The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 148 ช่วยอู้หมิงกลับใจ
- Home
- The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์
- ตอนที่ 148 ช่วยอู้หมิงกลับใจ
อู้หมิงหยิกตัวเอง เจ็บ! ไม่ใช่ความฝัน!
อู้หมิงมองฟางเจิ้งด้วยความหวาดกลัว “ฟางเจิ้ง? แกเป็นผีหรือคนกันแน่?”
ฟางเจิ้งยิ้มเล็กน้อย “อาตมาเป็นผีหรือคนไม่สำคัญ สำคัญคือท่านเป็นผี ท่านตายไปแล้ว มีอะไรสั่งเสียไหม?”
พอได้ยินว่าตนตายไปแล้วอู้หมิงก็คิดถึงครอบครัว คิดถึงสิ่งต่างๆ ในอดีต เขาเสียสติไปทันที กุมใบหน้า คุกเข่าลงพื้น ร้องไห้โฮเสียงดัง “ฉันตายแล้วเหรอ? ฉันตายแล้วจริงๆ เหรอ? เป็นไปได้ยังไง? ฉันไม่ยอม”
“ถึงตอนนี้ท่านยังไม่สำนึกอีกหรือ?” ฟางเจิ้งถาม
“ฉันรู้ว่าฉันผิด แต่ฉันไม่มีทางเลือก! ฉันแค่อยากใช้ชีวิตต่อไปอย่างสุขสบาย ให้ลูกเมียฉันใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ? เงินในวัดเอาไปให้คนยากจนได้ แต่ให้ฉันบ้างไม่ได้? พวกเขามีสิทธิ์อะไรที่ได้รับการช่วยเหลือ แต่ฉันไม่ได้? ฉันไม่ยอม!” อู้หมิงร้องโวยวาย
“ท่านจะเอาเงินมากขนาดนั้นไปทำอะไร?” ฟางเจิ้งถาม
“ลำบากมาทั้งชีวิตแล้วก็อยากมีชีวิตดีๆ บ้างสิ ลูกโตขึ้นทุกวัน ฉันต้องเก็บเงินขอเมียกับสร้างกิจการให้พวกเขานี่?” อู้หมิงตอบอย่างมั่นใจด้วยเหตุผล
“มีครอบครัวแล้วท่านยังออกบวชอีก?” ฟางเจิ้งงง ไม่นึกเลยว่าอู้หมิงจะมีครอบครัวแล้ว
อู้หมิงตอบ “แกคิดว่าฉันอยากเหรอ? แต่ฉันไม่มีทางเลือกอื่น เป็นหนี้ไม่มีทางหนี สุดท้ายก็ได้แต่ออกบวช นักบวชมีเท่าไร เงินมากขนาดนั้นหยิบมาใช้ตามใจนิดหน่อยก็พออยู่ได้แล้ว น่าเสียดายไอ้โง่หงเหยียนนั่นโบราณคร่ำครึเกินไป มีเงินไม่รู้จักเก็บ แต่เอาไปบริจาค! โง่ถูกหลอก! ถ้าเป็นฉันจะเก็บเงินไว้ ขยายวัด รับธูปเยอะขึ้น สร้างเงินมากขึ้น ใช้เงินสร้างเงิน วัดมีชื่อเสียง ฉันได้เงิน วินๆ กันทุกฝ่ายไม่ใช่เหรอ?”
ฟางเจิ้งยิ้ม “เงินสำคัญขนาดนั้นจริงๆ หรือ? ท่านไม่กลับบ้านมานานมากเพื่อเงินล่ะสิ”
“สิบปีแล้ว ตั้งแต่ที่ออกมาตอนนั้นก็ไม่มีหน้ากลับไปอีก ถ้าไม่มีเงินมากพอฉันกลับไปไม่ได้หรอก เลยต้องหาเงิน! ต้องหาเงินให้มากกว่านี้ ฉันไม่มีทางเลือก!” อู้หมิงตะโกนอย่างเสียสติเล็กน้อย
“ยึดมั่นขนาดนี้ จะสำเร็จอรหันต์ได้ยังไง?” ฟางเจิ้งส่ายหน้าเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าอู้หมิงจะยึดมั่นขนาดนี้ จากบ้านมาสิบปี ซ่อนตัวหนีหนี้อยู่ในวัด หาเงินเพื่อจะมีหน้ากลับบ้าน…ด้วยความยึดมั่นแบบนี้เอง มิน่าหลวงจีนหงเหยียนถึงช่วยให้เขากลับใจไม่ได้
“สำเร็จอรหันต์แล้วยังไง? สำเร็จอรหันต์ช่วยให้ฉันพ้นทุกข์ได้ไหม? ฉันแค่ต้องการเงินเท่านั้น แต่แกทำลายทุกอย่าง! ฉันตายแล้ว แต่ฉันขอสาปให้แกไม่ตายดี!” อู้หมิงตะโกนด้วยท่าทีโหดร้าย
ฟางเจิ้งกลับไม่คิดอย่างนั้น เขาหัวเราะเบาๆ “ตายก็ตายไปแล้ว จะทำอะไรได้อีก? อาตมาจะให้โอกาสท่านหนึ่งครั้ง ส่งท่านกลับบ้านจะไปไหม?”
“ไป ไปอยู่แล้ว!” อู้หมิงตอบรับทันที สิบปีแล้ว ความฝันคืออยากกลับบ้าน! ตอนนี้ได้กลับ แน่นอนว่าต้องไป!
ฟางเจิ้งพยักหน้าแล้วโบกมือ อู้หมิงรู้แค่ว่าฟ้าดินพลิกกลับ ลืมตาอีกทีกลับมาถึงหน้าประตูบ้านแล้ว
ห่างจากบ้านมาหลายปี ตอนนี้เขาตายแล้ว กลับมาอีกครั้งก็ยังเป็นแบบนี้ กลัวว่าเข้าไปแล้วจะเป็นหยินหยางสองด้านที่ไม่รู้จักกัน กลัวยิ่งกว่าคือเข้าไปแล้วบ้านเปลี่ยนไปจนเขารับไม่ได้! ภรรยาในอดีตจะเป็นอย่างไร? ลูกจะเป็นอย่างไร? แม้ทุกปีเขาจะให้คนมาดูพวกเขา ซ้ำยังเอาข่าวเกี่ยวกับพวกเขากลับไปด้วยก็ตาม ทว่าข่าวเหล่านั้นไม่ดี แต่เขาคิดอยู่เสมอว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเงิน มีเงินก็แก้ปัญหาเรื่องพวกนี้ได้ง่าย ดังนั้นเขาเลยพยายามมาตลอด ไม่เคยละความพยายาม
อู้หมิงยกมือขึ้นจะเคาะประตูก็ได้ยินเสียงของแตกข้างใน ใจเขาสั่นไหว มีโจรเข้าบ้าน? จึงพุ่งเข้าไป วิญญาณทะลวงผ่านกำแพงเข้าไปในห้อง
เห็นว่าในห้องมีหญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ เส้นผมขาวดอกเลา นั่งร้องไห้อยู่บนพื้น
ชายสองคนต่อยกันไปกันมาในห้อง ขว้างทีวี พลิกโซฟา ในห้องระเกะระกะ!
“เมียจ๋าๆ เกิดอะไรขึ้น?” อู้หมิงตรงเข้ามาอยู่ข้างหญิงวัยกลางคน
น่าเสียดายเธอมองไม่เห็นเขา ไม่ได้ยินเสียงเขา เอาแต่มองชายสองคนต่อยตีกัน ก่อนร้องไห้ตะโกน “อย่าตีกัน อย่าตีกัน…หยุดเถอะ! ศพพ่อพวกลูกยังไม่ทันเย็นเลยนะ ทำไมถึงทำแบบนี้?”
“ผมไม่สน พวกแม่ลำเอียง มีสิทธิ์อะไรให้เงินชดเชยพี่ใหญ่มากขนาดนั้น? เขาจะแต่งงาน แล้วผมไม่ต้องแต่งงานเหรอ? ต้องแบ่งเงินชดเชยให้ผมครึ่งหนึ่ง! มากกว่านี้ไม่เอา น้อยกว่านี้ไม่ได้!” ผู้ชายคนหนึ่งร้องโวยวาย
ผู้ชายอีกคนที่อายุมากกว่าเล็กน้อยตอบกลับด้วยความโมโห “นายยังไม่มีแฟนด้วยซ้ำ จะเอาเงินไปทำอะไร? ไปเล่นพนันอีกน่ะเหรอ?”
“พนันแล้วทำไม? ฉันพนันก็ได้เงินมา นายล่ะ? นอกจากขอเงินแม่แล้วทำอะไรเป็นบ้าง? แผงเก่าๆ ของนายนั่นปีหนึ่งทำเงินได้เท่าไหร่เชียว?” น้องชายกล่าว
“พวกลูก…พวกลูก…นี่จะให้แม่ขาดใจตายเลยใช่ไหม” หญิงวัยกลางคนร้องไห้โฮ
“ก็พวกแม่มาทำให้ผมโกรธก่อนนี่ จะบอกให้นะ ถ้าขาดเงินแม้แต่แดงเดียว เราไม่จบกันแน่!” น้องชายผลักประตูออกไป
พี่ชายเดินเข้ามาปลอบมารดา “แม่ เอาเงินให้น้องเถอะ”
“ไม่ได้ ลูกยังไม่รู้อีกเหรอว่าเขาเป็นคนยังไง? ให้เขา? ให้ไปเท่าไรก็เสียหมดไม่ใช่?” หญิงวัยกลางคนส่ายหน้า ก่อนเดินกลับไปในห้อง ขังตัวเองในนั้น
ปิดประตูแล้วก็กอดภาพอู้หมิงร้องไห้เสียใจยิ่งกว่าเดิม “ซุนอู้เปิ่น ซุนอู้เปิ่น นี่น่ะหรอที่คุณบอกว่าเงินแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง? คุณตายไปแล้วได้เงินมาเยอะ แต่ลูกๆ แย่แล้ว…คุณหนีออกจากบ้านไป ไม่คิดถึงพวกเราบ้างเหรอ? ฉันคนเดียวเลี้ยงลูกสองคน พวกเขาเหมือนไม่มีพ่อมาตั้งแต่เล็ก อยู่ข้างนอกก็ถูกเหยียด คนโตดูถูกตัวเอง คนน้องใช้ชีวิตไปวันๆ เลือดร้อนมีเรื่องไปทั่ว ตอนนี้คุณไปแล้ว ได้เงินชดเชยมาหลายแสน แต่ครอบครัวพวกเราจบสิ้นแล้ว! กลับมาเป็นอย่างตอนแรกไม่ได้แล้ว…
ตอนนั้นแม้บ้านเราจะจน ถึงคุณจะกิจการเจ๊ง แต่พวกเราก็ยังเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ตอนนี้ล่ะ? ตอนนี้ยังมีครอบครัวอีกไหม? พังหมดแล้ว พังหมด…”
หญิงวัยกลางคนพูดจบก็หยิบมีดมากรีดข้อมือตัวเองฆ่าตัวตาย!
“อย่า อย่านะ!” อู้หมิงเห็นดังนั้นก็ตะโกนไม่หยุด ทว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยินเลย
ตอนที่เขาเห็นข้อมือหญิงวัยกลางคนเลือดไหลดั่งสายน้ำ หน้าซีดขาวเรื่อยๆ นั้น อู้หมิงร้องไห้ คุกเข่าตรงหน้าเธอ ตบปากตัวเองดังเพียะๆ ร้องโอดครวญ “ผมผิดไปแล้ว! ผมมันไม่ใช่คน! ไอ้เงินห่า ผมต้องการแค่คุณ ผมทำทุกอย่างก็เพื่อครอบครัว…
ฮือๆๆ…ผมผิดไปแล้ว ผมกลับมาแล้ว กลับมาแล้ว! ฟางเจิ้งฉันรู้ว่านายยังอยู่ ขอร้องล่ะ ช่วยเมียฉันด้วย! ช่วยเธอ! ถ้านายช่วยเธอฉันยอมทุกอย่างเลย!”
“อมิตาพุทธ อู้หมิง ท่านตายไปแล้ว ได้เงินชดเชยแล้ว หรือว่ายังไม่พอใจอีก? ท่านคิดว่าเหตุและผลทุกอย่างเป็นเพราะเงินไม่ใช่หรือ?” มวลอากาศสั่นสะเทือน ฟางเจิ้งปรากฏกายจากอากาศ จีวรขาวคลุมร่าง ดูศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขามยิ่งกว่าเดิม
“มีเงินเยอะจะมีประโยชน์อะไร? ภรรยาที่เสียสามีไปเจ็บปวดแค่ไหน? ลูกที่ไม่มีพ่อเจ็บปวดแค่ไหน? ฉันไม่อยากให้พวกเขาแตกแยกกัน…บางทีแค่เริ่มฉันก็ผิดแล้ว คิดมาตลอดว่าจะหาเงินให้ได้มากๆ แล้วกลับไปทำให้พวกเขามีความสุข
แต่มันผิดไปหมด…ฉันไม่ต้องการแบบนี้ ไม่ใช่!” อู้หมิงหันไปมองบ้านเสื่อมโทรมรวมถึงภรรยาที่นอนบนเตียงพลางร้องไห้อย่างหนัก
………………