THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน - ตอนที่ 12 การทดสอบการเป็นนักผจญภัย
” เอาล่ะ! เตรียมพร้อมนะเจ้าหนุ่ม ” ชายคนนั้นได้พูดด้วยความตื่นเต้น
เรย์ได้ลดดาบของเขาลงเเละเดินเข้าไปอย่างช้าๆเขาได้สายตาของเขานั้นไม่คิดที่จะปราณีเลยเเม้ว่านี่จะเป็นการทดสอบ เรย์ได้เดินเข้าไปเรื่อยๆเเละจับกริชทั้งสอง เเละกางเเขนทั้งสองขึ้นพร้อมกับเดินอย่างช้าๆ เขาได้ยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม
” ฟุ่มมมมม!!! ” เสียงของเรย์ที่ได้พุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
” เเบบนี้สิว่ะ การต่อสู้ถึงจะสนุก!! ” ชายคนนั้นได้ลากดาบเเละตวัดดาบขึ้นจากพื้นกวัดเเกว่งออกไปข้างหน้าอย่างรุนเเรง
” เคร้งงงงง!! ” เสียงของดาบทั้งสองได้ปะทะกันเรย์เเละเเฮมเชลได้ปะทะเเรงดาบกันซึ่งๆหน้า
เรย์เเละได้ยิ้มออกมาด้วยความสนุก
” นานๆที่ข้าจะเจอคนเช่นเจ้านะเนี่ยเรย์! “เเฮมเชลพูดพร้อมกับปัดดาบของเรย์ออก
เรย์เเละเเฮมเชลต่างฟาดฟันกันด้วยความรุนเเรง คลื่นของใบมีดในพุ่งกระจายออกรอบตัวของพวกเขาทั้งคู่
” ฉึ่บบ ” เสียงของดาบที่ได้ฟันเฉียดใบหน้าเรย์ของเรย์เล็กน้อย เลือดของเขาได้ไหลซิบออกมา ทั้งคู่เข้าจู่โจมกันอีกครั้ง
” เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! ” เสียงของดาบที่ฟาดฟันกันอย่างบ้าคลั่งทั้งเรย์เเละเเฮมเชลต่างกวัดเเกว่งดาบออกมาเเละปัดการโจมตีของกันเเละกัน
เรย์ฟาดฟันดาบคู่ไปข้างหน้าเเละฟุตเวิร์คที่คล่องเเคล่วของเขาในการโจมตีเขานั้นเหมือนกำลังร่ายรำอยู่ท่ามกลางต่อสู้
” เอาล่ะเวลาอุ่นเครื่องได้จบลงเเล้ว งั้นพวกเรามาเอาจริงกันเลยดีมั้ยล่ะ ” เรย์ได้พูดพร้อมกับยกดาบคู่ทั้งสองขึ้นมา
” ข้ารอคำนี้มานานเเล้วล่ะ ” เเฮมเชลเเละเรย์หลังจากพูดเสร็จทั้งคู่ก็ได้ปลดปล่อยออร่าออกมา เเรงกดดันของออร่านั้นได้ทำให้พื้นสนั่นออกมาเป็นคลื่นสั้นๆเเละเกิดลมพัดเเรง ออร่าสีเเดงเข้มของเเฮมเชล เเละ ออร่าเขียวปนขาวของเรย์ได้ เเผ่กระจายออกทั่วสนาม เขารวบรวม ออร่าไปยังขาเเละใบมีดของเขา
” ฟึ่มมมมม!! ” เสียงของเรย์ที่ได้พุ่งออกไปอย่างเต็มกำลัง
” ฟิ้ว! ฟิ้ว! ” เขาได้ขว้างกริชทั้งสองไปข้างหน้า
” ไม้นี้มันหลอกข้าไม่ได้ผลหรอกเว้ย! ” ชายคนนั้นได้ขยายออร่าไปยังดาบใหญ่เเละฟาดฟันดาบไปข้างหน้าใส่กริชที่พุ่งเข้ามาของเรย์
” ชั่วพริบตา ” เรย์ได้ร่ายเวทย์พร้อมกับเทเลพอร์ตไปใกล้ด้านล่างของชายคนนั้น
” การป้องกันของสรรพสิ่ง ! ” เสียงของชายคนนั้นพูดขึ้นมา
” ปั้มมมมมม!! ” เสียงของเรย์ที่ได้ต่อยออกไปอย่างเต็มเเรงเเต่ปรากฎว่าชายคนนั้นได้ใช้สกิลกันไว้ได้เเต่สกิลโล่อันนั้นก็ได้เเตกลง
” เจ้าเป็นผู้ใช้อาวุธจริงงั้นหรอ เขาได้พูดพร้อมกับ พุ่งถอยหลังออกมา ” เรย์นั้นเก่งการต่อสู้ทุกรูปเเบบการใช้อาวุธหรือการใช้หมัดเพราะในสมรภูมิสงครามนั้น หากไม่มีการใช้อาวุธทุกรูปเเบบละก็ได้ตายเป็นเเน่ อาวุธที่สามารถพังได้ทุกเมื่อ สิ่งที่ป้องกันเเละมีชีวิตรอดได้คือตัวเองเท่านั้น
” เรย์ได้ก้มเพื่อเก็บกริชขึ้นมา “
” ดูเหมือนต้องจริงจัง จริงๆเล้วล่ะ ” เรย์ได้พูดพร้อมกับปลดปล่อยออร่าออกมามากกว่าเดิม ออร่าสีเข้มเเละเเรงกดดันของเขาที่มากขึ้นเเต่เขาต้องรับภาระหนักกว่าเดิม
” ฟู่ววว “
” เร่งความเร็ว ” เรย์ได้พูดพร้อมกับได้ใช้เวทย์เสริมพลังในการเคลื่อนไหว
” เมจิกเเอโร่ ” เขาได้พูดพร้อมกับพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง พร้อมลูกศรลมที่ลอยอยู่ข้างของเขา เขาได้ขว้างลูกศรกระจายออกไปหลายทิศทาง
เขาได้ง้างเเขนอย่างสุดเเรงฟาดฟันกริชออกไปข้างหน้า เขาได้ลืมตาขึ้นเเละได้ควยคุมลูกศรเข้าหาเเฮมเชล “
” เเบบนี้เเย่เเน่น ” เเฮมเชลพูดพร้อมกับยกดาบของเขาขั้น
” ปัดป้องมรสุม ! ” เขาพูดพร้อมกับกวัดเเกว่งดาบรอบตัวเป็นวงกลม เรย์ที่ได้พุ่งเข้าหาลูกศรลมอันหนึ่ง
” เจ้าเสร็จข้าเเน่! ” เเฮมเชลพูดพร้อมกวัดกวาดดาบไปยังด้านข้างเเต่ทว่า
” พริ้วไหว ” เรย์ได้ร่ายเวทย์พร้อมเหยียบลูกศรเเละกระโดดตีลังกาหมุนตัวขึ้นข้างบน
“..!!! ” เเฮมเชลได้ตกใจเพราะมันอยู่นอกเหนือควาดคาดการของเขา
ภายในเสี้ยววินาที
” คมดาบเเห่งลมโหมกระหน่ำ!!! ” เรย์ได้ร่ายสกิลจากข้างบนลงมา คลื่นดาบอันมหาศาลได้พุ่งลงมาอยากมหาศาล
” อึกก!! ” เเฮมเชลเขาได้เหงื่อตกเขาได้ยกดาบขึ้นมาป้องกัน เรย์ได้จับเเน่นดาบเเละพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง
” ข้ามองเห็นมัน! ”
” ใบดาบบดขยี้!! ” เเฮมเชลร่ายเวทย์ออกมาพร้อมกับเเกว่งดาบของเขาขึ้นข้างบนเป็นคลื่นสีเเดงเข้มพุ่งออกไปอย่างรุนเเรง
” ชั่วพริบตา ” เรย์ได้ร่ายเวทย์เคลื่อนย้ายพริบตาอย่างรวดเร็ว
“..!!!! ” กว่าเเฮมเชลจะรู้ตัวมันก็สายไปเเล้ว
ภายในเสี้ยววินาที เรย์ได้ใช้ออร่าทั้งหมดปกคลุมที่ดาบเเละใบมีดเขาฟาดฟันมันออกไปข้างหน้าเป็นรูปตัว X ใส่กลางอกของเเฮมเชลอย่างรุนเเรง
” บึ้มมม!! ” เสียงของชายเเฮมเชลที่ได้ถูกการโจมตีอย่างรุนเเรงจนปลิวออกไปกระเเทกกับกำเเพงจนเป็นรูขนาดใหญ่ เเฮมเชลนั้นหมดสภาพเกราะของเขาเป็นรอยของใบมีดยาวเลือดของเขาได้ไหลออกมาจากบาดเเผลเล็กน้อย
” ฟู่ววว ” เรย์ได้ปล่อยลมหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เขาได้สบัดผมเเละเช็ดรอยเลือดบริเวณใบหน้าของเขาออกเล็กน้อย
” คุณเเฮมเชลคะ!! หน่วยสนันสนุนมาช่วยเขาที ”
หญิงสาวคนนั้นตกใจเป็นอย่างมากที่ทำไม ผู้ที่มีมานาเเค่ระดับหนึ่งถึงร่ายเวทย์เเละปล่อยออร่าออกมาขนาดนั้นได้ เเถมเขายังเอาชนะเเฮมเชล ผู้เป็นผู้เทียบเคียงเเรงค์เกอร์
” คนๆนี้นั้นเเข็งเเกร่ง ” เรย์ถึงกับต้องทุ่มเกือบสุดตัวในการชนะเขา เขานั้นยังเเข็งเเกร่งไม่พอเขาพูดพร้อมกับเเหงนหน้ามองท้องฟ้า
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
” นี่ค่ะคุณเรย์บัตรผ่านของนักผจญภัย เเรงค์ D ค่ะ คุณสามารถรับเควสระดับ E – D ได้ค่ะเเต่จริงๆเเล้วอยากที่จะเพิ่มเเรงค์ให้กับคุณเรย์เเต่มันจะมีปัญหาเอาค่ะ เธอได้พูดออกมาด้วยความกังวล
” ขอบคุณ ”
” นี่เจ้าจะไปเเล้วหรอ ” เเฮมเชลได้เดินออกมาพร้อมกับผ้าพันเเผลรอบตัวเขา
” ใช่ดูเหมือนข้าต้องไปหาเงินเพิ่มเเล้วล่ะ ”
” ฮ่าๆ! ข้าอยากจะเพิ่มระดับนักผจญภัยให้เจ้าอีกนะเเต่ข้ากลัวจะเป็นปัญหาเอาหนะ “
” ไม่เป็นไรขอบคุณ เเค่นี้ก็เพียงพอเเล้วล่ะ ” เรย์พูดพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย
” ไว้มาสู้กันอีกนะ ข้าสนุกมากเลยล่ะ! ”
” เอาไว้คราวหน้าละกันนะ ” เรย์พูดพร้อมกับเดินหันหลังออกไป
” เขายังเป็นเด็กหนุ่มเเต่เเข็งเเกร่งมากเลย “
” เขานั้นเเข็งเเกร่งเเละน่ากลัวมากๆเลยล่ะ สายตาของเขาที่บ่งบอกถึงว่าเขานั้นผ่านอะไรมาบ้าง การฆ่าฟันการนองเลือดสายตานั้นคือข้อพิสูจน์เลยล่ะ “
” ไม่น่าเชื่อที่เขาระดับมานาเเค่ 1 เเต่เเข็งเเกร่งถึงระดับนี้ ”
” มานาระดับ 1 หรอ !? ” มันจะเป็นไปได้ยังไงออร่าเเละพลังเวทย์ที่เขาได้ใช้เเละปล่อยออกมามันไม่ใช้นั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ระดับ 1 นั้นจะทำได้เลยด้วยซ้ำ ” เเฮมเชลทำสีหน้าที่งงงวยเป็นอย่างมาก
” ราเฟียจะยังอยู่มั้ยนะ ” เรย์ได้พูดพร้อมกับเดินไปยังหน้าน้ำพุกลางจตุจักร
” ราเฟีย “
” เหมือนราเฟียจะไม่อยู่ คงต้องตามหาเเล้วสินะ ” เรย์ได้เดินตามหาราเฟีย
” เจอเเล้ว ” ดูเหมือนเขาได้เจอราเฟียเเล้วเเต่เหมือนเธอจะถูกล้อมโดยนักผจญภัยกลุ่มหนึ่ง
” สาวน้อยพ่อเเม่ไปไหนหรอหื้อ ไปกับพวกข้ามั้ยเดี่ยวพวกข้าซื้ออะไรอร่อยให้ทาน ”
” ไอ้พวกสวะ! ออกไปจากข้านะ! ”
” ไม่เอาน่า สาวน้อย ” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับจับเเขนขอบเธอ
” พรึ่บบบบ ” เรย์ได้วาปมาเข้ามาข้างชายคนนั้นเเละบีบเเขนของชายคนนั้นจนหัก
” อ้ากกก!! “
” บ้าอะไรของเจ้าว่ะเนี่ย ! “
” มองทำบ้าอะไรรุมจัดการเจ้านั่น! ” ชายอีก 3 คนได้ใช้ดาบฟันไปยังเรย์ด้วยความบ้าคลั่ง
” พวกสวะ ” เรย์พูดมาด้วยน้ำเสียงที่เงียบเขาได้ปล่อยจิตสังหารออกมา
” ปั้มมม!! ” เสียงของเรย์ที่ได้ต่อยอัดหน้าชายคนหนึ่งอย่างรุนเเรง
” โคร่มมม! ” ชายคนนั้นได้ปลิวออกเเละตัวกระทบกับเศษรถไม้เก่า
” จะเอาอีกมั้ย ” เรย์ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เลือดเย็น
” ขอโทษพวกข้าผิดไปเเล้ว! พวกข้าผิดไปเเล้วจริงๆปล่อยข้าไปเถอะ ” ชายกลุ่มนั้นได้อุ้มร่างของชายที่ปลิวไปขึ้นมาเเล้ววิ่งหนีออกไปด้วยความกลัว
” เห้ออ ” เรย์นั้นไม่อยากใช้ความรุนเเรงต่อหน้าราเฟียซักเท่าไหร่
” ราเฟียเป็นยังไงบ้าง ” ราเฟียได้เดินเข้ามากอดเขาอย่างช้าๆ
” ข้ากลัว.. ”
” เธอคงกลัวพวกมนุษย์มากเลยสินะ ” เพราะมนุษย์นั้นทำสิ่งที่ยากจะเกินอภัยต่างๆจนทำให้เธอนั้นกลัวมนุษย์มากๆ
เรย์ได้ลูบหัวเธอเบาๆ
เขาเห็นราเฟียอยู่หน้าร้านเครื่องประดับเมื่อกี้ก่อนที่จะถูกพวกนักผจญภัยมารุมล้อมไว้
” เจ้าอยากได้อะไรมั้ยเดี่ยวข้าซื้อให้ “
” ไม่เอา! เสียงของราเฟียที่ได้พูดออกมาเเต่สายตาของเธอนั้นดูเศร้า ” เดี่ยวข้าจะซื้อให้เจ้าเองเรย์ได้ยิ้มพร้อมกับจูงมือราเฟียไปยังร้าน
” ราเฟียได้น้ำตาคลอเบ้าออกมา ”
” ราเฟีย อยากได้ของขวัญให้ตัวเอง ราเฟียไม่เคยได้ของขวัญเลย ” ราเฟียร้องให้เเละพูดออกมา
” ราเฟียนั้นยังเป็นเเค่เด็ก เธอนั้นที่ผ่านเรื่องเลวร้ายต่างๆมาเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะรับได้ ไม่เคยได้รับของจากใคร เเละการที่ต้องจากครอบครัว จากพ่อเเละเเม่มา มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดเเละอยากที่จะทนไหวสำหรับเด็กตัวเล็กๆอย่างเธอ ”
” พ่อ เเม่ ” เรย์ได้พูดออกมาเบาๆเขานั้นไม่รู้เเละจำไม่ได้เลยว่าเขานั้นคือใคร พ่อ เเม่ คือใครกัน เขากำหมัดเเละได้ตั้งปฤิธานว่าตนนั้นจะตามหาตัวตนของตนเเละพ่อเเม่ให้ได้ เขาได้เเหงนหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้น้ำตาของเขานั้นมันไหลออกมา
” ไปกันเถอะ ราเฟีย ”
” อื้อ! ” เรย์ได้เดินจูงมือราเฟียไปยังร้ายเครื่องประดับ
” เจ้าเลือกได้เลยว่าจะเอาอันไหน “
” ว้าว สวยจัง ” เธอได้พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
” ราเฟียเอาอันนี้ ” เธอได้หยิบสร้อยคออันหนึ่งที่มีลักษณะเป็นรูปของจิ้งจอกตัวเล็กกำลังขดตัวอยู่
” ชอบอันนี้หรอ “
” อื้อ อันนี้เเหละ ”
” สร้อยคอเท่าไหร่หรอ ”
” ข้าขายให้เจ้า 200 เรเดี่ยม ” เรย์พยักหน้าเเละซื้อมาในทันที
” ตอนนี้เหมือนจะมีอยู่ 2000 เรเดี่ยม น่าจะพอค่าพักเเละค่ากิน อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ “
” ช่างมันตอนนี้ไปซื้ออุปกรณ์เวทย์ก่อนเเล้วกัน ” เรย์เเละราเฟียได้เดินไปยังร้านขายอุปกรณ์เวทมนตร์เเห่งหนึ่ง
” กริ้งง ” เสียงของประตูร้านได้เปิดขึ้น เขาได้มองไปรอบๆร้านเห็น คฑาเวทย์เเละเหล่าอาร์ติเเฟคเเละเครื่องประดับเวทย์ต่างๆมากมาย
” มีใครอยู่มั้ย “
” ยินดีต้อนรับครับคุณลูกค้า หากต้องการอะไรบอกได้เลย ” เสียงของเจ้าของร้านได้พูดขึ้นมา
” ข้ากำลังหาเครื่องประดับมานาเวทย์ซักชิ้นหนะ ”
” อ้อ ที่ร้านมีเเหวนกักเก็บมานา สนใจดูมั้ย ” เรย์ได้พยักหน้า
” นี่เป็นเเหวนกักเก็บมานาชิ้นสุดท้ายในร้านเเล้วล่ะ ” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับวางเเหวนไว้ข้างหน้า เเหวนมีลักษณะสีฟ้าเเละเหมือนมีเวทย์มนตร์อยู่ข้างใน
” เท่าไหร่งั้นหรอ ”
” ข้าขายให้เจ้า 1000 เรเดี่ยม ” เงินเราได้หายไปในพริบตาเลยเเต่สุดท้ายเรย์ก็ตัดสินใจซื้อเพราะในวันพรุ่งนี้นั้นเขาต้องไปออกล่ามอนเตอร์จึงต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุด ” เขาได้เดินออกจากร้าน เเต่ทว่าในตอนนี้นั้นเริ่มเย็นเเล้ว เรย์เเละราเฟียจึงเดินกลับที่พัก
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงดึก เขาก็ได้อยู่ในห้องเเสงจันทร์ที่สาดส่องลงมายังห้องของเขา เรย์ได้คิดเรื่องต่างๆที่เข้ามาเเละเรื่องหลังจากนี้
” เฮมีเทส ”
” เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ.. ”