งพาตระกูล แต่พึ่งพาพละกำลังอันแข็งแกร่งของตัวเอง
ในอาณาจักรรบ ขนาดคนอย่างต่งจ้านกัง ยังห่างชั้นกับคนอย่างหยางเฉินมาก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หงต้าเฉียงมองหยางเฉินอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความเคารพและนอบน้อม นี่เป็นความเคารพต่อผู้แข็งแกร่ง
“ขอโทษครับคุณหยาง เดี๋ยวผมจะพาพวกเขาออกไปด้วยตัวเอง”
ต่งจ้านกังรีบพูด สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยิ่งทำให้หงต้าเฉียงกับเจียงหลงเฟยตะลึงเข้าไปอีก
ทันใดนั้น เจียหลงเฟยหน้าซีดเหมือนคนตาย ต้าหงเฉียงลงมือ ก็ทำให้ตระกูลเจียงย่อยยับได้แล้ว ตอนนี้ต่งจ้านกัง ที่มีฐานะสูงกว่าหงต้าเฉียง จะลงมือเอง กลัวว่าผ่านวันนี้ไป เมืองกษัตริย์กวน คงจะไม่มีตระกูลเจียงอีกต่อไป
“บรื้น!”
ขณะนั้น เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นขึ้นมา
“เอี๊ยด……”
ตามมาด้วยเสียงล้อเสียดสีกับถนน จนแสบแก้วหู กลิ่นยางรถรุนแรง ลอยคละคลุ้งไปทั่ว
รถยนต์โรลส์-รอยซ์ ที่ออกแบบตามสั่ง เบรกลงหน้าประตูลานบ้าน ประตูเบาะหลังเปิดออก ชายวัยกลางคนที่แขนลู่ลงทั้งสองข้าง รีบวิ่งลงมาจากรถ
บนแขนทั้งสองข้างของชายวัยกลางคน ยังมีรอยเลือดที่เห็นอย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าเพิ่งโดนทำให้พิการ
“เจ้าชายใหญ่!”
เมื่อเจียงหลงเฟยเห็นชายวัยกลางคน เขาถึงกับช็อกทันที
ชายวัยกลางคนที่แขนพิการทั้งสองข้าง ไม่ใช่ใครอื่น เป็นเจ้าชายใหญ่กวน กวนหงอี้