THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน - ตอนที่ 14 จงสวามิภักดิ์ต่อข้า
” เหล่านักผจญภัยทุกท่าน ข้าคือ ซีซาร์ กิลด์มาเตอร์เเห่งเมืองเฮสเทีย ในตอนนี้ได้จะมีคลื่นระลอกของปีศาจได้โพล่ออกมา ในค่ำคืนนี้จะมีการบุกรุกของปีศาจ ขอให้ทุกท่านมารวมกลุ่มประจำการตามทิศต่างๆของเมือง ”
” คลื่นของปีศาจมันมาไวมาก เสียงของกิลด์มาสเตอร์ที่ดูกังวลเพราะที่คลื่นที่มาในครั้งนี้นั้นมันรุนเเรงกว่าครั้งไหนๆปีศาจระดับกลางจะออกมา จากรอยเเยก ”
” เหล่ามนุษย์นั้นไม่สามารถโต้กลับได้เลย เพราะทวีปของมนุษย์เเละปีศาจนั้นไม่สามารถข้ามผ่านได้เนื่องจากกำเเพงสีเลือดที่สูงเสียดฟ้านั่น ที่ได้เกิดขึ้นเมื่อ 600 ปีที่เเล้ว มนุษย์จึงไม่สามารถบุกหรือเข้าสู่ทวีปของปีศาจได้เลย เเต่ว่ามีเพียงเเค่เหล่าเเรงค์เกอร์ชั้นสูง ที่สามารถก้าวผ่านบททดสอบเเละสามารถไปยังทวีปปีศาจได้ “
” กิลด์มาสเตอร์นั้นกระอึกน้ำลายออกมา “
หลังสิ้นเสียงคำประกาศชาวบ้านภายในเมืองต่างพากันกลัวเเละรู้สึกขวัญเสียสีหน้าที่ดูสิ้นหวังเเละไม่มีทางหนี
ท้องฟ้าในช่วงบ่ายใกล้เย็นได้กลายเป็นสีเลือดในทันที เมฆที่มืดครึ้มเเละบรรยากาศที่น่ากลัว
” ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเลือด ” เรย์ได้พูดพร้อมกับเเหงนหน้ามองบนฟ้า
ค่ำคืนที่น่ากลัวในคืนนั้นยังตามหลอกหลอนเรย์อยู่เสมอคืนเเห่งความโกลาหลทุกคนต่างถูกสังหารเเละถูกจับกินโดยไร้ความปรานีเหล่าปีศาจชาวบ้านที่ไร้ทางสู้ต่างถูกบดขยี้เเละถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆในคืนนั้นเขาได้วิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะความอ่อนเเอของตนเอง เขาวิ่งเอาไปด้วยความสิ้นหวัง เสียงกรีดร้องที่กรูเข้ามาจากทุกทิศทาง ช่วยข้าด้วย! ข้าไม่อยากตาย! เสียงของเหล่าชาวบ้านทั้งหลายที่ถูกฆ่า อวัยวะภายในเลือดได้ซาดกระเซ็นเเละไหลท่วมสถานที่เเห่งนั้นจนเป็นสีเลือด สลัมถูกเผาผู้คนล้มตาย เสียงต่างๆยังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา
” เป็นความรู้สึกที่สะเอียดสะเอียน ” เรย์ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
” ราเฟียเจ้ากลับไปยังที่พักก่อน เเละอย่าออกมา ข้ามีบางที่ ที่ข้าต้องไปในตอนนี้ ” เรย์นั้นได้รู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่บ้านของช่างตีเหล็ก
” อื้อ! ” เธอพยักหน้าด้วยความเข้าใจเเละวิ่งกลับไปยังที่พักในทันที
หลังจากสิ้นเสียงเเล้วเรย์ก็ได้ตรงไปยังบ้านของบ้านช่างตีเหล็ก
” พึ่บบ “
” ดูเหมือนเจ้าจะไม่มีมารยาทในการเปิดประตูนะ ” เสียงของชายหนุ่มได้พูดขึ้น
” ตอนนี้ชุดเกราะเเละอาวุธของเจ้านั้นเสร็จเเล้วล่ะ ” เขาได้หันไปมองทางขวา ชุดเกราะสีดำทมิฬที่เป็นเกล็ดของเดรก เเละ กริชคู่ของเขาฮารามิส ที่ได้ซ่อมเเซมเเล้ว ใบมีดนั้นดูเฉียบคมเป็นอย่างมาก
ออร่าสีดำมืดของชุดเกราะทมิฬนั้นได้ปลดปล่อยออกมา
” นั่นคือตัวตนของพวกมันความดุร้ายความบ้าคลั่งได้เเผ่กระจายออกมา “
” เจ้าต้อง.. ” ชายคนนั้นพูดยังไม่ทันขาดคำ เรย์สัมผัสไปยังชุดเกราะชุดนั้นเเละกริชทั้งคู่ของเขา
ภายในจิตใต้สำนึกของเขา
เรย์นั้นได้อยู่ในถ้ำเเห่งหนึ่ง ในตอนนี้เขายืนอยู่ท่ามกลางกองซากศพที่เรียงรายทั่วบริเวณกองเลือดท่วมเต็มพื้นเเห่งหนึ่ง เขาได้มองไปข้างหน้าของเขา เดรกทมิฬ ปรากฏออกมาตรงหน้าของเขาในตอนนี้ตัวของมันนั้นโตเต็มวัยเเละไม่เหมือนกับเดรกเลยสักนิดมันเหมือนกับมังกรที่โตเต็มตัว ลำตัวที่เต็มไปด้วยเกล็ดเเละปีกทั้งสองที่ใหญ่มหาศาล ดวงตาสีเเดงฉาน
” ได้เจอกันซักทีนะเจ้ามนุษย์ ” เดรกทมิฬได้พูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธเเค้นเขาเป็นอย่างมาก
มันรู้สึกบ้าคลั่งเเละรู้สึกหิวกระหาย เเละความโกรธเเค้นที่มีต่อเรย์เป็นอย่างมาก
” ตายซะ ! เจ้ามนุษย์ “
” ดูเหมือนเจ้าอยากจะฆ่าข้ามากเลยนะ “
“ อาราเชีย! “ ผมสีเงินของเขาได้สว่างไสวออกมาเเละนัยน์ตาที่เปลี่ยนเป็นมังกร พละกำลังเเละความไวประสาทสัมผัสของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
“ เเสงเเห่งอาราเชียจังเป็นอาวุธให้กับข้า ! “
“ พึ่มมมม! “
เสียงของเรย์ที่พุ่งออกไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง เรย์ได้กระโดดหลบการโจมตีด้วยหางของมัน
“ ฉีกเฉือนสังหาร! “ เรย์ได้พุ่งหมุนตัวไปมาด้วยความเร็วสูงภายในเสี้ยววิมอนเตอร์หรือนั้นถูกกริชของเรย์ฉีกเฉือนเข้าไปยังร่องเกล็ดของมันด้วยความเเม่นยำ
“ โฮรกก!!ไอ้เจ้ามนุษย์จอมอวดดี ! “
“ คมดาบเเห่งเเสง!! “
“ พั้มมม!! พั้มมม!! พั้มมม!! พั้มมม!! พั้มมม!! “
คมดาบสีขาวจำนวนอันมหาศาลได้พุ่งออกไปเฉียดเฉือนคอที่เป็นจุดอ่อนของมันด้วยความเฉียบคม
“ เจ้ามันก็เเค่คนจองหอง “
“ บึ้มมมมม!! “
หลังจากสิ้นเสียงของเดรก มันได้ปลดปล่อยไฟเเห่งความมืดออกมาทั่วบริเวณ ภายในพริบตาบริเวณนั้นเกิด ไฟสีทมิฬลุกท่วมเเละไม่มีท่าจะดับลง
“ ชั่วพริบตา “
เขาได้วาปไปอย่างรวดเร็วที่ด้านใต้คอของเดรกทมิฬ
“ ตั้มมมมมม!! “ เขาได้เตะเสยคางเดรกตัวนั้นขึ้นอย่างรุนเเรงเพื่อให้มันเสียจังหวะ การจะเเทงให้เข้านั้นคงยากเพราะเกล็ดของมันนั้นเเข็งมาก
“ บึ้มมม!! “ เรย์นั้นก็ถูกหางของมันที่ได้ฟาดออกไปอย่างรุนแรง
” ตู้มมมม!! ” เรย์ถูกเเรงของหางฟาดจนกระเเทกเข้ากับกำเเพงถ้ำจนเป็นรู
“ อั่กก! “ เรย์กระอักเลือกออกมาเล็กน้อย
สถานการณ์ในข้างนอกตอนนี้กิลด์ทั้งสี่ของเมือง เฮสเทียได้ประจำจุดทั้ง สี่ทิศของเมือง เเละเเต่ละทิศจะมีการผสมกันของเหล่า นักเวทย์ นักรบ อาเชอร์ เเละ อัศวิน ผสมกันไป
ทิศเหนือ กิลด์เรเวส กิลด์จอมเวทย์ เเละ เหล่านักเวทย์
ทิศตะวันตก กิลด์เฮเมียส กิลด์นักรบเเละนักฆ่า
ทิศใต้ กิลด์นีฟ กิลด์ของอาเชอร์เเละเหล่าฮีลเลอร์
ทิศตะวันออก กิลด์ไรเเวน กิลด์ของเเทงค์เเละอัศวิน
จากบริเวณไกลของเเต่ละทิศที่ไกลออกไป ได้มีเคลื่อนหมอกสีดำได้เคลื่อนเข้ามาทั่วทิศทาง
{ ตัดกลับมาที่เรย์ }
เขาได้ขยับตัวออกมาจากรูบนกำเเพง เลือดได้ไหลออกมาจากศีรษะของเขา
” เจ้าทำข้าอารมณ์เสีย ” เรย์ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เลือดเย็นเเละเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“ พรึ่บบบบบ! “
หลังจากสิ้นสุดเสียงเรย์รวมพลังกำลังของขาเเละก็ได้วิ่งออกไปข้างหน้าพร้อมกับหลบไฟทมิฬที่ได้พ้นออกมาอย่างรวดเร็ว
“ ปั้ม!! ปั้ม!! ปั้มม!! ปั้มม!! ปั้มม!! “
เขาได้ใช้กำปั้นซัดไปยังหน้าของเดรกอย่างเต็มเเรงในทุกหมัดหน้าของมังกรนั้นเต็มไปด้วยรอยหมัดของเรย์
” กัดปากของเจ้าให้ดีนะ ” เรย์พูดพร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อขาง้างขาออกไปข้างหลังจนสุดเเล้วไปข้างหมุนตัวฟาดเท้าลงไปยังคอของมันอย่างรุนเเรง
” ตั้มมมมมมม!! ”
“ ครึ่มมม “
เสียงของเดรกที่ได้ล้มลง เกิดเป็นหลุมของเเรงกระเเทก ในจังหวะที่เดรกล้มลงนั้นเขาได้เรียก อาวุธของเขาออกมา
“ จงเฉียบคม “
“ เดมิชั่นสเเลช!! “ กริชทั้งสองส่องสว่างออกมาด้วยออร่าของพลังดวงดาว เรย์ฟาดฟันกริชทั้งคู่ของเขาออกไปข้างหน้าเป็นเเนวตรงอย่างเฉียบคมเเละรุนเเรง
“ โฮรกกกก !! “ เดรกทมิฬกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด มันถูกเฉือนบริเวณคอของมัน จนเกิดเป็นแผลฉกรรจ์ มันล้มลงเเละเเทบสิ้นลมหายใจ
” การปะทะของมังกรเเห่งเเสงเเละมังกรทมิฬ “
ในตอนนี้นั้นเสียงหายใจของเดรกนั้นใกล้หมดลมหายใจ
“ เจ้าจะยอมสวามิภักดิ์ต่อข้าเเต่โดยดีหรือเจ้าจะหายไปตลอดกาล “ ดวงตาสีฟ้าเเละนัยน์ตามังกรของเขาได้เเผ่เเรงกดดันมหาศาลออกมา
” ข้าน้อมรับ นายท่านของข้า “
เดรกทมิฬได้ก้มหัวเเละนอบน้อมต่อหน้าของเขา
“ เรย์ได้ยื่นมือออกไปข้างหน้า “
“ เดรเมทิส นั่นคือนามของเจ้า “
ทันใดนั้น เดรเมทิสก็ได้กลายเป็นก้อนพลังงานสีดำมืดขนาดใหญ่เเละเข้ามาอยู่ในจิตใจของเขา
เรย์ได้ลืมตาขึ้นมา
“ เหมือนจะเป็นไปด้วยดีใช่มั้ย “ เสียงของช่างตีเหล็กได้พูดกับเขา
“ ก็ใช่เเหละนะ “
“ เดรเมทิส “
หลังจากที่เรย์กล่าวออกไป พลังดำมืดได้เเผ่ออกมาเเละกลายเป็นชุดคลุมตัวของเขา ชุดเกราะเเละผ้าคุมสีดำทมิฬ
“ อัศวินทมิฬ ในยามที่ข้าสวมชุดนี้นั้นคือตัวตนของข้า “
นั้นคือนามที่เหมาสมที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้เเล้ว ชุดเกราะสุดดำทมิฬที่
เรย์ได้เดินไปเเละหยิบ กริชทั้งคู่ของเขาก็ได้มาอยู่ในมือของเขา คมดาบที่เฉียบคมใบสวยงาม เเละได้อักษรบางอย่างที่ได้สลักขึ้นมา
” นี่มันคืออักษรอะไร “
” ชื่อของมันที่เจ้าตั้งให้ยังไงล่ะ ”
“ ฮารามิส “
สิ้นสุดคำพูดกริชทั้งสองได้ปรากฎขึ้นยังมือของเขา
” นั่นคือพลังของ ฮารามิส “
” พลังเเห่งการเคลื่อนย้ายเเละความเฉียบคมของคมดาบ ” ช่างตีเหล็กได้กล่าว
” เหล่าอาวุธยุทธภัณฑ์นั้นต่างมีความเเข็งเเกร่งของตัวมันเอง เจ้าจงเข้าใจเรียนรู้เเละพัฒนามันซะเรย์ “
” ข้าขอทราบชื่อของท่านได้หรือไม่ “
ในเวลาที่เรย์มานี่นั่นเขาไม่เคยถามชื่อของเขาเลยสักนิด
” เมอซิดัส เฮมเบรคเกอร์ นั่นคือนามของข้า ”
” เรื่องเงินเจ้าไว้ค่อยจ่ายค่า ” ไว้เราเจอกันอีกครั้งเรย์
จู่ๆก็เกิดเเสงสว่างขึ้นมาตรงหน้าของเขาเเละเรย์ก็ถูกบางอย่างดึงออกไป
” อะไรกัน.. ” เรย์ได้ลืมตามองอีกครั้งเเละพบว่าร้านตีเหล็กเเห่งนั้นหายไปเเล้ว กลายเป็นเพียงบ้านเก่าๆหลังหนึ่งเท่านั้นเรย์ได้สงสัยเป็นอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้นเเละตัวตนของ เมอซิดัส เฮมเบรคเกอร์ นั้นคือใครกันเเน่
หลังจากที่เรย์คิดได้ไม่นาน ทันใดนั้น
ฝนสีเลือดได้สาดลงมาท้องฟ้ากลายเป็นสีเเดงเเละกลิ่นของความตายได้โชยมา
” เดรมิทิส ”
ทันใดนั้นตัวเขาก็ปกคลุมไปด้วยความมืดเเละความมืดนั้นได้รวมกับตัวของเขากลายเป็น อัศวินทมิฬ
” เร่งความเร็ว ” เขาได้พุ่งตรงไปยังจุดบริเวณของการเตรียมปะทะในทันที
” พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ ”
เขาได้ขึ้นมายังข้างบนกำเเพงของ ทางทิศเหนือ ตอนนี้เหล่าปีศาจนับพันได้กรูเข้ามาอย่างมรสุม ร่างกายที่น่าเกลียดน่ากลัวเต็มไปหมดเหล่าปีศาจบริวาร นับพันเเละข้างหลังนั้นมีปีศาจระดับต่ำอีกนับร้อยตัว
เรย์ที่กำลังยืนอยู่บนกำเเพงที่สูงชัน ผ้าคลุมสีดำทมิฬที่โบกสะบัดเเละชุดเกราะทมิฬที่น่าเกรงขาม มองผ่านหมวกสีดำทมิฬเข้าไปข้างในกับพบว่าสายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยการเห็นอดีตที่มีเเต่การฆ่าฟันที่ไม่จบสิ้น สายตาที่อาลัยอาวรณ์กับบางสิ่ง
” หืมนั่นพวกนั้นคือใครกัน ” ข้างล่างบริเวณเเถวของกำเเพงมีเหล่าเหล่าอาเชอร์ได้เตรียมการยิงหาฝนธนูครั้งใหญ่
” เหล่าอาเชอร์ทุกคนยิง!! ” เเต่ทันใดนั้น
” บึ้มมมม !” ได้มีปีศาจชั้นต่ำตนหนึ่งกระโดดขึ้นมา ฝุ่นได้คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ไม่กี่วินาทีที่ฝุ่นหายไป ก็ได้เห็นหน้าของปีศาจตนหนึ่งที่ตัวใหญ่รูปร่างพิการเเละมี 2 หัวเลือดได้ไหลท่วมตัวของมันตลอดถึงพื้น เเละมือที่เป็นหินขนาดใหญ่
” อ้อกกก ”
” ควับบบ!! ”
ภายในไม่กี่วินาทีที่มันร้องออกมาท้องของมันได้กลายเป็นฟันขนาดใหญ่ที่ข้างในมีเเต่อวัยวะที่เน่าเหม็นเเละสะอิดสะเอียนมันได้กัดร่างของนักเวทย์คนหนึ่งจนขาดเป็น 2 ท่อนเลือดได้พุ่งกระจายออกมา
” พายุน้ำเเข็งเหมันต์ !”
” ซู่มมมมม!! ”
พื้นที่ข้างบนกลายเป็นน้ำเเข็งโดยทันที ข้า คอลลิน่า เวเมียส จอมเวทย์เเห่งกิลด์เรเวส ผู้ใช้เวทย์น้ำเเข็ง
” โฮกกกก! “
ปีศาจตนนั้นทำลายน้ำเเข็งออกมาจากน้ำเเข็งได้สำเร็จเเละได้พุ่งกระโจนออกมาด้วยความบ้าคลั่ง
“….!!! “
ปีศาจได้พุ่งกระโจนออกมาเเล้วเหวี่ยงเเขนไปข้างหน้าอย่างรุนเเรงใส่เธอเเต่จู่ๆก็มีบางสิ่งพุ่งลงมา..