The king of War - บทที่ 967 แอบบ่มเพาะอำนาจ
เจียงสยงส่ายหน้า สีหน้าหนักใจมาก “จากที่ผมรู้ หัวหน้าทั้งห้า แต่ละคนแอบบ่มเพาะอำนาจเป็นกองกำลัง โดยเฉพาะหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ผู้แข็งแกร่งที่เขาบ่มเพาะ มีจำนวนเยอะมาก”
“คุณไม่ให้ผมยื่นมือเข้าไปช่วยชั่วคราว จะบีบบังคับให้หัวหน้าทั้งห้า เอาอำนาจที่แอบบ่มเพาะไว้ ออกมาให้เห็นทั้งหมดเหรอครับ”
หยางเฉินเดาเจตนาของเจียงสยงออก จึงถามขึ้น
เขารู้ว่าหัวหน้าทั้งห้าของตระกูลเจียง ล้วนไม่ธรรมดา แต่คิดไม่ถึงว่าจะซับซ้อนขนาดนี้ หัวหน้าแต่ละคนแอบบ่มเพาะอำนาจเอาไว้ เป็นกองกำลัง
เจียงสยงพยักหน้า “เมื่อก่อนผมปิดตาข้างหนึ่งมาตลอด ไม่เคยเปิดโปงเรื่องนี้ เพราะต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้ความขัดแย้ง ระหว่างหัวหน้าทั้งห้า กระทบกับตำแหน่งของตระกูลเจียง”
“แต่ในระยะนี้ หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม เหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆ คิดไม่ถึงว่าจะร่วมมือกันควบคุมตระกูลเจียง”
“ถ้าตระกูลเจียงตกอยู่ในมือพวกเขาจริง ในอนาคตจะกลายเป็นยังไง ผมไม่รู้ แต่สิ่งที่ผมรู้ อนาคตของตระกูลเจียง ต้องไม่ดีแน่นอน”
“เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาแบบเดียวกันในตระกูลเจียง ครั้งนี้ผมต้องหาวิธี ทำให้ผู้แข็งแกร่งที่พวกเขาใช้ทรัพยากรของตระกูลเจียงบ่มเพาะ มารวมกันเอาไว้ทั้งหมด”
“มีเพียงสิ่งนี้ ถึงผมวางมือให้คลื่นลูกใหม่ ก็รับรองได้ว่าตระกูลเจียงจะเป็นหนึ่งเดียว”
หยางเฉินพยักหน้า “ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นตอนนี้ผมไม่ก้าวก่าย ทั้งหมดให้คุณเป็นคนจัดการ ถ้ามีอะไรให้ผมช่วย ให้รีบบอกทันที”
“ครับ!”
เจียงสยงตอบรับ
เฝิงเสียวหว่านสีหน้าเป็นกังวล “ผู้อาวุโสเจียง คุณห้ามใช้บู๊เด็ดขาด ไม่งั้นถึงปู่ฉันยังอยู่ ก็รักษาคุณไม่หาย”
เจียงสยงสีหน้ามีเมตตา มองเฝิงเสียวหว่าน ยิ้มแล้วพูดว่า “เสียวหว่าน เธอวางใจเถอะ มีพี่หยางของเธออยู่ ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ถึงฉันจะลงมือ พี่หยางของเธอ ก็ไม่มีทางให้ฉันใช้บู๊”
หยางเฉินเป็นผู้รักษาดินแดนเหนือ อย่าว่าแต่คนธรรมดาอย่างหัวหน้ารอง กับหัวหน้าสามของตระกูลเจียงเลย ถึงเป็นตระกูลคิงกวน เจียงสยงก็เชื่อว่าหยางเฉินรับมือได้สบาย
“ใกล้ถึงเวลาแล้ว เชิญคุณหยางตามผมมาเลยครับ”
เจียงสยงดูเวลา ลุกขึ้นแล้วพูดออกมา
ห้องประชุมอยู่ข้างที่พักของเจียงสยง เมื่อพวกเขามาถึงห้องประชุม พวกญาติสายตรงของตระกูลเจียง ล้วนนั่งอยู่แล้ว
แถวหน้าเป็นหัวหน้าทั้งห้า ด้านหลังพวกเขา ล้วนเป็นสายเลือดทางตรงของฝ่ายตัวเอง
หลังเจียงสยงเข้ามาในห้องประชุม ก็นั่งลงบนตำแหน่งผู้นำด้านบนเวที
สิ่งที่ทำให้คนในตระกูลเจียงตกใจก็คือ เจียงสยงบอกให้หยางเฉินนั่งในตำแหน่งผู้นำ ข้างๆ เขา
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม มองภาพตรงหน้า สีหน้าอึมครึมเข้าไปใหญ่
“ผู้นำ คุณหมายความว่ายังไง”
หัวหน้าสามรีบเอ่ยถาม “นี่เป็นการประชุมตระกูลเจียง คุณให้คนนอกนั่งในตำแหน่งผู้นำ นี่ไม่เหมาะสมนะ”
“ไม่เหมาะสมสักนิด”
หัวหน้ารองส่ายหน้าแล้วเอ่ยขึ้น
สีหน้าเจียงสยงอึมครึมทันที “คุณหยางเป็นแขกวีไอพีของตระกูลเจียง และการประชุมตระกูลวันนี้ เกี่ยวข้องกับคุณหยาง เขาอยู่ที่นี่ ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม”
“แน่นอน ถ้าใครคิดว่าไม่เหมาะสม ก็ออกไปตอนนี้เลย”
ท่าทีของเจียงสยงแข็งกร้าวมาก
ทุกคนรู้สึกว่าผิดปกติ คนจำนวนมาก มองไปทางหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม
สีหน้าของทั้งสองคนไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก สิ่งที่เจียงสยงต้องการจะสื่อ ถ้าพวกเขาไม่ยอม ก็ไม่ต้องร่วมการประชุมครั้งนี้ได้
“ฉันว่าไม่มีอะไรไม่เหมาะสม”
ตอนนี้หัวหน้าใหญ่เอ่ยขึ้น “อีกอย่าง น้องสาวคุณหยางเป็นหมอเทวดาน้อย ยังสัญญาว่าจะรักษาอาการป่วยของผู้นำด้วย”
“ใช่ คุณหยางสามารถร่วมการประชุมตระกูลของเราได้ ถือเป็นเกียรติของเรา ผมเป็นตัวแทนของหัวหน้าทั้งสี่ ต้อนรับคุณหยาง!”
“ฝ่ายห้าของผมก็ยินดีต้อนรับคุณหยาง ร่วมการประชุมตระกูลของเรา!”
หัวหน้าสี่กับหัวหน้าห้าก็แสดงท่าทีออกมา ทันใดนั้น ในห้องประชุมใหญ่ มีเสียงปรบมือดังสนั่น
เสียงปรบมือดังสนั่น กลับทำให้หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม โกรธจนสั่นไปทั้งตัว
ตอนนี้เหมือนพวกเขากลายเป็นศัตรูของตระกูลเจียง ตำแหน่งในตระกูลเจียง ยังไม่สูงเท่าคนนอกด้วยซ้ำ
“พวกนายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่มี ก็เริ่มการประชุมตระกูลอย่างเป็นทางการ”
เจียงสยงมองทั้งสองคน แล้วถามขึ้น
ทั้งสองคนส่งเสียงฟึดฟัด ไม่ได้ตอบอะไร
เจียงสยงก็ไม่สนใจ กวาดตามองไปทั่ว จากนั้นจึงพูดว่า “การที่เรียกทั้งห้าฝ่าย มาประชุมตระกูลในวันนี้ เพราะมีเรื่องใหญ่หนึ่งเรื่อง ที่ต้องขอความเห็นจากทุกคน”
“แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามพูดขึ้นมา พวกเขาอยากให้แต่งตั้งผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ ก่อนตะวันตกดินในวันนี้”
เมื่อพูดออกมา มีเสียงฮือฮาดังขึ้นในห้องประชุม ในแววตาของทุกคน เต็มไปด้วยความตกใจ
“ผู้นำ ทำไมจู่ๆ ถึงจะแต่งตั้งผู้สืบทอดล่ะ”
หัวหน้าสี่รีบพูดว่า “คุณเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลเจียง หลังจากคุณแต่งตั้งผู้สืบทอด กะจะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้นำหรือเปล่า”
“ตระกูลเจียงไม่มีคุณไม่ได้! เรื่องผู้สืบทอด รออีกสักระยะก็ได้ พวกเรายังรอให้คุณ พาตระกูลเจียงไปยังจุดที่รุ่งเรืองยิ่งกว่านี้”
หัวหน้าห้าก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
พวกเขาเห็นฝีมือด้านการแพทย์อันแข็งแกร่ง ของเฝิงเสียวหว่านแล้ว รักษาเจียงสยงให้หาย ขอแค่เวลาเท่านั้น
วันนี้ต้องพยายามประจบประแจงให้ถึงที่สุดอยู่แล้ว
หัวหน้าใหญ่พยักหน้า “ฉันก็คิดแบบนั้น ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องทำ ถ้าผู้นำจะถอย เพราะอยากใช้ความสุขในวัยชรา ผมจะยอมให้แต่งตั้งผู้สืบทอด แต่ถ้าไม่ใช่ ผมไม่ยอม”
นอกจากฝ่ายรองกับฝ่ายสาม อีกสามฝ่ายที่เหลือ ล้วนแสดงท่าทีออกมา ว่าต้องการให้เจียงสยง เป็นผู้นำต่อ
นี่เป็นการโจมตีหัวหน้ารองกับหัวหน้าสามไปโดยปริยาย
ทั้งสองสีหน้าอึมครึมจนน่ากลัว แต่ไม่พูดอะไร รอให้เจียงสยงพูด
เจียงสยงส่ายหน้าเบาๆ “ฉันไม่ได้จะใช้ความสุขในวัยชรา แต่ฉันอายุมากแล้วจริงๆ มีความคิดที่จะวางมือให้คลื่นลูกใหม่ แต่ทุกท่านวางใจเถอะ ฉันแค่อยากแต่งตั้งผู้สืบทอดไว้ชั่วคราวเท่านั้น ต่อไปจะหาโอกาสที่เหมาะสม มอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้”
“ถึงฉันลงจากตำแหน่ง ก็ยังทำงานเพื่อตระกูลเจียงต่อ อีกทั้งฉันยืนยันกับทุกคนได้ ถ้ายังมีเจียงสยงอยู่ จะไม่มีใครกล้าแตะต้องตระกูลเจียง”
ตอนนี้ สีหน้าของคนตระกูลเจียงประทับใจ พวกอายุน้อย รู้สึกถึงเลือดร้อนในตัว กำลังพลุ่งพล่าน
“ผู้นำ คุณจะตั้งให้ใครเป็นผู้สืบทอดเหรอ”
จู่ๆ หัวหน้าใหญ่ถามขึ้น
เมื่อเขาถามเช่นนี้ ทุกคนต่างมองเจียงสยง ด้วยสีหน้าคาดหวัง
แววตาของหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ฉายแววเย็นยะเยือก พวกเขาเข้าใจดี เจียงสยงไม่มีทางให้ฝ่ายรอง กับฝ่ายสาม เป็นผู้สืบทอดแน่นอน
“ฉันไม่ได้มีความคิดว่าจะแต่งตั้งใครเป็นผู้สืบทอด แต่แค่จินตนาการเอาไว้”
ในดวงตาทั้งสองข้างของเจียงสยง มีวิสัยทัศน์อันก้าวไกลและชาญฉลาด เขากวาดตามองทุกคน แล้วพูดว่า “ตระกูลเจียงเป็นของคนตระกูลเจียงทุกคน คำพูดของฉันเพียงคนเดียว ไม่สามารถตัดสินได้”
“ฉันวางแผนจะจัดการแข่งขันวิถีบู๊ ภายในตระกูลเจียง ทั้งห้าฝ่ายของตระกูลเจียง รวมถึงฝ่ายหลักของฉัน แบ่งเป็นหกกลุ่ม ทำการแข่งขันต่อสู้แบบเดี่ยว แบบคู่ แบบกลุ่ม ตัดสินแพ้ชนะ จากคะแนนสะสม ที่ได้จากการต่อสู้”
“ฝ่ายไหนได้คะแนนสะสมสูงที่สุด ก็ให้ฝ่ายนั้นตัดสินใจ ว่าจะเลือกใครเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งคนใหม่ ไม่ทราบว่าทุกท่านคิดเห็นอย่างไร”
เมื่อได้ยินเจียงสยงพูดถึงวิธีเลือกผู้สืบทอด ทุกคนถึงกับช็อก
หยางเฉินก็แปลกใจเล็กน้อย แต่เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น เขาก็เข้าใจความหมายของเจียงสยงทันที
ก่อนหน้านี้เจียงสยงเคยพูดกับเขา นอกจากฝ่ายหลักที่เขาอยู่ ยังมีอีกห้าฝ่าย ล้วนแอบบ่มเพาะผู้แข็งแกร่งเอาไว้
แต่ละฝ่ายล้วนต้องการให้คนของตัวเอง เป็นผู้สืบทอดตระกูล ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเขาต้องเอายอดฝีมือ ที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเอง ออกมาอย่างแน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งที่ทั้งห้าฝ่ายแอบบ่มเพาะเอาไว้ ก็จะอยู่ในสายตาของทุกคน
มีเพียงการทำแบบนี้ ถึงจะรู้ได้อย่างชัดเจน ว่าตระกูลเจียงแอบบ่มเพาะผู้แข็งแกร่งมากเท่าไร และผู้แข็งแกร่งพวกนี้แข็งแกร่งขนาดไหน
เดิมทีทั้งห้าฝ่ายคิดว่าเจียงสยง จะแต่งตั้งเจียงหลงเฟยลูกชายของเขา เป็นผู้สืบทอดตระกูลทันที แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะให้โอกาสนี้กับทุกฝ่าย
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ต่างหรี่ตาลง ทั้งสองมองหน้ากัน ต่างรู้สึกถึงความบ้าคลั่ง ที่อยู่ในแววตาของอีกฝ่าย
“ฉันเห็นด้วย!”
หัวหน้าสามเป็นฝ่ายแสดงท่าทีก่อน
จากนั้นหัวหน้ารอง ก็แสดงท่าทีว่าเห็นด้วยเช่นกัน
ใช้วิธีนี้มาแต่งตั้งผู้สืบทอดตระกูลคนใหม่ เป็นข้อได้เปรียบ สำหรับพวกเขามาก
พวกเขาแอบตกลงกันไว้แล้ว แค่หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม แอบร่วมมือกัน ถึงเป็นฝ่ายหลัก ก็ไม่สามารถชนะได้