THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน - ตอนที่ 4 เจ้าชายผู้ลืมเลือน การต่อสู้ของทั้งสอง
- Home
- THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน
- ตอนที่ 4 เจ้าชายผู้ลืมเลือน การต่อสู้ของทั้งสอง
“เเฮ่ก เเฮ่ก..” เสียงหายใจของเรย์นั้นหายใจถี่เขานั้นรู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างมาก
” เจ้าต้องควบคุมมานาภายในร่างกายของเจ้าให้เป็นอย่างธรรมชาติเพื่อเปิดประตูการรับรู้ทั้ง 5 ของเจ้า “
ประตูการรับรู้ทั้ง 5 คือ การได้ยิน การหายใจการได้กลิ่น การมองเห็น การสัมผัส เเละการรับรส หากเจ้าสามารถทำทั้ง 5 อย่างนี้พร้อมกันเเละควบคุมหมุนเวียนมานาจากจุดกำเนิดเป็นไปอย่างธรรมชาติเจ้าจะสามารถใช้มานาในตัวเจ้าได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
” มันไม่ง่ายเลยสักนิด ! ” เรย์พูดออกมาด้วยเสียงที่รู้สึกเหนื่อย
ผู้คนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้มีมานาภายในตัวเเละการใช้มานาเเละพลังธาตุเหล่านั้นมาเป็นพลังเวทย์นั้นไม่ง่ายเลยสักนิดเจ้าต้องเข้าใจถึงเหตุผลของการใช้พลังเเละเจ้าต้องไหลเวียนมานาภายในตัวเจ้าเเละควบคุมมันให้เชี่ยวชาญ
” เจ้าต้องทำมันให้ได้เรย์ นั่นเป็นวิธีเเละหนทางที่เจ้าจะทำให้เจ้าเเข็งเเกร่ง ”
หากพลังของเจ้าคือน้ำ จงมองหาลำธารหรือสายน้ำที่กว้างใหญ่ หากพลังเจ้าคือไฟ เจ้าจงมองถึงเปลวเพลิงที่ลุกโชนภายในกองเพลิง หากเป็นลมจงมองหาต้นสายเเละการไหลเวียนของกระเเสลม หากเป็นดินจงมองถึงการกำเนิดของผืนเเผ่นดินพสุธา ทั้งหมดนี่คือ เเหล่งกำเนิดพลังของธาตุทั้ง 4
หากเจ้าจินตนาการถึงต้นกำเนิดพลังธาตุของเจ้ามากเท่าไหร่เจ้ายิ่งทวีคูณความแข็งเเกร่งมากขึ้นเท่านั้นเเต่การจินตนาการเหล่านั้นเจ้าต้องทำทุกอย่างอย่างเป็นถ่องเเท้หากจุดกำเนิดพลังของเจ้านั้นยิ่งใหญ่เพียงใด ก็จะตามมากับภาระที่ยิ่งใหญ่ที่ต้องเเบกรับเเละการเข้าใจของพลังก็ต้องมากตามเท่า นี่เป็นกฎพื้นฐานของพลังธาตุบนโลกใบนี้
” เจ้าต้องรับรู้ถึงพลังธาตุของเจ้าอย่างถ่องเเท้ “
เขาได้หลับตาลงอีกครั้งพร้อมตั้งสมาธิการหายใจ การได้กลิ่น การสัมผัส การรับรส เเละการมองเห็นจุดกำเนิดของธาตุ
” เขาได้นึกถึงต้นตอของลมจากทิศต้นกำเนิดสู่ปลายทางของต้นกำเนิด เขาเริ่มควบคุมการหายให้เป็นธรรมชาติ
” แค่การหายใจนั้นยังยากที่จะควบคุมให้เป็นธรรมชาติ ” เรย์ได้เหงื่อตกเเต่เขาไม่ย่อท้อเลยสักนิดเเม้ว่ามันจะยากเเค่ไหน
เขาได้เริ่มควบคุมลมหายใจอีกครั้ง เสียงของสายลมที่ได้พัดผ่านตัวเขา เส้นผมของเขาที่ปลิวไสวกลิ่นธรรมชาติของสายลมที่บริสุทธิ์สายลมได้ล่องลอยเข้ามาสู่ตัวเขาเเละลอยผ่านไปเขาได้สัมผัสถึงสายลมที่โชยมา
ในขณะนั้นได้เกิดลมบริเวณรอบตัวของเขาเป็นรูปร่างของออร่าขึ้นมาบางๆ เขาได้เพ่งสมาธิมากขึ้นกว่าเดิมในการหมุนเวียนพลังนี่้ จากจุดหนึ่งสู่อีกจุดหนึ่งการควบคุมลมหายใจที่เป็นจังหวะเลือดที่ซูบฉีดอย่างบ้าคลั่งเรย์ตั้งสมาธิเเละทำมันอย่างเป็นระบบ ออร่าของเวทย์เริ่มปกคลุมตัวเขาเป็นชั้นบางๆเขาเริ่มที่จะควบคุมลมหายใจเเละการหมุนเวียนพลังได้อย่างลื่นไหล เรย์ได้ลืมตาขึ้น
ดวงตาของเขาเริ่มเปิดกว้างเขาได้มองไปยังทั่วร่างกายของตน ออร่าบางๆได้คลุมตัวของเขาไว้ เขารู้สึกว่าตัวของเขานั้นเบาขึ้นเเละมีพละกำลังมากขึ้นเขาได้จับดาบทั้งสองของเขาขึ้นเเละควบคุมออร่าพลังเวทย์ไปยังส่วนของใบมีดทั้งสอง
” ตอนนี้เจ้าสามารถใช้ออร่าได้เเล้ว ” เฮมีเทสกล่าว
” เเต่เจ้าต้องอย่าขาดสมาธิในควบคุมการหมุนเวียนพลังนั้นให้เสถียร “
เรย์ได้พยักหน้าตอบเขาเริ่มควบคุมออร่าทั้งสองไปยังส่วนของใบมีดทั้งสองอีกครั้ง ออร่าได้ปกคลุมใบมีดทั้งสอง
เรย์ได้ควบคุมออร่าไว้ที่ขาเเละค่อยๆไหลเวียนส่งต่อไปยังเเขนมือของเขา เรย์ได้ตั้งท่าเตรียมพุ่งออกไปเขาจับดาบสั้นทั้งสองของเขาไว้เเน่นเรย์ได้เพ่งสมาธิกับสิ่งตรงหน้าเเละได้พุ่งกระโจนออกไปเป็นเเนวตรงอย่างรวดเร็ว
” ฟึ่มมม!! ” เสียงการพุ่งของเขาทำให้ไปไม้บริเวณนั้นปลิวไสว
เเละเขาได้กวัดเเกว่งเเขนทั้งสองเชือดเฉือนออกไปเป็นเเนวขวางไปข้างหน้าอย่างรุนเเรงเเละรวดเร็ว
” ฟิ่บบ! “เสียงของการเฉือนดาบทั้งสองที่ได้ฟันออกไปข้างหน้าอย่างรุนเเรง
เเสงออร่าสีเขียวได้ตัดผ่านต้นไม้ใหญ่ง่ายดาย ต้นไม้ถูกตัดออกเป็น2ส่วนได้อยากเรียบเนียนต้นไม้ขนาดใหญ่ได้ล้มลงมาเสียงครึกโครมไปทั่วบริเวณ เฮมีเทสเธอได้ตกใจเกี่ยวกับการโจมตีของเรย์เป็นอย่างมากเขาสามารถตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ให้เป็น2ส่วนได้อย่างง่ายดาย ทั้งๆที่เขาฝึกการใช้ออร่าไม่ถึง 2 เดือนด้วยซ้ำ
” การใช้พลังออร่าของเจ้ายอดเยี่ยมมาก “
” ข้ายังรู้สึกว่าควบคุมมันได้ไม่ดีพอ “เรย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เบา
เรย์นั้นไม่ใช้เด็กที่ทะนงตนเขานั้นคิดว่าตนเองนั้นไม่ได้เก่งหรือมีพรสวรรค์เขาคิดเพียงเเค่เขานั้นสามารถทำได้ดีกว่านี้เเละดีขึ้นไปอีก เฮมีเทสคิดในใจ
” ในตอนนี้การควบคุมออร่าของเจ้านั้นดีพอเเล้ว “
” เเต่ข้ายัง… “เรย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เบา
” ข้าเหลือเวลาอีกไม่มากเเล้วต้องเดินทางกลับอาณาจักรอีกไม่กี่วันเเล้วเรย์ทางอาณาจักรได้เรียกเธอกลับไปประจำการที่อาณาจักรเพื่อเตรียมรับมือกับสงครามที่เริ่มใกล้เข้ามา “เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าหมอง เรย์ได้ก้มหน้าเเละเก็บอาการเศร้าของเขาไว้เช่นกัน เฮมีเทสนั้นคือผู้ที่มีพระคุณของเขา เขารู้สึกผูกพันธ์กับเธอในฐานะลูกศิษย์เเละอาจารย์
” เอาล่ะเรย์จากนี้ข้าจะสอนเจ้าในการใช้พลัง พลังนั้นเรียกว่า ‘เดมีเทีย พลังที่ได้รับจากเดมิทิสเหล่ากลุ่มดาว’ “
” พลังที่ข้าแสดงให้เจ้าเห็นเมื่อครั้งก่อน พลังของข้านั้นมีชื่อเรียกว่า ‘อัศวินเเห่งเเสงในสนามรบวัลคีรี่’ “นั้นคือนามของพลังของข้า
” เเต่พลังนี้นั้นจะปรากฎขึ้นหรือไม่นั้นล้วนอยู่ที่เจ้าเองข้าจะสอนถึงหลักการในการได้รับเเละเข้าสู่พลังนี้ให้กับเจ้า “
” ในนามของข้าผู้ปกป้องและผู้ยึดมั่นในความศรัทธา ”
เเสงสีทองได้สว่างรอบตัวเธอผมของเธอเปลี่ยนเป็นสีดำเข้ม นัยน์ตาที่เปลี่ยนเป็นสีทอง ดาบเเละชุดเกราะสีเงินของเธอกลายเป็นสีทองอร่ามเจิดจ้า พลังศักดิ์สิทธิ์สีทองนั้นได้รายล้อมอยู่รอบตัวเธอ ออร่าของเธอนั้นเปร่งประกาย
ทันใดนั้น เฮมีเทสได้พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวเธอได้ใช้ดาบฟาดออกไปยังเรย์ด้วยความรุนเเรง เรย์ได้ตั้งสติเเละจับดาบขึ้นมาตั้งรับไว้ทัน
” เคร้ง!!! “เสียงของดาบทั้งสองที่ปะทะกันอย่างจังเกิดสเก็ดไฟจากดาบของเธอเเละเรย์ที่ได้ฟาดฟันนั้นพุ่งกระจายไปทั่วบริเวณ
” อึก!! “เรย์ถูกเเรงระเเทกของดาบที่ฟาดฟันมาอย่างรุนเเรง เขานั้นกระเด็นออกไปไกลจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว เขานั่นรู้สึกล้าจากการรับเเรงโจมตีของเธอเพียงครั้งเดียว
” การโจมตีของเธอนั้นมันรุนเเรง เธอไม่คิดที่จะปราณีข้าเลยสักนิด “เรย์ได้พูดในใจ
เธอได้พุ่งมาอีกครั้งเเต่ครั้งนี้เธอพุ่งมาด้วยความเร็วที่ไวมากเสมือนว่าเธอกำลังเทเลพอร์ตในชั่วพริบตาเพียงเสี้ยววินาที
“…..!!!” เรย์รู้สึกเสียวสันหลังวาบจู่ๆเฮมีเทสที่พุ่งมาก็ได้หายไป เขาได้หันหลังกลับ เเต่ในขณะนั้นเฮมีเทสนั้นได้อยู่ที่ข้างหลังเขาเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว
” เธอรวดเร็วเกินไป เราตามความไวเธอไม่ทันเลยสักนิด ” เรย์ได้พูดน้ำเสียงที่เหนื่อย เรย์เหงื่อตกมือไม้เริ่มสั่น เสียงที่หอบเเละเริ่มหายใจอย่างรวดเร็ว เเรงกดดันของเฮมีเทสที่เป็นอัศวินนั้นน่ากลัวเเละน่าเกรงขามหากเธอได้เข้าสู่การต่อสู้ สมรภูมิจะพังพินาจเพราะเธอ อัศวินวัลคีรี่เเห่งเเสง เรย์ได้กระอึกน้ำลาย
ในขณะเพียงเสี้ยววิกำปั้นของเธอนั้นกระเเทกอย่างจังเข้าที่กลางอกของเรย์อย่างเต็มเเรงเรย์
” ปั้มมมมมมม! ตัวเรย์นั้นปลิวจากการโดนกลางโจมตี
” โคร้มมมม!!! “เสียงของเรย์ที่ปลิวมากระเเทกกับโขดหินใหญ่จนหินนั้นเกิดรอยเเตกขนาดใหญ่ เกราะของเขาได้ยุบลงเล็กน้อยจากการโจมตีของเธอ
ร่างกายของเรย์ได้ถูกกระเเทกติดกับกำเเพง
” เอื้อกกก!! “เรย์ได้สำลักเลือดออกมาเล็กน้อยจากการโจมตีของเธอ
” เธอคิดจะฆ่าเราจริงๆใช่มั้ยเนี่ย “เรย์คิดในใจพร้อมกับค่อยๆลุกขึ้นมาเขาได้เช็ดเลือดกระอักออกมาจากปากของเขา”
เรย์ใช้สมาธิเเละเปิดใช้ออร่าอย่างเต็มกำลังที่เขาหมุนเวียนมานาเเละพลังธาตุของเขาอย่างรวดเร็ว ออร่าสีเขียวได้ปกคลุมร่างกายของ เขานึกถึงคำสอนของเธอเกี่ยวกับการหมุนเวียนมานาภายในตัวที่เธอได้สอนเขา
เรย์ปล่อยออร่าออกมาเเละให้ออร่าไหลปกคลุมที่ตาเเละขาของเขา เพิ่มเพิ่มความไวเเละสัมผัสในการมองเห็น
ทันใดนั้นเอง เฮมีเทสได้ค่อยๆเดินเข้ามาพร้อมลากดาบของเธอมาอย่างช้าๆตอนนี้เธอนั้นไม่คิดที่จะปราณีเรย์เลยสักนิดเขาได้คิดถึงคำพูดของเธอ
” ในการต่อสู้จริงนั้นไม่มีคำว่าปราณี มีเพียงคนที่อยู่เเละคนที่ตาย “เสียงของเธอนั้นดังกึ่งก้องในหัวของเขา
” สายลมนำพา กายาพริ้วไสว “เรย์ได้ร่ายเวทย์มนตร์บัพตัวเองเเละออร่าพร้อมกับพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว
” ฟู่มมมมม!! “
ตัวของเรย์นั้นได้พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงฝุ่นคละคลุ้งไปทั่ว เรย์ได้พุ่งเข้าประชิดเธอด้วยความไวจากบริเวณจุดอับสายตาของเธอเเต่เธอนั้นตามความเร็วของเรย์ทัน
” เคร้งง เคร้งง เคร้งง! ” เธอได้ยกดาบมากันการโจมตีของเรย์ได้อย่างรวดเร็ว
” อึก! เธอกันการโจมตีของเราได้หมดเลย ” เรย์ได้เหงื่อตกเพราะเรย์ไม่สามารถโจมตีโดนตัวเธอได้เลยเเม้เเต่นิดเดียวเลย
เรย์โจมตีออกไปอย่างต่อเนื่อง เเต่เฮมีเทสนั้นสามารถหลบการโจมตีเเละสวนการโจมตีกลับของเขาได้อย่างง่ายๆ การเคลื่อนไหวของเธอในเเต่ละครั้งนั้นเหมือนกับ การก้าวพริบตาอย่างไงอย่างงั้น
” เเสงเอ่ยจงนำพาดาบของข้า ” เฮมีเทสเอ่ยพร้อมยกดาบขึ้นสูง ท้องฟ้าได้มืดครึ้มเเละมีเเสงสาดสองจากท้องฟ้าทะลุก่อนเมฆเเสงสีทองเจิดจ้าดาบของเธอเปร่งเเสงไปด้วยเเสงสีทองอร่าม เส้นผมที่ดำวาวของเธอโบกสะบัด
” ฟู่ว !! ” เธอนั้นเหวี่ยงดาบของเธอจนสุดเเขนเเละฟาดฟันด้วยเเรงของเธอออกไปข้างอย่างรุนเเรง
” สายลมพริ้วไหว ” เรย์ได้ร่ายสกิลของตนพร้อมวาปออกไปด้านข้างอย่างรวดเร็วเเต่ทว่า
” ฟึ้ดดดดดด!! ” จู่ๆเฮมีเทสก็ได้วาปมาข้างหน้าของเขาด้วยความเร็วสูง
” ….!!! “
ทันใดนั้นเอง ดาบสีทองที่ได้ฟาดฟันเข้ามาอย่างรุนเเรงได้กระเเทกเข้ามาที่เรย์อย่างจัง เรย์ได้ใช้ดาบทั้งสองกันการโจมตีอีกครั้งเเต่การโจมตีครั้งนี้มันรุนเเรงเกินไป ดาบทั้งสองได้เเตกหักเเละตัวของเรย์ที่พุ่งออกไปด้วยความเร็ว
” โคร้ม โคร้ม โคร้ม โคร้ม! !” เสียงของเรย์ที่ถูกกระเเทกกับต้นไม้หลายสิบต้นไปเเนวลึก ต้นไม้ได้ล้มลงระเนระนาดเกิดเสียงดังทั่วบริเวณภูเขา
เรย์รับการโจมตีนี้ไม่ไหวเลือดของเขาได้กระอักเลือดเเละกระดูกเเขนของเขาเกิดการร้าว
” อ้ากกกกก! ” เรย์ได้ตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดเขารู้สึกเจ็บจนปางตายอวัยวะภายในของเขาได้รับความเสียหาย นัยน์ตาของเขาที่เริ่มดับลงไปเรื่อยๆเขากำลังจะหมดสติ ตอนนี้เหมือนเขากำลังจะตาย..จนกระทั่ง