The Rise of Otaku - ตอนที่ 119
บทที่ 119 แฟนๆสุดบ้าคลั่ง
มันควรจะเป็นสิ่งที่ดีในการจับสายลับที่ซ่อนอยู่ได้ อย่างไรก็ตามเซี่ยฮวนนั้นกลับแสดงอาการที่ตรงกันข้ามออกมา เมื่อเห็นสายลับที่ถูกจับและส่งตัวเข้าคุกเพื่อการปฏิรูปด้วยแรงงาน เขาก็หัวเราะและตะโกนขึ้นว่า “นายสมควรได้รับมันแล้ว” จากนั้นก็หยุดก่อนที่จะมองไปรอบๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอาหารกลางวันนี้แทน
อาหารของโลก ACG นั้นไม่สามารถทําความเข้าใจได้อย่างง่ายๆ แต่ผักที่ปลูกโดยโจวหยูนั้นกับเป็นสิ่งที่น่ายินดี ด้วยเหตุผลที่ว่าผักนี้สามารถทําให้คนทั้งสองโลกเพลิดเพลินไปกับอาหารเลิศรสได้ ดังนั้นทุกคนจากบริษัทของเซี่ยฮวนจึงพอใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่เป็นช่วงเวลานี้พวกเขาเหล่านั้นจะกระตืนรือร้นเป็นอย่างมาก
“ ก็คงเป็นผัดผักอะไรซักอย่างนะ? แต่ก่อนหน้านี้ฉันขอถามนายได้ใหมว่ามันเกิดขึ้น? ทําไมนายถึงดูเหมือนจะไม่มีความสุขที่สายลับถูกจับได้กัน?”
โจวหยูไม่รู้อะไรมากมายเกี่ยวกับโลกของ ACG ดังนั้นเขาจึงมีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับปฏิกิริยาของเซี่ยฮวนเป็นอย่างมาก แต่คําตอบของเซี่ยฮวนกลับสอนให้เขาเรียนรู้ว่า “ไม่มีสิ่งใดที่เราควรจะรู้สึกมีความสุขการจับสายลับได้ เพราะมีความเป็นไปได้ที่บริษัทที่ส่งสายลับมาจะส่งสายลับมาเพิ่ม และเมื่อเป็นแบบนี้มันจะทําให้สถานการณ์กลับมาเป็นแบบเดิมอีกครั้ง “
หลังจากนั้นเซี่ยฮวนได้หยิบบัตรปริศนาอันหนึ่งออกมา ก่อนที่จะอธิบายว่า “นี่คือการ์ดสอดแนม! ซึ่งได้ถูกใช้ในการลักพาตัวพนักงานของบริษัทเป้าหมายไปชั่วคราว ในขณะเดียวกันสายลับก็จะปลอมตัวเป็นพนักงานและแทรกซึมเข้าไปในบริษัทเป้าหมาย ตราบใดที่มันยังอยู่ในขั้นตอนการถ่ายทําสายลับที่ยังไม่ถูกจับสามารถนําไปใช้งานได้ตลอดเวลา ”
การ์ดสอดแนมมีราคาแพงมาก ดังนั้นจึงมีบริษัทไม่มากนักที่สามารถซื้อมันมาใช้ได้ ในการวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งหมดโดยละเอียดแล้ว เซี่ยฮวนก็สรุปได้ว่าคนร้ายเบื้อหลังเรื่องนี้จะไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอน
และก็เป็นอย่างที่เซี่ยฮวนคิดเอาไว้ เพราะในวันต่อมาได้เกิดประกฏการธรรมชาติที่แปลกๆ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นพายุฝนตกหนัก พายุหมุนความแรงระดับ 3 หรือ คลื่นน้ำขนาดยักในสระน้ำ
อย่างไรก็ตามในสายตาของความเป็นจริง มันกลับเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เพราะในเช้านี้มันกับมีสภาพอากาศที่ดีเป็นอย่างมาก
กลับมาทางด้านของโลกACG ด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายนี้ทําให้การถ่ายทําภาพยนตร์ได้หยุดลงชั่วคราว แต่ก็ยังมีเรื่องดีๆอยู่ด้วยเช่นกัน หนึ่งในฉากของ “ล่าขุมทรัพย์มังกร” เองก็มีฉากหนึ่งที่ต้องถ่ายทําในพายุฝน ดังนั้นสภาพอากาศแบบนี้จึงเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการยิ่งไปกว่านั้นพวก เขายังไม่จําเป็นต้องใช้เงินเพื่อสร้างสภาพอากาศนี้ขึ้นมา ซึ่งนั้นทําให้ทั้งโจวหยูและเซี่ยฮวนต่างก็หัวเราะออกมากับสถานการณ์ที่ตัวเองอยู่นี้ ใครจะไปคิดว่าการใช้การ์ดก่อกวนครั้งนี้มันกับเอื่อยประโยชน์ให้พวกเขามากขนาดนี้กัน ถ้าเรื่องนี้ได้รู้ไปถึงหูของคนร้ายไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะแสดงอาการยังไง
ด้วยวิธีนี้ทางด้านโจวหยูจึงได้เริ่มถ่ายทําอีกครั้ง แต่เดิมเขาได้คาดว่าการถ่ายทํานี้จะแล้วเสร็จในหนึ่งหรือสองสัปดาห์ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาตอนนี้มันได้ขยายเวลาออกไปเกือบหนึ่งเดือนเลยที่เดียว
นอกจากสายลับจากบริษัทอื่นๆที่ส่งมาแล้ว ดูเหมือนว่าอาชญากรบางคนเองก็ชอบมาที่สถานที่ถ่ายทําเพื่อสร้างปัญหาเช่นกัน เช่นวันนี้การถ่ายทําภาพยนตร์คาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงบ่าย แต่ก็เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดทําให้ต้องเลื่อนเวลาออกไป
ตอนแรกการถ่ายทําราบรื่นมาก แต่ในระหว่างการถ่ายทําฉากสุดท้ายหิงห้อยก็ได้จับสายลับคนที่ 5 ได้ ขณะที่เธอกําลังจะพาไปยังคุกนั้น ราชามังกรเฒ่าก็ได้รีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนเตือนให้พวกเขารับเก็บของโดยด่วน แต่ก่อนที่คนงานในกองถ่ายจะถามอะไรกลับไปนั้น ข้างหลังก็ได้เกิดเสียงดังขึ้นมา
“มันเกิดอะไรขึ้น? ทําไมข้างนอกถึงส่งเสียงดังกัน?”
เมื่อไม่นานมานี้มีนักข่าวหลายคนที่ต้องการเข้ามาสัมภาษณ์และต้องการรู้เกี่ยวกับความคืบหน้าของการถ่ายทําภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง “ล่าขุมทรักย์มังกร” อาจพูดได้ว่านี้เป็นโอกาสที่ดีในการโฆษณาภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้
อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดกลับถูกปฏิเสธโดยเจ้าของอย่างโจวหยูโดยตรง ทําให้เหล่านักข่าวจงได้เบนเข็มมายังผู้จัดการอย่างโจวฟูแทน ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีที่ในครั้งนี้ลุงฟูนั้นได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทําและอ่านสคริปต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ปัญหาสําหรับเขาที่จะจัดการกับคําถามของนักข่าวเหล่านั้น
นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลที่ประตูห้องสตูดิโอเพื่อป้องกันไม่ให้แฟนๆบางคนบุกเข้ามาได้ มันอาจจะพูดได้ว่ามันไม่ควรจะมีเรื่องอะไรที่สามารถทําให้เกิดเสียงดังขึ้นมาได้ในบริเวณนี้
เมื่อโจวหยูกําลังเตรียมตัวที่จะออกไปเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็ได้มีกลุ่มคนจากโลกACGที่ดูแล้วจะเป็นพวกโอตาคุขั้นร้ายแรงจําหนึ่งวิ่งเข้าประตูสตูดิโอมา
ในตอนแรกมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ก่อนที่จะเพิ่มจํานวนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว คนเหล่านั้นได้วิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนคําขวัญของกลุ่มตัวเองว่า “เจ้าหญิงมู่ลี่, พวกเรารักคุณ!” และคําขวัญอื่นๆ ที่คล้ายกันอีกจํานวนมาก
เมื่อเจอกับสถานการณ์นี้มันก็ทําให้โจวหยูถึงกับตกใจทําอะไรไม่ถูกเลยที่เดียว
แต่ไม่ใช้กับเซี่ยฮวน ทันทีที่เขาเห็นเหตุการณ์นี้เขาก็รีบตะโกนขึ้นมาว่า ”พระเจ้า! เร็วเข้า! โจวหยูนายรับหน้าที่พามู่ลี่และนักแสดงคนอื่นไปยังที่ปลอดภัยก่อน ส่วนคนอื่นพยายามกันแฟนๆเหล่านี้ออกไปให้เร็วที่สุด”
ความตื่นตระหนกของเซี่ยฮวนได้ส่งผลกระทบต่อโจวหยูเช่นกัน เขาจึงได้บอกให้มู่ลี่และนักแสดงคนอื่นรีบขึ้นมาบนมือของเขาก่อนที่เขาจะก้าวยาวๆหลบไป ในสถานการณ์นี้มันเป็นเรื่องที่ดีที่มีขนาดตัวที่สูงและใหญ่ ด้วยการก้าวเพียงไม่กี่ครั้งเขาก็สามารถหลุดออกมาจากสถานการณ์ที่อาจจะเรียกได้ว่าบ้าคลั่งที่สุดนี้ได้
เมื่อมองย้อนกลับไปชาวบ้านหมู่บ้านมินิลู่หัวและพนักงานของเซี่ยฮวนนั้นกับเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายเป็นอย่างมาก อาจจะพูดได้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันใกล้เคียงกับการต่อสู้ PVP ก็ไม่ผิดมากนัก อย่างไรก็ตามการตัดสินจากจํานวนคนแล้วทางฝั่งของเขาก็ไม่ได้เปรียบอะไรมากนัก ถึงแม้ว่าเขาจะมีปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ถึงสามคนก็ตาม
หลังจากรออยู่ในที่ปลอดภัยครู่หนึ่ง ในที่สุดโจวหยูก็เห็นแจ็คได้ขี้เจ้าเดียนเดียนมาแจ้งว่าปลอดภัยแล้ว เหล่าแฟนๆที่บ้าคลั่งก่อนหน้านี้ได้ถูกจัดการลงได้ในที่สุด
เมื่อเป็นแบบนั้นเขาก็ได้พาเหล่านักแสดงกลับไปยังสตูดิโอ แต่ทันทีที่พวกเขาก้าวเข้ามาในสตูดิโอก็ปรากฏภาพของพนังงานจํานวนมากที่ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่บนพื้น ไม่เพียงแค่นั้นฉากจํานวนหนึ่งเองก็ได้รับความเสียหายจากการต่อสู้ครั้งนี้เช่นกัน
ในระหว่างนั้นเองแม่มดขาวก็ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่พยายามรักษาผู้บาดเจ็บให้ได้มากที่สุด
“พระเจ้า! นี้มันเป็นภัยพิบัติแบบไหนกันแน่?
“ เฮ้อ! เหตุการณ์นี้เรียกว่าแฟนๆบ้าคลั่ง คนเหล่านี้แย่กว่าแฟนๆธรรมดามาก อาจจะพูดได้ว่าพวกมันเข้าขั้นบ้าไปแล้วก็ไม่ผิด พวกมันจะไล่ตามไอดอลที่ตัวเองชอบอย่างลับๆ นอกจากนี้ยังมีพวกสตอคเกอร์ โจรลักพาตัวและอาชญากรอื่นๆที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น โดยที่พวกนั้นจะชอบรวบรวมทุกสิ่งที่ไอดอลใช้ ก่อนที่จะขยายไปเป็นเรื่องอันตรายมากขึ้นในอนาคต อาจจะถึงขั้นลักพาตัวหรือทําร้ายไอดอลเลยก็ได้ “
เซี่ยฮวนได้อธิบายรายละเอียดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นเขาก็ขอตัวไปให้แม่มดขาวรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเองทันที
แต่ระหว่างที่เขากําลังจะไปนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ดังนั้นเขาจึงได้หันมาพูดอีกครั้งว่า “ตัดสินจากคําขวัญของคนเหล่านี้และเสื้อผ้าของพวกเขาแล้ว ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะเป็นแฟนๆของมู่ลี่ ดังนั้นในอนาคตฉันหวังว่านายจะดูแลเธอให้ดี ”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้โจวหยูก็ตกตะลึงทันที
“อะไรกัน! ลูกสาวของฉันพึ่งเกิดมาไม่ถึงเดือน ทําไมคนเหล่านี้ถึงรู้เรื่องนี้ได้กัน? แน่นอนว่าก่อนหน้านี้อาจจะมีรูปถ่ายของเธอหลุดไปบ้าง แต่มันก็เพียงไม่กี่วันเท่านั้นเอง มันก็แค่เวลาไม่กี่วันทําไมถึงมีแฟนคลับแล้วละ?”
“โจวหยู! นายควรระวังให้มากขึ้นในอนาคตเกี่ยวกับเรื่องนี้ และนายควรให้ความสําคัญกับการคุ้มครองมู่ลี่ให้มากขึ้น ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกไหม? แต่ด้วยค่าสถานะของมู่ลี่แล้ว มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ดังนั้นนายควรจะระวังเรื่องพวกนี้เอาไว้ก่อนจะดีกว่า ”
คําพูดของเซี่ยฮวนนั้นฟังดูคลุมเครือมาก มีวิธีการโจมตีมากมายเกี่ยวกับไอดอลในโลก ACG มีตัวอย่างที่ร้ายแรงเกิดขึ้นคือมีไอดอลคนหนึ่งได้ถูกแฟนคลับของตัวเองลักพาตัว เขาได้ถูกบังคับให้ร้องเพลงจนกล้องเสียงเสียหาย ก่อนที่แฟนคลับที่ลักพาตัวเขาจะปล่อยเขาออกมา
ดังนั้นมีความเป็นไปได้มากที่ว่าหลังจากมู่ลี่ตัวน้อยของเขาถูกจับไปโดยเหล่าแฟนคลับเหล่านั้น อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายๆกันขึ้น
แม้ว่าเซี่ยฮวนจะไม่พูดอย่างชัดเจน แต่ในความเป็นจริงโจวหยูก็รู้ดีว่าต้องจัดการเรื่องนี้ยังไง ดังนั้นเขาจึงได้พยักหน้ารับและจัดการให้พี่สาวอย่างนิ่งห้อยให้เป็นผู้คุ้มกันน้องสาวของตัวเองทันที เขายังได้เสริมสมาชิกที่มนี้ด้วยปรมาจารย์กังฟูอีกคนเพื่อความมั่นใจ
อย่างไรก็ตามการปกป้องเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้มากนัก ดังนั้นจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าถ้าเขาจะลงมือจัดการปัญหาจากต้นตอของมัน ด้วยวิธีนี้มันจึงสามารถรับรองความปลอดภัยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์