The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 335 ขี้เหนียว
- Home
- The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์
- ตอนที่ 335 ขี้เหนียว
เจอบ๊ะจ่างนี่เข้าไป พวกลูกค้าถูกกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาอย่างสุดขีด แต่ละคนกินข้าวโดยไม่มีกะจิตกะใจแล้ว ในใจคิดถึงคำถามเดียวกันอยู่ตลอดว่า ‘บ๊ะจ่างนั่นดูดีมาก กลิ่นหอมมาก ไม่รู้ว่ากินแล้วจะเป็นยังไง…’
เห็นเซี่ยตงเซิงออกไป ทุกคนจึงเบนสายตาไปมองเซี่ยเจิ้นลูกชายของเซี่ยตงเซิง
ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้พูด “เสี่ยวเซี่ย เมื่อกี้อาผิดไปแล้ว ให้อาชิมบ๊ะจ่างนั่นหน่อยได้ไหม”
เซี่ยเจิ้นอึ้งไปครู่หนึ่ง เมื่อครู่เขาไม่อยู่ด้วย ตอนที่เข้ามาก็เห็นเซี่ยตงเซิงยัดบ๊ะจ่างเข้าตู้เย็นพอดี ไม่รู้เรื่องตอนนี้เลย อีกอย่างทุกคนต่างเป็นแขกคุ้นเคย แค่บ๊ะจ่างอันเดียว เขาเลยไม่ได้คิดอะไร มิหนำซ้ำวันนี้เป็นวันไหว้บ๊ะจ่าง ให้บ๊ะจ่างสักสองอันก็เป็นเรื่องสมควร
คิดถึงตรงนี้ เซี่ยเจิ้นหยิบบ๊ะจ่างออกมาอีก ถามว่า “ทุกท่านจะเอากี่อันครับ?”
ผู้ชายเสื้อลายดอกมองคนอื่นๆ “มีใครจะกินไหม?”
ทุกคนมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครพูด พวกเขาอยากรู้อยากเห็นมาก แต่เร็วๆ นี้มีข่าวบ๊ะจ่างพิษสแปมมาเต็มหน้าจอ พวกเขาไม่ค่อยกล้ากินบ๊ะจ่างที่ดูดีมากอันนี้ จึงพากันส่ายหน้า
ผู้ชายเสื้อลายดอกยิ้มแห้งๆ “พวกคุณนี่นะ ถ้ามีปัญหาจริงๆ เหล่าเซี่ยจะกินได้เหรอ? คุณไม่กินผมกิน เสี่ยวเซี่ย เอาให้อาอันหนึ่ง”
“คุณอย่าอวดเก่งนักสิ…” ภรรยาของผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้แอบหยิกเขาทีหนึ่ง
ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้ไม่สนใจ รับบ๊ะจ่างจากเซี่ยเจิ้นมาเปิดออก ฉับพลันนั้นกลิ่นหอมสดชื่นแผ่กระจาย ทุกคนสูดหายใจเข้าลึกโดยไม่รู้ตัว กลิ่นหอมสดชื่นนั้นทำให้ทุกคนเกิดความรู้สึกเคลิบเคลิ้ม เซี่ยเจิ้นเป็นพ่อครัว เมื่อได้กลิ่นนี้ก็คึกคักในทันใด ตัวเองก็ฉีกมาอันหนึ่งแล้วกินไปโดยไม่รอให้คนอื่นพูด คำแรกเข้าไป ตัวเขาประหนึ่งโดนสิง ยัดใส่ปากไม่หยุด ผลคือกินเร็วไปจนติดคอ จึงวิ่งออกไปหาน้ำดื่ม
ผู้หญิงคนหนึ่งเห็นดังนั้นก็หัวเราะเบาๆ “เหล่าเซี่ยนี่จริงๆ เลย ทำไมไม่ให้ลูกตัวเองกินข้าวอิ่มๆ ดูซิปล่อยลูกให้หิวแบบนี้ กินบ๊ะจ่างมูมมาม ติดคอหมดแล้ว…”
แต่สิ้นเสียง ก็ได้ยินคนพูดข้างๆ ว่า “เหล่าฮวา คุณกินช้าหน่อย! ไม่มีใครแย่งคุณหรอก! ช้าๆ หน่อย…เฮ้ย ติดคอเหมือนกันเหรอ รีบไปดื่มน้ำเร็ว”
ผู้หญิงคนนั้นมองตามเสียง เห็นชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้กินบ๊ะจ่างมูมมาม แต่เป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมดื่มน้ำ หายใจไม่ออกจนหน้าแดงก่ำ สุดท้ายไม่ไหวจริงๆ ถึงค่อยดื่มน้ำอึกหนึ่ง ก่อนพ่นลมหายใจยาว ร้องขึ้นว่า “เสี่ยวเซี่ย เสี่ยวเซี่ย! เสี่ยวเซี่ย! อาขอบ๊ะจ่างที่มีเหลืออยู่ทั้งหมดเลย!”
“เหล่าฮวานั่งลงก่อน คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย? เมื่อกี้ก็เกือบติดคอตาย ยังจะกินอีก?” ภรรยาของชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้ว่า
ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้หัวเราะเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร บ๊ะจ่างนี่อร่อยมาก มากจนเขาแทบจะกลืนลิ้นตัวเองไปด้วยกัน! อีกทั้งเขาเห็นชัดว่าบ๊ะจ่างนี่เหลือไม่เท่าไรแล้ว เหมือนจะมีแค่เจ็ดแปดอัน ถ้าให้คนอื่นรู้จะยังเหลือให้เขาได้เหรอ? ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไร แต่ลงมาสวมรองเท้าเดินไปหาเซี่ยเจิ้น
คนอื่นก็ไม่โง่ ปฏิกิริยาตอบสมองของชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้มีปัญหาอย่างเห็นได้ชัด! แต่ละคนจึงตามออกไป
เซี่ยเจิ้นดื่มน้ำอึกหนึ่งกลืนบ๊ะจ่างลงไปอย่างยากลำบาก เพิ่งถอนหายใจโล่งอก ก็ได้ยินชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้กำลังเรียกอยู่ข้างในว่าจะเอาบ๊ะจ่างทั้งหมด! เซี่ยเจิ้นจะยอมได้อย่างไร บ๊ะจ่างอร่อยขนาดนี้ เขายังกินไม่พอเลย จะให้เอาให้คนอื่น? ตอนนี้เขายังปวดใจกับบ๊ะจ่างอันนั้นที่ให้ไปอยู่เลย! ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมบิดาถึงยัดบ๊ะจ่างเข้าตู้เย็น นี่คงจะเก็บไว้กินคนเดียวแน่ๆ
ฉะนั้นเซี่ยเจิ้นจงรีบซ่อนบ๊ะจ่างไว้ในครัว เมื่อชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้วิ่งมาถึงแล้วจึงกล่าว “อาฮวา มีอะไรเหรอครับ?”
ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้มองซ้ายมองขวา ไม่ตอบอะไร ผ่านไปนานถึงพูด “บ๊ะจ่างที่เหลือล่ะ?”
“กินหมดแล้วครับ” เซี่ยเจิ้นโกหก
“พอเถอะ อย่ามากินหมดแล้วเลยน่า บ๊ะจ่างเยอะขนาดนั้นนายกินจุกตายพอดี รีบเอาออกมาเถอะ เท่าไรตั้งราคามาเลย อาซื้อเอง” ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้กล่าว
“เหล่าฮวา คุณจะกินคนเดียวไม่ได้นะ เมื่อกี้คุณกินไปอันหนึ่งแล้ว พวกเรายังไม่ได้กินเลย” เสียงคนอื่นดังมาจากข้างนอก
ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้ร้อนใจแล้ว “พวกคุณไม่ชอบอาหารที่มีสารเคมีไม่ใช่เหรอ? แต่ผมชอบ!”
“เมื่อกี้ไม่ชอบ ตอนนี้ชอบแล้ว เสี่ยวเซี่ย นายว่ามาเลยว่าเท่าไร เราจะซื้อ” ผู้ชายอีกสามคนตามเข้ามา
ผู้หญิงที่ก่อนหน้านี้พูดอย่างแข็งขันว่าบ๊ะจ่างมีพิษถามด้วยความแปลกใจ “เหล่าฮวา มันอร่อยจริงๆ เหรอ?”
ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้ตรึกตรองดู ทุกคนรู้เรื่องนี้แล้ว ปิดบังต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงตอบไปว่า “มันคือบ๊ะจ่างที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาในชีวิต! บ๊ะจ่างนี่ จะว่ายังไงดี กลิ่นหอมมันพิเศษมาก! ข้าวอร่อย หน่อไม้ข้างในก็อร่อย รวมเข้าด้วยกันแล้วแบบ…” พูดถึงตรงนี้ เขาเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว
“คุณรีบบอกมาสิ พูดจนฉันหิวแล้ว เสี่ยวเซี่ย รู้ไหมตอนแรกพ่อเธอบอกว่าจะให้บ๊ะจ่างพวกเรา ตอนนี้จะ…” ผู้หญิงคนนั้นถามอย่างหน้าหนา
เซี่ยเจิ้นกำลังตรึกตรองว่าจะปฏิเสธอย่างนุ่มนวลอย่างไรดี ก็ได้ยินเซี่ยตงเซินตะโกนมาว่า “ขอโทษด้วยครับ ขอโทษทุกๆ ท่าน เราไม่ขายบ๊ะจ่างนี่”
“เหล่าเซี่ย คุณอย่าขี้เหนียวได้ไหม ผมให้ร้อยหยวน อันละร้อยหยวน ว่ายังไง?” ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้ร้อนใจแล้ว
เซี่ยตงเซินยิ้มเจื่อนๆ บอก “เหล่าฮวา คุณรู้ไหมว่าเมื่อกี้ผมไปไหน เจ้าอาวาสวัดเอกดรรชนีให้บ๊ะจ่างนี่กับผมมา ผมเลยอยากจะไปเอาเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่ท่านไม่ยอมให้ เท่าที่ผมรู้จักท่าน ปีนี้ก็ได้กินบ๊ะจ่างนี่แค่ครั้งเดียว หนึ่งครอบครัวสิบอัน ไม่มีมากไปกว่านี้…พวกคุณมากันเยอะขนาดนี้ ผมมีบ๊ะจ่างไม่กี่อัน คุณว่าผมจะขายให้ใคร? ทุกคนสนิทสนมกันดี ใครให้ใครก็ไม่ดีทั้งนั้น ผมเลยเก็บไว้เองดีกว่า เฮ้อ ถ้าไม่อย่างนั้นใครบ้างล่ะไม่อยากได้เงิน”
“หนึ่งปีให้สิบอัน? หลวงจีนนี่ขี้งกไปรึเปล่า?” ผู้หญิงพูดอย่างตกใจ
ผู้ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้เสริม “ใช่ ขี้งกไปแล้ว ใช่สิ พวกเราไปขอซื้อกับหลวงจีนนั่นดีไหม ไปซื้อได้ไหม?”
เซี่ยตงเซิงกล่าว “พวกคุณลองดูก็ได้ อีกเดี๋ยวท่านจะกลับมาแล้ว”
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็พลันวิ่งออกไป
ไม่เพียงแค่บ้านเซี่ยตงเซิน ในหลายๆ บ้านต่างมีแขกอยู่ เมื่อได้กินบ๊ะจ่างของฟางเจิ้งแล้วต่างพูดกันยกใหญ่ว่าอยากจะซื้อ
แต่คนเหล่านี้วิ่งออกมายืนอยู่บนถนน อาบแดดอยู่นาน บางคนแทบจะเป็นไข้แดดแล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววหลวงจีนที่แจกบ๊ะจ่างเลย บางคนใจร้อนรอไม่ไหวแล้ว จึงเริ่มตามหาในหมู่บ้าน พอตามหา บางคนที่ไม่เคยชิมบ๊ะจ่างก็แปลกใจ เมื่อได้ลองชิมบ๊ะจ่างดูบ้างต่างก็เข้ามาร่วมการตามหาฟางเจิ้งครั้งใหญ่ด้วยทันที
ผลคือหาจนทั่วหมู่บ้านแล้วก็ยังไม่มีวี่แววฟางเจิ้ง ทว่าทุกคนไม่ยอมแพ้ กลับมีความสนใจยิ่งกว่าเดิม!
………………………………………..….