The king of War - บทที่ 975 ยังไม่รู้แพ้ชนะ
เมื่อกี้ผู้แข็งแกร่งของฝ่ายรอง โดนคัดออกอีกสองคน ตอนนี้เหลือผู้แข็งแกร่งเพียงสองคน
ถึงฝ่ายสามเหลือผู้แข็งแกร่งแค่สามคน แต่สองคนในนั้น มีพละกำลังแดนราชาขั้นกลาง คนของฝ่ายรอง ไม่มีโอกาสชนะสักนิด
ดังนั้นเขาจึงต้องขอพักการต่อสู้ หาวิธีเอาคนของฝ่ายหลัก เข้าไปในการต่อสู้ ไม่แน่ฝ่ายรองอาจมีโอกาสสักนิด
“หึ!”
หัวหน้าสามแสยะยิ้ม “เมื่อกี้หัวหน้ารองโอหังมากไม่ใช่เหรอ ให้ฝ่ายรองโจมตีฝ่ายสามอย่างกะทันหัน ตอนนี้ร้อนใจแล้วหรือไง”
ถึงเหลือเพียงสามคน แต่หัวหน้าสาม มีความมั่นใจกับสามคนนี้มาก
เรียกได้ว่า สามคนนี้เป็นสามคนข้างกายเขา ที่มีพละกำลังแข็งแกร่งที่สุด ถึงเป็นฝ่ายหลัก ก็หาพละกำลังแบบนี้มาไม่ได้
รอให้คัดคนของฝ่ายรองออกจากการแข่ง เล่นงานฝ่ายหลัก หัวหน้าสามก็มีโอกาสชนะสูงมาก
“หัวหน้าสาม นายคิดว่าตอนนี้ยุติธรรมไหม”
หัวหน้ารองย้อนถาม จากนั้นจึงพูดว่า “ฉันไม่ได้ให้ฝ่ายรองโจมตีฝ่ายสามกะทันหัน แค่หวังว่าสามฝ่ายของเรา จะต่อสู้กันอย่างยุติธรรม”
“แต่ตอนนี้ ผู้แข็งแกร่งทั้งเจ็ดคนของฝ่ายหลัก ล้วนเอาแต่ดู ถึงฝ่ายสามคัดฝ่ายรองออกได้ งั้นคนของนายจะไม่เสียแรงไปเยอะเหรอ”
“ถึงคนของนายแข็งแกร่งมาก แต่ในสถานการณ์ที่ต่อสู้อย่างรุนแรงเช่นนี้ ตอนพวกเขาเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งทั้งเจ็ดคนของฝ่ายหลัก ยังจะมีกำลังเหลือไหม”
เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้ารอง สีหน้าของหัวหน้าสาม เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาหันไปมองทางเวทีต่อสู้ทันที ผู้แข็งแกร่งของฝ่ายสาม เสียพละกำลังไปเยอะจริงๆ ถึงฝ่ายรองเหลือแค่สองคน แต่พละกำลังแข็งแกร่งมาก
อย่างที่หัวหน้ารองพูด ถึงฝ่ายสามกำจัดฝ่ายรองออกไปได้ แต่คนของฝ่ายสาม เสียพละกำลังไปเยอะมาก และทำให้พละกำลังของพวกเขาอ่อนแอ
“พักการสู้เถอะ!”
ในที่สุด หัวหน้าสามก็พูดออกมา
“ไม่ต้องพักการสู้หรอก”
เจียงสยงยิ้ม แล้วเอ่ยขึ้น
“ผู้นำ หมายความว่ายังไง”
สีหน้าของหัวหน้ารองเปลี่ยนสี
หัวหน้าสามแสยะยิ้ม แล้วพูดว่า “ถึงไม่พักการสู้ เราก็สามารถให้คนของเรา ร่วมมือกันเล่นงานฝ่ายหลัก”
เจียงสยงยิ้มบางๆ “พวกนายอย่าเพิ่งวู่วาม ฉันไม่ได้จะไม่ให้พักการสู้ แต่แค่คิดว่าไม่จำเป็น”
“พูดให้ถูกก็คือ พวกนายอยากพักการสู้ เพราะอยากให้ฝ่ายหลัก เข้าไปร่วมต่อสู้ด้วยใช่ไหม”
“แบบนี้ก็ได้ พวกนายสองฝ่ายร่วมมือกัน ไม่ว่ายังไงฝ่ายหลักยังมีเจ็ดคน เล่นงานพวกนายพร้อมกัน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
เมื่อเจียงสยงพูดออกมา ทุกคนถึงกับช็อก
“เจียงสยง คุณหาเรื่องเองนะ ถ้าโดนคัดออก อย่ามาเสียใจภายหลัง!”
หัวหน้าสามหงุดหงิดจนโมโห รู้สึกเหมือนโดนดูถูก
ส่วนหัวหน้ารองกลับนิ่ง เขารู้สึกว่าเจียงสยงผิดปกติ ตั้งแต่ต้นแล้ว ราวกับไม่กังวลว่าฝ่ายหลักจะแพ้
ตอนนี้ แค่เจียงสยงไม่ยอมพักการสู้ ถึงฝ่ายรองกับฝ่ายสามร่วมมือกัน ผู้แข็งแกร่งของพวกเขา ก็เสียกำลังไปมากแล้ว
หันกลับมามองผู้แข็งแกร่งฝ่ายหลัก ทั้งเจ็ดคน ราวกับไม่เสียกำลังอะไรเลย
ฝ่ายรองกับฝ่ายสามร่วมมือกัน ก็ไม่แน่ว่าจะกำราบฝ่ายหลักได้
แต่เจียงสยงกลับไม่กังวลสักนิด กลับเป็นฝ่ายบอกว่า ฝ่ายหลักจะรับมือกับฝ่ายรองและฝ่ายสาม
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเราก็ไม่เกรงใจแล้ว!”
หัวหน้ารองหรี่ตา แล้วพูดขึ้น
“พี่น้องฝ่ายหลัก เอาพละกำลังที่แท้จริงของพวกนายออกมา ให้คนตระกูลเจียงเห็นว่า ใครคือเจ้าของตระกูลเจียงกันแน่”
เจียงสยงลุกขึ้นทันที มองไปยังเวทีต่อสู้ และพูดเสียงดัง
“ครับ!”
ผู้แข็งแกร่งฝ่ายหลัก ตะโกนขึ้นพร้อมกัน ตอนนี้เลือดร้อนในกายของพวกเขาพลุ่งพล่าน
ฝ่ายรองกับฝ่ายสามรวมกัน มีเพียงผู้แข็งแกร่งห้าคนสุดท้ายเท่านั้น ตอนนี้กำลังพักการสู้ บนตัวแต่ละคนมีแต่แผล แต่มีพลังฮึกเหิมเต็มตัว
“สู้ต่อ!”
กรรมการออกคำสั่ง ผู้แข็งแกร่งของฝ่ายรองและฝ่ายสาม ร่วมมือกันโจมตีฝ่ายหลัก
พูดว่าฝ่ายหลักมีผู้แข็งแกร่งเจ็ดคน แต่หยางเฉินกลับไม่ทำอะไร ยืนมองดูข้างๆ
ความจริงแล้ว ฝ่ายหลักมีเพียงหกคน
สถานการณ์ดุเดือดผิดปกติ ผู้แข็งแกร่งฝ่ายรองกับฝ่ายสาม ต่างรู้ดี นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขา แค่กำจัดฝ่ายหลักออกไป ฝ่ายของพวกเขา จะมีโอกาสเป็นเจ้าของตระกูลเจียง
ผู้แข็งแกร่งฝ่ายรองกับฝ่ายสาม เป็นคนที่แอบบ่มเพาะขึ้นมา ทักษะการต่อสู้สูงมาก ถึงผู้แข็งแกร่งฝ่ายหลักใช้กระบวนท่าออกมาจนหมด ก็ไม่สามารถต้านทานได้
ระยะเวลาสั้นๆ เพียงห้านาที ผู้แข็งแกร่งของฝ่ายหลักทั้งเจ็ดคน เหลือเพียงหยางเฉินกับผู้แข็งแกร่งอีกหนึ่งคน
หันกลับมามองฝ่ายรองกับฝ่ายสาม มีเพียงฝ่ายรอง ที่โดนคัดออกจากการแข่งไปหนึ่งคน
ตอนนี้ ฝ่ายรองเหลือเพียงคนเดียว ฝ่ายหลักเหลือสองคน ฝ่านสามเหลือสามคน
“พลั่ก!”
จู่ๆ ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลาง ของฝ่ายสามคนหนึ่ง ลงมือกะทันหัน ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งของฝ่ายหลัก ถูกคัดออกจากการแข่งขัน
จนถึงตอนนี้ ฝ่ายหลักเหลือเพียงหยางเฉินคนเดียว
“ฮ่าๆๆๆๆ!”
หัวหน้าสามหัวเราะร่า “เจียงสยง นายแพ้แล้ว!”
ส่วนหยางเฉิน โดนหัวหน้าสามเมินไปแล้ว
ฝ่ายรองเหลือเพียงคนเดียว หัวหน้ารองหมดหวังแล้ว ฝ่ายสามยังมีผู้แข็งแกร่งสามคน ฝ่ายรองไม่มีโอกาสชนะแล้ว
ถึงไม่พอใจ แต่ก็ต้องยอมรับความจริง
“หัวหน้าสาม ยินดีด้วย!”
“หัวหน้าสาม ยินดีด้วย!”
……
ทันใดนั้น หัวหน้าฝ่ายอื่น ต่างพูดแสดงความยินดีกับหัวหน้าสาม
ขนาดคนของฝ่ายหลัก ยังมีสีหน้าสิ้นหวัง ฝ่ายหลัก แพ้แล้วจริงเหรอ
“เฮ้ย!”
จู่ๆ หยางเฉินให้ไปเรียกทางหัวหน้าสาม “นายลืมไปแล้วเหรอ ฝ่ายหลักยังมีฉัน”
พรึ่บ!
ทันใดนั้น สายตาของทุกคน มองไปยังหยางเฉิน
“นายเหรอ”
หัวหน้าสามมองหยางเฉิน พูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “ผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของฝ่ายหลัก แพ้หมดแล้ว เด็กอย่างนายแค่คนเดียว จะทำอะไรได้”
“งั้นเหรอ”
หยางเฉินยกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มยียวน
“แน่นอน……”
หัวหน้าสามยังไม่ทันพูดจบ ก็ลุกขึ้นมาทันที มองบนเวทีต่อสู้ ด้วยสีหน้าตกตะลึง เงาของชายหนุ่ม หายไปจากที่เดิม
“พลั่กๆๆๆ!”
วินาทีต่อมา เสียงอึกทึกปะทะกัน ดังขึ้นบนเวทีต่อสู้
ต่อมา ร่างหลายร่าง ลอยขึ้นในอากาศ และตกลงมาล่างเวที
“อะไรกัน”
“นี่……นี่……”
“เป็นไปได้ยังไง”
ทุกคนอึ้งไป ผู้มีอำนาจ ผู้อาวุโสแต่ละคนในตระกูลเจียง ต่างพากันลุกขึ้นจากที่นั่ง อย่างรวดเร็ว
เห็นบนเวทีต่อสู้ เหลือเพียงร่างของชายหนุ่มคนนั้น พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังฝันไป
คนตระกูลเจียงนับไม่ถ้วน ต่างพากันตกตะลึง ไม่สามารถหลุดออกจากความตกตะลึงต่อหยางเฉิน
มีเพียงเจียงสยง ที่มีสีหน้าสงบนิ่ง ในแววตามีเพียงความปลง
ผู้รักษาดินแดนเหนือ ฝีมือไม่ธรรมดาตามคาด
ตัวเขาเองเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลาย ถึงจะอ่อนแอเพราะอาการป่วย แต่สัมผัสของคนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายอย่างเขา ยังคงแข็งแกร่งมาก
เมื่อกี้บนเวทีต่อสู้ ฝ่ายสามยังมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลางสองคน และผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้นหนึ่งคน
ฝ่ายรองมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลางหนึ่งคน
ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลางถึงสามคน ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้นหนึ่งคน กลับโดนหยางเฉินจัดการเพียงพริบตา
ถึงตอนเขาอยู่ในสภาวะสมบูรณ์พร้อม ก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้
เดิมทีตัวเขาอยู่ในแดนราชาขั้นปลาย แล้วหยางเฉิน อยู่ในแดนระดับไหนกัน
แดนเทพในตำนานหรือเปล่า
เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของเจียงสยง เต็มไปด้วยความประทับใจ
ผู้แข็งแกร่งฝ่ายหลักทั้งเก้าคน ที่ร่วมต่อสู้กับหยางเฉินก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต่างมีสีหน้าละอายใจ
พวกเขาเพิ่งเข้าใจ ว่าทำไมตอนแรกหยางเฉินไม่ลงมือ จากความแข็งแกร่งของเขา ถ้าลงมือตั้งแต่แรก พวกเขาจะมีโอกาสได้ลงมือไหม
หัวหน้าฝ่ายอื่น ต่างยืนแข็งทื่อ เอาแต่จ้องหยางเฉินอยู่อย่างนั้น