The Rise of Otaku - ตอนที่ 112
บทที่ 112 การปรากฏตัวครั้งแรก
บริษัทจัดการของสตาร์ไลท์ซิตี้เกือบทั้งหมดอยู่ที่นี่ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะไม่มาที่นี่ นักแสดงที่สมบูรณ์แบบได้เกิดขึ้นและยังไม่มีใครลงทะเบียนเธอ ไม่ว่าพวกเขาจะต้องเจออันตรายอะไร พวกเขาก็อยากจะมาลองเสี่ยงโชคที่นี่ดู มันเป็นเรื่องที่แปลกอย่างมากที่เมื่อวานนี้ชื่อของหมู่บ้านมินิหัวยังไม่เป็นที่รู้จัก มาวันนี้ชื่อเสียงของหมู่บ้านมินิลู่หัวกับโด่งดังไปทั่วโลกACGแล้ว
โจวหยูที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้เองก็ตกใจเช่นกัน เขาไม่ได้คาดหวังว่าข่าวของโลก ACG จะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วแบบนี้ เพราะมันใช้เวลาเพียงไม่นานจริงๆที่คุณสมบัติของลูกสาวตัวน้อยของเขาเกิดขึ้น เขายังไม่ทันได้บอกเรื่องนี้กับใครเลยในหมู่บ้านมินิลู่หัว แต่พวกตัวแทนจากบริษัทจัดการต่างๆกลับมาที่นี้หมดแล้ว
ก่อนหน้านี้ลูกชายคนโตอย่างมีเนียนผู้หน้าสงสารยงตกงานอยู่เลย กว่าเขาจะได้รับการจ้างงานจากบริษัทของเซียวฮวนก็ต้องรอซักระยะหนึ่ง และการจ้างครั้งแรกของบริษัทเซียวฮวนเองก็ เริ่มที่ 5000 เหรียญโมเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อมาถึงตาของมู่ลี่ตัวน้อยของเขา ตัวแทนเหล่านั้นกลับเสนอเงินถึง 100,000 เหรียญโมทันที มันช่างเป็นอะไรที่น่าแตกต่างกันจริงๆ
100,000 เหรียญโม! และดูเหมือนว่าราคานี้จะสูงขึ้นอีกต่อเนื่อง ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่ากลัวจริงๆ! เขาไม่คิดว่าลูกสาวคนนี้ของเขาจะสามารถทําเงินได้มาก 20 เท่า กว่าพี่ชายของเธอ มันไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะต้องใช้เวลานานถึงหนึ่งปีกว่าจะได้เมล็ดพันธุ์ไอดอล เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ มันทําเงินได้เร็วกว่าการปล้นธนาคารเสียอีก
เหรียญโม100,000 เหรียญทําอะไรได้บ้างนะเหรอ? มันจะไม่มีปัญหาสําหรับเขาที่จะสร้างอาคารทั้งหมดที่ต้องการ และอาจมีเหรียญสํารองพอเพื่อรออัพเกรดอาคารบางแห่งอีกด้วย
แค่คิดเกี่ยวกับมัน มันก็ทําให้เขารู้สึกตื่นเต้น
อย่างไรก็ตามโจวหยูกลับรีบลบความคิดนี้ออกไป ในความจริงเขาไม่มีความคิดที่จะปล่อยให้ลูกสาวต้องออกไปทํางานในที่ไกลๆเหมือนอย่างพี่ชายเธอ เหตุที่เขาต้องปล่อยให้พี่ชายของเธอไปทํางานนอกบ้านนั้นก็เนื่องจากเวลานั้นเขายังคงยากจนมาก และเขายังไม่สามารถสร้างบริษัทแอนิเมชันหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับได้ทั้งหมด ดังนั้นการปล่อยให้ลูกชายคนโตออกไปนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะรั้งให้เขาอยู่ที่นี้
แต่ตอนนี้มันแตกต่างกันไปแล้ว ด้วยบริษัทแอนิเมชั่น ผู้กํากับหยางกู ตากล้องหนุ่มฉียูลิน แล้วแบบนี้เขาจะต้องปล่อยให้ลูกสาวสุดที่รักไปผจญภัยอันตรายข้างนอกได้ยังไง! นอกจากนี้ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโอตาคุอย่างโจวหยูก็คือการสร้างกลุ่มไอดอลของตัวเองไม่ใช่หรือไง? ดังนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายจะเสนอราคาเท่าใด เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ลูกสาวไปอย่างเด็ดขาด
มันก็แค่ 100,000 เหรียญโม หากเขาขยันทําเควสรายวันทุกวันควบคู่ไปกับรายได้ของผับ เขาจะสามารถรับเหรียญโมได้ประมาณ 5,000 เหรียญทุกเดือน ดังนั้นหากเขาเก็บเหรียญเหล่านั้นไว้ โดยไม่ใช้จ่ายกับกิจกรรมอื่นๆเลย เขาก็แค่จะต้องใช้เวลาเก็บประมาณ 20 เดือนเท่านั้น
“อืม! ประมาณ 2 ปี
ใช้เวลาไม่นานก่อนที่จํานวนคนจะเพิ่มมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่คนตัวเล็กๆเท่านั้น แต่เมื่อมีจํานวนมากขึ้นมันก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดเหตุจารจรได้เช่นกัน และเมื่อทับรวมกับจํานวนบอดี้การ์ดที่มาพร้อมกับตัวแทนแล้วด้วยนั้น มันยิ่งทําให้จํานวนคนเพิ่มมากขึ้นจนหน้าตกใจ
โจวหยูที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบก็ได้ถอนหายใจออกมา หากเหตุการณ์นี้ยังคงดําเนินต่อไป มันมีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้บาดเจ็บขึ้นได้ ดังนั้นโจวหยูจึงรีบไปห้องประชุมเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อการพดคุยในครั้งนี้โดยเฉพาะ
เมื่อไม่นานมานี้งานแถลงข่าวของภาพยนตร์อนิเมชั่น “โจรสลัดผลไม้” ได้ถูกจัดขึ้นที่นี่ ดังนั้นมันจึงมีห้องประชุมขนาดใหญ่ในสวนสนุกนี้เช่นกัน และด้วยขนาดของห้องประชุมนี้มันก็มากพอที่จะรอรับทุกคนในที่นี้ ทุกคนในที่นี้รวมไปถึงสมาชิกสําคัญของหมู่บ้านมินิลู่หัวเช่นกัน
ราชามังกรเฒ่าและทุกคนต่างก็รับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจอย่างขันแข็ง มันจึงทําให้เหตุการณ์ที่ใกล้จะวิกฤตแล้วนั้นดีขึ้นมาได้
นอกจากตัวแทนของบริษัทจัดการแล้ว ยังมีนักข่าวจํานวนมากที่มาพร้อมกับกล้องทุกชนิดอีกด้วย สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือโจวหยูเดิมที่ไม่ชอบสื่อมากนัก แต่เมื่อคิดว่านี้เป็นผลประโยชน์ของลูกตัวเอง เขาจึงพยายามอย่างมากที่จะไม่หนีหายไปอย่างเคย
เหตุผลปกติที่เขาไม่ชอบเรื่องพวกนี้ก็เพราะเขาไม่ต้องการตอบคําถามเดิมซ้ําๆ ใครจะไปรู้ว่าเขาต้องใช้เวลานานเท่าใดถ้าเขาต้องคอยมาตอบคําถามที่ละคน ดังนั้นเขาจึงพยายามให้ตัวแทนนักข่าวเหล่านั้นรวบรวมคําถามมาและเขาจะตอบคําถามพวกนั้นพร้อมกันในครั้งเดียว
ในกระบวนการเคลื่อนย้ายฝูงชนไปยังห้องประชุม โจวหยูก็ได้เห็นเชี่ยฮวนและนิเนียนน้อยเช่นกัน แต่มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่พื้นที่แออัดมากจนพวกเขาไม่มีโอกาสได้ทักทายกัน เห็นได้ชัดว่าเขาคงสามารถรอพบลูกชายของเขาได้หลังจากการจบการไปชมได้เท่านั้น
กฎของโลก ACG นั้นค่อนข้างแตกต่างจากกฏของโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งที่สามารถอธิบายให้เห็นได้ชัดเจนที่สุดเลยก็คือ ครั้งสุดท้ายที่บริษัทคู่แข่งของเซียวฮวนได้ใช้การ์ดกักกันเพื่อชะลอกําหนดการถ่ายทํา
ดูเหมือนว่าวิธีพวกนี้จะเป็นอะไรที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป และยังเป็นสิ่งที่ถูกกฏหมายเหมือนว่ามันเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลที่จะใช้ไอเท็มพวกนี้เพื่อสร้างความรําคาญให้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง
และนี้เป็นผลให้ห้องประชุมในตอนนี้เกิดความวุ่นวายขึ้นจํานวนมาก
ดังนั้นในขณะนี้จึงมีคนใช้การ์ดเช่น “การ์ดปิดเสียง”, “การ์ดน้ําหอม” “การ์ดยาระบาย” “การ์ดย้อนกลับ” และ “การเงียบหลับ” ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง
และนั้นทําให้เกิดเอฟเฟกต์แสงที่สว่างสดใสตลอดเวลา มันราวกับทําให้พื้นที่ทั้งหมด เต็มไปด้วยพลุดอกไม้ไฟยังไงยังงั้น
– – –
โดยที่ไอเท็มเหล่านั้นต่างก็พุ่งเป้าไปที่เอเจนต์ซีเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อใดก็ตามที่ไอเท็มถูกโยนใส่เป้าหมาย พวกที่แต่งตัวสีดําที่อยู่ถัดจากเอเจนต์เหล่านั้นก็จะออกมาบล็อกการ์ดให้พวกเขาทันที
ในที่สุดโจวหยูก็เข้าใจแล้วว่าทําไมคนเหล่านี้จึงต้องมีบอดี้การ์ดจํานวนมากแบบนี้ มันไม่ใช่ว่าพวกเขากลัวถูกปล้นหรืออะไรพวกนั้น แต่พวกเขาต้องการใช้คนเหล่านั้นเป็นเกราะป้องกันตัวเอง
เมื่อเขาเห็นแบบนั้นเขาก็มองไปที่เซียวฮวนเช่นกัน และเขาก็พบว่าจํานวนบอดี้การ์ดที่อีกฝ่ายพามานั้นมีเพียงสองคนเท่านั้น แต่พวกเขาก็ยังสามารถอยู่รอดได้จนถึงขณะนี้ ดูเหมือนว่าเชียวฮวนคงจะมีความสามารถอะไรพิเศษกับเอาไว้
มีคนถึงกับใช้ “การ์ดระเบิดเหม็น” ก็มีเพื่อขับไล่คนออกไป โชคดีที่ตอนนี้ลูกสาวคนเล็กมู่ลี่ยังไม่ออกมา ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในห้องประชุมนี้อีกบ้าง
โจวหยูพยายามเคาะโต๊ะและตะโกนเพื่อให้คนเหล่านั้นกลับสู่ความสงบ อย่างไรก็ตามพวกคนเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่สนใจเลย พวกคนเหล่านั้นยังโจมตีกันไปมาไม่หยุด
ในเวลานี้เองเจ้าชายมังกรที่สามผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้ปลดปล่อยพลังของตัวเองออกมา เขานั้นได้หยิบชามสมบัติของตัวเองออกมา ก่อนที่จะปลดปล่อยเหล่าลูกน้องสัตว์ระดับหนึ่งจํานวนมากออกมาโจมตีคนเหล่านั้น ด้วยการกระทํานี้ของเจ้าชายมังกรอ้วน มันจึงทําให้สถานการณ์กลับมาสงบลงได้ในที่สุด
“ฉันคิดอยู่แล้วว่าเจ้าอ้วนนี้ต้องมีประโยชน์เข้าซักวัน…นายทําได้ดีมาก… วันนี้ฉันจะเลี้ยงนายให้พุงกางเลย!”
ในที่สุดสถานที่ก็อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว ดังนั้นโจวหยูจึงบอกให้พี่สาวอย่าง หิงห้อยให้รับตัวน้องสาวมายังที่ประชุมได้แล้ว ถึงแม้ว่าลูกสาวคนเล็กนี้จะยังไม่ได้เป็นดาราดังอะไร แต่เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น เขาก็ได้เลือกที่จะจ้างนิ่งห้อยมาเป็นบอดี้การ์ดในครั้งนี้ ด้วยสถานะของเธอมันจึงมีคนน้อยมากที่จะต้อสู่กับเธอได้
เมื่อมู่ลี่ปรากฏตัวเหล่าตัวแทนต่างๆก็รีบตรวจสอบสถานะของเธอแทบจะทันที ที่เป็นแบบนี้ก็เพระพวกเขาต้องการตรวจสอบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริงเหรอไหม?
” พระเจ้า, รูปลักษณ์ทั่วไป 93; ทักษะร้องเพลง 85; ทักษะเต้น 88; ทักษะการแสดงโดยรวม 100; ทักษะวาไรตี้ 90, ทักษะพิเศษ: การสวมบทบาทราชินี, ข่าวลือนี้เป็นจริง!”
“มันเป็นไปไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์! ทําไมเธอถึงไม่มีผลกระทบด้านลบเลยละ!”
“ คุณลักษณะของเธอนั้นสมบูรณ์แบบมาก และตัวเธอยังมีช่องทักษะว่างอยู่อีกถึงสามช่องนี้มันเป็นพรจากพระเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าเกิดว่าเราดูแลเธอดีๆรับรองว่าในอนาคตเธอจะต้องเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่โด่งดังอย่างแน่นอน!”
“120,000! ฉันจะจ่ายเหรียญโม120,000 เหรียญ!”
ก่อนที่โจวหยูจะพูดอะไรออกมา ผู้คนจํานวนมากต่างก็เริ่มตะโกนราคาที่พวกเขาได้เตรียมเอาไว้ออกมาทันที
บริษัทที่อ่อนแอลงบางแห่งก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างไร้ประโยชน์แทบจะทันทีหลังจากที่พวกเขาได้ยินราคาเสนอถึง 150,000 เหรียญโม
“เฮ้อ! นี้มันไม่ใช่การต่อสู้คนพวกเรา มันช่างเป็นอะไรที่แตกต่างกันจริงๆ”
นี้อาจจะเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของมู่ลี่ต่อสายตาคนจํานวนมาก ดังนั้นเธอจึงรู้สึกอายอยู่เล็กน้อยที่จะอยู่ต่อหน้าคนจํานวนมาก เธอจึงเลือกที่จะซ่อนตัวอยู่ในกระเป๋าของพ่อเธอและรออยู่เงียบๆแทน
เมื่อโจวหยูเห็นเหตุการณ์กําลังจะกลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง เขาก็ได้เคาะโต๊ะอีกครั้งลูกน้องจําเป็นอย่างเจ้าชายอ้วนที่อยู่ด้านข้างก็ตะโกนว่า “เงียบ!” จากนั้นทั้งห้องประชุมก็เงียบลงในที่สุด
“ขอบคุณทุกคนที่มาที่นี่ แต่มู่ลี่ตัวน้อยของฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะเซ็นสัญญากับบริษัทไหนทั้งนั้น เธอเลือกที่จะเป็นดาราอย่างเป็นทางการของหมู่บ้านมินิลู่หัวของเรา”
เพียงหนึ่งประโยคนี้ก็ทําให้ตัวแทนทั้งหมดต่างตกตะลึง รวมทั้งเชี่ยฮวนด้วยเช่นกัน