The king of War - บทที่ 965 จี้หยกมังกรเหลือง
แต่ว่า หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามตระกูลเจียง ไม่หยุดสร้างความแตกแยก พยายามใช้มือเขา มาฆ่าเฝิงเสียวหว่าน นี่ทำให้เขารู้สึกเอือมระอามาก
“เราแค่พูดความจริงเท่านั้น ในเมื่อนายไม่ยอมฟัง ก็ช่างเถอะ”
หัวหน้ารองพูดอย่างเนิบๆ “แต่ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป ตอนนั้นคนนอกจะเข้าใจว่า ลูกชายเจ้าบ้านหลินอย่างนาย ไม่สนใจความเป็นความตายของพ่อสักนิด”
“เห็นศัตรูฆ่าพ่อด้วยตาตัวเอง แต่กลับไม่แก้แค้นเพื่อพ่อ กลัวว่าถ้าคนอื่นรู้ คงจะหัวเราะเยาะนาย”
เจียงสยงโมโหมาก “หุบปาก!”
หลินเฮ่าก็กวาดตามองหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม อย่างเย็นชา “ตระกูลเจียงมีคนขี้แพ้แบบพวกคุณ ถ่วงพละกำลังของตระกูลเจียงให้ต่ำลงจริงๆ”
“นายว่าอะไรนะ”
จู่ๆ สีหน้าของหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม มีความโมโห คำพูดของหลินเฮ่า เหมือนเป็นการดูถูกพวกเขา
“พวกคุณต่ำตมจริงๆ ผมพูดไปแล้วรอบนึง พวกคุณจะฟังอีกหรือไง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นผมจะพูดอีกครั้ง ความหมายของผมก็คือ เพราะการมีอยู่ของพวกคุณ เป็นการถ่วงพละกำลังครอบคลุมของตระกูลเจียง ให้ตกต่ำลง”
หลินเฮ่ามองทั้งสองคนด้วยสีหน้าเยาะเย้ย แล้วเอ่ยขึ้น
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามโมโหสุดขีด แต่หลินเฮ่าเป็นลูกชายของเจ้าบ้านหลิน อีกทั้งยังเป็นผู้สืบตำแหน่งผู้นำตระกูลหลิน ถึงที่นี่เป็นตระกูลเจียง พวกเขาก็ทำอะไรหลินเฮ่าไม่ได้
“แค่กๆๆๆ……”
ขณะนั้น เสียงไออย่างรุนแรงดังขึ้นมา
สายตาของทุกคนหันไปมอง เห็นเจ้าบ้านหลิน ที่โดนหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม เข้าใจว่าตายไปแล้ว ลุกขึ้นมานั่งบนเปล
“พ่อ!”
หลินเฮ่าดีใจเป็นอย่างมาก เขาไม่สนใจคำพูดไร้สาระของคนตระกูลเจียง รีบวิ่งเข้ามาทันที
หลังเจ้าบ้านหลินไออย่างรุนแรงสองสามครั้ง จึงหันไปมองหลินเฮ่า แล้วพูดด้วยสีหน้าตกใจ “นี่ฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ”
“พ่อยังมีชีวิตอยู่ พ่อยังมีชีวิตอยู่!”
หลินเฮ่าดีใจจนร้องไห้ เขาพูดสะอื้น “หมอเทวดาน้อยรักษาพ่อจนหาย เธอขับพิษกู่ออกจากตำแหน่งหัวใจของพ่อ”
เจ้าบ้านหลินที่แต่เดิมยังสงสัย เมื่อได้ยินหลินเฮ่าพูดเรื่องพิษกู่ ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี พูดอยากช็อกๆ ว่า “นายบอกว่าพิษกู่ในร่างกายฉัน ถูกขับออกมาแล้วเหรอ”
“ใช่ครับ หมอเทวดาน้อยพูดแบบนี้”
หลินเฮ่ายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร จึงพูดตามความจริง
จากนั้นจึงถามว่า “ใช่สิพ่อ ทำไมในตัวพ่อถึงมีพิษกู่ มันคืออะไรเหรอ”
เจ้าบ้านหลินสีหน้าเคร่งขรึม ไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับมองไปยังเฝิงเสียวหว่าน ที่อยู่อีกด้าน เมื่อกี้หลินเฮ่าชี้ไปที่เธอ
สีหน้าของเฝิงเสียวหว่านดีขึ้นมาไม่น้อย เธอเดินมาข้างเจ้าบ้านหลิน แล้วเอาขวดแก้วใสออกมา
“นี่เป็นพิษกู่ที่ขับออกมาจากในร่างกายคุณ”
เฝิงเสียวหว่านเอาขวดแก้วใสออกมา ทุกคนต่างเห็นว่า ในขวดแก้วใส มีหนอนสีดำอยู่ตัวหนึ่ง ตอนนี้กำลังดิ้นอยู่ในขวด
“นี่เป็นหนอนดูดจิต ที่ผู้มีความสามารถของเมืองเหมียวเลี้ยงไว้ มีอายุขัยแข็งแกร่งมาก มีชีวิตอยู่ด้วยการกินเลือดของหัวใจ คนที่โดนวางหนอนดูดจิต ทุกครั้งที่แตะต้องบู๊ หนอนดูดจิตจะกัดกินหัวใจอย่างรุนแรง ทำให้คนที่โดนหนอนดูดจิต ได้รับความทรมาน”
“หนอนดูดจิตถูกขับออกจากร่างกายของคุณแล้ว ต่อไปคุณต้องทานยาจีนตามที่ฉันสั่ง ติดต่อกันเป็นเวลาสามเดือน อาการบาดเจ็บของหัวใจคุณทั้งหมด จะค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้น”
ขณะที่พูด เฝิงเสียวหว่านยกปากกาขึ้นมาเขียนอย่างรวดเร็ว ใบสั่งยาจีนฉบับหนึ่ง ถูกเขียนออกมา
“ยาสมุนไพรในใบสั่งยา มีอยู่ในร้านขายยาจีนทั่วไป แถมยังสะดวกมาก ต้มกินก่อนอาหารทั้งสามมื้อ วิธีการต้มยา ฉันเขียนไว้ในใบสั่งยาแล้ว”
เฝิงเสียวหว่านยื่นใบสั่งยาให้หลินเฮ่า
“ขอบคุณหมอเทวดาน้อย! ขอบคุณหมอเทวดาน้อย!”
หลินเฮ่าดีใจเป็นอย่างมาก พูดขอบคุณไม่หยุด
เขาพาเจ้าบ้านหลิน มาหาเฝิงเสียวหว่านที่ตระกูลเจียง เดิมทีมาด้วยความคิดที่รู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่คิดไม่ถึง เฝิงเสียวหว่านจะรักษาพ่อเขาหายจริงๆ
เจ้าบ้านหลินตกใจเป็นอย่างมาก ตอนมองเฝิงเสียวหว่าน สีหน้าเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
“บุญคุณที่หมอเทวดาน้อยช่วยชีวิต ผมหลินเทียนเสียง คงไม่สามารถลืมได้ตลอดชีวิต!”
หลินเทียนเสียงสีหน้าซาบซึ้ง จากนั้นจึงเอาจี้หยกมังกรเหลือง ที่พกติดตัว ยื่นให้เฝิงเสียวหว่าน แล้วพูดว่า “บุญคุณยิ่งใหญ่ จนไม่สามารถตอบแทนได้ บุญคุณของหมอเทวดาน้อย ผมไม่สามารถตอบแทนได้ นี่คือจี้หยก ผมให้คุณครับ”
“เป็นหยกมังกรเหลือง!”
“หยกมังกรเหลืองของตระกูลหลิน เป็นตัวแทนของทรัพย์สินและอำนาจ อันไม่สิ้นสุด เมื่อเจอคนที่มีหยกมังกรเหลือง ก็เหมือนเจอเจ้าบ้านหลิน”
“มีจี้หยกนี้ สามารถใช้กำลังคนและกำลังทรัพย์ของตระกูลหลิน ได้อย่างตามใจชอบ ขนาดสายเลือดโดยตรงของตระกูลหลิน ยังไม่มีคุณสมบัติเช่นนี้”
……
คนรอบๆ เห็นหยกมังกรเหลือง ที่หลินเทียนเสียงมอบให้เฝิงเสียวหว่าน แต่ละคนมีสีหน้าตกตะลึง
ขนาดหลินเฮ่ายังอึ้งไป นี่เป็นหยกมังกรเหลือง ที่เป็นตัวแทนของอำนาจสูงสุดในตระกูลหลิน ขนาดเขาที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลหลิน ยังเพิ่งมีหยกนี้
ขนาดพี่น้องของเขา ยังไม่มีเลย
ส่วนในบรรดาคนรุ่นหลังของเขา ยิ่งไม่มีหยกนี้ เฝิงเสียวหว่านเป็นเพียงคนนอก แต่กลับมีหยกมังกรเหลือง
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม สีหน้าไม่สู้ดีสุดขีด
เดิมทีพวกเขาจะยืมมือของตระกูลหลิน เพื่อฆ่าเฝินเสียวหว่าน แต่คิดไม่ถึง เฝิงเสียวหว่านไม่เพียงแต่จะรักษาหลินเทียนเสียงจนหาย แถมยังได้จี้หยกมังกรเหลืองของตระกูลหลิน ที่สูงส่งจนไม่มีอะไรเปรียบได้
นี่ทำให้พวกเขารู้สึกถึงอันตรายเป็นอย่างมาก ขนาดหนอนดูดจิตในตัวหลินเทียนเสียง ยังโดนเฝิงเสียวหว่าน ขับออกมาจากร่างกาย
งั้นอาการป่วยของเจียงสยง คงรักษาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อคิดว่าเจียงสยงใกล้จะรักษาหาย ความกังวลในใจหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ยิ่งรุนแรงขึ้น
ทั้งสองมองหน้ากัน ต่างมองเห็นความอาฆาต ในแววตาของกันและกัน
ในเมื่อเฝิงเสียวหว่านเป็นหมอฝีมือดี งั้นคงทำได้เพียง ทำให้เธอหายไปจากโลกนี้
เฝิงเสียวหว่านไม่รู้ว่าตัวเองโดนหัวหน้ารองกับหัวหน้าสามเพ่งเล็ง ตอนนี้หลังจากรู้ความสูงส่งของจี้หยกมังกรเหลือง เธอตกใจจนสะดุ้งโหยง รีบคืนจี้หยกกลับไป
“เจ้าบ้านหลิน นี่เป็นของล้ำค่าตระกูลหลิน ฉันเป็นเพียงคนนอก จะมีได้อย่างไร นี่มันไม่ถูกกาลเทศะ คุณได้โปรดรับคืนไปเถอะค่ะ!”
เฝิงเสียวหว่านรีบพูดขึ้น
หลินเทียนเสียงขมวดคิ้วเบาๆ “ถ้าให้เทียบกับชีวิตผม แค่จี้หยกเพียงอันเดียวเท่านั้น จะนับประสาอะไรได้ หรือคุณคิดว่า มูลค่าของจี้หยกชิ้นนี้ สูงส่งกว่าชีวิตผมเหรอครับ”
“เปล่าค่ะๆ!”
เฝิงเสียวหว่านรีบส่ายหน้า
“ในเมื่อไม่ใช่ งั้นคุณเก็บไว้เถอะ คนอย่างหลินเทียนเสียง ไม่ชอบติดหนี้น้ำใจใคร คุณรับจี้หยกนี้ไว้ ผมจะได้กินยาที่คุณให้ อย่างสบายใจ”
หลินเทียนเสียงมองเฝิงเสียวหว่านด้วยสีหน้าเมตตา และเอ่ยขึ้น
“เสียวหว่าน ในเมื่อเจ้าบ้านหลินให้เธอรับไว้ เธอก็รับไว้เถอะ”
เฝิงเสียวหว่านกำลังจะปฏิเสธต่อ แต่จู่ๆ ก็หยางเฉินก็เอ่ยขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน เฝิงเสียวหว่านจึงรับจี้หยกเอาไว้
หลินเทียนเสียงจึงสังเกตเห็นหยางเฉิน รู้สึกตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเฝิงเสียวหว่าน จะเชื่อฟังหยางเฉินขนาดนี้ ทั้งสองเป็นอะไรกัน
“ฮ่าๆ เจ้าบ้านหลินรอดจากความตาย ยินดีด้วย!”
จู่ๆ เจียงสยงก็หัวเราะร่า แล้วเอ่ยขึ้น