The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 309 วีรบุรุษ
- Home
- The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์
- ตอนที่ 309 วีรบุรุษ
“สู้สุดชีวิตเหมือนกัน!”
“พวกเขาก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ถึงคนพวกนั้นจะไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ ของพวกเขา แต่พ่อแม่พวกเขาอยู่ข้างหลังพวกเขา ถ้าขวางศัตรูไม่ได้ ศัตรูรุกรานเข้าไปในบ้าน ดังนั้นคนจะตายกันหมด นายคิดว่าพวกเขาคุ้มไหม?” ฟางเจิ้งถาม
เด็กแดงเงียบ
ตอนนี้เองมีคนวิ่งมา ตะโกนตลอดทาง “ละทิ้งที่มั่น ถอยเดี๋ยวนี้! ถอยเดี๋ยวนี้! ถอยเดี๋ยวนี้!”
พอได้ยินเสียงตะโกนนี้ เด็กแดงโล่งอกอย่างไม่มีเหตุผล ในที่สุดก็จะถอยแล้วรึ?
ทุกคนได้ยินแบบนั้น แม้จะไม่ยินยอมมากๆ แต่ก็เริ่มถอยตามคำสั่ง ห่ากระสุนปืนใหญ่ยังคงกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้ควบคุมชีวิตตัวเองไม่ได้แล้ว เป็นตายขึ้นอยู่กับฟ้า หวงเหรินกับเฉินต้าซานวิ่งไปพร้อมกัน แต่วิ่งไปไม่ไกลมีกระสุนปืนใหญ่นัดหนึ่งตกห่างไปไม่ไกล ระเบิดดังสนั่น หวงเหรินรู้สึกว่าสมองถูกกระเทือนจนแยกแยะทิศทางไม่ออก ทันใดนั้นเองร่างเงาสูงใหญ่พุ่งเข้ามา พาเขากระโจนเข้าไปในหลุมกระสุนปืนใหญ่นั้น
แทบเป็นขณะเดียวกัน ตรงจุดที่หวงเหรินยืนอยู่เมื่อครู่ถูกระเบิดกระจาย!
ตอนที่หวงเหรินโซเซลุกขึ้นยืนนั้น กลับเห็นเฉินต้าซานยิ้มให้เขา วินาทีนั้นหวงเหรินเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีเอามากๆ เอ่ยไปตามจิตใต้สำนึก “พี่ใหญ่…”
“รีบไป รีบไป…” เฉินต้าซานกล่าว
“ไป? ไปด้วยกัน!” หวงเหรินลากเฉินต้าซาน แต่พอก้มหน้าถึงเห็นว่าเฉินต้าซานขาขาดไปข้างหนึ่ง! เลือดเนื้อเหวอะหวะกองอยู่ข้างหลัง ชัดเจนเลยว่าถูกระเบิดจากกระสุนเมื่อครู่!
พริบตานั้นหวงเหรินน้ำตาทะลักออกมา หวงเหรินที่เคยถูกยิงเลือดไหลยังไม่ร้องไห้ ตอนนี้ร้องไห้โฮราวกับเด็ก พลางตะโกนว่า “พี่ใหญ่ ทำไมพี่โง่อย่างนี้?”
“แกเรียกฉันว่าพี่ใหญ่ ฉันก็ต้องพาแกกลับบ้านสิ เอาล่ะ เส้นทางของฉันจะจบลงแล้ว แกรีบไปเถอะ…รีบไป ตามแผนแล้ว ทหารปืนใหญ่ของพวกเราจะเริ่มแสดงอานุภาพแล้ว ทหารปืนใหญ่เริ่มยิง กำลังเสริมก็จะมาถึง ตอนนี้ถอยไปรอกำลังเสริมมายังทัน! อย่าสนใจฉัน ฉันจะนอนอยู่ที่นี่ เฝ้า…เฝ้าไอ้พวกเวรนั่น!” เฉินต้าซานพูด
“ไม่ ต้องไปด้วยกัน!” หวงเหรินย่อตัวลงอุ้มเฉินต้าซาน
เฉินต้าซานพูดด้วยความโมโห “ทำไมแกโง่อย่างนี้? อุ้มฉันแล้วจะวิ่งได้เหรอ? แกทำแบบนี้พวกเราจะตายกันทั้งคู่! รีบไป ไปสิ!”
“จะไปก็ต้องไปด้วยกัน! ไปด้วยกัน!” หวงเหรินไม่สนใจเฉินต้าซานเลย เขาอุ้มเฉินต้าซานวิ่งไปข้างหน้า ทว่าเป็นอย่างที่เฉินต้าซานว่าไว้ อุ้มคนหนึ่งจะวิ่งได้อย่างไร? บอกว่าวิ่ง แต่ก็เร็วกว่าเดินนิดหน่อยเท่านั้น ห่ากระสุนปืนใหญ่ลอยตามมาข้างหลัง สองคนอาจจะตายได้ตลอดเวลา!
วิ่งไปได้ไม่ไกล กระสุนปืนใหญ่นัดหนึ่งตกลงไกลๆ สองคนกลิ้งไปกับพื้น หวงเหรินพลันลุกขึ้นลากมือเฉินต้าซาน แม้ต้องลาก เขาก็จะลากเฉินต้าซานไปด้วย!
“ปล่อยฉัน!” เฉินต้าซานตะโกน
“ไม่! จะตายก็ตายด้วยกัน! จะรอด ก็รอดด้วยกัน!” หวงเหรินตะโกน แทบเป็นขณะเดียวกันเกิดเสียงปืนใหญ่ดังมาจากบนฟ้าข้างหลัง นั่นคือทหารปืนใหญ่กลุ่มใหญ่ ในที่สุดตอนนี้ก็แสดงพลานุภาพแล้ว! พริบตาเดียวกำราบปืนใหญ่ของศัตรูได้ รถถังของศัตรูถูกระเบิดเป็นเศษเหล็กกองหนึ่ง ในที่สุดการบุกของศัตรูก็ถูกกำราบไว้ได้
“รีบวิ่ง! นี่คือเวลาที่ดีที่สุดแล้ว!” เฉินต้าซานตะโกน
หวงเหรินส่ายหน้า
เฉินต้าซานล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ ควักห่อผ้าส่งให้หวงเหริน “บ้านฉันอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่หมู่บ้านปลาผุดริมแม่น้ำซงฮวา เมียฉันชื่ออาเซียง บอกเธอว่าฉันตั้งชื่อให้ลูกชายเราแล้ว ชื่อเฉินเป้ากั๋ว! ไป พวกเรายังต้องปกป้องประชาชน พวกเราจะตายกันหมดไม่ได้!”
เฉินต้าซานใช้แรงทั้งหมดตะโกน ทว่าตะโกนจนหมดแรงเฮือกสุดท้าย สองตาขุ่นมัว มัวหมอง สุดท้ายสิ้นลมหายใจ
หวงเหรินวิ่งไปอยู่หน้าเฉินต้าซาน ร้องไห้เสียงดัง แต่ว่ายังก็แบกศพของเฉินต้าซานขึ้นอย่างรวดเร็ว ถอยไปท่ามกลางเพลิงสงคราม…วินาทีนั้นกระสุนปืนใหญ่โดยรอบเหมือนไม่มีเสียง เหลือเขาเพียงคนเดียว โดดเดี่ยว เจ็บปวด…กำห่อผ้าเล็กในมือแน่น
ตอนนี้เองฟางเจิ้งถึงเห็นว่าข้างหลังแนวรบมีผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่กำลังอพยพ จะเห็นได้ว่ากองกำลังที่หวงเหรินอยู่คือกลุ่มที่เหลือไว้สกัดกั้นด้านหลัง…
สถิติสงครามสุดท้าย กองกำลังที่หวงเหรินอยู่มีทหารทั้งหมดสามพันสี่ร้อยสิบหกนาย สุดท้ายคนที่โชคดีรอดชีวิตมาได้มีเพียงห้าสิบสามนาย! ที่เหลือตายหมด! และที่เหลือเป็นผู้บาดเจ็บมากกว่าครึ่ง…
ทว่าคนเหล่านี้ไม่ร้องไห้ หลังสงครามจบลงก็พยายามพักฟื้น เช็ดกระบอกฟืน เตรียมเข้าสู่สงครามตลอดเวลา!
สงครามสิ้นสุดลงแล้ว เด็กแดงที่ยืนอยู่กลางควันไฟมองศพของเฉินต้าซานพลางถอนหายใจ ด่าไปทีหนึ่ง “โง่จริงๆ…” จากนั้นนั่งยองลง คลุมธงชาติขาดๆ ให้เฉินต้าซาน
ฟางเจิ้งถาม “โง่จริงๆ รึ?”
“วีรบุรุษ…” เด็กแดงตอบเสียงเบา
ในที่สุดฟางเจิ้งก็รู้ว่าบุญกุศลของหวงเหรินมาจากไหน เดิมทีคนที่ทหารทุกนายช่วยจะแบ่งเฉลี่ยเท่ากัน แต่มีคนตายมากเกินไป…สุดท้ายหลังบุญกุศลเคลื่อนย้ายแล้ว เขาถึงมีบุญกุศลอย่างในปัจจุบัน
ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง ริมแม่น้ำซงหวา หวงเหรินที่อายุผ่านไปครึ่งร้อยมองกล่องในมือ เปิดออกเงียบๆ ในนั้นคือตราเกียรติยศทหาร! เพียงแต่ว่าตราเกียรติยศนี้ไม่ได้รับมอบจากทางนี้ แต่เป็นตราของทหารประเทศ หวงเหรินรู้มาตลอดว่าเมื่อก่อนเฉินต้าซานเป็นทหารอยู่ด้านนั้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาจะมีตราเกียรติยศทหารด้วย!
“พี่ใหญ่ แม่น้ำซงฮวาท่วม หมู่บ้านหลายแห่งหายไปแล้ว คนกระจัดกระจายกันไปหมด ผมควรไปหาญาติพี่น้องของพี่ที่ไหน…” หวงเหรินคุกเข่าลงช้าๆ ต่อหน้าแม่น้ำไหลเชี่ยว เอ่ยต่อว่า “ยี่สิบกว่าปีแล้ว ผมยังหาพี่สะใภ้ไม่เจอเลย ผมขอโทษ แต่พี่วางใจเถอะ ต่อให้ผมหาจนตายก็จะหาต่อไป…ผมไม่อยู่แล้ว ครอบครัวผมจะหาต่อไป จะหาตลอดไป!”
ภาพต่อมาเริ่มสับสนปนเป แต่ภาพเริ่มล้อมรอบแม่น้ำซงฮวา คนชราเดินหน้ากลางสายฝน เดินกลางหิมะตกหนัก พบใครจะถามถึงหมู่บ้านปลาผุดและอวี๋อาเซียง แต่ถามใครก็ต้องผิดหวัง ทว่าชายชราไม่เคยยอมแพ้ จากเส้นผมดำ ร่างกายกำยำเดินมาจนถึงเส้นผมขาว รอยย่นเต็มใบหน้า…
เขาไปมาแทบทุกกระเบียดนิ้ว! ช่วงระยะเวลานี้ ชายชราปฏิเสธรางวัลทุกอย่าง ปฏิเสธการจัดหางานทุกอย่าง เขาเริ่มขอให้เพื่อนทุกคนช่วยเขาตามหาหมู่บ้านปลาผุด ไปตามหาอวี๋อาเซียงภรรยาของเฉินต้าซาน น่าเสียดายยังคงหาไม่พบ
ภาพก็เริ่มยุ่งเหยิงขึ้นเรื่อยๆ แต่ภาพกลับพลันหยุดในช่วงเวลาหนึ่ง มีสายโทรศัพท์เข้ามา “พี่หวง ผมหาจนทั่วแล้ว ไม่มีหมู่บ้านปลาผุดจริงๆ แต่ผมเคยได้ยินเรื่องเล่าหนึ่ง เป็นเรื่องสีในท้องปลาผุดทางภาคตะวันออก เล่าถึงบุพการีของเด็กชาวประมงคนหนึ่งเรือล่มเสียชีวิต พี่สาวบอกน้องชายที่ไม่รู้เรื่องว่าเมื่อฟ้าทางตะวันออกเป็นสีในท้องปลาผุดมา พ่อกับแม่จะกลับมา เด็กคนนี้มีความหวังจึงแน่วแน่มาตลอด จนกระทั่งเติบใหญ่ถึงรู้ว่าสีในท้องปลาไม่ใช่ฟ้า แต่เป็นความหวัง พี่สาวให้ความหวังกับเขา เขาใช้ความหวังมีชีวิตอยู่ต่อไปกับบุพการี และก็ไม่เคยโดดเดี่ยวมาก่อน
ผมคิดว่าเฉินต้าซานน่าจะหลอกพี่ เขาไม่มีครอบครัว แต่แค่อยากให้พี่ไป อยากให้พี่มีชีวิตต่อไปด้วยความหวังและศรัทธา…”
…………………..