The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 342 เป็นหรือตาย
- Home
- The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์
- ตอนที่ 342 เป็นหรือตาย
เฉาชั่นออกจากบ้าน กำลังจะถึงภูเขาเหมืองอยู่แล้ว แต่ตรงหน้ามีร่างสีขาวเพิ่มมาหนึ่ง ดูไปแล้วคุ้นตามาก พอเข้าไปดูใกล้ก็พลันอึ้งค้าง เฉาชั่นร้องด้วยความตกใจ “หลวงพี่ ท่านมาทำไมครับ?”
ไม่รู้ทำไม พอเห็นฟางเจิ้งแล้วเฉาชั่นใจสั่นนิดๆ เหมือนฟางเจิ้งอ่านความลับทั้งหมดของตนออก เขากลัวหลวงจีนตรงหน้าเล็กน้อย ถ้าดำเนินตามแผนการไม่ได้…เสวี่ยเคอจะทำอย่างไร?
เหมือนอย่างที่ว่าไว้ว่าหากบริสุทธิ์ใจก็ไม่ต้องเกรงกลัว เฉาชั่นกลับมีความผิดในใจ จึงลนลานอยู่นิดๆ
ฟางเจิ้งประนมสองมือกล่าว “อมิตาพุทธ อาตมามารอเป็ดตัวหนึ่งที่นี่”
“เป็ด?” เฉาชั่นงงงัน
“ใช่ วันนี้เป็ดตัวนั้นอยากจมน้ำตาย” ฟางเจิ้งยิ้มบางๆ
เฉาชั่นหน้าขาวซีดทันที เอ่ยเครียดๆ ว่า “หลวงพี่ ถ้าอย่างนั้นท่านก็รอเถอะ…”
พูดจบเฉาชั่นจะจากไป เขาพบว่าหลวงจีนที่ดูอายุไม่มากและมีใบหน้าเจิดจรัสรูปนี้มักทำให้เขาใจฝ่อ แถมเขายังมีความรู้สึกอย่างหนึ่งคือ เหมือนอีกฝ่ายรู้ว่าเขาจะทำอะไร!
ทว่าชั่วขณะที่เฉาชั่นเฉียดผ่านบ่าฟางเจิ้ง กลับได้ยินฟางเจิ้งพูดขึ้น “ประสก บ่อน้ำแห้งแล้ว”
เฉาชั่นขมวดคิ้วแน่น ไม่เข้าใจว่าฟางเจิ้งกำลังพูดอะไรจึงรีบเดินไปเร็วๆ
ไม่นาน เจ้าลิงกระโดดลงมาจากต้นไม้ ร้องขึ้นว่า “อาจารย์ จัดการแล้ว!”
“ทำได้ดี ไปเถอะ” ฟางเจิ้งหัวเราะเบาๆ แล้วหันไปมองเฉาชั่นที่ใกล้จะเดินเข้าไปในเหมืองแล้ว นัยน์ตามีประกายวูบผ่าน
เมื่อเฉาชั่นเข้าเหมืองไป ทุกอย่างเหมือนปกติ เซ็นชื่อเข้างาน เปลี่ยนชุด จากนั้นตามทุกคนลงเหมือง ตอนนี้เองมีคนตะโกนว่าช่องผ่านอากาศตัน…
เฉาชั่นได้ยินแล้วใจสั่นวูบหนึ่ง รีบวิ่งเข้าไปทันที “เกิดอะไรขึ้น?”
“ช่องผ่านอากาศตัน เป็นปัญหาจริงๆ แคบเกินไปลงไปยาก” คนงานคนหนึ่งตอบ
“ไม่มีอากาศผ่านไม่ได้นะ จะมีปัญหาข้างล่างได้ ฉันไปเอง” เฉาชั่นพลันเอ่ยด้วยความกล้าหาญ
“เฉาชั่น ใจเย็นก่อน เรื่องนี้แก้ยาก ช่องผ่านอากาศแคบเกินไป คนจะติดอยู่ข้างในได้ง่าย แล้วต้องห้อยหัวนานๆ…อีกอย่างข้างล่างอากาศน้อยจะขาดใจตายเอาได้ง่ายๆ” มีคนพูดอย่างกังวล
เฉาชั่นถาม “เถ้าแก่ล่ะ?”
“เถ้าแก่โทรไม่ติด ไม่รู้ว่าไปไหน” ผู้ดูแลคนหนึ่งเดินเข้ามาบ่น
“เปิดช่องผ่านอากาศแล้ว ใครจะกล้าลงไปล่ะ” มีคนบ่นออดแอด
ผู้ดูแลก็ร้อนใจเช่นกัน วันนี้ไม่เริ่มงานย่อมเสียหายเป็นเงินก้อนใหญ่ ถ้าเถ้าแก่รู้เข้า เขาต้องรับเพลิงโทสะแน่ๆ
เฉาชั่นพูด “พี่หวัง ผมเป็นคนเก่าคนแก่ ข้างล่างเป็นยังไงผมรู้หมด ผมจะลงไปลองดู ถ้าไม่ไหวค่อยคิดหาวิธีกัน”
“ได้ นายลองลงไปดู ถ้าไม่ไหวต้องรีบขึ้นมา” ผู้ดูแลหวังตอบ
“ครับ” เฉาชั่นถอดเสื้อออกทันที ตัวเขาไม่ใหญ่กำยำ แต่ก็ถือว่าแข็งแรง เมื่อเอาเชือกผูกไว้กับตัวเสร็จสรรพ เพื่อนคนงานหลายคนจึงค่อยๆ หย่อนเขาเข้าไปในปากช่องผ่านอากาศ ปากช่องผ่านอากาศนี้ไม่ถือว่าได้มาตรฐาน ขนาดแคบมาก คนตัวใหญ่หน่อยจะลงไปไม่ได้ นี่ก็คือข้อผิดพลาดของเหมืองเก่าที่เอกชนรับเหมาในพื้นที่ห่างไกล อุปกรณ์ต่างๆ มากมายล้วนเป็นชุดเก่า ทั้งยังขาดแคลนผู้ดูแลที่ได้มาตรฐานและแผนการที่เป็นระบบ
เฉาชั่นถูกหย่อนลงไปช้าๆ คนข้างบนรอคอยอย่างตึงเครียด จากที่นัดแนะกัน ขอเพียงเฉาชั่นกระตุกเชือกเบาๆ พวกเขาจะดึงเฉาชั่นขึ้นมา
แต่เฉาชั่นลงไปได้สามนาทีกลับไร้การเคลื่อนไหวใดๆ ข้างล่าง ตอนแรกยังรู้สึกได้ว่าเชือกหนัก กำลังขยับเขยื้อน แต่ต่อมากลับนิ่งไปเฉยๆ เชือกเบาไม่มีการโต้ตอบ แม้ทุกคนจะร้อนใจ แต่เนื่องจากเชื่อมั่นในเฉาชั่นคนเก่าแก่จึงไม่รีบร้อนดึงคนขึ้นมาเช่นกัน
ผ่านไปอีกหนึ่งนาที ในที่สุดเชือกก็มีการเคลื่อนไหวนิดๆ แสดงว่าคนข้างล่างยังมีชีวิตอยู่ ยังขยับ ทุกคนจึงถอนหายใจโล่งอก…
ทว่าข้างล่างก็ไร้การเคลื่อนไหวอีกครั้ง…
ผู้ดูแลรู้สึกรำคาญนิดๆ “ดึงขึ้นมาถามสถานการณ์ก่อนดีกว่า”
ทุกคนพยักหน้า ก่อนเริ่มดึงขึ้นมา ผลคือเมื่อดึงกลับดึงไม่ขึ้น! ข้างล่างเหมือนจะติด!
ผู้ดูแลได้ยินเข้าก็ร้อนใจแล้ว “ติดก็ดึงขึ้นมา จะให้เขาอยู่ข้างในนานขนาดนี้ไม่ได้”
ทุกคนออกแรงดึง ผ่านไปอีกหลายนาที สุดท้ายทุกคนร่วมแรงกันดึงเฉาชั่นขึ้นมา เห็นแต่ว่าเฉาชั่นหน้าแดงก่ำ แสดงว่าปริมาณเลือดในเส้นเลือดมากเกินไป ดวงตาเบิกค้าง ร่างกายแข็งทื่อ!
ทุกคนตกใจสะดุ้ง รีบวางเฉาชั่นนอนบนพื้นแล้วช่วยชีวิต ทว่าเฉาชั่นตายไปแล้วครู่หนึ่ง ไม่อาจพากลับมาได้
ทุกคนตื่นตระหนก คนงานคนอื่นได้ยินข่าวนี้ต่างพากันวิ่งเข้ามา บ้างโทรศัพท์แจ้งตำรวจ บ้างเรียกรถพยาบาล ต่างวุ่นวายกันเป็นกลุ่มก้อน
“อมิตาพุทธ ประสก ประสกได้ดั่งใจหวังแล้ว” ตอนนี้เอง เสียงสวดดังขึ้นในฉับพลัน เฉาชั่นที่เดิมทีไม่รู้สึกตัวพลันลืมตาขึ้นมา และพบสิ่งที่น่าตกใจคือตนนอนอยู่บนพื้น! มองผู้คนรอบๆ รวมถึงฟางเจิ้งด้วยความตกตะลึง พูดว่า “ทำไมผมยังไม่ตาย?”
“ประสกตายไปแล้ว” ฟางเจิ้งกล่าวเรียบๆ ก่อนมองไปข้างหลังเฉาชั่น
เฉาชั่นหันกลับไป บนพื้นยังมีเขาอีกคนอยู่จริงๆ สีหน้าดูย่ำแย่ยิ่ง ตายจนตายไม่ได้อีกแล้ว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เฉาชั่นตระหนกตกใจ หรือว่าเขากลายเป็นผี?
ฟางเจิ้งพยักหน้าบอก “ประสก ในเมื่อประสกตายสมใจแล้วก็ไปเกิดใหม่เถอะ จากนี้ไปประสกกับครอบครัวแบ่งเป็นหยินกับหยาง ไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”
เฉาชั่นเพิ่งได้สติกลับมา เขาตายแล้ว แต่ฟางเจิ้งมองเห็นเขาได้อย่างไร? พอนึกถึงเรื่องต่างๆ ของฟางเจิ้ง เขาก็คว้าฟางเจิ้งไว้ “หลวงพี่ ผมไปเกิดใหม่ไม่ได้ ผะ…ผะ…ผมอยากเห็นลูกสาวผม ภรรยาผม ครอบครัวผม ขอร้องท่านช่วยผมด้วย…”
ฟางเจิ้งส่ายหน้าบอก “อาตมาไม่ช่วยคนเห็นแก่ตัว ประสก ตอนที่ประสกลงบ่อได้เอาท่อนไม้เล็กๆ ไปด้วย แต่กลับใช้ท่อนไม้เล็กนั้นขัดตัวเองไว้ ให้คนดึงประสกขึ้นมาไม่ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ จนขาดอากาศตายไปเองข้างล่าง แต่สิ่งที่ประสกต้องการก็แค่ประสกตายแล้ว เจ้าของเหมืองจ่ายจะเงินชดเชยให้เท่านั้น ทำแบบนี้ประสกเห็นแก่ตัวเกินไป”
“ผมก็มีความลำบากของผม ลูกสาวผมป่วยเป็นโรคโลหิตจาง หมอบอกว่าเขามีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่ปี แต่ตอนนี้อาการป่วยยังเบา ยังรักษาได้ แต่ก็ต้องใช้เงินเยอะมาก ผมยืมมาหมดแล้ว ที่ขายได้ก็ขาย ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้ว…ผมทนดูเขาตายไม่ได้! ตอนนี้สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือใช้ชีวิตผมแลกกับชีวิตลูก! สองแสนกว่าหยวน สำหรับเถ้าแก่เป็นเงินเล็กน้อย แต่สำหรับผมมันช่วยชีวิตได้เลย” เฉาชั่นร้องไห้โฮ
ฟางเจิ้งส่ายหน้าเล็กน้อย ถามกลับว่า “เถ้าแก่ประสกเป็นคนเลวร้ายรึ?”
“ไม่เชิงครับ เขาไม่ใช่คนเลว ถึงจะรับช่วงต่อเหมืองนี้มาปีเดียว แต่ก็เพิ่มเงินเดือนให้กับทุกคน อีกอย่างยังเชิญคนชำนาญการมาออกแบบติดตั้งระบบความปลอดภัยให้เหมืองด้วย แต่ระบบความปลอดภัยพวกนั้นเพิ่งขนย้ายมา ยังไม่ทันติดตั้ง จุดนี้เขามีความรับผิดชอบมากกว่าเถ้าแก่คนก่อนมาก แต่ว่าเขาเป็นคนไม่จริงใจ สัญญาอะไรไว้เยอะแยะ จนตอนนี้มีหลายอย่างเลยที่ยังทำไม่เสร็จ ได้ยินว่า…ได้ยินว่า…เงินทุนเขาขาดสภาพคล่องเพราะต้องซื้ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัย…” พูดถึงตรงนี้ เฉาชั่นก้มหน้าลง