The king of War - บทที่ 977 ความอาฆาต
เจียงสยงไม่ซ่อนความอาฆาตของตัวเองเอาไว้ เขากวาดตามองทุกคน “ฉันรู้ ในบรรดาพวกนาย มีหลายคนอยากไล่ฉันลงจากตำแหน่งผู้นำ”
“ถึงตอนนี้ ในบรรดาพวกนาย ก็ยังมีคนที่อยากรอดูเรื่องนี้ พยายามรอโอกาสดี แล้วค่อยเลือกข้าง”
“แต่ตอนนี้ฉันต้องการให้พวกนายให้คำตอบฉัน จะอยู่ข้างฉัน หรือจะอยู่ข้างหัวหน้าสาม”
เดิมทีหัวหน้าฝ่ายอื่นที่คิดจะรอดูสถานการณ์ หน้าเปลี่ยนสีทันที
ตอนนี้ เจียงสยงมีอำนาจเหนือกว่าตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่เหมือนคนป่วยอาการเกินเยียวยาสักนิด
แต่หัวหน้าสาม ทำให้พวกเขารู้สึกยากที่จะคาดเดา ก่อนหน้านี้ก็พาผู้แข็งแกร่งแดนราชา มาร่วมการต่อสู้ ในนั้นยังมีผู้แข็งแกร่งสองคน ที่อยู่ในแดนราชาขั้นกลางด้วย
ตอนนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนราชา โผล่มาอีกสิบกว่าคน
ก่อนหน้า นับเจียงสยงกับหัวหน้าฝ่ายทั้งห้า ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาไม่กี่สิบคน
แต่หลังจากต่อสู้ ผู้แข็งแกร่งแดนราชาของตระกูลเจียง มีจำนวนเพิ่มเป็นเท่าตัว
แค่ของหัวหน้าสาม ก็มีผู้แข็งแกร่งแดนราชายี่สิบกว่าคนแล้ว ครอบครองผู้แข็งแกร่งแดนราชาของตระกูลเจียงไปเกือบครึ่ง
ทั้งตระกูลเจียง ปกคลุมไปด้วยพลานุภาพของผู้แข็งแกร่งแดนราชา ผู้คุ้มกันตระกูลเจียง ที่มีพละกำลังแค่แดนมนุษย์ ตอนนี้ตัวสั่นงันงกไปหมด
“ใช่ ตอนนี้พวกนายต้องเลือกข้าง!”
หัวหน้าสามก็เอ่ยขึ้น “วันนี้จุดประสงค์ของฉันมีสิ่งเดียว นั่นก็คือตำแหน่งผู้นำ”
“วันนี้ใครก็ขัดขวางฉันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเทวดาหรือพระ ฉันก็ฆ่าหมด!”
ทันใดนั้น หัวหน้าฝ่ายแต่ละฝ่าย มีสีหน้าสับสน
ไม่ว่าจะเป็นเจียงสยง หรือหัวหน้าสาม ก็ไม่ใช่คนที่รับมือได้
“ทางที่ดีพวกนายคิดให้ดี แล้วค่อยตัดสินใจ!”
ขณะนั้น เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น
สายตาของทุกคน มองไปยังชายหนุ่ม ที่ยืนข้างเจียงสยง
หยางเฉินยืนอยู่ข้างเจียงสยง ด้วยสีหน้านิ่งเฉย ถึงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลาง ที่ยืนข้างหัวหน้าสาม ก็สัมผัสได้ถึงพลานุภาพอันทรงพลัง
จนกระทั้งตอนนี้ จู่ๆ คนในตระกูลเจียงนึกอะไรออก คนอายุน้อยคนนี้ เพิ่งใช้แรงของตัวเองคนเดียว กำราบผู้แข็งแกร่งแดนราชาสี่คน เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
“พวกนายไม่ต้องกลัวเขา บนเวทีต่อสู้ก่อนหน้านี้ ถ้าคนของฉันไม่ประมาทเขา เลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา จะโดนเขากำราบภายในพริบตาได้ยังไง”
หัวหน้าสามมองหยางเฉิน กัดฟันพูด ดวงตาทั้งสองข้างฉายแววอาฆาต
หยางเฉินไม่ได้พูดอะไร ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากพูด แต่ประโยคเมื่อกี้ ก็เพียงพอแล้ว
พวกผู้มีอำนาจของตระกูลเจียง ไม่ใช่คนโง่ เชื่อว่าพวกเขาจะเลือกได้อย่างถูกต้อง
หัวหน้าแต่ละฝ่าย มองหยางเฉินพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
โดยเฉพาะหัวหน้ารอง ในแววตาเต็มไปด้วยความสับสน เดิมทีเขาตกลงกับหัวหน้าสามแล้ว ฝ่ายสามจะช่วยให้ฝ่ายรอง ได้ตำแหน่งผู้สืบทอด
แต่คิดไม่ถึง หัวหน้ารองกลับกลายเป็นคนที่ส่งเสริมให้เด่นขึ้น
“หัวหน้าฝ่าย คนนี้พละกำลังลึกล้ำเกินคาดเดา!”
ผู้แข็งแกร่งวัยกลางคน ที่ยืนข้างหัวหน้ารอง พูดด้วยสีหน้าหนักใจ
การต่อสู้แบบกลุ่มบนเวทีเมื่อครู่ เขาคือคนสุดท้ายของฝ่ายรอง ถูกคัดออกพร้อมกับผู้แข็งแกร่งของฝ่ายสามทั้งสามคน
ตัวเขาเองมีพละกำลังแดนราชาขั้นต้น และถึงแดนราชาขั้นกลางแล้วเล็กน้อย
บางทีคนของฝ่ายสาม อาจจะประมาทคู่ต่อสู้ แต่เขาไม่ใช่ เขาทุ่มสุดตัวตั้งแต่ต้นจนจบ และไม่ได้ประมาทหยางเฉิน
ดังนั้นตอนที่หยางเฉินโจมตีพวกเขา เขาทุ่มสุดตัว
แต่เขายังไม่ทันตั้งตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็โดนหยางเฉินเตะเข้าที่หน้าอก จนตกจากเวทีและพ่ายแพ้
หัวหน้ารองพยักหน้าเบาๆ และไม่ลังเลอีก เขามองเจียงสยง แล้วพูดว่า “ผู้นำ ฝ่ายรองสาบานว่าจะปกป้องอำนาจของตระกูลจนตัวตาย!”
ใครก็คิดไม่ถึงว่าหัวหน้ารอง จะเป็นคนแรกที่แสดงท่าทีออกมา
ทันใดนั้น ทุกคนถึงกับอึ้งไป
“ฉันไม่ต้องการให้นายปกป้องอำนาจของตระกูลเจียง แค่ต้องการให้นายภักดีกับตระกูลเจียงเท่านั้น”
เจียงสยงพูดด้วยสีหน้านิ่งสงบ “หัวหน้าสามกล้าอวดดีกับคนฐานะสูง พยายามสั่นคลอนรากฐานของตระกูลเจียง เป็นผู้กระทำผิดของตระกูลเจียง ตามกฎของตระกูล สมควรตาย!”
“รอให้ฉันฆ่านาย ฉันก็จะได้เป็นเจ้าของตระกูลเจียง นายนั่นแหละคือคนผิดของตระกูลเจียง!”
หัวหน้าสามพูดเสียงดัง “ผู้ชนะเป็นคนเขียนประวัติศาสตร์ ผู้แพ้เป็นได้แค่คนผิดตลอดกาล!”
“ช่างเป็นคนผิดจริงๆ แต่ทำไมนายถึงมั่นใจ ว่าสุดท้ายชัยชนะจะเป็นของนาย”
เจียงสยงแสยะยิ้ม แล้วถามขึ้น
“งั้นเรามาดูกันสิ!”
หัวหน้าสามไม่ปิดบังความอาฆาตของตัวเอง มองหัวหน้ารองด้วยแววตาโหดเหี้ยม “เจียงอี้ว์ นายคิดว่ายอมจำนนให้เจียงสยง แล้วเขาจะปล่อยนายไปง่ายๆ เหรอ”
“ทั้งหมดในวันนี้ ล้วนเป็นอุบายของเจียงสยง เขาใช้ตำแหน่งผู้สืบทอด มาเป็นเหยื่อล่อ บีบให้เราแต่ละฝ่าย เอากำลังด้านการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา”
“แล้วค่อยแย่งผู้แข็งแกร่งแต่ละฝ่ายไปสร้างทีมใหม่ เพื่อรับใช้ฝ่ายหลัก เมื่อเป็นเช่นนี้ ตำแหน่งของฝ่ายหลักในตระกูลเจียง จะไม่มีวันสั่นคลอน”
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ตระกูลเจียงฟังฝ่ายหลักเท่านั้น ฝ่ายอื่นเป็นแค่บริวารเท่านั้น!”
หัวหน้ารองไม่คล้อยตามสักนิด เขาพูดเนิบๆ ว่า “เจียงหวา นายไม่ต้องเปลืองน้ำลาย ในเมื่อฉันตัดสินใจเลือกดีแล้ว ก็จะไม่เปลี่ยนใจอีก”
“นายพูดถูก ต่อไปตำแหน่งของฝ่ายหลัก จะไม่มีวันสั่นคลอน แต่แล้วยังไงล่ะ เดิมทีฝ่ายหลักเป็นศูนย์กลางของตระกูลเจียงอยู่แล้ว มีเพียงผู้ที่ดีเลิศเท่านั้น ถึงจะเหมาะสมเข้าไปในฝ่ายหลัก”
“และเมื่อตำแหน่งของฝ่ายหลักไม่สั่นคลอน ตระกูลเจียงถึงจะยืนยง และแข็งแกร่งรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ”
เมื่อหัวหน้ารองพูดจบ เจียงสยงจึงพูดต่อ “หัวหน้ารองพูดถูก ฝ่ายหลักเป็นศูนย์กลางของตระกูลเจียง มีเพียงผู้ดีเลิศของตระกูลเจียง ที่จะมีคุณสมบัติเข้ามาในฝ่ายหลัก ตำแหน่งของฝ่ายหลัก ไม่สามารถสั่นคลอนได้ รากฐานของตระกูลเจียง ก็ยิ่งไม่สามารถสั่นคลอนได้”
“ฉันกะจะทำเพื่อตระกูลเจียงเป็นเรื่องสุดท้าย เมื่อเสร็จเรื่องนี้ ฉันจะวางมือให้คลื่นลูกใหม่!”
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หกฝ่ายในตระกูลเจียง แบ่งใหม่ทั้งหมด ผู้ที่ได้ตำแหน่งหัวหน้าทั้งห้าฝ่าย ต้องเป็นคนมีความสามารถ ฝ่ายหลักก็จะใช้ระบบการคัดออก ทั้งหกฝ่ายในตระกูลเจียง ผู้มีความสามารถเข้ามาในฝ่ายหลัก ส่วนคนไร้ความสามารถ ให้ออกจากฝ่ายหลัก”
“ต่อไปฝ่ายหลัก เป็นฝ่ายหลักของตระกูลเจียง ไม่ใช่ฝ่ายหลักของผู้นำ!”
เมื่อเจียงสยงพูดออกมา ทุกคนถึงกับอึ้ง
การตัดสินใจของเจียงสยง เปลี่ยนแปลงรูปแบบของตระกูลเจียงที่เคยมีจนหมดสิ้น
แต่ไหนแต่ไร ฝ่ายหลักควบคุมโดยผู้นำ ส่วนผู้นำคนใหม่ของตระกูลเจียงทุกคน จะแต่งตั้งโดยผู้นำคนก่อน
เรียกได้ว่า ฝ่ายหลักก็คือสายเลือดโดยตรงของผู้นำ
แต่การตัดสินใจของเจียงสยงเมื่อครู่ กำจัดสายเลือดโดยตรงของผู้นำออกไปจนหมด ส่วนห้าฝ่ายที่เหลือ ผู้มีความสามารถเข้ามาในฝ่ายหลัก และในฝ่ายหลัก ถึงเป็นสายเลือดของผู้นำ แต่ถ้าไร้ความสามารถ ก็จะโดนไล่ออกจากฝ่ายหลัก
ภายในระยะเวลาสั้นๆ บางทีฝ่ายหลัก ยังคงเป็นคนสายเลือดของเจียงสยง แต่ในอนาคต ฝ่ายหลักจะกลายเป็นฝ่ายที่แข็งแกร่งที่สุด ในบรรดาหกฝ่ายของตระกูลเจียง และเป็นฝ่ายที่คนในทั้งหกฝ่าย ใฝ่หาที่สุด
“ผู้นำมีความชอบธรรม เจียงอี้ว์นับถือ!”
หัวหน้ารองโค้งคำนับเล็กน้อย ท่าทีจริงใจเป็นอย่างมาก
ครั้งนี้ เขาเลื่อมใสเจียงสยงอย่างสุดหัวใจ
ถ้าเขาเป็นเจียงสยง ก็คงทำไม่ได้แบบนี้
คนในตระกูลเจียงทั้งหมด ตกใจเป็นอย่างมาก ทุกคนรู้สึกว่า เลือดในตัวกำลังพลุ่งพล่าน
“ผู้นำมีความชอบธรรม ฝ่ายใหญ่ยอมทำตามผู้นำด้วยชีวิต เพื่อปกป้องอนาคตของตระกูลเจียง!”
“ผู้นำมีความชอบธรรม ฝ่ายสี่ยอมทำตามผู้นำ!”
“ผู้นำมีความชอบธรรม ฝ่ายห้ายอมทำตามผู้นำ!”
มีการนำของหัวหน้ารอง ผู้นำฝ่ายอื่น ต่างพากันแสดงท่าที ยกเว้นฝ่ายสาม
ท่าทีของพวกเขา พวกเขาเลือกดีแล้ว ว่าจะยืนข้างเจียงสยง
ทันใดนั้น เหลือเพียงฝ่ายสาม
“หัวหน้าฝ่าย ฉันคิดว่าผู้นำมีความชอบธรรมมากพอแล้ว คุณยอมรับผิดดีไหม เราช่วยผู้นำด้วยกัน พยายามทำให้ตระกูลเจียงเดินไปยังจุดที่รุ่งเรืองกว่านี้!”
ฝั่งฝ่ายสาม ผู้อาวุโสหัวขาวคนหนึ่งเดินขึ้นมา พูดเกลี้ยกล่อมอย่างจริงใจ