The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ - ตอนที่ 352 หนึ่งก้าว
- Home
- The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์
- ตอนที่ 352 หนึ่งก้าว
กล่าวถึงเหล่าเหลียง หลังจากถูกผีร้ายกลืนเข้าปากไปแล้ว ก็รู้สึกแค่ว่าทั่วร่างมีของเหลวกัดกร่อน คล้ายกรดกำมะถัน รู้สึกแสบร้อนไปทั่วร่าง ทรมานจนไม่อาจกล่าว ทั้งกรีดร้องโหยหวน ทั้งตะโกน กลับเห็นเพียงความสิ้นหวัง เนื้อหนังตามตัวหายไป เหลือแต่กระดูกขาว!
“อ๊าก…เวรเอ๊ย เจ็บ…เก่งจริงก็ฆ่าฉันเดี๋ยวนี้เลยสิ! เก่งจริงกัดกร่อนเลือดฉันไปให้หมดเลย ดูซิว่าถ้าฉันเป็นโครงกระดูกแล้วแกจะทำอะไรฉันได้?” เหล่าเหลียงตะโกนเสียงดัง พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของตน ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาสิ้นหวังคือ บนกระดูกยังมีเลือดเนื้อเติบโตขึ้นมา จากนั้นก็ถูกกัดกร่อนต่อไป ความเจ็บปวดนี้เหมือนวัฏจักรไร้สิ้นสุดที่เป็นนิรันดร์! ความสิ้นหวังและเจ็บปวดทำให้เขารู้สึกว่าจะเสียสติ…
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ผ่านไปกี่วินาที หรือว่าหนึ่งศตวรรษ ถึงอย่างไรเหล่าเหลียงก็แยกแยะเวลาไม่ออกแล้ว เขาตกอยู่ในความฉงน เหมือนเห็นด่านมหึมาที่อยู่ระหว่างกลางภูเขาเงามืดสองลูก ด้านล่างมีภูตผีเฝ้าอยู่ มีหัวหน้าภูตประจำการ ด้านบนเขียนตัวอักษรใหญ่ว่า…ด่านภูตผีนรกประตูมืด!
เขาส่งกระดาษแผ่นเล็กแผ่นหนึ่งไปด้วยสติพร่าเลือน จากนั้นถูกส่งเข้าไป เดินอยู่บนถนนดินสีน้ำตาลที่หนักอึ้งอย่างยิ่ง ถนนเส้นนี้มีแรงดึงดูดไม่มีสิ้นสุด ยิ่งเดินยิ่งเหนื่อย ตัวเขาใกล้จะทรุดลงนอนแล้ว แต่ก็ถูกทหารภูตผีใช้แส้หนังฟาดบนตัว ฟาดจนเหมือนวิญญาณจะสลายไป ขณะความคิดรางเลือน เขาเห็นดอกไม้ประหลาดบานเต็มสองข้างทาง สวยงามมาก…
สุดทางเดินดินเป็นแม่น้ำสีดำมืดสายหนึ่ง เหนือแม่น้ำมีสะพานหินสามแห่ง เมื่อข้ามสะพานหินไป วิญญาณดวงแล้วดวงเล่าเดินขึ้นไปบนแท่นดิน จากนั้นไม่รู้เห็นอะไร ถึงกับร้องไห้โฮเสียงดัง
วิญญาณบางดวงดื่มน้ำแกงของยายเฒ่าข้างๆ แท่นดินนั้น แล้วจึงจากไปโดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย
เหล่าเหลียงไม่ได้ดื่ม แต่ทหารภูตผีส่งเขาไปกลางวิหารใหญ่ เขายังคงได้ยินไม่ชัด มองเห็นไม่ชัด เพียงแต่เหมือนได้ยินว่ามีคนเรียกชื่อเขา “เหลียงเฉิงหู่ เจ้ารู้สำนึกหรือไม่?”
เขาไม่ได้พูดอะไร ต่อมาก็เห็นอีกฝ่ายพูดว่า “ฆ่ากระต่ายหนึ่งร้อยห้าสิบหกตัว ฆ่าหมาป่าห้าตัว ฆ่าหมีสามตัว ฆ่า…บาปกรรมหนักหนา ขอพิพากษาลงนรกภูเขาดาบ!”
จากนั้นเขาก็ได้สติแล้ว
“นี่มันที่ไหน?” เหลียงเฉิงหู่มองภาพตรงหน้าอย่างตื่นกลัว! เส้นทางข้างหน้ารวมขึ้นมาจากดาบ ที่น่ากลัวกว่านั้นคือมีภูเขาสูงที่ก่อขึ้นจากดาบลูกหนึ่งอยู่ไกลๆ สูงเสียดเมฆมองจนไม่เห็นยอดเขา!
วินาทีนั้น เขานึกถึงตำนานเก่าแก่เรื่องหนึ่ง งึมงำว่า “นรกสิบแปดขุม นรกภูเขาดาบ?”
เพียะ!
เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ขณะเดียวกันเหล่าเหลียงรู้สึกว่ากระดูกสันหลังถูกฟาดจวนจะระเบิด! เขาอดไม่ไหวร้องเสียงดัง เดินหน้าไปหนึ่งก้าวตามจิตใต้สำนึก ผลคือเหยียบลงบนคมดาบ ตอนนี้เองเขาถึงได้รับรู้ความคมของทางเส้นนี้แล้ว พริบตานั้นฝ่าเท้าถูกเฉือนออก เจ็บจนน้ำตาไหลลงมาเป็นสาย ร่างล้มลงไปโดยควบคุมไม่ได้ เหลียงเฉิงหู่ใช้สองมือยันไว้ตามสัญชาตญาณ แต่ก็เกิดเสียงดังที่สองมือ นิ้วมือถูกดาบตัดขาด ฝ่ามือถูกเฉือน…
“อ๊ากๆ…”
เหลียงเฉิงหู่กลิ้งไปบนพื้นพลางร้องโหยหวน พอกลิ้งตัวผิวหนังก็ถูกดาบบาดเชือด กลายเป็นมนุษย์เลือดทันใด! นี่เจ็บเสียยิ่งกว่า จึงอดพลิกตัวต่อไม่ได้ เลือดเนื้อจึงสาดกระจาย ไม่นานคนเป็นๆ ก็ถูกหั่นเหลือเพียงกระดูก กระดูกแตกหักกลายเป็นเศษซากเนื้อบนพื้น แต่เหลียงเฉิงหู่พบว่าเขายังคงสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด รวดร้าวแทบขาดใจ! ลิ้นถูกตัดขาดแล้วก็ยังเจ็บ! ประหนึ่งว่าไม่มีวันหลุดพ้นจากความเจ็บปวดนี้ไปชั่วชีวิต แม้ร่างจะแหลกลาญก็ตาม!
ตอนนี้เอง ภูตผีน้อยตนหนึ่งถือแส้มา แส้บินออกมาม้วนเศษเนื้อทั้งหมดกลับ ก่อนที่แส้จะสั่นไหว เหลียงเฉิงหู่ถูกโยนลงไปตรงจุดก่อนหน้านี้ ร่างกายรวมขึ้นใหม่อีกครั้ง เขาตกใจระคนดีใจ พบว่าร่างเขากลับมาครบสมบูรณ์อีกครั้ง! เพียงแค่อ่อนแรงกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย
ขณะมองนรกภูเขาดาบตรงหน้า เหลียงเฉิงหู่หมุนตัวกลับคิดจะหนี แต่เพิ่งหันกายก็เห็นผีร้ายสูงห้าเมตรยืนอยู่ข้างหลัง กำลังแสยะปาก กล่าวด้วยยิ้มเยาะ “เข้านรกภูเขาดาบแล้ว ถ้าไม่ถึงยอดเขาดาบ ชั่วชีวิตนี้ก็อยากคิดออกไปจากที่นี่! จะไสหัวกลับไปหรือให้ข้าโยนเจ้าเข้าไป!”
“ได้โปรด…” วินาทีนี้เหลียงเฉิงหู่ไม่กล้ามองตนเป็นพยัคฆ์อีกแล้ว ไม่มีความเหี้ยมโหดต่อกระต่าย แม่กวาง และฟางเจิ้งเหมือนก่อนหน้านี้อีก เหลือเพียงการอ้อนวอน ความเจ็บปวดเมื่อครู่ปวดร้าวจนถึงส่วนลึกวิญญาณ เขาเจ็บจริงๆ
“ไสหัวไป!” ผีร้ายร่างยักษ์ยกเท้าถีบ เหลียงเฉิงหู่ร้องโหยหวนกระเด็นออกไป เดิมทีคิดว่าจะบินไปไกลมาก แต่เมื่อมาถึงจุดที่มีดาบ ตัวเขากลับเหมือนเสียความเฉื่อย ตกลงมาข้างล่าง คมดาบแทงเข้าเนื้อ เจ็บปวดลึกถึงกระดูก!
“อ๊าก!” เหลียงเฉิงหู่กรีดร้อง พอทนไม่ไหวกลิ้งตัวอีกครั้ง ก็ได้สัมผัสความเจ็บปวดดั่งแล่เนื้อเอาเกลือทา เลือดเนื้อสาดกระจาย กระดูกแหลกคนสิ้นชีพอีกรอบ
ยังคงเป็นภูตผีน้อยตนนั้นที่ใช้แส้เก็บเศษเนื้อเศษกระดูกเขากลับมา โยนลงบนพื้น เหลียงเฉิงหู่รวมร่างขึ้นใหม่อีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้นัยน์ตาเขาไม่มีความตกใจระคนดีใจเหมือนตอนรวมร่างครั้งแรก แต่เป็นความหวาดกลัวไม่มีสิ้นสุด! การคืนชีพอันไร้ที่สิ้นสุดหมายถึงการทรมานไม่มีจบสิ้น! และทุกครั้งที่คืนชีพจะเสียพละกำลังไปส่วนหนึ่ง พูดได้ว่าถ้าคืนชีพต่อไป ก็ไม่มีทางที่เขาจะเดินไปถึงยอดเขาได้!
ทว่าทอดสายตาไปไกลลิบ ภูเขาดาบนั่นกลับอยู่สุดฟ้า ดูเหมือนไม่ไกล แต่เป็นดั่งภาษิตจีนว่ามองภูเขาม้าวิ่งจนตาย! ไม่รู้ว่าเส้นทางหมื่นดาบที่จะเดินไปถึงภูเขาดาบไกลเท่าไร แล้วจะให้ขึ้นยอดเขา? เป็นไปได้หรือ?
“เจ้ามีเวลาพักสามวินาที ถ้าไม่เดิน ข้าจะส่งเจ้าเอง” ผีร้ายตนยักษ์ข้างหลังกล่าว
เหลียงเฉิงหู่ตกใจสะดุ้ง ถ้าถูกเตะอีกก็อาจมีแผลดาบทั่วร่างทันที และจะอดทนไม่ไหว เศษเนื้อกองเต็มพื้น! เขาต้องลดความเจ็บปวดลง ต้องฝืนไม่ให้ล้ม ต่อให้ล้มก็กลิ้งมั่วซั่วไม่ได้ และจะต้องคิดหาวิธีเดินหน้าไป!
คิดถึงตรงนี้ เหลียงเฉิงหู่กัดฟันเดินไปหนึ่งก้าว ในเมื่อไม่มีทางถอยแล้ว เขาก็ได้แต่เดินหน้าไป
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวออกไปเอง เมื่อเดินก้าวนี้ มีความทรงจำช่วงหนึ่งแล่นผ่านในความคิด นั่นคือตอนที่เขายังเป็นเด็กหนุ่ม ขโมยไก่หมู่บ้านข้างๆ มา ก่อนใช้ไม้ตีไก่จนตาย! ตอนนั้นเขาใช้ไม้คาน อาศัยจังหวะที่แม่ไก่นอนหมอบอยู่ในโพรงใช้ไม้ตีมันตายคาพื้น ลูกเจี๊ยบหลายตัวในโพรงถูกตีตายไปสองตัว ตัวหนึ่งถูกตีขาหัก ที่เหลืออีกสองตัวไม่ได้หนี แต่ล้อมรอบแม่ไก่ร้องอะไรไม่รู้ เหมือนกำลังเรียกให้แม่พวกมันลุกขึ้นมา และเหมือนว่ากำลังร้องทุกข์ความโหดเหี้ยมของเหลียงเฉิงหู่
แต่เหลียงเฉิงหู่ไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้น เขาใช้ไม้ตีลูกเจี๊ยบสองตัวจนตาย ก่อนวิ่งไปจุดกองไฟในป่านอกหมู่บ้านย่างไก่กิน
ภาพนี้วูบผ่านไป เหลียงเฉิงหู่รู้สึกเจ็บปวดที่ใต้เท้าถึงได้สติกลับมา เขากัดฟัน ไม่ล้มลง แต่ยกเท้าเดินอีกหนึ่งก้าว
มีอีกภาพปรากฏในความคิด เหลียงเฉิงหู่กับเด็กๆ หลายคนวางยาสุนัขที่คนตาบอดหลี่ในหมู่บ้านใช้นำทางจนตาย จากนั้นเอามาตุ๋นกิน คนตาบอดหลี่ที่ไม่มีลูกชายลูกสาว พอไม่มีสุนัขอยู่เป็นเพื่อนแล้ว สามวันต่อมาเขาก็ผูกคอตาย