The Rise of Otaku - ตอนที่ 129
บทที่ 129 พันธมิตรไอดอล
วันนั้นโจวหยูกําลังพามู่ลี่และหิ่งห้อยไปตกปลาในทะเลสาบ ทันใดนั้นมีเหตุการณ์ที่เกิดจากด้านข้างของเขา มีคนได้กระโดดออกมาอย่างน่าสงสัย โดยไม่พูดอะไรอีกฝ่ายก็เปิดเสียงคํารามของทักษะผู้เกลียดชังขึ้นมาทันที แม้ว่ามันจะไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรมาก แต่มันก็ทําให้มู่ลี่ตัวน้อยถึงกับตกใจและตกลงไปในน้ําทันที หลังจากที่เธอพยายามว่ายน้ําขึ้นมาจากน้ําได้มันก็สายไปแล้ว เธอได้เป็นหวัดและถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา ก็เป็นเหมือนจุดตัดของความอดทนที่เขามี ครั้งแรกก็เป็นการโจมตีจากกลุ่มแฟนคลับมู่ลี่ มาครั้งนี้ก็เป็นการโจมตีของกลุ่มผู้เกลียดชังอีกครั้ง และครั้งนี้มันก็ประสบความสําเร็จเสียด้วย
นั้นเป็นเหมือนตัวจุดชนวนระเบิดของโจวหยูขึ้นมา เขาโกรธมากจนต้องการที่จะปิดสวนสนุกแห่งนี้และไม่ยอมให้นักท่องเที่ยวจากโลก ACG มายังสถานที่แห่งนี้ มันเป็นเรื่องไม่ยากถ้าเขาจะทําแบบนี้ แต่มันจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากถ้าเขาทําการปิดสวนสนุกแห่งนี้จริงๆ ดังนั้นหลังจากการคิดทบทวนไปมาอยู่หลายครั้ง เขาก็ได้ตัดสินใจที่จะสร้างฐานทัพทางทหารขึ้นมา เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
แต่ฐานทหารมีราคาแพงมาก และเมื่อสร้างฐานทัพทหารจริง ตัวหมู่บ้านมินิลู่หัวจะกลายเป็นพื้นที่ทางการทหารทันที และนั้นทําให้ผู้คนธรรมดาจากโลกACGไม่สามารถเข้ามาได้
โจวหยูได้กลายเป็นคนบ้าอยู่ช่วงหนึ่ง เขาถึงเกือบจะสร้างฐานทัพโดยไม่ต้องคิดอะไรอีก โชคดีที่เครื่องขายของอัตโนมัสไม่ได้พิมพ์เขียวฐานทัพทหารในวันนั้น บวกกับชาวบ้านมินิลู่หัวหันมาพูดให้เขาใจเย็นลง ก่อนที่จะหันมาพูดคุยกันเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในอนาคตแทน
แต่เมื่อเริ่มพูดเกี่ยวกับเรื่องของการรักษาความปลอดภัยขึ้นมาจริงๆ ทุกคนในหมู่บ้านกับไม่สามารถคิดหาวิธีที่ใช้ได้ผลจริงๆออกมาได้ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาแต่ละคนต่างก็เป็นคนธรรมดาจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
ดังนั้นโจวหยูจึงได้ตัดสินใจไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างเซี่ยฮวน หลังจากที่อีกฝ่ายได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้วก็ถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมาทันที “โอ้พระเจ้า! นายรู้ตัวไหมว่าตัวเองผู้ประมาทไปมากขนาดไหน! นายจัดนักล่าเงินรางวัลสองคนเป็นทีมคุ้มกันของไอดอลชั้นนําเนี่ยนะ? พวกนั้นไม่ใช้แม้แต่บอดี้การ์ดมืออาชีพด้วยซ้ํา! นายกล้าทําแบบนี้ได้ยังไง?”
โจวหยูไม่สามารถหาคําพูดมาแก้ตัวให้ตัวเองได้ เพราะก่อนหน้านี้เขามีความมั่นใจเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงคิดเสมอว่าเพียงแค่นักล่าเงินรางวัลเพียงสองคนก็เพียงพอแล้ว
กลับเป็นหิ่งห้อยเสียอีกที่แสดงอารมณ์ขุ่นเคืองออกมาหลังจากที่เธอได้ฟังคําพูดของชายตรงหน้า เธอถึงกับโยนปลายแส้ลงบนพื้นพร้อมกับพูดว่า “อะไร! ถ้าฉันจับใจความในเนื้อหาของคุณถูกต้อง คุณกําลังดูถูกนักล่าเงินรางวัลใช้ไหม?”
เมื่อหิ่งห้อยพูดจบเธอก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ คนปกตินั้นไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาให้เธอ เซี่ยฮวนเช่นกัน เมื่อเขาเห็นอาการที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่าย เขาก็รู้ได้ทันทีว่าปากพาซวนของเขามันทํางานอีกแล้ว ดังนั้นก่อนที่อะไรจะสายเกินไป เขาต้องรีบหยุดไม่ให้เหตุการณ์นี้บานปลายขึ้น
“อ่า! คือว่า…! มันไม่ใช้แบบนั้นนะ!..ฉันจะพูดว่าในบริษัทจัดการทั้งหมดนั้นต่างก็มีมาตรการปกป้องไอดอลกันทั้งนั้น เพราะเราไม่มีทางรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาเหล่านั้นบ้าง ขนาดไอดอลระดับ C ของฉันยังมีการป้องกันที่ดีกว่ามู่ลี่เลยขอบอก!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ก็เหมือนว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติในที่สุด ดังนั้นเซี่ยฮวนจึงได้ แนะนําให้รู้จักกับรองผู้อํานวยของเขาที่ชื่อว่าเหวินคู อีกฝ่ายดูเหมือนชายชราที่ใจดี เมื่อเหวินคูได้ถูกแนะนําออกมา อีกฝ่ายก็เริ่มพูดถึงเรื่องการปกป้องไอดอลทันที นอกจากการต้องมีปอดี้การ์ดจํานวนหนึ่งคอยป้องกันแล้ว ยังต้องมีการฝึกอบรมบอดี้การ์ดอย่างสม่ําเสมอ การบํารุงรักษารายวัน และด้านอื่นๆอีกจํานวนมาก เมื่อได้ยินเนื้อหาทั้งหมดนี้แล้วมันก็ทําให้โจวหยูรู้สึกเวียนหัวมาก แต่เขาก็ทําได้เพียงฟังอย่างระมัดระวัง
เมื่อเริ่มจับจุดหลักๆได้แล้ว มันก็ทําให้เขารู้ตัวว่าตัวเองนั้นประเมินโลก ACG ต่ําเกินไป มันไม่เหมือนกับการเล่น “ไอดอลเสมือน” ที่ทั้งสวนงามและเรียบง่าย แต่มันเป็นการต่อสู้กันทางธุรกิจที่แท้จริง ด้วยสถานะปัจจุบันของหมู่บ้านมินิลู่หัว มันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าไม่สามารถปกป้องมู่ลี่ได้
ถ้าเขาไม่หาทางป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นมาอีกในอนาคต มันอาจจะทําให้ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมู่ลี่เสียหายได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีสถานะเป็นพ่อลูกกัน แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรมารับประกันว่าจะไม่มีไอเท็มที่สามารถตัดความสัมพันธ์นี้ได้
น่าเสียดายที่การเรียนรู้เกี่ยวกับการปกป้องไอดอลนั้นไม่ใช่อะไรที่ใช้เวลาเพียงหนึ่งหรือสองวันก็สามารถทําความเข้าใจได้ทั้งหมด ดังนั้นโจวหยูจึงได้เชื้อเชิญเหวินอู่ให้อาศัยอยู่ในสวนสนุกแห่งนี้เป็นเวลา 3 วัน จากนั้นในที่สุดเขาก็เข้าใจเนื้อห้าแบบคร่าวๆว่าความปลอดภัยของโลก ACG นั้น ทํางานยังไง แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความรู้ที่ผู้จัดการต้องรู้เท่านั้น หากเขาต้องการที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้ถูกต้อง มันยังต้องลงแรงมากกว่านี้ แต่มันก็พอยังมีวิธีที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เช่นกัน นั้นก็คือ “พันธมิตรไอดอล”
พันธมิตรไอดอลเป็นระบบป้องกันไอดอลในเมืองสตาร์ไลท์ ไอดอลแต่ละคนจะได้รับการปกป้องที่จําเป็น แต่ไอดอลเองก็จําเป็นต้องทํางานบางอย่างเพื่อพันธมิตรเช่นกัน
ด้วยความเป็นกลางของหมู่บ้านมินิลู่หัว มันทําให้การร่วมมือกันระหว่างเมืองสตาร์ไลน์และ เมืองแบล็กสตาร์นั้นเป็นเรื่องที่ทําได้
เมื่อเขารู้เรื่องนี้เขาจึงได้นําไปปรึกษากับมู่ลี่น้อย เพราะยังไงเรื่องนี้ก็มีส่วนเกี่ยวกับเธอ ดังนั้น มันจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าถ้าเขาจะรับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่าย หลังจากที่คิดซ้ําแล้วซ้ําอีกมู่ลี่ก็ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับพันธมิตรไอดอลและเข้าร่วมอย่างเป็นทางการในระบบของเมืองสตาร์ไลน์ อย่างไรก็ตามอาคารนี้ไม่สามารถหาซื้อจากผู้ขายของอัตโนมัติ มันจะได้รับก็ต่อเมื่อพวกเขาสมัครเข้าเมืองสตาร์ไลน์เท่านั้น และเขายังไม่จําเป็นต้องรับพนักงานเลยแม้แต่น้อย เพราะการดําเนินงานทั้งหมดนี้จะทําโดยบริษัทแม่
“มันเป็นเรื่องดีจริงๆ! ฮิฮิ! แบบนี้ก็ช่วยฉันประหยัดเงินไปได้เยอะเลย”
อย่างไรก็ตามในวันเปิดตัวของ “สํานักงานพันธมิตรไอดอล” ของเมืองสตาร์ไลน์ ก็ได้มีเรือเหาะบินที่มีก๊าซสีดําเป็นลางไม่ดี เขามาที่หมู่บ้านมินิลู่หัวอีกครั้ง
โจวหยูมองไม่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน แต่เขาสามารถได้ยินเสียงของอีกฝ่ายซึ่งฟังดูคล้ายกับชายเสื้อคลุมสีดําที่มาหาเขาครั้งล่าสุดได้ “มิสเตอร์โจว! มันจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าถ้าคุณจะอนุญาตให้เรามาเปิดสํานักงานในอาณาเขตของคุณเช่นกัน ถ้าเกิดว่าในอนาคตคุณต้องการความช่วยเหลือในการจับผู้ร้าย ทางเรายินดีที่จะช่วยเหลือคุณอย่างแน่นอน ” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ําเสียงที่มืดมน
โอ้พระเจ้า! เห็นได้ชัดว่านี้เป็นการต่อสู้กันของขั้วอํานาจ และตอนนี้พวกเขาต้องการใช้เวทีของหมู่บ้านฉันเป็นสนามต่อสู้?
แต่! คิดๆดูแล้วเรื่องนี้มันก็น่าสนใจทีเดียว
แม้ว่าเมืองแบล็กสตาร์จะดูเหมือนตัวร้ายตัวในภาพยนตร์ แต่สําหรับโจวหยูที่มาจากโลกแห่งความจริงแล้ว พวกเขาก็ไม่ใช่คนชั่วร้ายเลย เป็นเพียงว่าพวกเขามักจะทําตัวให้ดูลึกลับมากเกินไปก็เท่านั้น แม้ว่ารูปลักษณ์ของพวกเขาจะไม่ดูดีเท่าคนเมืองสตาร์ไล แต่การกระทําของพวกเขาถือได้ว่าดีเป็นอย่างมาก
และดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องสนุกที่จะทําให้ทั้งสองขั้วอํานาจนี้อยู่ด้วยกัน ดังนั้นโจวหยูจึงได้จัดสํานักงานของทั้งคู่อยู่ตรงข้ามกัน ภายใต้การจัดวางอย่างอย่างซุกซนของโจวหยูในครั้งนี้ ทําให้สํานักงานของ ” พันธมิตรไอดอลสตาร์ไลน์” และสํานักงานของ “กลุ่มไอดอลแบล็กสตาร์” จึงถูกจัดตั้งขึ้นตรงข้ามกัน คนที่ทํางานในสํานักงานทั้งสองจะทําเพียงแค่จ้องมองซึ่งกันและกันทุกวันตั้งแต่เวลาที่พวกเขาเปิดจนถึงเวลาที่พวกเขาปิด แต่พวกเขาจะไม่ได้ต่อสู้กันอย่างมากที่สุดพวกเขา จะทําเพียพูดถึงเรื่องแย่ในครั้งเก่าๆขึ้นมาเท่านั้น
อย่างไรก็ตามสํานักงานแห่งแรกที่ได้รับผลงานในครั้งนี้ก็คือเมืองสตาร์ไลน์ และยังเป็นเมืองแรกที่มู่ลี่ตัดสินใจเข้าร่วม ดังนั้นในสํานักงานใหญ่ที่เมืองสตาร์ไลน์ต่างก็ภูมิใจในเรื่องนี้
“มู่ลี่: สถานที่เกิด: หมู่บ้านมินิลู่หัว: คุณลักษณะทั้งหมดได้มาตรฐานระดับ S, มีผลงานเพียงเรื่องเดียว – ล่าขุมทรัพย์มังกร, ด้วยผลงานในตอนนี้ทําให้ทางเราสามารถมอบใบรับรองไอดอลที่ได้รับการจัดอันดับ C ให้กับเธอได้เพียงเท่านั้น ”
ประสิทธิภาพการทํางานของสํานักงานของโลก ACG ยังคงสูงมาก มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่ใบรับรองนี้จะถูกส่งมาถึงมือของโจวหยู
ไอดอลที่ติดอันดับ C สามารถเพลิดเพลินกับการปกป้องของบอดี้การ์ดมืออาชีพได้ถึงสองคน หากพวกเขาต้องการเข้าร่วม ”กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง” ที่ต้องเผชิญกับสื่อและแฟนๆ พวกเขายังสามารถขอรับสมัครบอดี้การ์ดมืออาชีพเพิ่มได้อีกสองคนและกองกําลังรักษาความปลอดภัยของตนเอง
อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้เพียงรับผลประโยชน์ฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่พวกเขาเองก็มีภาระผูกมัดเช่นกัน
ประการแรกคือพวกเขาจําเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ประการที่สองพวกเขาต้องทํางานประจําวันให้เสร็จเพื่อรักษาระดับความปลอดภัย ในที่สุดมันก็เป็นสิ่งที่โจวหยูไม่ชอบที่จะทํา อย่างน้อยที่สุดซึ่งก็คือการเข้าร่วมกิจกรรมบางอย่างที่จัดขึ้นนอกหมู่บ้านมินิลู่หัว
เพราะนั้นหมายความว่าเขาจําเป็นต้องเดินทางเป็นระยะออกจากหมู่บ้านลู่หัวแห่งนี้