The Rise of Otaku - ตอนที่ 137
บทที่ 137 ความประหลาดใจ
แม้ว่าอู๋หยุนจะเรียกเขาว่าอาจารย์ แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยสอนเธออย่างจริงจังมากนัก นอกจากการเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านหนังสือคู่มือระดับกลางแล้วเธอก็อาศัยพรสวรรค์ที่เธอมีเรียนรู้ขึ้นมา ถ้าเรื่องนี้เกิดกับคนอื่นมีความเป็นไปได้ที่จะหนีไปตั้งแต่วันแรกๆแล้ว
ในขณะที่โจวหยูได้ลงมือสอนอู๋หยุนอย่างจริงจัง เขาก็หวังว่าลูกศิษย์คนจะสามารถเข้าใจเนื้อหาในหนังสือคู่มือลับระดับกลางให้เร็วที่สุด ในเวลาเดียวกันถึงแม้ว่าพลังงานโอตาคุของเขาจะไม่เพิ่มขึ้นอีกในช่วงนี้ แต่เขาก็ไม่ได้หยุดฝึกทักษะการทําอาหารแต่อย่างใด แม้ว่าการเรียนรู้ในช่วงนี้จะไม่ได้เร็วเท่าในช่วงที่ผ่านมา แต่เขาก็ ยังไม่หยุดการฝึกมัน และเร็วๆนี้เขาเองก็ได้รับอุปกรณ์เสริมบางอย่างมา มันมีชื่อว่าถุงมือเกมมิ่ง
เมื่อไม่นานมานี้โจวหยได้ทําการสุ่มสมบัติจากชามสมบัติเจ้าชายมังกรตัวอ้วน และได้รับสิ่งของที่น่าสนใจ คือถุงมือปฏิบัติการจําลอง พูดง่ายๆก็คือมันเป็นระบบปฏิบัติการแบบเต็มตัวที่ทําให้ผู้ใช้นั้นสามารถเล่นเปรตัวละครในเกมได้โดยตรง แต่มันก็เป็นเพียงเกมที่มีเงื่อนไขตรงตามที่กําหนดเท่านั้น
แม้ว่ามันจะไม่ได้ล้ําหน้าไปเท่าอุปกรณ์ VR แต่มันก็ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจมากอยู่ดี
ดังนั้นเขาจึงได้มีความคิดที่จะสร้างเกมทําอาหารขึ้นมา แน่นอนว่าเงื่อนไขการเล่นเองก็ได้ยึดตามหลักที่ถุงมือนี้กําหนดเช่นกัน เมื่อเกมนี้ถูกสร้างเสร็จแล้ว มันก็จะทําให้เขานั้นสามารถฝึกทําอาหารที่บ้านได้โดยใช้เพียงแค่ถุงมือคู่นี้เท่านั้น
แน่นอนว่าการเล่นเกมจําพวกนี้ทําให้เขานั้นได้เรียนรู้กระบวนการทําอาหารบางอย่างเท่านั้น มันไม่ได้สมจริงเท่ากับการลงมือปฏิบัติจริงได้ หากเขาต้องการเป็นพ่อครัวตัวจริงในอนาคตแล้ว เขาจะต้องลงไปฝึกฝนเพิ่มเติมในห้องครัว
ในเวลาไม่นานเกมนี้มีชื่อว่า “ห้องครัวสุขสัน” ที่ได้รับการออกแบบโดยกาก้าและเป็นเป็นก็ถูกสร้างออกมาด้วยการร่วมมือกันในครั้งนี้ มันก็เป็นเหมือนกับเกมก่อนหน้าที่เขาได้เชิญขี้เมาเฒ่ามาร่วม มันทําให้ตัวเกมได้มีมิติที่น่าดึงดูดมากขึ้น
จากมุมมองของความสนุกที่ตัวเกมนี้ทําได้นั้น ต้องบอกว่ามันไม่ใช่เกมที่น่าสนใจมากนัก อาจจะเพราะเนื้อหาของตัวเกมและสูตรอาหารที่มีในตอนนี้ ทําให้เกมดึงดูดน้อยลง แน่นอนว่าในอนาคตอาจจะมีการอักเดจเพิ่มเติมเมื่อความสามารถของสองพี่น้องฝาแฝดคู่นี้สูงขึ้น
เดิมที่เกม “ห้องครัวสุขสัน” ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เขาเรียนรู้กระบวนการทําอาหารเท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเรียนรู้ได้โดยตรงจากกาก้าลูกชายของเขาก็ตาม แต่การได้ฝึกลงมือทํามันก็ยังรู้สึกดีกว่าการนั่งฟังคําอธิบายเป็นไหนๆ
เมื่อพูดถึงเกม โจวหยูก็นึกถึงบริษัทเกมอย่างบริษัทฉันเป็นโอตาคุขึ้นมา ช่วงเวลาที่ผ่านมาถึงแม้เขาจะส่งตัวเกมไปให้อีกฝ่ายเสมอ แต่มันก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับเกมที่เขาสร้างขึ้นมา แน่นอนว่าคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่เขามีนั้น มันไม่สามารถเก็บเกมจํานวนมากได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่เขาจึงได้ถ่ายโอนเกมที่ไม่ค่อยหน้าสนใจไปยังแผ่นดิสก์และเก็บใส่ในกล่องเอาไว้ นั้นทําให้ในตอนนี้ห้องเก็บของใกล้ๆห้องทํางานของเขานั้นเต็มไปด้วยกล้องที่บรรจุแผ่นดิสเกมเอาไว้จํานวนมาก ถ้าหากมีนักเล่นเกมรู้เรื่องนี้ มีความเป็นไปได้มากที่พวกเขาเหล่านั้นจะบุกเข้ามาและขโมยพวกมันไป
เมื่อโจวหยูได้ว่างแผนต่างๆเป็นที่หน้าพอใจแล้ว มันก็ทําให้ชีวิตประจําวันของเขานั้นเริ่มยุ่งขึ้นเล็กน้อย
ตื่นเช้ามาเล่นเกมเพื่อเรียนรู้สูตรอาหารที่บ้าน ช่วงสายๆไปนั่นผักที่ห้องครัวเพื่อฝึกทักษะการใช้มีดของเขา จากนั้นก็ไปสอนลูกศิษย์ภายใต้การนําของช่างไม้บีเวอร์ เมื่อทําตามแผนทุกอย่างนี้แล้ววันๆหนึ่งของเขาก็จะหมดลง
ชีวิตของโจวหยูนั้นเป็นอะไรที่เรียบง่ายเป็นอย่างมาก แต่คนที่แอบดูชีวิตเรียบง่ายของเขานั้นกับไม่คิดแบบนั้น เนื่องจากความโด่งดังของสตูดิโอทั้งสองก่อนหน้า ทําให้ผู้คนจํานวนมากต่างก็ให้ความสนใจมัน นั้นจึงทําให้มีกลุ่มคนจํานวนหนึ่งต้องการสืบค้นข้อมูลเบื้องลึกของโจวหยูให้มากขึ้น
หรือไม่ก็มีบางคนต้องการจ้างพนักงานของสตูดิโอทั้งสองให้ทํางานให้ หรือบางคนต้องการรู้ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับบริษัททั้งสอง มีแม้กระทั้งกลุ่มแฟนคลับของมู่ลี่ที่ต้องการบุกรุกเข้าในสวนสนุกเพื่อค้นหานักพากย์เสียงคนนี้ให้เจอ
ภายใต้ความตั้งใจของคนเหล่านี้ทําให้ข้อตกลงการรักษาความลับที่โจวหยูเคยทํากับบริษัทเพนกวินและบริษัทฉันเป็นโอตาคุถูกเปิดเผยออกมา อย่างไรก็ตามนามแฝงที่โจวหยูใช้อย่างลัทธิเตที่ถูกคุมขังและนักลัทธิเต๋าที่นิยมเครื่องบินนั้นยังเป็นความลับต่อไป
ที่เป็นแบบนี้ก็เนื่องจากจนถึงตอนนี้ยังไม่มีกลุ่มแฮกเกอร์กลุ่มไหนที่สามารถแฮ็กเข้าคอมพิวเตอร์ของเขาได้
เมื่อพูดถึงเกี่ยวกับความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ โจวหยูมีความรู้ในเรื่องนี้น้อยมาก อาจจะพูดได้ว่านอกจากเล่นเกมและเขียนนวนิยายแล้ว อย่างอื่นเขาไม่รู้อะไรเลย และถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะได้ซื้อคอมเครื่องใหม่มา แต่มันก็ตั้งอยู่ใต้มาตราทั่วไปเท่านั้น มันไม่ได้เป็นเกรดของกองทัพแต่อย่างใด
ดังนั้นโดยปกติแล้วแฮ็กเกอร์ที่ถูกจ้างให้ขุดความลับของโจวหยูนั้นสามารถแฮ็คเข้าคอมพิวเตอร์จําพวกนี้ได้ง่ายๆได้ อย่างไรก็ตามการโจมตีทั้งหมดที่เข้ามานั้นกับถูกใครบางคนหยุดไว้ได้
แฮกเกอร์ขั้นเทพคนหนึ่งที่ใช้นามแฝงว่าตาเทพ ได้พยายามนับครั้งไม่ถ้วนในการแฮ็กเข้าไปในคอมเครื่องนั้น แต่การโจมตีทุกครั้งก็ได้พ่ายแพ้กับมาอย่างง่าย ซึ่งทําให้เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากการตรวจสอบหลายครั้งทุกอย่างแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่สวนสนุกธรรมดาเท่านั้น ไม่มีแม้แต่การป้องกันจากผู้เชี่ยวชาญด้วยซ้ํา พวกเขาถึงกับไม่ได้เป็นองค์กรไอทีด้วยซ้ํา ดังนั้นในการโจมตีครั้งแต่ไปพวกเขาได้ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดาไปที่สวนสนุกก่อนที่พวกเขาจะพยายามเชื่อมต่อกับเครือข่าย ของสวนสนุกอย่างลับๆ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถทําลายการป้องกันได้อยู่ดี
หลังจากการโจมตีในครั้งนี้ล้มเหลว ทีมแฮกเกอร์ตาเทพได้ยอมรับความพ่ายแพ้ในที่สุด ต่อมาเขาจึงได้ส่งจดหมายอย่างเป็นทางการไปยังสวนสนุก เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ
ในวันนี้โจวหยูกําลังเล่นเกม “ห้องครัวสุขสัน” ที่บ้านของเขาในสวนสนุก เขาได้ขยับมือของเขาอย่างต่อเนื่องเพื่อฝึกฝนการเตรียมอาหารที่เรียกว่าเนื้อลาย ด้านข้างเองก็มีกาก้าและเย็นเป็นเองก็กําลังเต้นเป็นกําลังใจอยู่ แน่นอนว่าไม่ใกล้จากนั้นมีมู่ลี่และหิงห้อยกําลังเล่นกันอยู่เช่นกัน
ทันใดนั้นเสียงกริ่งปะตูก็ได้ดังขึ้น และทําให้ทุกคนต่างก็หยุดกิจกรรมของตัวเองลง
ถ้าจําไม่ผิดช่วงนี้ลุงฟูได้ออกไปทําธุรกิจ พ่อแม่ของเขาเองก็ได้กลับไปสอนในโรงเรียนแล้ว ดังนั้นโดยปกติแล้วในช่วงเวลานี้ควรจะไม่มีใครมาเยี่ยมเขา
ถึงแม้จะมีความคิดแบบนั้น แต่โจวหยูก็ยังเดินไปเปิดปะตูอยู่ดี ปรากฏว่าคนที่มาหาเขาที่บ้านในวันนี้คือ รปภ.จึง เขาเป็นรปภ.ที่รับผิดชอบในการส่งจดหมายให้กับพนักงานในสวนสนุกแห่งนี้ ทุกวันเขามักจะเดินไปทั่วสวนสนุกเพื่อส่งพวกพัสดุ แต่ในครั้งนี้มันเป็นอะไรที่แปลกเป็นอย่างมาก เพราะโจวหยูไม่มีเพื่อนที่อยู่ข้างนอก เลย และเขาก็ไม่ได้ซื้อของออนไลน์อีกด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่แปลที่รปภ.จึงมาหาเขาที่นี่
“มีจดหมายสําหรับเจ้านายครับ! เขาบอกว่าเป็นเพื่อนของเจ้านายส่งมาให้ แต่เขาไม่ได้บอกว่าชื่อของเขาครับ ผมจึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายชื่ออะไร ต้องขอโทษด้วยครับ”
หลังจากที่พูดจบอีกฝ่ายได้ส่งจดหมายนั้นให้กับโจวหยูก่อนที่จะขอตัวจากไป เมื่อจดหมายอยู่ในมือเขาก็ตัดสินใจที่จะเปิดดู อาจจะเป็นจดหมายจากแฟนคลับของมู่ลี่ก็ได้ ดังนั้นเขาจึงเปิดอ่านมันทันที
หลังจากอ่านจบแล้วแม้ว่าอากาศในเดือนเมษายนจะร้อน แต่เขาก็รู้สึกหนาวเมื่ออ่านจดหมายนี้จบ
“โอ้พระเจ้า! ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ําว่ามีหลายคนกําลังเล่นงานฉันในที่ลับ!!
โจวหยูเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ใช้ชีวิต ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากวิเคราะห์เนื้อหาในจดหมายนี้แล้ว มันก็ทําให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายนั้นไม่สามารถเจาะได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงความนับถืออีกฝ่ายจึงได้ส่งจดหมายนี้มา
“จดหมายชื่นชม? เขาชื่นชมใครกัน?”
โจวหยูรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เพราะอีกฝ่ายมีการแสดงออกอย่างชัดเจนในเรื่องนี้ แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่รู้ว่าคนที่อีกฝ่ายต้องการขอบคุณนั้นคือใครกัน
“หรือว่าจะแม่นางฟ้าคนไหนที่แอบช่วยเขาอย่างลับๆกัน?