The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 340 อบอุ่น
เฉาเสวี่ยเคอพลันลืมตาขึ้นมา “แม่ เสวี่ยเคอไม่เป็นไร ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว ไม่ต้องใช้เงินแล้ว”
หลี่เซียงกอดศีรษะเฉาเสวี่ยเคอไว้พลางพูด “ไม่เป็นไร เสวี่ยเคอเด็กดี ไม่ต้องห่วงเรื่องในบ้านนะ นอนเถอะลูก”
เฉาเสวี่ยเคอตื่นแล้ว สองสามีภรรยาจึงไม่พูดเรื่องนี้อีก ต่างไม่อยากให้เฉาเสวี่ยเคอได้ยิน
วันที่สองตอนฟ้าสาง เฉาชั่นออกไปข้างนอก ความจริงที่เหมืองจะเริ่มงานทุกวันตอนเก้าโมงเช้า แต่เฉาชั่นออกไปเช้ามากทุกวัน กระทั่งลงเหมืองก่อนเวลา เถ้าแก่ก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับชอบการกระทำนี้ของเขามาก และมอบโบนัสให้เฉาชั่นในการประชุมใหญ่หลายครั้ง แถมเฉาชั่นยังได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย…
ทว่าวันนี้เฉาชั่นกลับถูกเถ้าแก่เรียกไปหา ให้ไปซื้อของจำนวนหนึ่งในอำเภอเมือง เฉาชั่นนั่งรถมาถึงอำเภอ ครั้งนี้เจ้านายใจกว้างพอ ให้เงินค่าอาหารกลางวันเขามาห้าสิบหยวน ทั้งหมดสองคน คนละยี่สิบห้าหยวนก็ไม่ถือว่าน้อย สองคนซื้อของเสร็จแล้วก็ถึงเที่ยงวันพอดี
“พี่เฉา กินข้าวไหม?” เสี่ยวจ้าวที่ขับรถถามยิ้มๆ เขาเข้าเมืองมาซื้อของบ่อยๆ ดังนั้นจึงชำนาญเส้นทางมาก ทั้งยังทำตัวสบายๆ ไม่ระมัดระวังตัวมากเกินไปเหมือนกับเฉาชั่น
เฉาชั่นส่ายหน้าบอก “ถ้าไปแล้วใครจะดูของ แกไปเถอะ พี่ไม่หิว”
“วางใจได้ ไม่มีใครขโมยของเราหรอก อีกอย่างอำเภอนี้สงบเรียบร้อยดีนี่ ไม่ไปจริงๆ เหรอ?” เสี่ยวจ้าวถาม
เฉาชั่นส่ายหน้า เสี่ยวจ้าวจึงได้แต่ไปเองด้วยความจนปัญญา
ครั้งนี้เฉาชั่นไม่ได้เอาขนมเปี๊ยะมาด้วย ท้องหิวจนร้องจ๊อกๆ ห่างไปไม่ไกลเป็นร้านหมั่นโถว หมั่นโถวนึ่งในซึ้งใหญ่เสร็จพอดี พนักงานตะโกนเสียงดังว่า “เปิดหม้อแล้ว!”
สิ้นเสียงตะโกนก็เปิดหม้อ ไอร้อนลอยกรุ่น ขณะเดียวกันกลิ่นหอมหมั่นโถวแป้งขาวก็โชยเข้ามา เฉาชั่นท้องร้องหนักกว่าเดิม เขาหันหน้าหนีไม่มอง เอาแต่ก้มหน้ามองพื้น
ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งพาเด็กอ้วนเดินผ่านมา เด็กอ้วนสะบัดมือ โยนหมั่นโถวที่กัดแล้วคำหนึ่งทิ้งไป และร้องขึ้นว่า “ไม่อร่อยเลย แม่ ผมจะกินไก่แช่แข็ง[1]!”
“เด็กคนนี้นี่ สิ้นเปลืองอีกแล้ว! เมื่อกี้ลูกร้องจะกิน ตอนนี้มาไม่กินแล้ว?!”
“ก็กลิ่นมันหอมนี่ แต่กินแล้วไม่อร่อยเลย ไม่กินแล้ว ผมจะกินไก่แช่แข็ง!”
“ก็ได้ๆ พ่อคุณทูนหัว ยอมลูกจริงๆ เลย”
ผู้หญิงจนปัญญามาก จึงพาเด็กอ้วนเดินไกลออกไป
เฉาชั่นมองหมั่นโถวบนพื้น มองสองคนที่เดินไกลออกไป ก่อนพลันเก็บหมั่นโถวขึ้นมา เช็ดดินด้านบนแล้วกัดลงไป แต่กินได้สองคำก็มีคนเข้ามาตรงหน้า นั่นคือพนักงานที่ขายหมั่นโถวคนนั้น
“มีอะไรเหรอครับ?” เฉาชั่นดูขี้ระแวงมาก เหมือนทำความผิดแล้วถูกจับได้
พนักงานยิ้มเล็กน้อย เอาหมั่นโถวถุงหนึ่งมาจากข้างหลัง ในนั้นยังมีผักดองนิดหน่อยกับโจ๊กชามหนึ่ง “เถ้าแก่พวกเราบอกว่าวันนี้ทำอาหารเยอะ กินไม่ไหว กินด้วยกันเถอะ…”
พูดจบ พนักงานมองไปทางร้านค้า ตรงนั้นมีผู้ชายวัยกลางคนร่างอ้วนอุ้ยอ้ายคนหนึ่งอยู่ เห็นเฉาชั่นมองมาจึงโบกมือให้อย่างสุภาพอ่อนโยน พูดขึ้นว่า “น้องชาย ข้างนอกมันร้อน เข้ามานั่งกินข้างในดีกว่า!”
เฉาชั่นได้ยินดังนั้นจึงลุกขึ้น โค้งตัวแสดงความเคารพเถ้าแก่กับพนักงานขาย “ขอบคุณครับ เสื้อผ้าผมสกปรก ไม่เป็นไรดีกว่า”
พนักงานยิ้มบอก “เสื้อผ้าสกปรกอะไรกัน แค่นั่งเท่านั้นเอง อีกเดี๋ยวค่อยเช็ดก็ได้ ไปเถอะ”
แต่ไม่ว่าอย่างไรเฉาชั่นก็ไม่ยอมไป เขาโค้งตัวแสดงความเคารพอีกครั้ง สื่อว่าขอบคุณ พนักงานก็จนปัญญา ได้แต่ยอมแพ้ กลับไปพูดบางอย่างกับเถ้าแก่ เถ้าแก่เกาหัวพูดว่า “น้องชาย ถ้าจากนี้หิวก็มาหาฉันนะ ฉันทำหมั่นโถวไว้เยอะ ไม่มีคนซื้อก็กินด้วยกันนี่แหละ”
เฉาชั่นโค้งตัวขอบคุณอีกครั้ง ก่อนนั่งลงข้างๆ กินหมั่นโถวกับผักดองต่อ นี่คือมื้อที่อร่อยที่สุดเท่าที่กินมาในรอบสองสามเดือนนี้เลย!
ตอนนี้เอง เขาได้ยินว่ามีคนกำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลัง
“จริงเหรอ เจียงถิง เธอพูดจริงเหรอ วัดเอกดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ขนาดนั้นเลย? คนที่ไม่มีลูกไปขอลูกก็ได้ลูก? แถมยังมีเรื่องปาฏิหาริย์เยอะขนาดนั้น?”
“แน่นอน ฉันจะหลอกเธอทำไม แต่ว่าเรื่องนี้พูดไปก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อหรอก แต่ฉันน่ะเห็นด้วยตาตัวเอง…จะบอกให้นะ วัดเอกดรรชนีมหัศจรรย์จริงๆ อย่างน้อยฉันก็เห็นเรื่องที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้หลายเรื่องเลย” คนที่กำลังพูดอยู่คือพยาบาลเจียงถิงนั่นเอง
“ฉันก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน เร็วๆ นี้เพื่อนในโซเชียลพูดเรื่องนี้กัน ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า ถ้ามีโอกาสต้องไปดูหน่อยแล้ว…เธอว่าต้นไผ่โตทางตะวันออกเฉียงเหนือมันมหัศจรรย์เกินไปรึเปล่า”
“ฉันยังเคยเห็นคนมีไฝกับขนยาวขึ้นเต็มหน้าด้วยแหละ…”
ขณะพูดกัน สองคนเดินไกลออกไป
ผู้พูดไม่ใส่ใจ แต่ผู้ฟังสนใจ เฉาชั่นเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาฉายประกายบางๆ ราวกับคว้าฟางข้าวช่วยชีวิตไว้ได้
ภาพเปลี่ยนไป ตอนเช้ามืดฟ้า ยังไม่สว่าง เฉาชั่นอุ้มลูกสาวเฉาเสวี่ยเคอที่ยังนอนหลับออกจากบ้าน ยืมรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปที่เชิงเขาเอกดรรชนี…
เห็นถึงตรงนี้ ฟางเจิ้งถอนหายใจ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมสองคนถึงมาเช้าขนาดนี้ทุกครั้ง เฉาชั่นยังต้องรีบกลับไปเข้าเหมืองหาเงินเลยได้แต่มาเช้าๆ เท่านั้น จะได้รีบกลับ
ขณะเดียวกันนี้ เฉาชั่นคุกเข่าอยู่ในอุโบสถภายในความฝัน อธิษฐานขอพรในใจเงียบๆ ว่า ‘พระโพธิสัตว์ ได้โปรดปกป้องลูกสาวผมด้วย ให้เขาหายป่วยทีเถอะ ผมยอมมอบชีวิตเพื่อลูก…ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้แผนการต่อจากนี้ของผมสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี นับจากนี้ไปผมจะไม่ได้อยู่ข้างๆ พวกเขาแล้ว ขอท่านช่วยปกป้องให้พวกเขาสงบสุขด้วย…’
ฟางเจิ้งส่ายหน้าเล็กน้อย เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้จริงๆ เฉาชั่นเตรียมตัวครั้งสุดท้ายนานแล้ว มาวัดเอกดรรชนีก็เป็นความหวังริบหรี่ครั้งสุดท้ายเท่านั้น ถ้าไม่สัมฤทธิผลจริงๆ เขาต้องเดินบนเส้นทางที่หวนกลับมาไม่ได้นั้นแน่…
แต่ฟางเจิ้งยังไม่ทำอะไร เพียงเก็บอภินิหารความฝันยามต้มข้าวฟ่างกลับ แล้วสวดมนต์เคาะมู่อวี๋ต่อไป
เฉาชั่นตะลึงไปนิดอย่างเห็นได้ชัด เหมือนนึกไม่ออกว่าทำไมเมื่อครู่ถึงคิดย้อนไปมากขนาดนั้น จากนั้นจึงส่ายหน้า ยืนขึ้นพาเฉาเสวี่ยเคอจากไป
ชั่วขณะที่เฉาชั่นจะออกจากวัดนั้น ในที่สุดฟางเจิ้งก็พูดขึ้น “ประสก อาตมามีคำถามอยากจะถาม”
เฉาชั่นชะงัก ชี้ไปที่ตัวเองพร้อมเอ่ย “หลวงพี่จะถามผมเหรอครับ?”
ฟางเจิ้งยิ้มน้อยๆ ประนมสองมือบอก “ถูกต้อง”
เฉาชั่นพูด “หลวงพี่ ผะ…ผมไม่ได้เรียนหนังสือมา”
ฟางเจิ้งไม่สนใจเขา แต่เอ่ยต่อว่า “เมื่อวานอาตมาเห็นเป็ดคู่หนึ่งกำลังเล่นน้ำ เป็ดตัวเมียจมน้ำตาย เป็ดตัวผู้เสียใจมาก เลยเอาหัวมุดน้ำตายตามไป นั่นเป็นเพราะอะไร?”
“หลวงพี่ เป็ดจะจมน้ำตายได้เหรอ? แล้วก็ที่นี่พวกเรา…มีเป็ดด้วยเหรอครับ?” ถึงเฉาชั่นจะไม่เคยเรียนหนังสือ แต่ก็ยังมีความรู้ทั่วไป
ฟางเจิ้งพูดยิ้มๆ “อาตมาเคยเห็นในโลกสัตว์ ส่วนจะจมน้ำตายได้ไหม ประสกคิดว่าอย่างไรล่ะ คนเป็นยังกลั้นใจตายกับเรื่องที่ยังมีหวังได้ นับประสาอะไรกับเป็ดที่ว่ายน้ำได้?”
เฉาชั่นงงงัน คำพูดของฟางเจิ้งกระทบถึงเขา แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าฟางเจิ้งพูดถึงเขาอยู่หรือไม่ จึงตรึกตรองคำถามของฟางเจิ้งต่อ ก่อนตอบไปว่า “ผมคิดว่าในใจเป็ดตัวผู้ เป็ดตัวเมียคือทุกอย่าง พอเป็ดตัวเมียตายไปแล้ว หัวใจเขาก็ตายด้วย เขาหมดสิ้นชีวิตแล้ว เลยตายตามไปด้วยกันล่ะมั้งครับ”
……………………………………………..…..
[1] ไก่แช่แข็ง เป็นอาหารจีนทางตอนเหนือ เหมาะสำหรับกินในหน้าร้อน มักเลือกใช้แต่ขาไก่ อกไก่ และปีกไก่ หลังจากต้มและปรุงเสร็จแล้วจึงนำไปแช่แข็ง ด้านบนจะจับตัวกันคล้ายเจลลี่