The king of War - บทที่ 966 สู้กับเขาสุดชีวิต
หลินเทียนเสียงจึงหันไปมองเจียงสยง ใบหน้ามีรอยยิ้ม “เจ้าบ้านเจียง มีหมอเทวดาดีขนาดนี้ อยู่ข้างกายคุณ แต่กลับปิดบังเอาไว้ ไม่จริงใจเลยนะ!”
เจียงสยงยิ้มแหยๆ แล้วส่ายหน้า “ถ้าผมเจอหมอเทวดาน้อยเร็วกว่านี้ จะปิดบังคุณได้ยังไงล่ะครับ”
จู่ๆ หลินเทียนเสียงก็หัวเราะร่า อารมณ์เบิกบานเป็นอย่างมาก
ถึงเขาจะลงจากเปลไม่ได้ แต่สัมผัสได้อย่างชัดเจน อาการบาดเจ็บของเขา เกือบจะดีขึ้นแล้ว
ก่อนหน้านี้ ทุกครั้งที่อาการกำเริบ เขาต้องรับความเจ็บปวด จากการดูดจิต ตายเสียยังดีกว่ามีชีวิตอยู่
ตอนนี้หนอนดูดจิตถูกขับออกจากร่างกายแล้ว ต่อไปเขาไม่ต้องรับความเจ็บปวด แบบไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว จิตใจเขาดีขึ้นเป็นอย่างมาก
“ผู้อาวุโสเจียง ถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้ว เราขอกลับก่อนนะครับ”
ขณะนั้นหยางเฉินเอ่ยขึ้น
วันนี้เขาพาเฝิงเสียวหว่านมา เพื่อที่จะรักษาให้เจียงสยง แถมวันนี้ยังถือโอกาสได้รักษาเจ้าบ้านหลินด้วย
อาการป่วยของเจียงสยงค่อนข้างซับซ้อน ต้องฝังเข็มเป็นเวลาหนึ่งเดือน ตอนนี้ยังมีเจ้าบ้านหลินอยู่ที่นี่ เดิมทีจะช่วยจัดการความวุ่นวาย อย่างหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ตอนนี้คงไม่สะดวก
“โปรดหยุดก่อนคุณหยาง!”
เจียงสยงรีบพูดขึ้นมา
สรรพนามที่เขาเรียกหยางเฉิน ทำให้หลินเทียนเสียงตกใจ เจียงสยงเป็นผู้นำตระกูลเชียวนะ แต่กลับเรียกหยางเฉินว่าคุณหยาง แถมยังใช้คำว่าโปรดด้วย
นี่เพียงพอที่จะบอกว่า ในใจของเจียงสยง หยางเฉินสูงส่งขนาดไหน
“ผู้อาวุโสเจียง คุณมีเรื่องอะไรเหรอ”
หยางเฉินเอ่ยถาม
“ผมยังไม่ได้แนะนำให้คุณรู้จัก ท่านนี้คือหลินเทียนเสียง เจ้าบ้านหลิน หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองกษัตริย์กวน”
เจียงสยงยิ้มแล้วพูดขึ้น จากนั้นก็พูดแนะนำกับหลินเทียนเสียง “ท่านนี้คือคุณหยางเฉิน เป็นเพื่อนต่างวัยของผมเอง”
“หา?”
หลินเทียนเสียงยิ่งตกใจเข้าไปอีก เขามองหยางเฉิน ยิ้มแล้วพูดว่า “สวัสดีคุณหยาง ผมชื่อหลินเทียนเสียง!”
หยางเฉินพยักหน้าเบาๆ “สวัสดีครับเจ้าบ้านหลิน”
หยางเฉินไม่เข้าใจเจตนาของเจียงสยง ทำไมต้องแนะนำหลินเทียนเสียงให้ตัวเองรู้จัก แต่ในเมื่อเจียงสยงเป็นฝ่ายแนะนำ เขาไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
“ถ้ามีเวลาว่าง คุณหยางมาเป็นแขกที่ตระกูลหลินได้นะครับ ตระกูลหลินจะต้อนรับเป็นอย่างดี”
หลินเฮ่าก็เดินเข้ามา ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
เขาชื่นชมเฝิงเสียวหว่านมาก อีกทั้งเฝิงเสียวหว่านยังตามหยางเฉินมา ดูเหมือนจะเชื่อฟังหยางเฉินทุกอย่างด้วย
เจียงสยงยังเป็นฝ่ายแนะนำหยางเฉินให้หลินเทียนเสียง เห็นได้ชัดว่าตัวตนของหยางเฉินไม่ธรรมดา
ขนาดเจียงสยงยังมีท่าทีนอบน้อม เขาจึงจะเสียมารยาทไม่ได้
หยางเฉินยิ้มบางๆ “ถ้ามีเวลาว่าง ผมจะแวะไปที่ตระกูลหลินแน่นอน”
“ฮ่าๆ ดีครับ! ผมจะรอ!”
หลินเฮ่าหัวเราะร่า แล้วเอ่ยขึ้น
“เจ้าบ้านเจียง ผมผ่านความเป็นความตายมา คนบางพวก เข้าใจว่าผมตายไปแล้ว ผมต้องกลับไปตระกูลหลิน เพื่อจัดการเรื่องส่วนตัว เราค่อยเจอกันวันหลังนะครับ!”
จู่ๆ หลินเทียนเสียงเอ่ยขึ้น ดวงตาทั้งสองข้าง ฉายแววแหลมคม
ดูเหมือนว่าตระกูลหลินไม่ต่างจากตระกูลเจียง คนบางพวกอยากให้พวกเขาตาย จนรอไม่ไหว เพื่อที่จะได้แย่งชิงอำนาจในตระกูล
“ได้ครับ งั้นเจ้าบ้านหลินเดินทางปลอดภัย ถ้ามีอะไรให้ตระกูลเจียงช่วย รีบบอกได้เลยครับ!”
เจียงสยงเอ่ยขึ้น
“เจ้าบ้านเจียงก็เช่นกันนะครับ ถึงคนที่ช่วยผมคือหมอเทวดาน้อย แต่ยังไงก็อยู่ในตระกูลเจียง ถือว่าผมติดหนี้คุณ ถ้าคุณมีเรื่องที่จัดการไม่สะดวก รีบบอกผมได้เลย ผมจะจัดการให้คุณอย่างดี”
หลินเทียนเสียงพูดอย่างเบิกบานใจ
หลินเฮ่าจงใจมองหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “พ่อ พ่อคงยังไม่รู้ เมื่อกี้หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามของตระกูลเจียง ยุให้ผมฆ่าหมอเทวดาน้อย ถ้าเจ้าบ้านเจียงไม่ห้าม ผมคงโดนพวกเขาสร้างความแตกแยก”
“อะไรนะ มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ”
จู่ๆ หลินเทียนเสียงสีหน้าโมโห “ไม่รู้ความเป็นความตายจริงๆ ถ้าไม่เห็นแก่หน้าเจ้าบ้านเจียง ฉันจะฆ่าพวกเขาด้วยมือตัวเอง”
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามหลบอยู่ด้านหลัง ตัวสั่นงันงก สีหน้าไม่สู้ดี ไม่กล้าโผล่หน้าออกมา
“เจ้าบ้านเจียง ถ้าลงมือไม่สะดวก อย่าลืมบอกนะครับ!”
หลินเทียนเสียงหรี่ตาลง แล้วเอ่ยขึ้น
ประโยคนี้ดูเหมือนพูดกับเจียงสยง แต่ความจริง พูดให้หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามได้ยิน
“ฮ่าๆ แน่นอนครับ!”
เจียงสยงหัวเราะร่า
ไม่นาน คนของตระกูลหลินกลับไป จู่ๆ ในโถงงานเลี้ยงของตระกูลเจียง เหลือเพียงคนของตระกูล และหยางเฉินกับเฝิงเสียวหว่าน
“ออกคำสั่ง เรียกรวมสายเลือดทางตรงของตระกูลเจียงทั้งหมด หลังสิบนาที จะเริ่มการประชุมใหญ่!”
จู่ๆ เจียงสยงพูดออกคำสั่ง
“ครับ!”
มีคนตอบรับ และไปจัดการทันที
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี การประชุมนี้ มีความเป็นไปได้สูง ที่จะเล่นงานพวกเขา
ส่วนหัวหน้าอีกสามคน ก็มองหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม พวกเขาก็มีความรู้สึกนี้เหมือนกัน
ผ่านเรื่องราวเมื่อครู่ หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม มีความกังวลใจเป็นอย่างมาก
“คุณหยาง เมื่อถึงเวลา เชิญคุณร่วมประชุมกับเราด้วยนะครับ มีเรื่องบางเรื่อง อาจต้องรบกวนคุณหยาง”
เจียงสยงมองหยางเฉิน แล้วพูดด้วยสีหน้านอบน้อม
“ได้ครับ!”
หยางเฉินไม่ได้ปฏิเสธ
เมื่อกี้คนของตระกูลหลินอยู่ที่นี่ มีบางเรื่องที่ทำไม่สะดวก ตอนนี้คนของตระกูลหลินไปแล้ว เขาทำอะไรได้อย่างสะดวก
ถึงหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม รู้ว่าฝีมือทางการแพทย์ของเฝิงเสียวหว่านสูงส่ง แต่ไม่เชื่อว่าหยางเฉินเป็นบุคคลมีความสามารถ ตอนทั้งสองคนมองหยางเฉิน แววตามีเพียงแต่ความไม่พอใจ
หยางเฉินก็ไม่สนใจ และเดินตามเจียงสยงออกไป
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามเดินออกมาก่อน ในคฤหาสน์ของหัวหน้ารอง
ทั้งสองคนมีสีหน้าหนักใจ
“เจียงสยงจะประชุม ต้องเล่นงานพวกเราแน่นอน”
หัวหน้ารองพูดเคร่งขรึม “นายว่าเราจะรับมือยังไงดี”
หัวหน้าสามสีหน้าหนักใจเช่นกัน เขากัดฟันพูดว่า “ต้องโทษไอ้เลวพวกนั้น บอกว่าจะร่วมมือกันไล่เจียงสยงออกจากตำแหน่ง แต่พวกเขากลับหักหลังเรา”
“ในเมื่อเจียงสยงจะเล่นงานเรา งั้นเราคงต้องสู้สุดชีวิต”
หัวหน้ารองหรี่ตาลง “นายหมายความว่า จะใช้กำลังคนเหรอ”
“ถ้าไม่ใช้อีก คงไม่มีโอกาสแล้ว จะรอให้เจียงสยงฆ่าเราหรือไง”
หัวหน้าสามสีหน้าโหดเหี้ยม “นี่เป็นโอกาสเดียวของเรา นายก็เห็นแล้ว เฝิงเสียวหว่านมีฝีมือทางการแพทย์แข็งแกร่งมาก ในเมื่อเธอบอกว่าสามารถรักษาเจียงสยงได้ เธอมีความมั่นใจแน่”
“ถ้าให้เวลาเจียงสยงหนึ่งเดือน รอให้เขาฟื้นฟูกลับไปอยู่ในจุดสูงสุด เราคงมีเพียงแค่ความตาย”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วันนี้เราต้องสู้กับเขาสุดชีวิต!”
ขณะที่หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม หารือแผนการกันอยู่ ภายในห้องของเจียงสยง
“คุณหยาง อีกเดี๋ยวอาจต้องใช้ความช่วยเหลือจากคุณ ดังนั้นผมจึงให้คุณอยู่ต่อ”
เจียงสยงพูดด้วยสีหน้าหนักใจ “ตอนนี้คุณไม่ต้องช่วยก่อน รอให้ถึงเวลา คุณค่อยช่วย”
หยางเฉินพยักหน้า ถามอย่างสงสัย “อย่าบอกนะว่า หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ยังมีทางอื่นอีก”
ก่อนหน้านี้หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ร่วมมือกับหัวหน้าอีกสามคน เพื่อต่อต้านเจียงสยงด้วยกัน หยางเฉินเข้าใจว่านี่เป็นแผนสุดท้ายของพวกเขาเสียอีก