The Rise of Otaku - ตอนที่ 138
บทที่ 138 โลกใต้พิภพ
โจวหยูกลายเป็นเป้าหมายของหลายๆคน มันทําให้เขารู้สึกเหมือนมีหัวเป็นเหมือนขโมยที่มองไม่เห็นกําลังจ้องเขาอยู่ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่สามารถทําอะไรเขาได้ แต่การที่มีมีดจ่ออยู่ตลอดเวลาแบบนี้มันก็เป็นอะไรที่เขาไม่ต้องการเจอเช่นกัน โดยเฉพาะเนื้อหาบางช่วงในจดหมายที่ต้องการสื่อ
“เพื่อน! ฉันต้องยอมรับว่าฉันรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ฉันไม่สามารถทําอะไรคุณได้! คุณต้องรู้ว่าในวงการนี้ถ้าฉันบอกว่าตัวเองเป็นที่สอง ก็ไม่มีใครสามารถเป็นที่หนึ่งได้ ดังนั้นที่ฉันเขียนจดหมายมาให้คุณในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการแสดงความนับถือและต้องการเตือนคุณเช่นกัน ด้วยชื่อเสียงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆของสตูดิโอของคุณในตอนนี้ มีความเป็นไปได้มากที่ในอนาคตจะมีองค์กรแฮ็กเกอร์ทั่วโลกจ้องเล่นงานคุณ…”
ด้วยคําพูดในจดหมายนี้ทําให้ผมของโจวหยูตั้งขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ยังจะมีอีกเหรอ!! นี่มันไม่ใช่การ์ตูนมังงะนะที่จะมีศัตรูปรากฏตัวมาทีละตัวเพื่อเลี้ยง XP ให้ตัวเอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขานั้นไม่รู้ด้วยซ้ําว่าคนที่คอยช่วยเหลือเขาอยู่ในเงามืดนั้นมีความแข็งแกร่งมากขนาดไหน ดังนั้นเขาจึงอดมีความเป็นห่วงไม่ได้ว่าหลังจากนี้อีกฝ่ายจะสามารถต้านศัตรูได้ไหม?
ดังนั้นเพื่อรับประกันตัวเอง เขาจึงได้ทําการลบไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ในคอมทันที เพราะยังไงข้อมูลทั้งหมดที่เขามีอยู่ในคอมนั้นก็ถูกเก็บเอาไว้ในแผนดีสหมดแล้ว ถ้าเกิดว่าเขาต้องการเล่นเกมหรือดูการ์ตูนขึ้นมา เขาก็ยังสามารถนําแผ่นดิสพวกนี้มาใช้ได้
ด้วยวิธีนี้ทําให้อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ถูกลบออกไป แต่ความรู้สึกของการถูกเฝ้าดูจาดเงามืดนั้นยังคงอยู่ ไม่ว่าเขาจะทําอะไรหรือพูดอะไร มันก็ยังทําให้เขามักรู้สึกเหมือนมีคนคอยมองเขาอยู่เสมอ
ถ้ามันยังคงดําเนินต่อไปแบบนี้ตลอดเวลา เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะกลายเป็นบ้าตอนไหน?
เมื่อต้องการออกจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ โจวหยูนึกได้สองวิธีเท่านั้น หนึ่งคือต้องหาคนที่แอบช่วยเขาในที่ลับให้เจอ อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเงื่อนงําอะไรเลยที่สามารถสาวไปถึงบุคคลนี้ได้ เขาอาจจะเป็นคนจากโลกแห่งความเป็นจริงหรือโลกของ ACG ก็ได้ ดังนั้นในตอนนี้วิธีแรกจึงจําเป็นต้องพับเก็บเอาไว้ก่อน
ส่วนอีกแผนหนึ่งนั้นเป็นอะไรที่ง่ายกว่ากันมาแต่มันก็จําเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงเช่นกัน นั้นคือการจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มา แต่เมื่อคิดให้มากขึ้นไปอีก แผนการนี้ก็ดูไม่เวิกเช่นกัน ดังนั้นโจวหยูจึงได้วกกลับมายังแผนที่หนึ่งอย่างช่วยไม่ได้
เขาจําได้ว่าเมื่อครั้งที่เขากําลังถ่ายทําภาพยนตร์เรื่องล่าขุมทรัพย์มังกรอยู่นั้น ได้เกิดเหตุการณ์อย่างสายลับบุกเข้ามา แต่โชคยังดีที่ช่วงเวลานั้นได้มีรูบินเดอะเฮดจ์ช็อกเข้ามาช่วยเอาไว้
ดังนั้นบางทีรูบินเม่นคนนี้และชายลึกลับที่เขากําลังตามหาอาจจะเป็นคนๆเดียวกัน หรือไม่พวกเขาอาจจะรู้จักกันก็ได้
โลกของ ACG นั้นเป็นโลกที่มหัศจรรย์เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาสร้างหมู่บ้านมินิลู่หัวขึ้นมาได้สําเร็จ มันทําให้เขานั้นสามารถพบกับพลเมืองแปลกๆที่มีความสามารถแปลกๆมากมาย ดังนั้นมันทําให้เขารู้ว่า
หากมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เขาไม่สามารถแก้ไขได้โดยวิธีในโลกแห่งความจริง พลเมืองในโลก ACG นั้นสามารถช่วยเขาได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นโดยไม่ชักช้าโจวหยูรีบหารูบินเม่นอย่างรวดเร็ว และถามด้วยความเคารพว่า “รูบินเม่น! ฉันเคารพการตัดสินใจของเพื่อนของคุณ ดังนั้นฉันไม่ได้พยายามจะค้นหาเขา แต่ตอนนี้หมู่บ้านมินิลู่หัวกําลังตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก ฉันจึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องมาความช่วยเหลือจากเขา ดังนั้นฉันจึงหวังว่าคุณจะช่วยส่งข้อความนี้ของฉันให้เพื่อนของคุณได้ไหม? “
รูบินเม่นเป็นคนเงียบขรึมมาก เขามักชอบเดินอยู่ในร่มเงาของต้นไม้และมักจะอยู่ในหลุมของตัวเองตลอดเวลา แม้แต่คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมินิลู่หัวยังรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวอีกฝ่ายน้อยมาก
หลังจากฟังคําพูดของโจวหยูแล้ว รูบินเม่นได้ลดเสียงของตัวเองลงก่อนที่จะพูดว่า “เขามาจากเมืองใต้ดิน ดังนั้นเขาจึงต้องดําเนินชีวิตตามกฎของเมืองใต้ดินตลอดกาล สําหรับความกังวลของคุณนั้นฉันสามารถบอกได้ว่ามันไม่จําเป็นเลย ด้วยการปกป้องของเงาคนนี้ ไม่ว่าจะมีการโจมตีในที่ลับมากขนาดไหน เขาก็สามารถป้องกันมันได้ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลไป “
หลังจากที่รูบินเม่นพูดจบลง ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องการอธิบายเกี่ยวกับโลกใต้ดินมากไปกว่านี้ ดังนั้นโจวหยูจึงไม่ได้สอบถามอะไรเพิ่มเช่นกัน ดูจากน้ําเสียงและความมั่นใจที่อีกฝ่ายแสดงออกมาแล้ว มันก็ทําให้โจวหยูมีความมั่นใจเกี่ยวกับการป้องกันหมู่บ้านมากขึ้น
แต่เรื่องที่รูบินเม่นพูดมานั้นมันก็ทําให้เขารู้สึกแปลกใจเช่นกัน ปรากฏว่าไม่เพียงแต่มีประชากรอย่างโลก ACG เท่านั้น แต่ยังมีประชากรโลกใต้พิภพอีกด้วย ถึงขนาดที่แม้แต่ราชามังกรเฒ่าและช่างไม้บีเวอร์ผู้เฒ่าผู้แก่ที่สุดในหมู่บ้านยังไม่รู้ถึงการดําเนินอยู่ของอีกฝ่ายเลย
เมื่อจับข้อมูลทั้งหมดที่มีมาวิเคราะห์แล้ว มีความเป็นไปได้ที่รูบินเม่นอาจจะเป็นคนจากโลกใต้พิภพและคนจากพื้นโลกก็ได้ หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆคือเขาอาจจะเป็นเหมือนกับผู้ประสานงานอะไรพวกนั้น
เงาฟังดูเหมือนชื่อองค์กรหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าองค์กรนี้จะไม่มีสมาชิกอยู่มากมาย แต่อย่างน้อยหนึ่งในนั้นได้อาศัยอยู่ใต้พื้นดินของหมู่บ้านมินิลู่หัวกลายเป็นผู้พิทักษ์ของหมู่บ้านมินิลู่หัว
….
“โอเค! ฉันเชื่อคุณ แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคุณต้องรีบมาแจ้งฉันทันที”
รูบินเม่นไม่ได้ตอบอะไรกลับมา อีกฝ่ายทําเพียงโบกมือเพื่อแสดงว่าเขาเข้าใจและแสดงอาการไม่ให้โจวหยูรบกวนการนอนของเขาอีกต่อไป ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะยิงขี้อายกว่าเขาเสียอีก
ตราบใดที่เขารู้ว่ามีใครบางคนค่อยช่วยปกป้องอยู่ แม้ว่าเขาจะไม่เห็นอีกฝ่ายแต่แค่นี้มันก็ทําให้รู้สึกอุ่นใจมากขึ้นแล้ว อย่างน้อยในตอนนี้เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย แต่หลังจากความโล่งใจผ่านไปความอยากรู้อยากเห็นของเขาที่มีต่อโลกใต้พิภพก็ได้เพิ่มขึ้น
แม้ว่าอาจจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ภายใต้หมู่บ้านมินิลู่หัวในขณะนี้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะไม่มีใครมาเพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่ออํานวยความสะดวกแก่พวกเขา เขามีความคิดที่จะสร้างเมืองใต้พิภพขึ้นมา
แต่มันก็ได้เกิดปัญหาขึ้นมาทันที นั้นคือเขาไม่รู้ว่าจะต้องใช้พื้นที่มากเท่าไหร่ในการสร้างหรือต้องมีเงื่อนไขอะไรในการสร้างมันขึ้นมา
รูที่รูบินเม่นได้ขุดเอาไว้นั้นมีขนาดเล็กเป็นอย่างมาก ด้วยขนาดของรูนี้มันไม่มีทางที่เขาจะลงไปสํารวจได้ ถ้าจะให้ส่งคนลงไปดูทางเขาก็ไม่มีความมั่นใจเช่นกัน
ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้ เขาจึงคิดจะสร้างเมืองใต้ดินขนาดใหญ่ขึ้นมาเสียเลย ไม่เพียงแต่มันจะเป็นการลดความยุ่งยากบางอยู่แล้ว มันยังถือว่าเป็นที่อยู่อาศัยได้ในอนาคตอีกด้วย
นี่เป็นโครงการขนาดใหญ่และเขาจําเป็นต้องหาเหตุผลมาให้กับลุงฟูด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงต้องหาเหตุผลต่างๆมาโต้แย้งเขาอย่างแน่นอน
ดังนั้นในครั้งนี้โจวหยูจึงได้ตัดสินใจที่จะยกข้ออ้างอย่างการสร้างภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องใหม่ขึ้น ด้วยเขาให้เหตุผลว่าการสร้างสถานที่ครั้งนี้เตรียมเอาไว้ใช้ในการถ่ายทําในครั้งต่อไป
แน่นอนว่าการปล่อยผลงานของเขานั้นได้ถูกกําหนดเอาไว้หนึ่งเรื่องทุกหกเดือน เพื่อป้องกันใครถามถึงความเร็วในการผลิตของเขา และด้วยอัตราการผลิตนี้ทําให้ภาพยนตร์ที่ออกมานั้นจะต้องกับช่วงปิดเทอมทุกครั้ง และในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนปีหน้าก็อาจจะได้โครงการผจญภัยในเมืองใต้พิภพเกิดขึ้นมา และในเวลานั้นเขาก็สามารถใช้โครงการนี้พัฒนาโลกใต้พิภพได้อย่างไม่โดนสงสัย
มันเป็นการยิงปืนครั้งเดียวได้นกสองตัวเลยก็ว่าได้ และวิธีนี้เองก็จะแก้ปัญหาหลายอย่างได้ในอนาคต
หลังจากการตัดสินใจนี้แล้ว โจวหยูก็ได้ติดต่อไปหาเซี่ยฮวนทันที
“เซี่ยฮวน! ช่วงนี้นายพอจะมีสคริปต์ดีๆที่เกี่ยวกับโลกใต้พิภพไหม?.”
“ฮ่าฮ่า! ฉันคิดเอาไว้แล้วว่าไม่ใช้ก็เร็วนายก็ต้องติดต่อมาหาฉัน ด้วยความสําเร็จในภาพยนตร์ที่ผ่านมา ถึงแม้ฉันจะไม่มีสคริปต์ดีๆที่เกี่ยวกับโลกใต้พิภพ แต่ฉันก็สามารถหาให้นายได้ไม่ยากเลย”
“และถ้ารวมชื่อเสียงของมู่ลี่เข้าไปด้วย ฉันคิดว่ามันคงใช้เวลาไม่นานที่จะได้รับมัน ไม่แน่ว่าครั้งนี้เราอาจจะได้รับสคริปต์ระดับA มาเลยก็ได้”
หลังจากการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปครู่หนึ่ง พวกเขาทั้งสองต่างก็เริ่มลงมือทํางานส่วนของตัวเองทันที