The Rise of Otaku - ตอนที่ 121
บทที่ 121 รอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ “ล่าขุมทรัพย์มังกร”
งานถ่ายทําทั้งหมดของภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องล่าขุมทรัพย์มังกรเพิ่งจะเสร็จไป แต่มันยังคงเหลือขั้นตอนการตัดต่อและการเสริมด้าน CG อยู่ ดังนั้นหลังจากที่ข่าวนี้หลุดออกไปผู้ชมจํานวนมากต่างก็คาดหวังให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิปีนี้
คนส่วนใหญ่คิดว่าการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “โจรสลัดผลไม้” เพิ่งเสร็จสิ้นลงเพียงครึ่งปีที่ผ่านมา แม้ว่าการสร้างภาพยนตร์ “ล่าขุมทรัพย์มังกร” จะใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่พวกเขาก็ยังคงคิดว่ามันคงไม่สามารถดําเนินการทั้งหมดให้เสร็จสิ้นก่อนเทศกาลฤดูใบไม้ผลิอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้วมันคงต้องรักษาคุณภาพขั้นสูงเอาไว้ ขนาดภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูดก็ยังสามารถทําภาพยนตร์ระดับนี้ไดเพียงปีละหนึ่งหรือสองเรื่องเท่านั้น
แน่นอนว่ายังมีผู้ติดตามที่ภักดีของสตูดิโอสตาร์นั้นไม่คิดแบบนั้น พวกเขาเหล่านี้ถึงกับเชื่อสุดหัวใจว่ามันจะต้องมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
ในความเป็นจริงมันได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นจริงๆ มันเป็นเพียงแค่ว่าพวกเขายังไม่รู้เรื่องก็เท่านั้น ในวันที่สามหลังจากการถ่ายทําจบ โจวหยูก็ได้รับภาพยนตร์อย่างเป็นทางการที่แก้ไขโดยบริษัทเซี่ยฮวนเป็นที่เรียบร้อย เช่นเดียวกับครั้งล่าสุดสิทธิ์ในการจําหน่ายในโลกแห่งความเป็นจริงเป็นของหมู่บ้านลู่หัว ส่วนสิทธิ์ในการจัดจําหน่ายทั่วโลก ACG นั้นเป็นของเซี่ยฮวน
ดังนั้นในเวลานี้พวกเขาทั้งสองต่างก็กําลังคุยกันในเรื่องของเวลาเปิดตัว มันจะเป็นการดีกว่า ถ้าพวกเขาจะเปิดตัวภาพยนตร์ในทั้งสองโลกในเวลาเดียวกัน เพื่อไม่ให้ทั้งสองฝ่ายได้รับผลกระทบจากอีกฝ่าย ดังนั้นเวลาเปิดตัวจะต้องมีการจัดการอย่างถูกต้อง
ในโลกแห่งความจริงบางบริษัทที่ให้ความร่วมมือกับโจวหยูครั้งล่าสุด ต่างก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีพร้อมกับที่พวกเขาต่างก็เริ่มเตรียมตัวในการเจรจาครั้งใหม่นี้
จางเฟิงตัวแทนจากบริษัทเกมโอตาคุถูกจัดได้ถูกจัดให้อยู่ในวิล่านรกอย่างโชคร้ายในครั้งที่แล้ว เป็นผลให้เขาต้องทนการโจมตีด้วยสายตาทุกชนิดในขณะที่พยายามเจรจาอย่างหนักในเวลานั้น ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงได้เรียนรู้จากความผิดพลาดเดิมของตัวเอง เมื่อเขาได้มาถึงสวนสนุกแห่งนี้เขารีบเข้าไปจองวิลล่าอื่นแทบจะทันที ก่อนที่เขาจะแอบหัวเราะเยาะให้กับพวกคนที่มาที่หลัง
ความร่วมมือกับโจวหยูนั้นเป็นอะไรที่น่าพอใจมาโดยทั่วไป ยกเว้นเพียงแต่ข้อตกลงที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของอีกฝ่ายเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนที่ไม่ต้องการทํากําไรมากมายอะไร เขาแทบจะไม่มีเงื่อนไขอะไรมากมายในการตกลงกันแต่ละครั้ง อาจพูดได้ว่าการร่วมมือกันระหว่างพวกเขานั้นคนที่ได้กําไรมากสุดคือบริษัทของเขาเองก็ว่าได้
อย่างไรก็ตามในเวลานี้อาจไม่เป็นอย่างเดิมอีกแล้ว เพราะในการประชุมตกลงในครั้งนี้ได้เพิ่มชายแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามา แต่ไม่อาจจะเรียกอีกฝ่ายว่าชายแปลกหน้าได้ เพราะชายคนนี้เองได้รับตําแหน่งเป็นถึงผู้จัดการสวนสนุกแห่งนี้
การมาของเขานั้นก็เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายมาก เขามาที่นี้เพราะเขาได้เป็นตัวแทนของโจวหยู ผู้ซึ่งไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในธุรกิจและเข้าร่วมการเจรจา และนั้นทําให้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผลกําไรต่างๆที่บริษัทของเขาเคยได้รับก็ค่อยๆจางหายไป
แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่ยังไงความร่วมมือก็ยังคงต้องดําเนินต่อไป โลกธุรกิจเป็นเวทีการแข่งขันอยู่แล้ว หากมีคนเลือกที่จะยอมแพ้ง่ายๆเพราะเรื่องแค่นี้ พวกเขาก็ไม่สามารถตําหนิคนอื่นได้ว่าขโมยชิ้นเนื้อไป หากพวกเขาต้องการกินเนื้อที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาทําได้เพียงต่อสู้เพื่อมันเท่านั้น มันจะเป็นอะไรที่ไร้เดียงสาที่สุดถ้ามีคนคิดว่าพวกเขาจะได้รีบอาหารฟรี
ตอนนี้โจวฟูได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้อย่างเป็นทางการ มันจึงทําให้กลายเป็นการต่อสู้ทางธุรกิจที่แท้จริง ใครจะเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดที่ได้รับผลประโยชน์นั้นก็ยังไม่มีใครรู้ได้
อย่างไรก็ตามมันยังคงมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนที่สุดอยู่ นั้นก็คือโจวหยูนั้นเอง เพราะในตอนนี้เพื่อนประหลาดนี้ก็กําลังจะจัดงานรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง “ล่าขุมทรัพย์มังกร” ขึ้นมา และผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะเข้าชมในรอบปฐมทัศน์นั้นก็ไม่ใช่หุ้นส่วนทางธุรกิจแต่อย่างใด แต่กับเป็นพวกเด็กๆในหมู่บ้านลู่หัวแทน เหตุผลที่อีกฝ่ายทําแบบนี้ก็เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายเช่นกัน นั้นก็เพราะพวกเด็กๆต่างก็มีส่วนร่วมในการถ่ายทํา ดังนั้นพวกเขาจึงมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะรับชมคนแรกนั้นเอง
แต่สําหรับคนอื่นกลับคิดต่างออกไป พวกเขาต่างก็คิดว่าเพราะเขาแค่ต้องการดูผลงานของตัวเองเท่านั้น ส่วนการยกเหตุผลขึ้นมาอ้างก็เพียงแค่ทําให้มันดูดีเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถเปลี่ยนการตัดสินใจของโจวหยูได้
บัตรเชิญได้ถูกส่งออกไปแล้ว นอกจากพวกเด็กๆแล้วก็มีเพียงผู้ใหญ่สามคนเท่านั้นที่สามารถเข้าชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ พวกเขาต่างก็มีส่วนเรื่องในการถ่ายทําเช่นกัน หนึ่งคือผู้เชี่ยวชาญด้านการระเบิด สองคืออาจารย์ลูฮันเชงศิลปินแห่งชาติ และคนสุดท้ายคือผู้จัดการสวนสนุกโจวฟู นอกเหนือจากนั้นต่างก็ไม่ได้รับเชิญให้เข้ามาแต่อย่างใด แม้แต่นักข่าวก็ไม่มีโอกาสเข้ามาในคืนนั้น
นักข่าวผู้น่าสงสารต่างก็ได้แพ้การต่อสู้กับโจวหยูอีกครั้ง สวนสนุกล้อมรอบด้วยพื้นราบและโรงภาพยนตร์กลางแจ้งถูกบังโดยอาคารสูงในสวน พวกเขาไม่สามารถแอบเข้าไปและถ่ายภาพอะไรเลย นั้นจึงทําให้ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ทําได้เพียงถ่ายรูปพวกเด็กๆที่เดินไปบนพรมแดงตรงทางเข้าประตูได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่สามารถกันได้ก็ยังคงมี นั้นก็คือกลุ่มคนที่มีจิตใจชั่วร้ายนั้นเอง
มีคนที่ไม่ชอบทําสิ่งต่างๆตามกฏเสมอ บางคนต้องการได้รับข่าวใหญ่ก่อนเจ้าอื่นๆ หรือไม่ก็อยากจะเห็นว่าแท้จริงแล้วภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุดของสตูดิโอลึกลับนี้เป็นอะไรกันแน่ ต่างก็พยายามลอบเข้ามายังโรงละครแห่งนี้
ด้วยการรักษาความปลอดภัยของสวนสนุกแห่งนี้เป็นเพียงหน่วยรักษาความปลอดภัยธรรมดาเท่านั้น มันไม่ใช้หน่วยรบทหารแต่อย่างใด เมื่อคิดได้แบบนั้นคนที่มีจิตใจชั่วร้ายก็ได้เริ่ดําเนินการตามแปนที่ตัวเองคิดขึ้นมาทันที
ตราบใดที่พวกเขาระวังตัวมากพอ มันก็เป็นเรื่องง่ายๆที่พวกเขาจะสามารถแอบเข้าไปยังโรงภาพยนตร์กลางแจ้งได้
คืนนั้นการฉายรอบปฐมทัศน์อย่าง “ยิ่งใหญ่” ก็ถูกจัดขึ้นตามกําหนด มีนักข่าวจํานวนมากที่มาทําข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีใครคิดว่าเด็กๆพวกนี้จะมีส่วนร่วมในการถ่ายทําภาพยนตร์ระดับสูงแบบนี้ถึงสองครั้ง อาจจะพูดได้ว่าพวกเด็กๆได้กลายเป็นสมาชิกของสตูดิโอลึกลับนี้ก็ไม่เกิดจริงมากนัก นอกจากนี้พวกเขาก็ยังหวังว่าจะได้รับรายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง “ล่าขุมทรัพย์มังกร” จากพวกเด็กๆ
ทางเข้าสวนสนุกนั้นเต็มไปด้วยพรมแดงและมีนักข่าวมากมายรออยู่ มันทําให้ในช่วงเวลานี้เป็นเหมือนเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานยังไงยังงั้น อย่างไรก็ตามกลุ่มดาราที่มาในงานนี้เป็นเพียงกลุ่มเด็กที่ยังเรียนอยู่ในระดับประถมศึกษาเท่านั้น มันไม่ได้มีรถหรู ไม่มีดาราผู้หญิงสวยๆกับชุดแปลกๆ มันกับกลายเป็นเพียงแค่งานฉลองสําหรับพวกเด็กๆเท่านั้น
ทันทีที่เหล่าเด็กๆเข้ามาในสวนสนุกครบทุกคนแล้ว พวกนักข่าวก็ได้ถูกกันออกไป มันไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมีใครปลอมบัตรเชิญขึ้นมา เพราะไม่ว่าคนเหล่านั้นจะมีความสามารถอะไร พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นเด็กได้
ในส่วนคนที่คอยหลบอยู่ในความมืดเองก็พร้อมที่จะลงมือแล้วเช่นกัน
โจวหยูไม่ทราบเรื่องนี้ แต่จางเฟิงและหลิงกูเสี่ยวต่างก็เป็นห่วงเรื่องนี้มาก พวกเขาได้พูดหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพวกเขาก็หวังว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนสถานที่ไปยังที่ที่ดีกว่าและง่ายสําหรับการป้องกันกว่านี้ อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็ยังคงยืนยันที่จะแสดงมันในโรงภาพยนตร์กลางแจ้งไม่เปลี่ยนแปลง นั้นจึงทําให้ในที่สุดพวกเขาก็ทําได้เพียงบอกให้ผู้จัดการอย่างโจวฟูทําการเพิ่มความตราการรักษาปลอดภัยให้มากขึ้นเท่านั้น แค่นั้นยังไม่พอพวกเขาทั้งสองต่างก็เสนอคนจากบริษัทของตัวเองให้เป็นการชั่วคราวอีกด้วย ท้ายที่สุดแล้วถ้าเกิดว่ามันได้รั่วไหลออกไป มันอาจจะไปทําลายผลประโยชน์ของพวกเขาได้
เมื่อได้แล้วที่กําหนด โจวหยูเริ่มเล่นภาพยนตร์อนิเมชั่น ล่าขุมทรัพย์มังกร” กับโปรเจ็กเตอร์ “ฝันร้าย” โดยไม่สนใจการต่อสู้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั้งนอกและในสวนสนุกแห่งนี้
ด้วยมียามรักษาความปลอดภัยจากหมู่บ้านมินิลู่หัว ซึ่งคนปกติไม่สามารถเห็นได้ มันจึงทําให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครสามารถลอบเข้ามาใกล้โรงภาพยนตร์กลางแจ้งได้ และยังมีสัตว์อัศวินอย่างเจ้าเดียนเดียนกับเจ้าเซอร์แบล็ก นี้ยังไม่รวมถึงลูกๆของพวกมันอีกนะ? รับรองได้ว่าไม่มีใครสามารถเข้าใกล้สถานที่แห่งนี้ได้อย่างแน่นอน
กระรอกบูบูกําลังขี่เจ้าเซอร์แบล็ก , หนูแจ็คเองก็กําลังขี่เจ้าเดียนเดียน ส่วนนิ่งห้อยนั้นเลือกที่จะขี้สัตว์อศิวันไก่ตัวหนึ่ง พวกเขาต่างก็ได้เดินตรวจตราในพื้นที่รอบๆและพร้อมที่จะเข้าไปโจมตีกับใครก็ตามที่เห็น
มันเป็นเรื่องตลกร้ายที่คนร้ายจะถูกจิกโดยไก่หุ้มเกราะ หากพวกเขาโชคดีพอพวกเขาก็อาจจะได้รับบาดเจ็บเพียงรอยช้ำเล็กๆเท่านั้น แต่ถ้าพวกเขาไม่โชคดีพวกเขาก็จะมีบาดแผลมากมายเกิดขึ้น หากพวกเขาวิ่งไม่เร็วพอและถูกล้อมรอบด้วยสัตว์สามหรือสี่ตัว มันก็อาจจะกลายเป็นเรื่องน่าเศร้ากว่านี้
ในโรงภาพยนตร์กลางแจ้งได้มีเสียงหัวเราะแห่งความสุขและเสียงร่าเริงทุกชนิดเกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงร้องโหยหวนเจ็บปวดดังขึ้นเป็นครั้งคราวที่มาจากนอกโรงภาพยนตร์เช่นกัน
จางเฟิงได้เห็นไก่ตัวผู้กล้าหาญบางตัวได้บินออกไปและโจมตีผู้ชายคนหนึ่งที่แอบเข้ามา ชายคนนั้นถึงกับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและได้วิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนกทันที แต่ชายคนนั้นยังวิ่งไปไม่ไกลก็ถูกรอบด้วยไก่อีกสามตัวทันที หากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ได้มาถึงทันเวลา มันก็มีความเป็นไปได้ที่ชายคนนั้นอาจจะได้รับบาดเจ็บมากกว่าที่เป็นอยู่
ทางด้านของหลิงกูเสี่ยวเองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน ทั้งเขาและจางเฟิงได้มาที่สวนสนุกในครั้งที่แล้ว จําได้ว่ามันมีเพียงไก่และนกพิราบที่ใส่ชุดแปลกๆอย่างละตัวเท่านั้น พวกเขาเคยคิดว่านี่เป็นหนึ่งในงานอดิเรกที่แปลกๆของอีกฝ่าย โดยไม่คาดคิดว่าไก่และนกเหล่านี้จะยังสามารถเป็นเหมือนยามรักษาความปลอดภัยในตํานานและนักสู้นอกเวลาได้อีกด้วย
บ้านคนอื่นอาจมีป้ายที่เขียนว่า “อันตราย! ระวังหมา” ติดเอาไว้ แต่ในสถานที่แห่งนี้ป้ายแบบนั้นควรจะเขียนว่า “อันตราย! ระวังไก่และนก”