THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน - ตอนที่ 1 อารัมภบท ปฐมบทจุดเริ่มต้นของเรื่องราว
- Home
- THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน
- ตอนที่ 1 อารัมภบท ปฐมบทจุดเริ่มต้นของเรื่องราว
“โลกใบนี้นั้นมีชื่อว่าเอราทอลเวิลด์เป็นโลกเเห่งพลังเเละเวทมนตร์ เหล่าสมมุติเทพ ปีศาจ มนุษย์ อมนุษย์ มอนเตอร์ เเละสิ่งลี้ลับต่างๆ เป็นโลกที่มีหลายสรรพสิ่งทั้งหลายเเละความลับต่างๆ อันมากมายเกี่ยวกับโลกที่กว้างใหญ่ใบนี้
ในอดีตเมื่อ 600 ปีที่เเล้ว เกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษย์เเละปีศาจ มหาจักรวรรดิ อาณาจักรของมวลมนุษย์เเละดินเเดนต่างๆล่มสลาย เด็กหนุ่มคนหนึ่งนั้นที่ได้ตื่นขึ้นมาเเละอยู่ในที่เเห่งหนึ่งเเต่ทว่าเขานั้นกลับจำตัวตนเเละเรื่องราวของเขาเองไม่ได้เลยสักนิด
สายลมที่เต็มไปด้วยเสียงของการกรีดร้อง เสียใจ ความกลัว เเละ ความตาย เเละกลิ่นของ เลือดเเละซากศพ กลิ่นเหม็นของซากอวัยวะภายใน เเละเลือดที่สาดกระเซ็นทั่วพื้นที่จากการปะทะของกองทัพปีศาจเเละกองทัพมนุษย์ที่ปะทะกันเเละต่างฝ่ายต่างบดขย้ำกันเเละกันดาบที่ผ่าลงไปด้วยพละกำลังในเเต่ละครั้งเหงื่อที่หยดลงความเหน็ดเหนื่อยจากสงครามที่ยาวนาน
เรย์ชายอายุ 16 ปี เเละผู้ซึ่งเป็นอัศวินพเนจรเขาได้เข้าร่วมสงครามของเมือง โพเทีย สงครามการปะทะของเหล่ามนุษย์เเละเหล่าปีศาจ
“เเฮ่ก เเฮ่ก เเฮ่ก “
เสียงอันเหน็ดเหนื่อยของเรย์ที่ต่อสู้มาเป็นระยะเวลานาน
“ นี่มันนานเเค่ไหนเเล้วเนี่ย ”
เรย์ พูดด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยเเละสิ้นหวัง การต่อสู้อันยาวนี้เมื่อไหร่กันที่จะจบลง การฟาดฟันการเเละเข่นฆ่ากันของเเต่ละฝ่าย
เรย์ได้เข้าปะทะกับเหล่าปีศาจซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เกราะของเขาที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเลือด เเละผมสีเงินที่กลายเป็นสีเลือดหมวกที่ถูกบดขยี้ชุดเกราะที่พุพัง จากการต่อสู้ที่เเสนยาวนานนี้ ต่างคนต่างมีฝ่ายที่รอดเเละฝ่ายที่ตาย มันไม่มีทางเลือกนอกจากเข่นฆ่ากันในศึกสงคราม การต่อสู้ของยุคพลังเเละเวทมนตร์
“ ถึงคราวที่สงครามนี้จะจบลงสักที ”
อัศวินคนหนึ่ง ที่อยู่ด้านหลังได้ตะโกน ให้ขวัญกำลังใจกับเหล่าอัศวิน ดูเหมือนว่ากระเเสสงครามเริ่มจะเปลี่ยน กองทัพอัศวินได้ฮึดขึ้นสู้
“ อัศวินทุกคนร่วมสู้กันอีกครั้ง! ”
“ เฮ้! ลุยยยย ลุยยย ลุยยย! ”
เสียงของเหล่าอัศวินดังกึกก้องทั่วสมรภูมิสงคราม เสียงต่อสู้ได้กลับมา สนั่นทั่วผืนดินเสียงของการปะทะดังกึ่งก้อง เรย์ได้ต่อสู้กับเหล่าปีศาจอีกครั้งนึง เขายังมีเเรงฮึดที่จะต้องสู้เเละยันหยัดท่ามกลางสมรภูมิดาบของเขาได้ฟาดฟันอย่างรวดเร็วเข้าตรงคอของเหล่าปีศาจในทันทีเเละเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้วยเวทมนตร์
” เร่งความเร็ว “
“ จงเฉียบคม ”
เขาได้ใช้เวทมนตร์เพื่อบัพตัวเองในการต่อสู้ให้มากยิ่งขึ้นการต่อสู้การฟาดฟันของเขาไวขึ้นดุดันขึ้นเเละเฉียบคมขึ้นเเต่เเลกมาด้วยความเหนื่อยล้าที่มากถม
“ อ้ากกก! เอื้อก! ช่วยด้วย ”
“ เฉือก! ครืดดด!! ”
เสียงขวานขนาดใหญ่ได้ผ่าลงตัวอัศวินเสียงดังทั่วบริเวณเสียงร้องของเหล่าอัศวินที่ถูกสังหารซ้ำเเล้วซ้ำเหล่าอัศวินที่บดขยี้เเละถูกขวานขนาดใหญ่ กวาดล้างเเทบสิ้น เลือดเเละอวัยวะสาดกระเซ็นการนองเลือดเเละสังหารอยู่เพียงฝ่ายเดียว ไม่มีใครที่หยุด ปีศาจตนนี้ หัวหน้าของกองทัพปีศาจระดับต่ำ รูปร่างใหญ่น่าเกรงขามพละกำลังอันมหาศาลเเละขวานขนาดใหญ่ที่ฟาดฟันมนุษย์เเละบดขยี้ได้อย่างโดยง่าย
ในตอนนี้เหมือนกระเเสของสงครามเริ่มเปลี่ยน หัวหน้ากองทัพปีศาจระดับต่ำได้เคลื่อนพลเข้ามาประชิดเพื่อกวาดล้างเหล่าอัศวินให้สิ้น
“ พวกเราสูญเสียกำลังพลไปมากเเล้ว ”
“ อัศวินถอยกลับมาตั้งรบการปะทะ ”
เสียงของหัวหน้ากองอัศวินดังกึ่งก้องสนามรบ อัศวินต่างๆ ถอยกำลังทัพเพื่อกลับเข้าสู่เเนวต้านรบเตรียมการปะทะอีกระลอก
ทันใดนั้น เรย์ได้พุ่งตัวเข้าหาหัวหน้าปีศาจระดับต่ำเขารวบรวมพละกำลังของเขาที่เเขนเเละขาเขาของเขาเหยียบพื้นเเละได้จับดาบของเขาไว้เเน่น
“ สายลมนำพา กายาพริ้วไสว! ”
เรย์ได้ร่ายเวทมนตร์ บัพเร่งความเร็วเเละความพริ้วไหว พร้อมพุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็วโดยไม่ลังเล หัวหน้าปีศาจได้เหวี่ยงขวานอันใหญ่รอบตัวด้วยเเรงมหาศาลพื้นบริเวณนั้นเกิดเเรงสั่นสะเทือน
เขาได้หลบการโจมตีหนักอย่างพริ้วไหวเหมือนการเต้นรำอย่างสวยงามท่ามกลางสมรภูมิเขากระโจนขึ้นไปบนตัวของหัวหน้าปีศาจด้วยพละกำลังมหาศาล
“ ฉีกเฉือน สังหาร ”
เรย์ได้ร่ายสกิลพร้อมการโจมตีด้วยกริชที่เฉียบคมกระหน่ำเฉือนอย่างเฉียบคม ในส่วนต้นคอของปีศาจจนเกิดรอยเฉือนขนาดใหญ่กล้ามเนื้อส่วนคอของปีศาจได้ขาดเลือดสาดกระเซ็นทั่วบริเวณจากแผลฉกรรจ์นั้น
ปีศาจคลุ้มคลั่งด้วยความโมโหเเละเหวี่ยงขวานรอบตัวด้วยเเรงที่บ้าคลั่งพร้อมด้วยการทุบพื้นด้วยแรงมหาศาล
“ ตุ้ม! ครึ้ม! ตุ้ม! ”
เสียงของเเรงมหาศาล เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่เเรงสั่นสะเทือน
เขาได้พุ่งกระโจนหลบออกมาจากตรงนั้นหากเขาถูกการโจมตีนั้นละก็เขาอาจจะตายได้เลยในทันที เรย์ได้ตั้งสมาธิจดจ่อกับการสังหารปีศาจตนนั้น เขาใช้ประสาทสัมผัส อย่างเฉียบคมพร้อมพุ่งเข้าไปด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อปิดฉากการต่อสู้
เรย์ไม่ลังเลที่จะซ้ำรอยเดิมเพื่อปลิดชีพปีศาจก่อนที่พละกำลังของเขาจะหมดเขาได้ใส่เเรงบริเวณปลายกริชคู่ของเขาทั้งหมดกริชที่เฉียบคมเฉียนเข้าใส่ต้นคอขอปีศาจอีกครั้งจนขาดกระเด็นเลือดสาดกระเซ็น หัวหน้าปีศาจได้ถูกสังหารลง
ปีศาจได้เกรงกลัวเเละถอยทัพถึงคราวที่มนุษย์จะบอกโจมตีอีกระลอก เหล่าอัศวินพร้อมกระโจนสังหารเหล่าปีศาจจนหมดสิ้นเเละสงครามครั้งนี้เราจะเป็นฝ่ายชนะ
“ เฮ้!! พวกเราเอาชนะสมรภูมินี้ได้ ”
“ อัศวินต่างโห่ร้องด้วยความดีใจเเละร้องไห้เพราะสงครามที่ยืดยาวได้จบลง”
ทุกคนในสงครามต่างโห่ร้องยินดีกับสงครามนี้ที่ได้สิ้นสุดลงสักที อัศวินคนหนึ่งได้พูดกับเรย์ว่า
“ เรย์เจ้านี่เจ๋งชะมัดที่ช่วยพวกเราชนะสงครามนี้เเถมอายุยังน้อยเเต่ความสามารถเก่งกาจขนาดนี้ ”
“ อืม ขอบคุณที่พยายาม ”
เรย์พูดเเละได้เเหงนมองท้องฟ้าที่มี เเสงที่สาดส่องลงมาเหมือน เป็นการบอกถึงการชนะสงครามในครั้งนี้ เรย์เหนื่อยล้าจากการต่อสู้เป็นอย่างมากสภาพของเขาตอนนี้ไม่ต่างไปจากซากศพกลิ่นเลือดกลิ่นของอวัยวะเลอะเต็มชุดเกราะเเละหน้ากากของเขาจากการสังหารอันบ้าคลั่งของในสมรภูมิรบในครั้งนั้นทำให้เขาทำให้เขาได้รับการขนานนาม
” อัศวินพเนจรผู้เด็ดเดี่ยว ”
เรย์ได้รับการชื่นชมจากผู้บัญชาการอัศวินเเละได้รับรางวัลอีกหลายอย่างจากการมีส่วนร่วมสำคัญในการชนะสงครามครั้งนี้
“ นี่ เรย์ เจ้าสนใจมาเข้าร่วมกองทัพของเรามั้ย ”
“ พวกเราต้องการอัศวินที่เเข็งเเกร่งเเบบเจ้า ”
ผู้บัญชาการอัศวินเอ่ยถาม
“ ข้าเป็นเพียงอัศวินพเนจร “
เรย์มองหน้าผู้บัญชาการอัศวินด้วยสีหน้าที่เรียบเเละพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“เอาเป็นเเบบนั้นก็ได้เเล้วเเต่เจ้าเลยก็เเล้วกัน ”
“ รู้สึกเสียดายชะมัดที่จะมีอัศวินมากความสามารถเเบบนี้ในสงคราม ”
หัวหน้าบัญชาการอัศวินคิดในใจ เขาได้ยื่นเงินตอบเเทนทั้งหมด 5000 เรเดี่ยม ให้กับเรย์
” ขอบใจ ” เสียงของเรย์ที่ได้พูด
เรย์คว้าเงินไว้เเล้วเขานั้นออกเดินทางต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย ในช่วงยามราตรีเรย์ เขาได้นอนพักบริเวณริมเขาของป่าเเห่งหนึ่ง เขาได้มองลงไปยังตัวเมืองที่ห่างไกลสุดสายตาในช่วงค่ำคืนที่เงียบงัน เเละมืดมิด เเสงสว่างของดวงจันทร์เเละเหล่าดวงดาวที่เปร่งประกายในยามราตรี
เรย์ได้หลับตาลงเขาคิดกับตนเองว่าตนนั้นเป็นใคร เรย์ได้นอนหลับเเละได้นึกย้อนกลับไปครั้งเเรกที่เขาลืมตาตื่นในสลัมที่ถูกทอดทิ้งเเห่งหนึ่งเขาจำความได้เขานั้น อายุได้เพียง 12ปี เขานั้นเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่รู้เกี่ยวกับตนเองบิดาหรือมารดาก็ไม่สามารถจำได้มีเพียงเสียงที่เขาจำได้
“ เรย์ ”
เสียงของคนคนหนึ่งที่เรียกขานชื่อของเขามีเพียงชื่อที่เขาจำมันได้ เขานั้นมีผมสีขาวใบหน้าอันหล่อเหลาเเละสวยงามดวงตาสีฟ้าเหมือนท้องฟ้าของเขานั้นสวยงามเป็นอย่างมาก เเต่ทว่าต่างจากสถานะของเขาตอนนี้อย่างสิ้นเชิงเขาได้ถูกนายทาสซื้อตัวไป เพราะลักษณะหายากดวงตาสีฟ้า ผมสีเงินยาว ทำให้นายทาสรู้สึกสนใจตัวของเรย์เป็นอย่างมาก
ในสลัมที่นี่มีเเต่ความบัดซบการทุบตีการทำร้ายร่างกายการข่มขืนอนาจารการค้าทาสการค้าผิดกฎหมายการเข่นฆ่ากันเเละสิ่งที่ชั่วเกินจะบรรยายต่างๆ นานา เรย์ไม่สามารถทำอะไรได้เลยเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ว่างเปล่าเเละไร้หนทาง ดวงตาที่เศร้าหมอง เรย์ถูกทำร้ายจากนายทาสเเละถูกเฆี่ยนตีเยี่ยงทาส เรย์ถูกทำร้ายทารุณซ้ำเเล้วซ้ำเล่าความเจ็บปวดของเขามันมากเเละเกินที่เด็กคนหนึ่งจะรับไหว เขาทนต่อเเรงกดดันมาการทำร้ายทารุณมาเรื่อยๆ นายทาสสารเลวได้หล่อหลอมเรย์ให้คอยทำงานเบื้องหลัง
เพื่อทำงานสกปรกเเละโสมม เรย์นั้นได้สังหารคนเป็นครั้งแรกจากงานสกปรกที่ได้รับมอบหมายจากนายทาสให้ทำทั้งฆ่าผู้คนบริสุทธิ์ เเละฆ่าโดยไม่มีเหตุผลเพราะคำสั่งบ้าๆ ของนายทาส สายตาของเรย์นั้นเย็นชาว่างเปล่าการกระทำคำพูดที่ถูกหล่อหลอมมาด้วยความโหดร้ายทารุณต่างๆ มากมาย เเต่เเล้วเหตุการณ์นั้นก็ได้เกิดขึ้น
วันพระจันทร์ครึ่งดวงเรย์ได้มองขึ้นไปบนดวงดาวนับร้อยเเละดวงจันทร์ที่ครึ่งเสี้ยวเขาได้ขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาเหม่อมองด้วยสายตาที่เย็นชาอยู่เสมอเเต่ภายในนั้นกลับมีความเศร้าสร้อยภายในจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก ทันใดนั้น
มีเสียงที่น่าสยดสยองเสียงเเห่งความสิ้นหวังกรูเข้ามารอบทิศทางเมือง เกิดเหตุการณ์ ปีศาจโจมตีเมืองปีศาจนับร้อยที่ได้มุ่งโจมตีเสียงกรีดร้องของมนุษย์เสียงสิ้นหวังดังกึ่งก้องไปทั่วทั้งเมือง มนุษย์ถูกกินกระชากเเละถูกชำแหละเลือดละเลงทั่วเมืองเสียงขอร้องอ้อนวอนเสียงการฆ่าฟันการกวาดล้างของเหล่าปีศาจเหล่าเเรงค์เกอร์เเละอัศวินต่างสู้กับปีศาจเพื่อกำจัดปีศาจให้สิ้นต่างฝ่ายต่างเข่นฆ่ากันเสียงการฆ่าฟันนั้นดังสนั่นทั่วทั้งเมือง
ความสิ้นหวัง ความกลัวต่างถาถมเข้ามาอย่างมากมาย เรย์ได้ตื่นตกใจเหล่าปีศาจที่กรูเข้ามาอย่างมหาศาล ชาวเมืองถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เรย์นั้นรู้สึกถึงความสิ้นหวังเเละอยากจะออกไปจากที่เเห่งนี้ เรย์ได้วิ่งสุดชีวิตเผื่อหลบหนีจากเหล่าปีศาจเขานั่นได้วิ่งไปเรื่อยเเต่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยเริ่มสะสมบาดเเผลของเขาตามลำตัวที่ถูกนายทาสทำร้าย เขาได้กัดฟัน เขาคิดเเละพูดกับตัวเอง
“ เเฮ่ก เเฮ่ก “
“ รู้สึกเหนื่อยชะมัด เราเเทบไม่เหลือเเรงเเล้ว ”
บาดเเผลของเขาจาการโดนทำร้ายเรี่ยวเเรงที่ไม่เหลือสายตาที่เหน็ดเหนื่อยของเรย์ เสียงหายใจที่เเทบจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อความกลัว ความเศร้า ความสิ้นหวัง เเละเเล้วมีปีศาจอยู่ตัวหนึ่งได้กระโจนลงมาตรงหน้าของเรย์ ปีศาจรูปร่างน่ากลัว มีหลายตาเเละตัวใหญ่น่าสะพรึงกลัว มันจ้องมองมาที่เรย์ด้วยความอยากกระหาย กรงเล็บที่ ยาวดวงตาสีเเดงเเละรูปร่างที่อัปลักษณ์กรงเล็บที่คมยาว ของมันนั้นทำให้เรย์รู้สึกกระอักกระอ่วนออกมา
“ นี่มันปีศาจตัวอะไรกัน ”
“ เเบบนี้เเย่เเน่ ”
เรย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ ขาของเขาเริ่มสั่นด้วยความกลัวเเต่สายตาของเด็กหนุ่มนั้นตรงกันข้าม สายตาที่ มีความเเน่วเเน่เเละไม่เกรงกลัว เขาพยายามตั้งสติ ทันใดนั้น
เด็กหนุ่มวิ่งหันหลังอย่างสุดชีวิต เขาพยายามคิดที่จะเอาชนะปีศาจตัวนั้น เรย์ได้วิ่งเข้าไปยังซอกซอยเเละพยายามหาโอกาสโจมตีเจ้าปีศาจหลายตาปีศาจได้วิ่งไล่ด้วยท่าทางที่น่ากลัวเเละกรงเล็บที่ตวัดไปมา สามารถจะตัดผ่ามนุษย์ได้อย่างง่ายดาย ปีศาจได้กระโจนเข้ามาคิดที่จะฟันเรย์ให้เป็นชิ้นๆเรย์ได้กระโดดหลบออกมาด้านข้างอย่างฉิวเฉียดเเละเขาได้ใช้อาวุธกริชคู่ของเขาฟันเข้าไปยังขาของปีศาจหลายตาเพื่อให้มันเสียสมดุล
“ บ้าเอ้ย ! ข้าฟันเข้าตื้นเกินไป ”
ปีศาจฟาดฟันกรงเล็บใส่เรย์อย่างรุนเเรง เรย์ใช้กริชในการกันการโจมตีของปีศาจเรย์ถูกเเรงจากการฟาดกรงเล็บของปีศาจเขาถูกการโจมตีของปีศาจ ตัวของเขากระเด็นออกมาด้วยความรุนเเรงเเละเสื้อผ้าของเขาฉีกขาดเเขนเเละกริชของเขาเป็นรอยกรงเล็บ ช่วงอกเป็นรอยเเผลจากการรับเเรงประทะที่รุนเเรงเลือดได้ไหลจากบาดเเผลของเขาเสียงหายใจ ที่เเทบสิ้นลมของเรย์
เรย์พยายามคงสติเอาไว้ เเละเรย์ได้หมดสติไปชั่วครู่หนึ่ง
“ ติ๊ง ติ๊ง “
“ เรย์…”
เสียงของหยดน้ำที่ได้หยดลงเเละเสียงของคนๆหนึ่งได้พูดขึ้นมา
เขาได้ลืมตาตื่นขึ้นเเละได้ปรากฏภาพของหญิงสาว ตรงหน้าของเรย์เธอมีผิวสีขาวที่งดงามผมสีขาวยาวพริ้วไสว ชุดสีขาวที่งดงาม ดวงตาสีฟ้าเปร่ง ประกายเเสนงดงาม หญิงสาวได้ยิ้มให้เด็กหนุ่ม เธอได้ยื่นมือมา เเละได้พูดบางอย่างกับเรย์ เเต่เรย์นั้นไม่ได้ยินเสียงที่พูดออกมาจากหญิงสาวคนนั้น