The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 323 อยู่ต่อ
พูดจบ ฟางเจิ้งเดินไปเร็วๆ เด็กแดงงุนงง นี่มันเรื่องอะไรกัน? ต่อมามีกลิ่นน้ำหอมโชยมา เหยาอวี่ซินนั่งลงตรงหน้าเขา พูดด้วยสีหน้าเข้มงวด “เจ้าหนู ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าฉันต้องสอนบทเรียนให้กับอาจารย์นายด้วย? ทำไมนายถึงแอบดื่มเหล้าได้? จะบอกให้นะ เด็กเล็กดื่มเหล้า%¥#……¥&”
เด็กแดงอยากจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา เขารีบกระโดดขึ้น พูดว่า “อมิตาพุทธ สีกา อาตมาก็จะไปปลดทุกข์เหมือนกัน อาจารย์ รอข้าด้วย!”
เด็กแดงวิ่งไล่ตามไป
ในห้องน้ำ เด็กแดงพูดด้วยหน้าเศร้าโศก “อาจารย์ ท่านขายข้าทุกครั้งเลย ไร้คุณธรรมเกินไปรึไม่”
“พวกเราเป็นศิษย์และอาจารย์ อาจารย์ทุกข์ยาก ศิษย์ต้องรับแทน อีกอย่างนายเป็นราชาปีศาจ ตอนนี้ยังเป็นสุธนกุมาร เป็นเทพเซียน อาตมาเป็นนักบวชธรรมดา เกิดเรื่องแล้วนายต้องรับแทนสิ”
“แต่ท่านเป็นผู้อาวุโส!”
“อายุนายเป็นปู่อาจารย์ของอาตมาได้เลย อาตมาเป็นผู้อาวุโสนายไม่ได้หรอก”
“ท่านมีลำดับความอาวุโสกว่า!”
“ดังนั้นนายที่อาวุโสน้อยกว่าเลยต้องช่วยอาจารย์ขวางภัยไง”
เด็กแดง “…”
วุ่นวายกันอยู่ครู่หนึ่ง สองคนกลับไปที่โต๊ะ ทุกคนกำลังรอฟางเจิ้งอยู่ ฟางเจิ้งมีอาหารเจโดยเฉพาะ และก็มีน้ำสะอาดแทนสุรา ทุกคนชนแก้วกัน สุราผ่านไปสามรอบ หีบเสียงจึงเปิดออก แต่สิ่งที่ฟางเจิ้งตกใจคือเหยาอวี่ซินที่พูดเก่งมาตลอดกลับไม่พูดอะไร เอาแต่ก้มหน้ากินข้าว ดื่มสุรา ดื่มสุรา ดื่มสุรา…
ทุกคนพูดคุยกันไปกันมาก็พบถึงความผิดปกติ หลิวเจี่ยเริ่มดึงเหยาอวี่ซินไม่ให้เธอดื่ม
เหยาอวี่ซินมองหลิวเจี่ยด้วยดวงตาพร่ามัว ยิ้มซื่อๆ ว่า “พี่ พี่ว่าคนเรามีชีวิตเพื่ออะไร? เมื่อก่อนฉันมีความฝันอยากเป็นอาจารย์ อยากมีลูกศิษย์เต็มไปทั่วทุกสารทิศ ออกไปฝ่าฟัน พยายาม แต่สุดท้ายตอนที่ยายที่รักฉันมากที่สุดจากไป ฉันไม่เห็นแววตาสุดท้ายของยาย ฮือๆ…พี่บอกทีว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่? ฮือๆ…ฉันผิดต่อยาย ฉันควรจะอยู่เป็นเพื่อนยาย…ฮือๆ…”
เหยาอวี่ซินยิ่งร้องไห้ยิ่งเสียใจ น้ำตาไหลไม่หยุด
หลิวเจี่ยก็ไม่ใช่คนพูดเก่งอะไร ได้แค่ตบหลังเหยาอวี่ซิน พูดเสียงเบาว่า “เอาล่ะ ร้องเถอะ ร้องออกมาจะได้สบาย สิ่งที่เธอทำดีพอแล้ว…”
เหยาอวี่ซินร้องไห้ต่อ…
ฟางเจิ้งก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ดึงอีกฝ่ายเข้าฝัน? เห็นได้ชัดว่าเหยาอวี่ซินไม่อ่อนแอ เธอกำลังใช้การกระทำของตนเติมเต็มบาดแผลในใจ เธอกำลังรักษาตัวเองมาตลอด ตอนนี้เพียงแค่ความรู้สึกปะทุขึ้นมาก็เท่านั้น ในใจเธอไม่ได้ป่วย ในทางตรงข้ามกลับเต็มไปด้วยแสงตะวันและความหวัง คนแบบนี้ การดึงเธอเข้าฝันเพียงแค่ทำให้สิ่งที่ดีอยู่แล้วดียิ่งกว่าเดิม ไม่ได้มีประโยชน์มากนัก
เหยาอวี่ซินร้องไห้ไปๆ มาๆ ก็หลับไป หนึ่งวันนี้เธอเหนื่อยแล้วจริงๆ หลิวเจี่ยพาเธอเข้าไปในห้อง ให้พักผ่อน
หลังจากเหยาอวี่ซินไปแล้ว บรรยากาศคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง พูดคุยกันอีกครู่หนึ่ง เฮ่อหมิงเอ่ยขึ้น “ทุกท่าน ผมขอถือโอกาสตอนนี้พูดความคิดของผมหน่อยนะครับ”
“หัวหน้ามีความคิดอะไรเหรอ? อยากแต่งงาน? หรือว่าชอบหลิวเจี่ย?” มีคนหยอกล้อ
เฮ่อหมิงรีบทำมือให้ปิดปาก ทำท่าทีเหมือนกลัวถูกจับของโจร ก่อนถลึงตามองอีกฝ่ายอย่างเหี้ยมโหดทีหนึ่ง เห็นได้ว่าเขามีใจให้หลิวเจี่ย…
เฮ่อหมิงกล่าว “อย่าพูดมั่ว หลิวเอวี่ยนจบจากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง จะมาสนใจคนจนๆ อย่างผมได้ยังไง ผมมันคนไม่มีอะไร จะทำให้ความขาวสะอาดของเธอด่างพร้อยไม่ได้!”
“ยังไม่ได้จีบเลยก็คิดแทนเธอแล้ว หัวหน้าเฮ่อ ผมว่าเดี๋ยวก็ถูกหมาคาบไปกิน” หม่าเฮ่าเหมี่ยวดื่มสุราไปหลายแก้ว หน้าแดงแล้ว คำพูดคำจาเยอะขึ้น มีความคึกคักไม่น้อย เริ่มหยอกเย้าเฮ่อหมิงแล้ว
เฮ่อหมิงพูด “แกไปดื่มเหล้าตรงนู่นเลย! มีแกอยู่ทุกที่เลย…”
ผู้ใหญ่บ้านเหลยพูดเบาๆ “หัวหน้าเฮ่อ ช่างเรื่องนี้เถอะ คุณอยากพูดอะไรเหรอ?”
“เรื่องที่ผมจะพูดเป็นจริงจัง” เฮ่อหมิงพูดถึงตรงนี้ก็ยืนตรง เอ่ยทีละคำ “ทุกคนก็รู้ว่าช่วงก่อนหน้านี้ผมมีธุระตลอด ไม่ได้ตามทุกคนมา มาครั้งนี้มีเรื่องที่ผมสะเทือนใจอยู่เล็กน้อย ข้อแรก ตัวบันไดฟ้ามีปัญหา ถ้าไม่คิดหาวิธีมันจะกินคน เมื่อก่อนเคยกินมาแล้ว อนาคตก็จะยังกินต่อไป! ข้อสอง โรงเรียนไม่มีอาจารย์ไม่ได้…”
พอได้ฟังเฮ่อหมิงพูดเรื่องจริงจัง ทุกคนต่างพากันไม่หยอกเย้าอีก สีหน้าต่างจริงจึงขึ้น
ชายวัยกลางคนในนั้นถอดแว่นตาออกมาเช็ด ก่อนเอ่ย “บันไดฟ้าจากท่อนไม้ไม่ไหวแน่ ผมหาเหล็กได้นิดหน่อย แค่หาคนมาทำบันไดเหล็ก แต่ถึงจะมีบันไดเหล็กก็ยังมีอันตรายแฝงในความปลอดภัย ต้องมีคนคอยบำรุงรักษา…ซึ่งหมู่บ้านขาหลังไม่มีใครบำรุงรักษาบันไดเหล็กได้”
ผู้ใหญ่บ้านเหลยกล่าว “ถ้าไม่ยาก ผมจะลองดูครับ”
“เหล่าเหลย ผมรู้สถานการณ์ของคุณดี คุณเจ็บขามาตั้งแต่ต้นปีนี่ เดินมากจะปวดหนักเอาได้ ตามเราไปครั้งนี้ ผมเห็นคุณขาสั่น ขึ้นลงเขาไปมามันเหนื่อย คงจะไปบำรุงรักษาไม่ได้” เฮ่อหมิงว่า
ผู้ใหญ่บ้านเหลยเงียบ เขาเป็นชายวัยหนุ่มแน่น ถ้าไม่มีความบกพร่องทางร่างกายก็คงออกไปสู้ชีวิตนานแล้ว ใครจะอยากอยู่ที่เส็งเคร็งแบบนี้ไปตลอดชีวิต
ผู้ชายสวมแว่นกล่าว “ดังนั้นปัญหานี้แก้ยาก ในอาสาสมัครที่พวกเรารู้จักอาจจะมีคนทำได้ แต่ว่าการบำรุงรักษาบันไดฟ้าต้องขึ้นลงไปตรวจสอบทุกวัน ต้องให้เขาอยู่ระยะยาวถึงจะได้”
ทุกคนเงียบอีกครั้ง คนที่เดิมทีมีความคิดเห็นเล็กน้อยเงียบไปเช่นกัน มาอาทิตย์ละครั้งก็เป็นขีดจำกัดของคนส่วนใหญ่แล้ว ถ้าอยู่ระยะยาว ข้ามเรื่องปัจจัยครอบครัวไปก่อน แค่ตัวพวกเขาเองก็อาจจะต้องลำบากอยู่ที่นี่
เฮ่อหมิงเห็นดังนั้นจึงหัวเราะเบาๆ “นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะพูด ผมคิดมาวันหนึ่งแล้ว ผมอยู่ตัวคนเดียว ไม่สนิทกับยาย พ่อไม่รัก ในครอบครัวไม่มีภาระอะไร ดังนั้นผมจะอยู่ที่นี่ ทำงานซ่อมบำรุง ช่วงหลายปีมานี้ผมเคยเรียนการซ่อมรถยนต์มาก่อน การเชื่อมอะไรพวกนี้ผมทำได้ ซ่อมบันไดฟ้าไม่น่าจะมีปัญหา…”
“หัวหน้าเฮ่อ คุณจะอยู่ที่นี่?” ทุกคนร้องด้วยความตกใจ
ผู้ใหญ่บ้านเหลยอึ้งงัน เอ่ยด้วยความตกใจ “หัวหน้าเฮ่อ คุณ…คุณจะทำอะไร?”
เฮ่อหมิงพูดยิ้มๆ “เอาล่ะ ทุกคนไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ผมตัดสินใจแล้ว ตามนี้แหละ ตอนบ่ายผมจะส่งทุกคนกลับ เก็บของเรียบร้อย จัดการธุระที่บ้านแล้วจะตามมาพร้อมกับทีมส่งน้ำวันพรุ่งนี้”
ทุกคนมองหน้ากัน ไม่รู้จะพูดอะไร ทุกคนทำอาสาสมัครเพียงแค่คิดว่าตนมีความสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ก็ช่วย พยายามกันให้เต็มที่ก็เท่านั้น แต่ไม่เคยมีใครเพิ่มตัวเองเข้าไป…
“หัวหน้าเฮ่อ เมื่อก่อนผมไม่ยอมรับคุณเลย มีสิทธิ์อะไรมาเป็นหัวหน้า พวกเราต้องตามคุณ? แต่ตอนนี้ผมยอมแล้ว! วางใจเถอะ ผมจะแก้ปัญหาเรื่องบันไดฟ้าเอง ผมจะออกเงินให้ทั้งหมด!” ชายวัยกลางคนตบหน้าอกพูด ก่อนหยิบแก้วสุราขึ้นมากล่าว “แก้วนี้ขอมอบให้คุณ!”
ทุกคนหยิบแก้วสุราขึ้นตาม ฟางเจิ้งก็ดื่มน้ำแทนสุราแก้วหนึ่งเช่นกัน
……………………..