THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน - ตอนที่ 15 อัศวินทมิฬปรากฏ
“ บึ้มมมม!! “
“ โคร้มม! “
จู่ๆ ก็มีเสียงเหมือนมีบางอย่างตกลงจากท้องฟ้าอย่างรุนเเรง เเละได้กระทืบลงใส่มือของปีศาจตนนั้นจนเเหลกละเอียดเศษฝุ่นของพื้นที่เเตกออกอย่างรุนเเรงได้ฟุ้งกระจายไปทั่ว
” อะไรตกลงมา อั้ค อั้ค! ” เสียงของใครคนหนึ่งได้พูดออกมาพร้อมกับสำลักฝุ่นออกมา
เเต่จู่ๆ นั้นได้ปรากฎภาพที่ดูเลือนลางจากฝุ่นที่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณเเละฝุ่นนั้นค่อยๆ จางหายไปเรื่อยๆ เเละได้เห็นภาพของใครบางคนค่อยๆ ชัดขึ้นเรื่อยๆ ของจนมองเห็นอัศวินเกราะทมิฬคนหนึ่งที่ได้เหยียบเเขนของปีศาจจนขาด
“ ว้าคคค!! “
เสียงของปีศาจ 2 หัวนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มันรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากมันกวัดเเกว่งเเขนที่ใหญ่โตอีกข้างของมันอย่างรุนเเรงเพื่อบดขยี้ศตรูที่อยู่ข้างหน้ามันให้เเหลกละเอียด
“ พึ่มมมม “
“ ฉึบบบ! “
เเขนที่เหวี่ยงเข้ามานั่นถูกกริชทั้งสองตัดออกจนเป็นชิ้นๆ ในเสี้ยววินาที
“ ว้ากกก! “
“…!!! “
“ งั่มมมมม “
ในทันทีที่เขาไม่ได้ตั้งตัวนั้น ปีศาจ2หัวก็ได้เเหวกท้องที่น่าสะอิดสะเอียนออกมา ฟันเเหลมคมของมันที่มากมายเต็มไปหมด มันได้อ้าปากของมันจนสุดเเละกัดอย่างรุนเเรงไปยังเเขนของเรย์
“ ตั้มมม! “
“ ฟู่วเกือบไปเเล้วมั้ยล่ะ “ เขาได้ดึงมือออกมาอย่างรวดเร็วเเละหมุนตัวเเล้วง้างเท้าหลังเเละฟาดลงไปยังหน้าของมัน
“ โคร้มม!! “
การปรากฎตัวของอัศวินปริศนา นั้นทำให้เหล่าสมาชิกกิลด์นั้นดวงตาเบิกกว้างด้วยความรู้สึกอึ้งเเละงงกันไปตามๆ กัน
“ อัศวินทมิฬ “
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นกล่าวพร้อมกันออกมา
“ เขาเป็นใครกันจู่ๆ ก็โพล่ออกมาในช่วงเวลานี้
“ ร่างกายที่เป็นชุดเกราะทมิฬที่ดูปราดเปรียวเเละมีผ้าคลุมสีดำที่ปลิวไสว “
“ เขาซัดปีศาจตัวนั้นซะน่วมเลย “
“ เราจะอยู่เฉยๆ ไม่ได้เเล้ว “
“ ทุกคน! เล็งธนูพร้อมกับร่ายเวทย์เเละโฟกัสไปยังจุดที่มีเหล่าปีศาจนับพันที่ได้เคลื่อนตัวมา ! “
“ เหล่าอาเชอร์นับร้อยบนกำแพง รวบรวมพลังเวทย์ไว้ในศรธนู “
“ วินด์ เเอโร่ !! “
เหล่าอาเชอร์ทั้งหลายได้ร่ายเวทย์พร้อมกันเเสงสีเขียวของพลังเวทย์เจิดจ้า
“ ยิงง!!! “
“ ฟึ่ม ฟึ่ม ฟึ่ม ฟึ่ม “
เสียงของธนูนับร้อยที่พุ่งทะยานออกไปด้วยควารวดเร็วดุจสายลม
“ พั่ม พั่ม พั่ม พั่ม พั่ม ! “
เสียงของลูกธนูที่ได้พุ่งไปด้วยความรวดเร็วเเละรุนเเรงลงที่ผืนเเผืนดินจนเกิดเเรงสะท้านที่รุนเเรงของเหล่าลูกธนูนับร้อย
“ อ้ากกก! “
เหล่าปีศาจที่ได้เคลื่อนพลขึ้นมานั้นได้เเตกออกกระจายออกไปคนละทิศคนละทางเหล่าปีศาจนับร้อยได้ตายจากการถูกศรธนูที่มีเเรงทำลายล้างมหาศาลที่ยิงลงมา
“ เฮเชล์ เจ้าไปช่วยทางด้านของ กิลด์ทางด้านทิศตะวันตกก่อนเลย ข้าจะอยู่ที่นี่เอง “ เสียงของนักเวทย์สาวได้พูดขึ้นมา
“ มรสุมคลื่นหิมะ ! “
“ พรึ่บบ! “
พื้นที่บริเวณรอบได้เกิดพายุหิมะขนาดใหญ่โหมกระหน่ำปีศาจ 2 หัว ตัวมันถูกเเช่เเข็งด้วยพลังของน้ำเเข็งไปทั้งตัวภายในไม่กี่วินาที
“ ข้าจะช่วยเจ้าเอง “
“ เเค่ข้าคนเดียวก็เกินพอ “
“ ชั่วพริบตา “
“ คมดาบทมิฬ “ เขาได้ปลดปล่อยพลังเเห่งคมดาบของฮารามิสออกมาใบมีดได้เคลือบไปด้วยพลังสีดำที่คมกริบ
“ ฉั่วะะะ!! “
“ บั้บ บั้บ บั้บ .. “
ภายในช่วงเสี้ยววินาที ตัวเเละหัวของปีศาจได้ขาดออกจากกัน เศษเนื้อเเละอวัยวะต่างๆ ตกลงมาเป็นเศษชื้นเนื้อ
“ อึกก “
“ เขามันบ้าไป “
หญิงสาวได้อึ้งไปขั่วขณะ เขานั้นห้ำหั่นเเละบดขยี้มันได้โดยง่ายดายเหมือนลูกไก่ในกำมือ
“ เเต่จู่ๆ เรย์ก็รู้สึกถึงความบ้าคลั่งที่อยู่ข้างในตัวเขาความอยากกระหายในการฆ่าฟันและต้องการบดขยี้ให้สิ้นซาก “
“ เจ้าอยากจะกลืนกินพวกมันงั้นหรอ “ ในตอนนี้เขารู้สึกว่าเดรกในตัวเขานั้นรู้สึกบ้าคลั่งเเละหิวกระหายในเลือดเนื้อเป็นอย่างมาก
เขาได้ยื่นมือออกไปข้างหน้า
“ จงกลืนกิน “
หลังสิ้นสุดเสียง ก็มีภาพของเดรกทมิฬขนาดใหญ่ที่เขมือบเศษซากของปีศาจตรงนั้นทั้งตัวเเละเศษซากของอวัยวะต่างๆ ที่ถูกฟันจะเป็นชิ้นๆ
“…!! “
“ นั่นมันตัวอะไรหนะ… “
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ รูปของเดรกทมิฬได้ปรากฏตัวขึ้นมามันได้กัดเข้าไปที่ร่างกายเเละเศษซากที่ตายมันเคี้ยวเศษอวัยวะต่างๆ พร้อมกับเขมือบปีศาจตัวนั้นเข้าไปอย่างน่ากลัว
ทันใดทีมันเขมือมซากศพของปีศาจเสร็จเเล้วนั้นเดรกตัวนั้นก็กลับเข้าสู่ร่างกายของอัศวินทมิฬ
” ความรู้สึกอยากกระหายในการฆ่าฟัน “
ในตอนนี้เรย์นั้นได้หิวกระหายเป็นอย่างมากเขาเสียงของเดรกในตัวเขามันกรีดร้องออกมาด้วยความบ้าคลั่ง เขาได้ควบคุมสติของตนเองเเละ ได้มองไปยังด้านข้างหน้าของเขา
” นั่นมัน “
เขาได้มองไปยังสุดสายตาของคลื่นมรสุมของปีศาจขนาดใหญ่ที่ได้เคลื่อนตัวเข้ามา มีปีศาจตนหนึ่งที่มีออร่าของความเเข็งเเกร่งปลดปล่อยออกมาอยู่ข้างหลังสุดของมรสุม เเม้จะเป็นปีศาจระดับต่ำเเต่มันก็ดูมีลักษณะที่ดูเเข็งเเกร่งเป็นอย่างมากพวกมันได้เคลื่อนที่เข้ามาเรื่อยๆ
“ ฟึ่มมม “
เขาได้กระโดดขึ้นเเละพุ่งกระโจนลงไปยังข้างล่าง ในตอนนี้นั้นเขามองไปยังข้างหน้า เหล่ามรสุมปีศาจที่มากมายมหาศาล ที่ได้เคลื่อนที่มายังจุดนี้ เสียงของพวกมันที่หิวกระหายนั้นดังออกมาจากจุดไกลเสียงของพวกมันที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งเเละความอยากกระหาย ดวงจันทร์และท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีเลือด
” เอาล่ะ “
เรย์พูดพร้อมกับตั้งท่าที่จะพุ่งออกไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง
“พรึ่บบบบ “
“ โคร่มมม!! “
ปีศาจตนหนึ่งที่ได้ถูกมือของเรย์จับหน้าเเล้วทุ่มลงพื้นด้วยเเรงมหาศาลหัวของมันได้ถูกบดละเอียดภายในเพียงเเค่ครั้งเดียวเรย์ในตอนนี้นั้นเเข็งเเกร่งเป็นอย่างมาก
” มา “
เรย์ได้มองไปข้างหน้าเหล่าปีศาจที่ได้เคลื่อนที่มาอีกเรื่อยๆ อยากไม่หยุดหยอนเสียงของฝีเท้าเเละเสียงร้องหวยโหนของเหล่าทาสบริวารปีศาจที่คลุ้มคลั่ง
“ คมดาบทมิฬ “
“ ฉั่วะ ฉั่วะ ฉั่ว “
เหล่าปีศาจนับสิบถูกคมดาบสีดำที่ได้พุ่งออกไปจนร่างกายแยกเป็น2ส่วนเลือดได้กระจายเต็มพื้น
“ จงกลืนกิน “
เขาฆ่าไปพร้อมกับกลืนกินเหล่าปีศาจในตอนนี้นั้นเขารู้สึกบ้าคลั่งเเละอยากบดขยี้พวกมันให้หมดเลยทีเดียว
“ เร่งความเร็ว “
“ จงเฉียบคม คารามิส “
เขาร่ายเวทย์บัพการเคลื่อนไหวเเละอาวุธพร้อมกันในคราวเดียว
“ ฟิ้วว “
“ ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก “
เรย์ได้วิ่งเข้าไปในกองมรสุมของทาสบริวารปีศาจเเละฟาดฟันคมดาบทั้งสองอย่างบ้าคลั่งร่างของปีศาจถูกตัดกันด้วยคมดาบทั้งสองที่เฉียบคม
“ เลือดของเหล่ามอนเตอร์ได้พุ่งกระจายออกเป็นห่าฝนที่ได้ตกลงมาเกราะทมิฬที่เต็มไปด้วยเลือด
“ อึกก “
เหล่าสมาชิกกิลด์เเละนักเวทย์คนนั้นทำอะไรไม่ถูกภายไม่เเค่เวลาไม่กี่นาทีคลื่นใรสุมของปีศาจก็ถูกบดขยี้โดยชายคนนั้น
“ บึ้มม “
“…!!!! “ เสียงของเมืองทางทิศใต้ที่ถูกพังทลายเข้ามา
“ เรกริดด!! “ เหล่ากิลด์ทางทิศใต้นั้นกันการโจมตีของพวกทาสบริวารเเละเหล่าปีศาจไว้ไม่ไหว
“ เหล่าอาเชอร์ทุกคนไปรวมกลุ่มกันทางทิศใต้ “
เธอได้พูดพร้อมกับมองไปที่อัศวินทมิฬเเต่เขานั้นได้พยักหน้าให้เธอบ่งบอกว่าตรงนี้เขาจะจัดการเอง
“ เข้าใจเเล้ว “
“ ทุกคนรีบไปสนันสนุนฝั่งทิศใต้เเละเเบ่งอีก 2-3คนไปสำรวจความเสียหายของทิศตะวันออกเเละตะวันตก “
“ รับทราบ! “
เหล่าสมาชิกกิลด์ทุกคนได้เคลื่อนที่ไปประจำตามเเหน่งตามคำสั่งของเธอ
“ เอาล่ะตอนนี้ก็เหลือเเค่พวกเจ้ากับข้าเเล้วใช่มั้ย “
เรย์พูดพร้อมกับใช้ออร่าควบคู่กับเกราะทมิฬในตอนนี้นั้นเขานึกถึงจุดกำเนิดของตัวเองซึ่งเปลี่ยนเป็นธาตุมืดที่อยู่ภายในจิตใจของเขาที่พวยพุ่งอยู่ข้างในอย่างมหาศาล
ออร่าสีม่วงเข้มได้ปกคลุมร่างกายของเขา
ตอนนี้เขาต้องรับภาระของการใช้ออร่าเเละการควบคุมความบ้าคลั่งของตัวเขาไว้
“ เอาล่ะ “
เขาได้มองไปยังข้างหลังสุดเขาเห็นสายตาของปีศาจตนหนึ่งที่มีลักษณะตัวที่ใหญ่เเละมีเข่าเเละร่างกายที่เหมือนมิโนทอร์เเต่ตัวของมันมีออร่าออกมา
“ ปีศาจระดับต่ำไม่สามารถใช้ออร่าได้เเน่ทำไมถึงได้มีออร่าออกมากัน “
“ หรือเป็นเพราะดวงจันทร์เเละท้องฟ้าที่เป็นสีเลือดถึงได้เกิดการกลาบพันธุ์เเละเพิ่มความเเข็งเเกร่งของปีศาจระดับต่ำ “
“ เพราะปีศาจระดับสูงหรือปีศาจที่เเข็งเเกร่งนั้นไม่สามารถมายังโลกมนุษย์ในตอนนี้ได้เนื่องจากกำเเพงที่ใหญ่เเละสูงยาวเสียดฟ้าเมื่อ 600 ปีก่อน “
เรย์ได้รู้เรื่องนี้ดีเพราะเขาสู้กับปีศาจมานักต่อนัดเเต่ตอนนี้มันเเตกต่างออกไป
“ ตั้งเเต่ที่เกิดกำเเพงขนาดใหญ่ที่สูงเสียดฟ้าเเละขวางกั้นโลกมนุษย์เเละปีศาจเมื่อ 600 ปีที่เเล้ว ทำให้ปีศาจที่เข้ามาได้นั้นมีเพียงเเค่ปีศาจระดับต่ำเเละกลางเท่านั้น เหตุผลที่ไม่สามารถเข้ามาได้นั้นเพราะคำสาปเเห่งการก้าวผ่านที่ได้เกิดขึ้นเมื่อ600ปีที่เเล้ว
ปีศาจระดับต่ำเเละกลางนั้นจะมีดาวหรือระดับความเเข็งเเกร่งของมัน ที่จะมีระดับ 1-10 ดาว ซึ่งเเต่ละระดับก็จะมีความเเข็งเเกร่งที่ต่างกันไปอีก
ในเมื่อสงครามของเมืองโพเทียที่ผ่านมาหัวหน้าปีศาจระดับต่ำตัวนั้น เป็นเพียงเเค่หัวหน้าปีศาจระดับ 3 ดาวเท่านั้น “
“ เเต่กลับเจ้านี่มันดูเเข็งเเกร่งกว่า “
“ ครึ่ม ครึ่ม ครึ่ม “
เสียงของมันที่ได้เดินเข้ามาหาเรย์ สายตาคู่นั้นของมันจับจ้องมาที่เรย์ด้วยความน่ากลัว
“ ศรดาบพุ่งทะลวง “
เรย์ได้ยกกริชเเล้วปาไปข้างหน้าด้วยความรุนแรง
“ ฉั่วะ ฉั่วะ ฉั่วะ ฉั่วะ! “
กริชทั้งสองได้ปาออกไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วคมมีด เฉียดเฉือนเหล่าทาสปีศาจจนขาดสบั้น
“ มออออ!! “
มันตะโกนออกมาพร้อมกับกวักเเกว่งมือทั้งสองของมันเพื่อปัดป้องการโจมตีที่พุ่งเข้ามาของกริชทั้งสอง
“ ฮารามิส! “
“ ฟุ่บบบ “
เขาตะโกนเรียกชื่อกริชทั้งสองเเละได้วาปเข้าไปจับกริชทั้งสองไว้ ในตอนนี้ตัวของเขากำลังลอยกลางอากาศในขณะที่จับกริชทั้งคู่ไว้เเล้วได้ง้างมือทั้งสองพร้อมกับปามีดไปยังเท้าของปีศาจที่มีรูปร่างคล้ายมิโนทอร์ตัวนั้นให้ล้มลง
“..!!! “
เเต่ทันใดนั้นในจังหวะที่เขากำลังง้างเเขนออกไปปีศาจตัวนั้นได้หันหน้ามา
“ ปั้งงงง “
เสียงของกำปั้นของมันที่ได้ทุบเรย์ลงกับพื้นจนเกิดเเรงสั่นสะเทือน
“ อั้คคค! “
“ ดีนะที่ข้าอย่างดึงเเขนกลับมารับการโจมตีไว้ทัน “
เเต่ในตอนนี้เขานั้นก็ได้เข่าทรุดลงข้างนึงกับพื้น
“ ข้าใช้กริชนี้ไม่ได้เเน่ “
“ การจะโจมตีมันนั้นจำเป็นต้องทะลวงเกราะป้องกันของมันก่อน “
“ ฮารามิส “
หลังสิ้นสุดเสียงเขาก็ได้เก็บกริชของเขาไป
“ กัดฟันให้เเน่นนะไอ่เจ้าปีศาจเฮงซวย “ เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ ฟุ่บบบ “
เรย์ได้พุ่งไปข้างหน้าอยากรวดเร็ว
“ ปั้มมมม! “
หมัดทั้งสองที่ได้ปะทะกันอย่างรุนเเรง
“ พลังกายภาพของมันเเข็งเเกร่งมาก มากกว่าเเขาที่ใส่ชุดเกราะทมิฬกับออร่าซะอีก “
“ ตึงง “
เรย์ไม่มีเวลาที่จะคิดเลยมันได้กวัดเเกว่งเเขนออกมาข้างหน้าอย่างรุนเเรง
“ ฮึบบ “
เเต่เรย์ได้เอนไปข้างหลัง90องศาในการหลบการโจมตีได้ทันเเละยกตัวขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว
“ ปั้งงงง “
“ ม้อออ!!! “
เรย์ใช้เท้าของเสยคางของมันขึ้นอย่างรุนเเรงจนมันได้ถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว
“ คงต้องทำลายเกราะป้องกันเเละลดการป้องกันของมันให้ได้มากที่สุด “
เรย์ได้พูดพร้อมกับบีบกำปั้นเเล้วซัดเข้าไปที่หน้าของมันอย่างรุนเเรงอีกครั้ง
“ ปั้มมมมมม! “
“ มอ…ม้ออ “
เเรงหมัดของเขาทำให้มันมึนไปชั่วครู่
“ ชั่วพริบตา “
“ ฮารามิส! “
ภายในวินาทีนั้นเรย์วาปไปยังข้างหลังของมันด้วยความเร็วสูงเเละได้เรียก ฮารามิสออกมาเเล้ว
“ คมดาบทมิฬ “
ฟาดฟันคมมีดของเขาไปยังข้อเท้าของมันจนเอ็นเท้าของมันขาดสบั้น
“ ม้อออ!! “
มันเสียการควบคุมเเละส่ายไปมามันไม่สามารถที่จะคงตัวเองไว้ได้
“ โคร้มม “
ปีศาจตนนั้นได้ล้มลงเเละนอนราบลงกับพื้น
“ ฟุ่บ “
เรย์กระโดดขึ้นตัวของมันด้วยความรวดเร็วเขาไม่เสียเวลาเเม้เเต่วินาทีเดียว
“ ฉึกกก!! “
เรย์ใช้กริชทั้งสองเเทงไปยังตาของมันทั้งสองข้างอย่างรุนแรง
“ ม้ออ! “ มันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เเต่สายตาของเรย์นั้นไม่มีความปราณีเลยเเม้เเต่นิดเดียวเขารู้สึกว่าอยากจะกระชากเเละฆ่ามันให้สิ้น
“ ตาย!! “
เรย์พูดพร้อมกับใช้เท้าทั้งสองของเขากระทืบกริชทั้งสองที่ปักอยู่บริเวณตาของมันจนทะลุหัวของมัน
เลือดเลอะเต็มชุดเกราะของเขาเลือดเเละสมองของมันที่ได้ไหลทะลักออกมา
“ เเฮ่ก เเฮ่ก “
เรย์หายใจหอบเขาเหนื่อยจากการใช้พลังที่มากของเขา
“ ยังเหลืออีกสินะ “
ข้างหน้าของเขายังมีปีศาจอีกนับร้อยเเต่เขาก็ได้พุ่งออกไปข้างหน้าเเละฟาดฟันคมมีดของเขาจนขาดสบั้นทั้งหมด
” ติ้ง ติ้ง “
เสียงของเลือดที่หยดลงจากใบมีดของเขาเขายืนอยู่ท่ามกลางกองเลือดมหาศาล กลิ่นของความตายของเเละการฆ่าฟันอยู่ฝ่ายเดียวในพื้นที่ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยเศษซากของปีศาจนับร้อยที่ได้ตายด้วยน้ำมือเขาเลือดที่เต็มชุดเเละกริชของเขา อวัยวะที่เต็มพื้น
ท้องฟ้าเเละดวงจันทร์สีเลือดตอนนี้เขานั้นเหมือนยมทูตที่ได้จุติลงมาเพื่อฆ่าฟันเหล่าปีศาจจนสิ้น
เรย์ได้ยกมือขึ้นข้างบน
“ จงกลืนกิน “
เขาได้กลืนกินซากศพของเหล่าปีศาจทุกตัวที่อยู่บบริเวณนี้ทั้งหมด
“ เจ้ากินไปเยอะขนาดนี้เเต่ก็ยังไม่อิ่มหรอเนี่ย “
เรย์ยังรู้สึกถึงความหิวกระหายของเเรกเเม้ว่ามันจะกินไปขนาดนั้นเเล้ว
เรย์ได้มองไปทางเมือง ยังมีเสียงกรีดร้องของผู้คนที่ร้องออกมา
” ข้าต้องรีบไป “
เขาได้รวบรวมเเรงขาเเละพุ่งออกไปอยากรวดเร็วเขาต้องไปให้ไวที่สุดเพื่อช่วยเหลือพวกเขา…