THE OBLIVIOUS PRINCE : เจ้าชายผู้ลืมเลือน - ตอนที่ 3 อัศวินหญิง
เเสงรุ่งอรุณในยามเช้า ได้สาดส่องผ่านเข้ามา ใบหน้าที่ได้สีผมสีเงินสวยงามใบหน้าอันสวยงามเด็กหนุ่มเเละเเสงที่สาดส่องลงมา
เรย์ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาถึงเเม้เขารู้สึกเจ็บเริ่มเบาลงเเต่อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ของเขาก็เริ่มหายดีบ้างเเล้วเเต่รอยเเผลการต่อสู้กับปีศาจบริเวณเเขนทั้งสองข้างเเละอกของเขา เขายังรู้สึกเจ็บบริเวณนั้น ร่องรอยของกรงเล็บของปีศาจที่ได้เชือดเฉือนร่างกายเเละทิ้งรอยเเผลเอาไว้เขาพยายามได้ลุกขึ้นจากเตียงเเม้เขาจะบาดเจ็บอยู่ก็ตาม เฮมีเทสได้เข้ามาเเล้วได้พูดกับเรย์
” เจ้าเป็นยังไงบ้างอาการเริ่มดีขึ้นบ้างมั้ย บาดเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า ” เฮมีเทสถามด้วยความเป็นห่วง
” อาการข้าเริ่มดีขึ้นบ้างเเล้ว “
” เเต่ข้ายังรู้สึกเจ็บบริเวณเเขนเเละอกที่เป็นรอยเเผลจากการโจมตีของปีศาจ “
เรย์พูดพร้อมสัมผัสบริเวณเเผลของเขาเอง เฮมีเทสได้เข้าไปใกล้เรย์เธอใช้มือสัมผัสรอยเเผลของเรย์
” อึก ข้าเจ็บนะ.. “
” ข้าขอโทษ เเผลมันลึกมากเลย เจ้าคงเจ็บมากเลยสินะ “
เฮมีเทสพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง เรย์ได้มองไปที่สายตาเธอ เรย์ไม่เคยเจอคนที่รู้สึกเป็นห่วงเขามาก่อน
เธอเป็นคนที่จิตใจดีเเละสงสารผู้อื่นสายตาของเธอเหมือนเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เรย์ได้พยายามได้ลุกขึ้นมาเขาได้นึกถึงวันที่เขาได้สู้กับปีศาจตนนั้นหากไม่ได้เป็นเพราะพลังเขาคงได้พ่ายเเพ้เเละตายไปเเล้ว เขาได้พูดกับ เฮมีเทสว่า
” เฮมีเทส เจ้าช่วยฝึกฝนให้ข้าเเข็งเเกร่งขึ้นที ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
สายตาอันเย็นชาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเเม้ตอนนี้ร่างกายของเขานั้นจะบาดเจ็บอยู่ก็ตาม
” เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ เจ้าควรพักฟื้นให้หายดี “
เรย์ไม่พูด เเต่สายตาของเขานั้นบอกว่าเขานั้นอยากที่จะทำมัน เฮมีเทสรู้สึกเป็นห่วงเเต่ เรย์อยากที่จะทำมัน เธอได้บอกว่าเอาเเบบนั้นก็ได้ ในช่วงตอนเย็นไปยังลานฝึก ข้าจะฝึกฝนให้เจ้าเอง เรย์ได้พยักหน้า เฮมีเทสได้เดินออกไป.. เรย์ได้นอนพักฟื้นต่ออีกสักพักเพื่อความพร้อมสำหรับการฝึก
เวลานั้นได้ผ่านไปจนถึงช่วงเย็น
เรย์ได้ตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับ ตอนนี้เขาพร้อมเเล้ว เรย์ได้ลุกขึ้นจากเตียงเขาได้สวมชุดที่เฮมีเทสได้วางเอาไว้ เขาสวมชุดเกราะเบาเเละรองเท้าหนัง เขาเตรียมตัวให้พร้อมเเละไปยังลานฝึก เฮมีเทสมาที่สนามฝึกก่อนเขาซะอีก
เธอสวมชุดพร้อมชุดเกราะสีเงินพร้อมทั้งดาบยาวสีเงินของเธอ เธอเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกสอนในครั้งนี้อย่างมาก
” เจ้าพร้อมเเล้วใช่มั้ยเเม้นายยังบาดเจ็บอยู่ ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึ่ม
” ข้าพร้อมเเล้วละ “
เรย์พูดเขาทำสายตาที่เเน่วเเน่เขาดึงถุงมือเเน่นเเสดงถึงความพร้อมของเขา
” งั้นก็ดี หยิบอาวุธขึ้นมาซะ “
” ท่าทางของเธอเป็นคนละคนเลยในเวลาที่เธอสู้สายตาของเธอนั้นน่ากลัวเเละไม่มีความปรานีต่อศูตรเลยสักนิด เหมือนอัศวินวัลคีรี่ในสนามรบ ” เรย์ได้คิดในใจ
” เลือกอาวุธอยู่ทางขวาเจ้าเลือกอาวุธที่เจ้าถนัดมาได้เลย “
เรย์ได้เดินไปหยิบดาบสั้นคู่ขึ้นมาเขาคิดว่าตัวเขานั้นถนัดและเหมาะกับดาบคู่ที่สุด หลังจากหยิบอาวุธเสร็จเรย์ได้เดินเข้าลานฝึกอีกครั้ง เขารู้สึกขมขื่นเเละรู้สึกอึดอัดต่อเเรงกดดันของเฮมีเทส
” นี่สินะ อัศวิน “
เเค่เพียงเขามายืนข้างหน้าเขาก็รับรู้ถึงเเรงกดดันอันมหาศาลจากเธอ
” เตรียมพร้อมนะ เรย์ “
เธอได้พูดพร้อมทั้งยกดาบขึ้นมา เธอจับดาบของเธอขึ้นมาตรงหน้าด้วยท่าทางที่สง่า
เรย์กระอึกน้ำลายถึงเเม้เขาจะมีความกล้าความไม่เกรงกลัวเเต่อีกฝ่ายเป็นถึงอัศวินของอาณาจักรเเต่เขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ฝึกฝนเขาต้องการที่จะเเข็งเเกร่งขึ้น
ทันใดนั้น เฮมีเทสได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วเป็นอย่างมาก เรย์ตกใจถึงความไวที่เธอพุ่งเข้ามา เขาหยิบดาบทั้งสองคู่ขึ้นมากันพร้อมทั้งกระโดดหลบไปด้านข้าง เเต่เฮมีเทสฟันดาบมาด้วยความไวทำให้เรย์กันไว้ไม่ทัน
” เคร้ง! “
เสียงของดาบที่ปะทะกันเรย์รับดาบของเธอที่ฟันเข้ามาเขาได้กระเด็นออกไปด้านข้าง
เขารู้สึกถึงความล้า เธอได้โจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เเต่เรย์ก็กันไว้ได้ไม่หมด เขาถูกโจมตีอยู่เพียงฝ่ายเดียว
” ในการสู้จริงเจ้าจะไม่ได้พักจากการโจมตี หาช่องว่างเเละสวนกลับนั้นเป็นหนทางเดียวที่เจ้าจะเพิ่มโอกาสการชนะคู่ต่อสู้ “
เธอพูดพร้อมโจมตีไปเรื่อยเธอได้ฟาดฟันด้านข้างของเรย์อย่างรุนเเรงอีกครั้ง เรย์ได้รวมรวมเเรงในการหลบการโจมตีจากด้านข้างของเธอ เรย์พุ่งออกด้านตรงข้ามเเละยกดาบคู่ขึ้นมากันการโจมตีเพื่อลดเเรงกระเเทกของดาบที่ฟันเข้ามาเขา มือของเขาสั่นเเละรู้สึกถึงความล้าสะสม จากการโจมตีเป็นชุดของเธอ เขาไม่มีเวลาได้พักเลยสักนิด
เรย์ได้พุ่งออกมาตั้งหลัก เขาได้พุ่งโจมตีอีกครั้งโดยไม่ลังเล เขายกดาบคู่ขึ้นมาเเละฟันไปยังเธออย่างรุนเเรงเเละไวมากเเต่การโจมตีของเรย์นั้นยังเบาเกินไปละขาดความต่อเนื่อง
“ในการโจมตีทุ่มการโจมตีไปในจุดตายซะ หากเจ้าเจอศูตรที่เเข็งเเกร่งเเละไม่มีกำลังเเละเเรงที่สามารถสู้ได้ตรงๆ”
“โจมตีเป็นจุดอย่างรุนเเรงเเละหาช่องว่างในการสวนกลับ”
“อาวุธของเจ้าคือดาบสั้นคู่ที่เเหลมคมจุดเเข็งของมันคือความไวความเเหลมคมเเละความคล่องตัวในการใช้งาน”
เธอพูดไปพร้อมกันการโจมตีของเรย์ เรย์ได้ฟังคำสั่งสอนของเธอ เรย์พยายามฟันในจุดที่เธอกันไม่ได้
เขาได้หลบการโจมตีของเธอเเละเรย์ได้จับดาบเเน่นเขาใช้สมาธิในการโจมตีอย่างรวดเร็วเเละเเม่นยำ
เฮมีเทสรู้สึกตกใจ
“เขาปรับตัวในการต่อสู้ได้ไวมากการตัดสินใจของเขาเฉียบคมเเละไม่ลังเลในการต่อสู้นี้เลยเเม้ว่าเธอจะเป็นอัศวินก็ตาม”
เฮมีเทสคิดในใจ พร้อมกันการโจมตีเเละหลบการโจมตีของเรย์ ทั้งคู่ต่างผลัดการโจมตีเเละสวนกลับอย่างรวดเร็วเสียงของดาบที่กระทบกันดังสนั่นทั่วพื้นที่
เหล่าอัศวินที่อยู่รอบนอกได้เข้ามาดูทั้งคู่ต่อสู้กัน มีอัศวินคนหนึ่งได้พูด
“เจ้าเด็กนี่น่ากลัวชะมัดสายตาของมันทั้งเย็นชาเเละไม่เกรงกลัวต่อสิ่งตรงหน้าเลยเลยสักนิด เเม้ว่าคนที่เขาสู้อยู่นั้นจะเป็นหัวหน้าก็ตาม ” อัศวินในกองทัพกล่าว
เรย์จับดาบสั้นในมือทั้งสองของเขาเเละไขว้พร้อมพุ่งเข้าไปโจมตีอีกครั้ง เขาได้เเทงไปยังเอวของเธออย่างรุนเเรง
เฮมีเทสลดดาบมากันไว้ไม่ทันเพราะเรย์พุ่งจากจุดบอดที่เธอมองไม่เห็นด้วยความเร็วที่ไวมาก เธอได้หลบไปด้านข้างพร้อมตวัดดาบรอบตัว
เรย์ได้ยกดาบสั้นขึ้นมาเเต่ก็ ถูกการโจมตีจากการตวัดดาบของเธออย่างเต็มเเรง
” เฮือก!! “
เรย์ถูกการโจมตีของเธอจนกระเด็นเข้ากับกำเเพงอย่างรุนเเรง อวัยวะภายในเขาได้รับบาดเจ็บอย่างมากเขาได้กระอักเลือดออกมาเล็กน้อย เขารู้สึกจะหมดสติ เเต่เขายังจับดาบคู่ไว้เเน่น เขาไม่ยอมเเพ้เขาพยายามลุกขึ้นมาอย่างช้าๆเเละตั้งท่าไว้อีกครั้ง เขาได้นึกถึงสิ่งที่เธอได้สั่งสอนเขา
เขาได้เริ่มข้าจู่โจมเธออีกครั้ง อย่างสุดกำลัง เขาพุ่งเข้าไปหาเธอตรงหน้าโดยตรง เธอยกดาบขึ้นมากันเเละพร้อมที่จะสวนกลับในทันที
ทันใดนั้นเองเรย์ได้พุ่งหลบด้านข้างละได้ก้มต่ำลงพร้อมกระโจนเข้าอีกครั้งเขารวบรวมเเรงทั้งสองไว้ที่มือของเขา เขาเเทงดาบสั้นทั้งสองออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เขาได้เเทงเข้าไปยังด้านข้างของเธออย่างจัง
” อึกก! ”
เธอถูกโจมตีเเละเธอตกใจเป็นอย่างมากว่าเรย์ทำเเบบนั้นได้ยังไง
เเต่ทว่าเขานั้นเเทงดาบออกไปได้ไม่เเรงพอ เข่าของเขาทรุดลงด้วยความเหนื่อยล้าตาของเขาค่อยๆเริ่มดับลงเเละเขาก็เริ่มรู้สึกหมดสติไป
เธอได้จับไหล่ของเรย์ไว้
“เรย์ เรย์! ” เธอได้พูดน้ำเสียงที่เป็นห่วงเเต่ทว่าเรย์นั้นได้หมดสติไปเเล้ว
เธอคิดในใจว่า
” หากเจ้าอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับข้า เมื่อกี้นี่เราคงบาดเจ็บหนักไปเเล้วเเน่ๆ สายตาคู่นั้นของเขานั้นน่ากลัว เขาได้พุ่งการโจมตีมายังไม่ลังเลเลยสักนิด “
” เป็นพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ที่น่ากลัวจริงๆ “
” เเต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงเด็กอนาคตเขาจะเเข็งเเกร่งเเละน่ากลัวขนาดไหนกัน ”
เธอพูดด้วยเสียงที่เบา
เวลาได้ผ่านไปชั่วครู่
เรย์ได้ค่อยๆลืมตาขึ้นมาตอนนี้เขาได้อยู่ที่ไหน ทันใดนั้นก็มีเสียงขึ้นมา
‘ เสียงของจั๊กจั่นนั้นดังไปทั่วบรรยากาศที่สวยงามเเสงสว่างของหิ่งห้อยนับร้อยทั่วบริเวณ ดวงจันทร์ที่สาดส่องเเสงสว่างลงมา ท้องฟ้าที่สวยงามบรรยากาศที่เย็นสบาย ‘
เขาได้มองรอบๆพบว่าที่นี่เป็นป่าเล็กๆบริเวณภูเขาที่ใกล้กับเเคมป์ของเหล่าอัศวิน เรย์ได้รู้สึกถึงสิ่งที่นุ่มบริเวณหลังคอของเขา เขาได้มองเห็นเธอที่กำลังหลับ ตอนนี้เรย์นั้นได้นอนตักของเธออยู่ เธอนั้นได้เฝ้าเรย์จนหลับไป
ใบหน้าของเธอนั้นช่างสวยงาม ผิวที่ขาวผ่องชมพูเหมือนไข่มุก ผมสีทองยาวสวย ริมฝีปากชมพู ใบหน้าที่สวยเหมือนนางฟ้า
เรย์หน้าเเดงเเละรู้สึกเขินภายในลึกๆไปชั่วครู่ เขาได้ลุกขึ้นละได้พิงตัวเธอกับต้นไม้ เเละห่มผ้าให้กับเธอ เขารู้สึกเจ็บจากเเผลเก่าจากการต่อสู้ครั้งก่อนเเละรู้สึกเจ็บภายในจากการต่อสู้กับเธอ
เรย์ได้ยืนมองลงไปยังเเคมป์ข้างล่าง เเสงไฟของเเคมป์ที่สว่างไสวอัศวินที่ผลัดกันเปลี่ยนเวร เสียงของบรรยากาศที่เงียบ เขาได้มองไปยังสุดสายตา เขาเห็นสลัมที่เขาได้จากมา ตอนนี้สถานที่นั้นเป็นเพียงที่รกร้างเเละถูกทอดทิ้ง เป็นสถานที่ที่เขาได้เติบโตถูกทำร้ายถูกทรมาณมานับไม่ถ้วน
เสียงในค่ำคืนอัดน่าสยดสยองนั้นยังวนเวียนอยู่ภายในหัวของเขา เสียงของผู้คนที่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เมืองที่ถูกเผา เลือดที่ทั่วนองพื้นที่ ผู้คนถูกเหล่าปีศาจสังหารเเละถูกจับกินเป็นอาหาร การทรมาณเเละฆ่าฟันอยู่ฝ่ายเดียว
เรย์ได้รู้สึกเศร้าหมองลึกๆภายในจิตใจ เขาเป็นเพียงเด็กที่ไม่รู้เเม้กระทั่งที่มาของตนเองพ่อเเม่หรือใครก็ตาม เเต่เขานั่นต้อง เข้มเเข็ง เพราะความจริงนั้นโลกนี่มันช่างโหดร้าย จากนั้นเขาได้นั่งลงข้างเธอตอนนี้เธอยังหลับอยู่ เรย์ได้ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เขาก็ได้หลับไปอีกครั้ง
เวลาได้ผ่านไป
เรย์ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาเขาได้มองไปข้างเขาละบริเวณรอบๆพบว่า เธอไม่อยู่ตรงนี้เเล้ว เขาได้เดินลงจากป่าบนภูเขาเล็กๆไปที่เเคมป์ของอัศวิน
” นี่เรย์เจ้า ตื่นเเล้วหรอ ”
” ใช่ ข้าพึ่งตื่นเมื่อกี้เเละไม่เจอเจ้าเลยได้เดินลงมา ”
” เเล้วอาการเป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า ” เธอพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหา
” ก็..อาการดีขึ้นมาเเล้วละ ” เรย์พูดพร้อมทั้งเดินถอยหลังออกไปอย่างช้าๆ