THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน - ตอนที่ 9 เข้าสู่เมือง เฮสเทีย
“ ตอนนี้พวกเราใกล้ถึงเมืองเเล้วล่ะ “ เสียงของราเฟย์ที่ได้พูดออกมาอย่างสดใส
เรย์เเละราเฟียเดินทางกันมาร่วม2อาทิตย์ เธอเเละเรย์ต่างเเลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกันในช่วงเวลาการเดินทางที่ผ่านมา
ในตอนนี้เขาเเละราเฟียนั้นออกมาจากป่าใหญ่เเล้ว
เขามองออกไปเเละเห็นพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างที่สามารถมองเห็นจนสุดสายตาได้ ข้างหน้าเขานั้นเป็นเมือง เป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่เเห่งหนึ่งเหล่านกที่ได้บินผ่านเมืองเป็นฝูงอย่างสวยงาม
เขาเเละราเฟียได้เดินทางลงมาจากป่า เขานั้นสังเกตถึงประเวณหน้าประตูเมืองที่ไม่มีอัศวินประจำการเลยสักคน ทั้งๆ ที่เป็นเมืองใหญ่
“ ทำไมที่นี่ถึงไม่มีอัศวินประจำการเลยล่ะ “เรย์พูดออกมาด้วยความสงสัย
“ เมืองเเห่งนี้ ชื่อว่า เฮสเทีย เป็นเมืองปกครองพิเศษที่ไม่มีอัศวินคอยปกป้องหรืออารักขา
เป็นเมืองที่อยู่เขาเหล่านักผจญภัยเเละหลากหลายอาชีพต่างๆ เเละผู้มีอำนาจที่สุดของเมืองนี้นั้นก็คือกิลด์มาสเตอร์
“ กิลด์มาสเตอร์งั้นหรอ?” เรย์ไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ กิลด์นั่น จะมีอยู่หลายประเภท สำนักงานกิลด์มาสเตอร์ คือผู้ที่จัดการเเละรับเรื่องต่างๆ เเละภายในกิลด์นั้นมีนักผจญภัยต่าง หรือ อาชีพต่างๆ สำนักงานกิลด์มาสเตอร์เป็นผู้จัดการด้านต่างๆ การช่วยเหลือเหลือการร้องทุกข์ของชาวบ้าน การกำจัดมอนเตอร์ เเละกิลด์ต่างๆ เช่นกิลด์นักพจญภัย,กิลด์นักเวทย์ เเละมีอีกหลายกิลด์ต่างๆภายในเมือง
ให้เปรียบเทียบผู้ปกครองเมืองต่างๆ ที่ต่างมีกองทัพอารักขาหรืออัศวินประจำอาณาจักร
เเต่สำนักงานกิลด์มาสเตอร์นั้น จะมีเหล่านักผจญภัยต่างๆ หลากหลายอาชีพที้ได้รวมกลุ่มกันเป็นกิลด์ ปาร์ตี้หรือกลุ่มต่างๆ ในการทำสิ่งต่างๆ เเละพวกเขาจะได้ค่าตอบเเทนเป็นเงิน (เรเดี่ยม) นั้นเเหละคือความเเตกต่างของทั้งสอง” เรย์ได้พยักหน้าอย่างเข้าใจ
ตอนนี้เรย์เเละราเฟียนั้นได้มุ่งหน้าไปยังเมืองตอนนี้เขานั้นได้ก้าวเข้าไปยังเมือง เขามองไปรอบๆ ภายในเมืองนั้นมีบรรยากาศของผู้คนที่พูดคุยกันผู้คนที่มากมายมีการเเลกเปลี่ยนและซื้อขายสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นบรรยากาศของเมืองที่ดีเลยทีเดียว
จู่ๆ ได้มีเสียงของใครคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“ นี่พวกเจ้าสองคนนั้นหนะ ” เสียงเรียกของหญิงคนหนึ่งที่ได้เรียกเขาเเละราเฟีย
“ หืมใครเรียกข้ากัน “ เสียงของเรย์ที่ได้พูดออกมาอย่างสงสัย
“ พวกเจ้าเป็นคนจากที่ไหนงั้นหรอ ข้าไม่เคยเห็นหน้าของเจ้าทั้งสองเลย “
“ เอิ่มม…ข้า “
“ ข้ามาจากเมืองโพเทีย “
“ หืมม โพเทียงั้นหรอมันเป็นเมืองที่ไกลจากที่นี้มากเลยนะ ” เธอได้พูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ
“ เเต่ที่โพเทียนั้นเป็นพื้นที่สงครามการปะทะกับเหล่าปีศาจเเต่ในตอนนี้สงครามการต่อสู้มันได้จบลงไปเเล้วล่ะ ”
“ เป็นเเบบนั้นนี่เอง ” หญิงสาวคนหนึ่งได้พยักหน้าด้วยความเข้าใจ
“ เเละเธอล่ะสาวน้อย ”
“ ข้ามาจากเมืองเเห่งหนึ่งหนะเเละข้าเป็นนักสำรวจ “
“ โอ้ นักสำรวจงั้นหรอนานๆข้าจะเห็นทีนะเนี่ย”
หญิงสาวกล่าวด้วยความตื่นเต้น
“ เเล้วเจ้ามาที่นี่กันทำไมงั้นหรอ ”
ข้ามายังเมืองนี้เพื่อหาข้อมูลหนะ คุณพอจะรู้สถานที่ของกิลด์ เเละ ร้านอาวุธบ้างมั้ย
“ อ้อ ร้านอาวุธอยู่บริเวณลึกของตัวเมืองเลยล่ะ เจ้าลองเดินไปดูเอาเองนะ”
“ ส่วนกิลด์นั้นอยู่บริเวณข้างหน้าถ้าเจ้าเดินไปเเล้วจะเห็นในทันที ”
“ เจ้าเป็นคนนอกที่ได้เข้ามาที่นี่ก็ระวังตัวด้วยนะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เบา เรย์ได้พยักหน้าอย่างเข้าใจ
เขาได้ตรงไปยังที่กิลด์ในทันที ผู้คนต่างๆ ต่างมองเขาด้วยความเเปลกใจ ชายหนุ่มผมสีเงินเเละดวงตาสีฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ในตอนนี้เขานั้นเดินทางมาถึงกิลด์เเล้ว
“ พึ่มม! “ เสียงของเรย์ที่ได้เปิดประตูเข้าไป เหล่าผจญภัยเเละคนภายในร้านต่างมองมาที่เขา
“ ดูสิทุกคนมีสาวน้อยจิ้งจอกกับไอ้หนุ่มหน้าสวยมาล่ะ.. “ เสียงของคนกลุ่มหนึ่งได้พูดออกมา เรย์เงียบ เขาไม่ได้สนใจพวกนั้นเลยสักนิด
“ ตึ่งงง!! ”
“ เห้ย ! นี่ไม่สนใจพวกข้าเลยหรอว่ะ ” พวกนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งได้ทุบโต๊ะเเละตะโกนออกมา
“ อย่าไปสนใจคนพวกนั้นเลยนะเรย์ ” ราเฟียจับเสื้อของเขาไว้เเละพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“ โอเค ” เสียงของเรย์ที่ได้พูดอย่างเบาๆ
เขาทำหน้าที่นิ่งเฉยเเละไม่สนใจคนพวกนั้นเขากำลังเดินตรงไปหา พนักงานคนหนึ่ง
“ เห้ยข้ายังพูดกับพวกเจ้าไม่เสร็จเลยจะเดินไปไหนล่ะ ” พวกมันเดินมาพร้อมลากอาวุธเข้ามาหาเรย์ พวกมันตัวสูงใหญ่ดูมีกำลังมหาศาล เรย์มองด้วยสายตาที่นิ่งเฉย
“ ข้าล่ะเกลียดพวกมือใหม่ที่ชอบอวดดีที่สุดเลยนะรู้มั้ย ”
พวกมันพูดด้วยน้ำเสียงที่ยั่วโมโห เเต่เขาก็ไม่ได้เเสดงอาการกังวลหรือวิตกกังวลออกมาเลยสักนิดเเต่กลับกันเขากับมองออกไปด้วยสายตาที่เย็นชา
“ ไอ้เด็กเวรนี่ มองบ้าอะไรห๊ะ!! ” มันตะโกนออกมาเเล้วยกดาบขึ้นมาด้วยความโมโห มันเเกว่งดาบออกไปเป็นเเนวตรงข้างหน้าด้วยความรุนเเรง
เรย์หันข้างได้หลบการโจมตีอย่างง่ายดาย
“ พวกสมองกล้ามเนื้อ ” เรย์พูดด้วยน้ำเสียงที่หยีดหยาม
“ ปากเก่งนักนะไอ้เด็กเวร!! ” เขาได้กวัดเเกว่งดาบอย่างบ้าคลั่งเขาได้ใช้ฟุตเวิร์คในการหลบการโจมตีนั้น เขานั้นกำลังเต้นเเละร่ายรำท่ามกลางดาบที่ฟาดฟันอย่างบ้าคลั่ง
“ อย่างทำเป็นอวดเก่งนักนะเว้ยยย!! ” เสียงของมันที่ได้ตะโกนออกมามันได้จับดาบเเน่นเเละได้ปล่อยออร่าออกมาเเต่ออร่านั้นเเต่ดูเหมือนการควบคุมออร่าของไม่มีความเเน่นิ่งเลยสักนิด มันได้กระทืบเท้าลงได้กวัดเเกว่งดาบออกมาเป็นเส้นตรงอย่างรุนเเรง
“ เคร้งง!!! ” เสียงของเรย์ที่ได้ยกกริชขึ้นมารับการโจมตีไว้อย่างง่ายดายโดยตัวเขานั้นไม่ได้ขยับเลยเเม้เเต่นิดเดียวสายตาของเขานั้นเรียบเฉย
“ เเกเริ่มก่อนเองนะ ” เรย์หรี่ตาเเละตอนนี้เขารู้สึกอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมากเขาบีบกำปั้นในมือเเน่น เเละง้างมันไปข้างหลังกล้ามเนื้อเเขนของเขานั้นปูดโปนออกมาเเละเขาได้พุ่งออกไปด้วยความเร็ว
“….!! ”
ชายคนนั้นตกใจเเละได้ยกดาบขึ้นมารับการโจมตีของเรย์ เรย์ได้ก้มลงเเละกระทืบเท้าลงเเละกำปั้นของเขาที่ได้พุ่งออกไป
“ ปั้มมมมมม!!! “ เสียงของกำปั้นที่กระเเทกลงบนดาบเขา
“ ตุ้มมมม!! ” เสียงของชายคนนั้นที่ได้ปลิวไปกระเเทกกับกำเเพงจนเป็นรู ดาบของเขานั้นเกิดรอยเเตก
” อั้กก!! ” เสียงของชายหนุ่มที่ได้กระอักเลือดออกมา
เรย์ได้พุ่งเข้าไปหาชายคนนั้นด้วยความรวดเร็ว
” เเกหาเรื่องข้าเองนะ ” เรย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเขามองไปยังชายคนนั้นด้วยสายตาที่นิ่งเฉย
เขาพูดพร้อมกับกระเเทกกำปั้นเข้าที่หน้าอย่างจัง
” ปั้ม! ปั้ม! ปั้ม! ” เสียงกำปั้นองเรย์ที่ได้กระแทกอย่างต่อเนื่อง
ใบหน้าของมันนั้นยู้ยี่ กำปั้นของเขาเต็มไปด้วยเลือด ชายคนนั้นหมดสภาพอย่างน่าอนาถ ผู้คนต่างตกใจและตะลึงถึงความเเข็งเเกร่งของเรย์
พวกคนอื่นๆ ที่คิดจะหาเรื่องเรย์ได้ตกใจเเละวิ่งหนีออกจากร้านไป
“ เห้อ ทำไมไปที่ไหนก็เจอเเบบนี้เเหะ ” นี่ไม่ใช่เเค่ครั้งเดียวตั้งเเต่ที่เรย์ได้ออกเดินทางเเละไปยังที่ใหม่ก็จะมีอัศวินหรือคนประเภทนี้มาหาเรื่องเขาเสมอ เขาได้ถอนหายใจรู้สึกเบื่อหน่าย เขาได้เดินตรงไปหาพนักงานกิลด์คนหนึ่ง
“ บอร์ดข่าวสารอยู่บริเวณไหนงั้นหรอ ” เรย์ได้ถามออกมา
“ เดินข้างหน้าโถงใหญ่จะมีป้ายประกาศอันใหญ่อยู่ เจ้าลองเดินไปดูนะ ” พนักงานกิลด์ตอบกับด้วยความยินดี เรย์พยักหน้าเเละเดินตรงไปยังบอร์ดข่าวสาร
เขาได้มองไปยังกระดานใหญ่ด้านบน เขาได้เพ่งสายตาเเละเจอข่าวๆ หนึ่ง
“ การปะทะกันอย่างดุเดือดของอาณาจักร เลเวฮาร์ทกับ เเละอาณาจักรของปีศาจ เเละ เกิดสงครามการเเย่งชิงภายในอาณาจักร ” เรย์อ่านข่าวพร้อมกับกำหมัดเเน่น
“ เฮมีเทส ” เสียงของเรย์ที่ได้พูดออกด้วยน้ำเสียงที่เบา
“ เธอเป็นใครงั้นหรอ ” ราเฟียถามด้วยความสงสัย
“ เธอ เป็นคนสำคัญสำหรับข้าหนะ ” เรย์ได้พูด
“ ไม่เป็นไรนะเฟย์ ” ราเฟียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ปลอบประโลม
“ ขอบคุณนะที่เป็นห่วงข้า ” เรย์ได้ลูบหัวเธอพร้อมกับยิ้มออกมาเบาๆ
“ มีที่พักเเนะนำให้กับข้าบ้างมั้ย ” เรย์ได้ถามพนักงานกิลด์
“ มีที่อยู่ที่หนึ่งที่ข้าเเนะนำเเต่เจ้าต้องเดินเข้าไปในตัวเมืองที่ลึกเข้าไปอีก จะมีป้ายที่ติดไว้หน้าที่พักว่า เฮมเกรย์ ”
“ ขอบคุณเจ้ามาก “ เรย์ได้พูดขอบคุณพร้อมยิ้มออกมาเบาๆ
หญิงสาวหน้าเเดงขึ้นมาเล็กน้อย
“ ไม่เป็นไร. . .เรื่องเเค่นี้เองข้ายินดีช่วยเหลือ ”
เรย์ได้หันหลังเเละเดินออกไปจากร้านพร้อมกับราเฟีย
“ เด็กหนุ่ม ผู้มีผมเงินเเละดวงตาสีฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์งั้นหรอเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ ” เสียงที่หล่อเหลาของชายคนหนึ่งได้พูดออกมาจากด้านบนของเเผนกต้อนรับกิลด์ เรย์รู้สึกถึงลางสังหรณ์พร้อมกับหันหลังไปมองด้วยความรวดเร็วเเต่ชายคนนั้นก็ได้หายไปเเล้ว เรย์รู้สึกถึงใครบางคนได้จ้องมองเขา เเต่เขาหันไปกลับไม่มีใครอยู่ ณ ตรงนั้นเลย
“ หรือข้าคิดไปเอง ” เรย์ได้พูดในใจอย่างสงสัย
“ ไปกันเถอะราเฟีย ”
“ อื้อ! ” เสียงของราเฟียที่พูดออกมาอย่างสดใส
เขาได้เดินออกมาจากกิลด์เเละได้เดินตรงไปยังตัวเมืองข้างใน เขามองไปรอบๆตัวเมืองภายในตัวเมืองนั้นมีลักษณะของบ้านต่างๆที่สวยงามรูปเเบบของเมืองนั้นเหมือน (สถาปัตยกรรมโกธิกช่วงปลาย)
เหล่าผู้คนที่เดินเผ่นพ่านไปมาเหล่าเเละเหล่านักผจญภัยหลากหลายอาชีพได้อยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆเหล่านักเวทย์,นักดาบ,นักผจญภัยต่างๆมากมาย
” ว้าาา~~ สวยจัง ” ราเฟียได้มองไปรอบๆในตัวเมืองเเละรู้สึกตื่นเต้นกับความงดงามของเมือง
” เจ้ายังไม่เคยเข้ามาที่นี่งั้นหรอ “
” ไม่ข้ายังไม่เคยเข้ามาเลยสักครั้ง ข้ารู้เพียงสถานที่เเต่ไม่เคยมา “ราเฟียได้พูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นเเละรู้สึกกลัวในเวลาเดียวกัน
” คงเป็นเพราะกลัวมนุษย์งั้นสินะ ” เขาได้คิดในใจ เรย์ได้ลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน ราเฟียนั้นได้ยิ้มออกมาอย่างสดใส
” นั่นไงเจอเเล้ว ” เขามองเห็นที่พักเเห่งหนึ่งชื่อเฮมเกรย์ เป็นบ้านมีลักษณะการตกเเต่งด้วยดอกไม้ที่สวยงาม
” กริ้ง กริ้ง ” เสียงของกระดิ่งที่ดังขึ้น เรย์ได้เปิดประตูเข้ามา
” ยินดีต้อนรับคะ ” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งได้กล่าว เธอมีผมสีดำเข้มดวงตาสีน้ำตาลเเละมีหูเหมือนกับทานุกิ
” มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ ” เสียงของหญิงสาวได้พูด
” ข้าต้องการที่พัก 2 ห้องเเละอาหารอะไรก็ได้ที่เจ้าเเนะนำ2ที่ “
” ถ้าเป็นเเบบนั้น ข้าขอเเนะนำเมนู ไข่เจียวออมเล็ต เเละข้าวหน้าเนื้อสุดอร่อย! ” เธอได้พูดพร้อมขัยบหูไปมา
” โอเคงั้นข้าเอาเมนูนี้ ” เรย์ได้พูดพร้อมพยักหน้า
” นี่ เลยเมนูที่เจ้าสั่งได้เเล้ว “
” กลิ่นของไข่ออมเล็ตเเละข้าวหน้าเนื้อที่หอมฟรุ้งออกมา “
” น่ากินน!! ” เสียงของราเฟียที่ตื่นเต้นกับอาหาร
” เจ้ากินได้เลยข้าสั่งมาให้เจ้า ” เรย์พูดพร้อมยิ้มออกมา
” จริงหรอ!! ” เรย์ได้พยักหน้าเเละยิ้มให้
” จะทานเเล้วนะคะ งั่มมม!~~ ”
” อร่อยไข่ออมเล็ตอร่อยที่สุด ” เธอได้พูดออกมาด้วยความดีใจ เธอนั้นเป็นเพียงเด็กสาวที่ไร้เดียงสา เธอได้หันมามองเรย์ด้วยสาตาที่กลมน่ารักเหมือนกับจิ้งจอกน้อย เรย์ได้มองเธอด้วยสายตาที่อบอุ่น
เวลาได้ผ่านไป ราเฟีย ได้นอนหลับไปเเล้ว เรย์นั้นดูนั่งจ้องมองท้องฟ้าผ่านบานหน้าต่างเขาได้เหม่อมองท้องฟ้าเเละดวงจันทร์ที่ส่องสว่างลงมาเขารู้สึกถึงความเงียบสงบเสียงของสายลมที่พัดผ่านใบไม้ที่ปลิวไสวเขาได้มองเพ่งสายตาเเละมองไปยังสุดขอบเเดนเขาเห็นถึงหน้าผาที่มีสีเลือดที่สูงเสียดฟ้าที่ติดพรมเเดนของเหล่าปีศาจ เขาได้ตัดสินใจเปิดหน้าต่างเเละกระโดดออกไปข้างนอก เขาได้คิดที่จะหาข้อมูลต่างๆ
เขาได้กระโดดขึ้นไปข้างบนหลังคา เขาได้ใช้ออร่าในการควบคุมการเคลื่อนไหว เเละได้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าในยามราตรี เพื่อไปหาร้านเหล้าเเห่งหนึ่งภายในเมือง
เขาได้มองลงไปยังเมืองที่สว่างไสว เเสงในยามราตรีที่สลัวของเมืองที่สวยงาม เขาได้คิดที่จะหาข้อมูลพ่อค้าทาส เฮเชล ฮาเรนเทีย ชื่อของพ่อค้าทาสคนนั้น เขารวบรวมข้อมูลมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เขานั้นคิดที่จะเเก้เเค้นคนที่ทำกับเขา การทำร้ายการทารุณ เขาได้เก็บความเเค้นนี้เอาไว้ลึกๆภายในใจเเละตามหามันมาตลอด เขาต้องการที่จะเค้นข้อมูลของมันเเละหาความจริงของตัวตนของเขาว่าเขานั้นคือใครกันเเน่