The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 327 จับรางวัล
- Home
- The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์
- ตอนที่ 327 จับรางวัล
“หืม?” ฟางเจิ้งงุนงง “มีน้ำ? ที่ไหน?”
เด็กแดงชี้ไปยังภูเขาไกลๆ พลางพูด “ทางใต้ของภูเขามีแม่น้ำสายหนึ่ง ทว่าถูกภูเขาขวางไว้ สายน้ำไหลมาไม่ได้ ถ้าเจาะภูเขานี้ได้ แม่น้ำจะไหลมา แล้วก็จะแก้ปัญหาของที่นี่ได้ ก่อนหน้านี้ท่านให้ข้าเรียกลมเรียกฝน ข้าบินข้ามยอดเขาไป เห็นว่าทางด้านนั้นมีคนกำลังก่อสร้างอยู่ เหมือนว่ากำลังทำอุโมงค์”
ฟางเจิ้งตาเปล่งประกาย ก่อนรีบวิ่งไปหาผู้ใหญ่บ้านเหลย ถามถึงสถานการณ์
ผู้ใหญ่บ้านเหลยพยักหน้าว่า “อุโมงค์นั้นขุดมาจะปีแล้ว เมื่อก่อนเจ้าเมืองเคยมาหมู่บ้านเรา ทั้งยังมีนักวิทยาศาสตร์มาด้วย บอกว่าที่นี่เหมาะจะเพาะปลูกอะไร ขอแค่มีน้ำทุกอย่างก็จะดีขึ้น อันนี้ผมเองก็ไม่เข้าใจ…แต่ว่างานก่อสร้างนั้นเหมือนจะเจอปัญหา เงินไม่พอ ก็เลยทำงานแบบครึ่งๆ กลางๆ มาตลอด เฮ้อ พูดจริงๆ นะครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไรน้ำถึงจะไหลมา”
ฟางเจิ้งถาม “น้ำทะลักเข้ามาแล้วจะไม่อันตรายหรือ?”
“ไม่ครับ ก่อนหน้านี้ที่นี่มีน้ำ มีทางน้ำ ขอแค่น้ำมาก็จะไหลลงทางน้ำ ไม่อันตรายอะไร” ผู้ใหญ่บ้านเหลยอธิบาย ตอนนี้เองมีคนมาหาเขา ผู้ใหญ่บ้านเหลยจึงเอ่ยลาไป
ฟางเจิ้งมองเด็กแดง เด็กแดงเอ่ยเศร้าๆ “อาจารย์ไม่ต้องพูด เรื่องใช้แรงงานต้องเป็นข้าอีกแล้ว ถูกรึไม่?”
ขณะฟางเจิ้งจะพูดพลันได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบที่ไม่ได้ยินมานาน
“ขอเตือนนายหน่อย นายช่วยเฮ่อหมิงจะได้จับรางวัลหนึ่งครั้ง นอกจากนี้การขุดอุโมงค์เป็นการสร้างความผาสุกหนึ่งดินแดน นั่นคือบุญกุศลครั้งใหญ่ ถ้านายให้เด็กแดงไปทำ บุญกุศลจะตกเป็นของเขา อย่างมากนายก็ได้กินมุมกรอบนิดหน่อย ไม่ได้อะไร จะทำยังไงนายคิดวิธีเอาเอง”
ฟางเจิ้งได้แบบนั้นก็ชะงักงันไปครู่หนึ่ง ก่อนสะบัดไหล่ ตบเด็กแดงพลางว่า “ศิษย์เอ๋ย อาจารย์เป็นคนจิตใจดีขนาดนี้ ทำไมจะต้องบีบคั้นนายด้วย? ไปหาพวกอีเตอร์อะไรพวกนี้มา อาจารย์จะไปขุดภูเขา!”
เด็กแดงอึ้งงัน มองฟางเจิ้งด้วยความสงสัย “อาจารย์มั่นใจนะ?”
“แน่นอน! อาจารย์จะลงมือขุดอุโมงค์นี่ด้วยตัวเอง สร้างความผาสุกหนึ่งดินแดน อย่าพูดมาก รีบไปเถอะ” ฟางเจิ้งผลักเด็กแดงไป เด็กแดงเกาหัวพลางเดินไปหาเครื่องมือพวกอีเตอร์มา
ส่วนฟางเจิ้งเริ่มจับรางวัล “ระบบ จับรางวัล!”
“ติ๊ง! ยินดีด้วยนายได้รับลูกประคำนิกายเซนหนึ่งพวง!”
“ลูกประคำ?” ฟางเจิ้งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนมีแสงแห่งพุทธสว่างตรงหน้า เมื่อแสงแห่งพุทธหายไป ลูกประคำสำหรับถือที่มีลูกประคำทั้งหมดสิบแปดลูกซึ่งทำจากเจ็ดสิ่งล้ำค่าของพุทธศาสนาอย่างทอง เงิน แก้ว ปะการัง ไข่มุก ไข่มุกแดงและหินโมราก็ปรากฏขึ้นในมือฟางเจิ้ง!
ฟางเจิ้งมองแวบแรกก็ตกใจสะดุ้ง!
ลูกประคำที่เห็นได้ในตลาดส่วนใหญ่ทำจากไม้ มีบางส่วนที่มีเกรดสูงขึ้นมาหน่อยที่ทำมาจากต้นโพธิ์ ทว่าแทบไม่เห็นลูกประคำที่ทำจากเจ็ดสิ่งล้ำค่าพุทธศาสนาจริงๆ เลย! จากนี้จะเห็นได้ถึงความล้ำค่าของลูกประคำมือถือ กระทั่งฟางเจิ้งยังตรึกตรองว่าถ้าวันไหนอยู่ไม่ไหวจริงๆ ว่าจะดึงออกไปขายสักลูก เดาว่าคงหลงระเริงได้อีกหลายปี
“นี่คือสมบัติล้ำค่าพุทธศาสนา ถ้านายกล้าเอาไปขาย หึๆ…นายจะได้รู้ว่าอะไรคือความฟินที่ไม่มีฟินยิ่งไปกว่านี้อีก” ระบบหัวเราะหึๆ
ฟางเจิ้งได้ยินเสียงหัวเราะชั่วร้ายของระบบแล้วก็ล้มเลิกความคิดนั้นไปอย่างเด็ดขาด แต่ก็ยังถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ระบบ ทำไมถึงให้แค่ลูกประคำถือ ทำไมไม่ให้เป็นชุดล่ะ? อย่างเช่นประคำห้อยเอวหรือห้อยคออะไรพวกนี้?”
“นายอย่าหวัง ประคำถือเป็นหนึ่งในสามสมบัติล้ำค่าพุทธศาสนา นายได้มานี่ก็โชคดีมากแล้ว ยังคิดจะเอาครบชุด? ประคำถือของนายนี่ไม่ใช่ประคำถือธรรมดา แต่เป็นของล้ำค่านิกายเซน ประคำสิบแปดลูกเรียกกันทั่วไปว่า ‘ประคำเล็กสิบแปด’ คำว่า ‘สิบแปด’ ที่ว่าหมายถึง ‘สิบแปดโลก’ คือหกโลกรากฐาน หกโลกมนุษย์ หกโลกสัมผัส!
ประคำสิบแปดลูกนี้ ทุกลูกช่วยนายใช้อภินิหารได้หนึ่งครั้ง พูดอีกอย่างคืออิทธิวิถีที่พึ่งพาไม่ได้นั่น ถ้านายเลือกใช้ประคำ ก็จะใช้พลังแห่งพุทธจากลูกประคำหนึ่งลูกได้ มันจะช่วยให้นายใช้อภินิหารได้ตามใจชอบหนึ่งชนิด! นายอยากเรียกลมเรียกฝนก็ได้ อยากเสกถั่วเป็นทหารก็ได้! แต่ว่าถ้าพลังแห่งพุทธในนั้นหมดแล้ว การจะเติมกลับมาอีกยาก คำนวณตามแสงธูปในวัดเล็กนายแล้ว ถ้าไม่มีแปดหรือสิบปีก็อย่าคิดเติมประคำเต็มหนึ่งลูก”
ฟางเจิ้งได้ยินดังนั้นจึงพูดด้วยความไม่พอใจกว่าเดิม “พี่ระบบ นายงกเกินไปรึเปล่า ฉันรู้ว่าประคำถือนี่เจ๋ง แต่ประคำถือมีหลายชนิดรึไง? แล้วลูกประคำมีเท่าไร? สิบแปดลูก นี่มันดีกว่าประคำถือสิบสี่ลูกที่พระโพธิสัตว์กวนอิม พระพุทธองค์สิบทิศ พระพุทธตรีกาลและหกวิถีที่ทุกสรรพสัตว์ต่างเคารพให้ทุกสรรพสัตว์ได้รับบุญกุศลองอาจห้าวหาญสิบสี่ชนิดนิดเดียวเองนี่? ฉันจำได้ว่าที่มากที่สุดน่าจะเป็นประคำห้อยหนึ่งพันแปดสิบลูกนี่…ถ้าไม่อย่างนั้นนายเปลี่ยนให้ฉันได้ไหม?”
“เปลี่ยนได้ เปลี่ยนเป็นสิบสี่ลูกเป็นไง?”
“ถือว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกัน!” ฟางเจิ้งล้มเลิกไปอย่างเด็ดขาด เขารู้ว่าคุยกับระบบขี้งกนี่เป็นการเสียเวลาเปล่า แต่เด็กแดงยังไม่กลับมา ตนเลยมีเวลาให้สิ้นเปลืองจริงๆ อีกอย่างถ้าเกิดได้ขึ้นมาล่ะ? นึกถึงผลของประคำถือแล้ว ฟางเจิ้งอยากจะได้ประคำห้อยหนึ่งพันแปดสิบลูกนั่นจริงๆ! นั่นต่างหากที่สุดยอด!
ทว่าพอนึกถึงความยาวของสร้อยประคำหนึ่งพันแปดสิบลูกแล้ว เขาก็แสยะปากยิ้มโดยจิตใต้สำนึก สร้อยประคำแบบนี้มีอยู่จริง แต่ปกติจะใช้ในงานพิธีใหญ่ๆ เท่านั้น ต้องเป็นพระอาจารย์เต๋าหรือนักบวชที่มีชื่อถึงจะนำออกมาประดับกายได้ ปกติจะไม่มีใครเอามา เอามาทำอะไร? ห้อยคอเป็นพวงยาวหลายรอบ มองอย่างไรก็ว่าแปลก…
ขณะฟางเจิ้งกำลังคิดอะไรไปเรื่อย เด็กแดงกลับมาแล้ว เด็กซนนี่ยืมอีเตอร์มาเล่มหนึ่ง แต่ไม่แบก ไม่โอบ แต่ลากมา เดินผ่านที่ไหนจะลากเป็นรอยยาว
“อาจารย์ อีเต้อมาแล้ว ท่านขึ้นไปเถอะ” เด็กแดงโยนอีเตอร์ตรงหน้าฟางเจิ้งดังปึก
“ศิษย์ ใช้งานได้ดีมากไหม?” ฟางเจิ้งหัวเราะเบาๆ
เด็กแดงตอบ “แน่นอน!”
“ทำดี เอาล่ะ ถือกลับไปเถอะ”
เด็กแดง “43%¥#…”
สุดท้ายเด็กแดงก็ยังต้องเอาอีเตอร์กลับไปด้วยความไม่พอใจมากภายใต้การหลงมัวเมาในอำนาจของฟางเจิ้ง ก่อนจะพาฟางเจิ้งบินไปด้านนอกภูเขาใหญ่
ฟางเจิ้งมองภูเขาใหญ่ข้างล่าง ก่อนมองอุโมงค์ที่อยู่ตรงข้ามแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก หยิบสร้อยประคำออกมา ใช้อิทธิวิถีเงียบๆ ครู่ต่อมามีอภินิหารที่เขาต้องการเพิ่มมาในความคิด ‘เปิดภูเขา!’
ฟางเจิ้งเคลื่อนความคิด ชี้ไปยังภูเขาใหญ่ข้างล่าง “เปิด!
ต่อมาภูเขาใหญ่สั่นไหวอย่างรุนแรง เกิดเสียงดังสนั่นข้างใน…
พวกคนงานที่กำลังทำงานอยู่ข้างๆ พลันรู้สึกว่าภูเขาสั่นไหว ต่างตกใจจนรีบดึงสัญญาณเตือนภัย ก่อนตะโกนเสียงดัง “แผ่นดินไหวๆ รีบออกจากอุโมงค์!”
ทว่าคนงานที่อยู่ในอุโมงค์ตะลึงงัน! พวกเขากำลังขุดอยู่ข้างใน แต่อุโมงค์ตรงหน้าสั่นไหวอย่างกะทันหัน ต่อมาหินข้างหน้าอุโมงค์พากันแตกออก ตกลงพื้น อุโมงค์ยืดยาวไปข้างหน้าเอง! ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร บางทีอาจจะหลายชั่วโมงหรือไม่หลายนาที หรืออาจจะไม่กี่วินาที!
…………………..