The Rise of Otaku - ตอนที่ 147
บทที่ 147 ข้อสงสัยของพ่อครัวลี่
ความฉลาดเป็นช่องว่างที่ผ่านไม่ได้ง่ายจริงๆ โจวหยได้พยายามทําทุกอย่างเพื่อให้ได้พลังงานโอตาคุมาเพื่อใช้มันช่วยในการเรียนรู้ แต่สําหรับลูกศิษย์อย่างอู่หยุนไม่จําเป็นเลย เธอใช้เพียงความสามารถและความฉลาดที่ตัวเองมีก็สามารถเรียนรู้สนมาถึงช่างไม้ระดับกลางได้ นี่เป็นเหมือนผู้เล่นที่ได้จ่ายเงินเป็นจํานวนมากในเกมกําลังแสดงความแข็งแกร่งของเขาในจตุรัสแต่ระหว่างนั้นเองเขาก็ถูกผู้เล่นคนหนึ่งฆ่าซึ่งอีกฝ่ายไม่ได้จ่ายเงินซักแดงเดียวเพื่อซื้อของอะไรเลยอาศัยเพียงฝีมือของตัวเองเท่านั้น และความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีเจอขณะนั้นเองก็รู้สึกแบบนั้น
ในตอนนี้เขาจะพูดอะไรอีก เขาทําได้เพียงยอมรับชะตากรรมของเขาเท่านั้นท้ายที่สุดเขาไม่ได้ฉลาดเหมือนคนอื่น
ตามคําพูดของช่างไม้บีเวอร์แม้ว่าอู่หยุนจะยังไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเองแต่เธอก็ประสบความสําเร็จในการสอบและกลายเป็นช่างไม้มืออาชีพในที่สุดโดยปกติในเวลานี้พวกเขาควรให้ “คู่มือลับระดับสูง”แก่เธอแต่เผอิญว่าคู่มืออันใหม่นี้มีเนื้อหามากเกินไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทําให้เสร็จภายในเวลาอันสั้นนี้ดังนั้นโจวหยูจึงทําได้เพียงหาซื้อหนังสือเสริมที่ช่างไม้บีเวอร์เห็นว่าดีให้อู่หยุนศึกษาไปก่อนระหว่างที่รอให้เขาทําคู่มือใหม่นี้เสร็จ
แม้ว่าตลอดมามันจะเป็นงานหนัก แต่รางวัลที่ได้รับก็ยิ่งใหญ่เช่นกันปริมาณพลังงานโอตาคุที่เขาได้รับนั้นมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากอาจจะพูดได้ว่าจํานวนที่เขาได้รับครั้งล่าสุดสามารถอยู่ได้ประมาณหนึ่งเดือนแต่คราวนี้มันเพียงพอสําหรับสามเดือน
อู่หยุนได้ผ่านการทดสอบแล้ว แต่คนที่มีความสุขที่สุดในครั้งนี้กับไม่ใช่เธอแต่คือผู้จัดการร้านขายของที่ระเล็ก – เซี่ยยงที่เป็นแบบนั้นก็เพราะในปัจจุบันพื้นที่ในสวนสนุกนอกจากสวนน้ําแล้วก็มีเพียงร้านขายของที่ระลึกนี้เท่านั้นที่ได้รับความนิยมาด
จริงๆแล้วงานหัตถกรรมแบบนี้ก็ได้รับความนิยมมาก่อนหน้านี้แล้วแต่มันยิ่งมาโด่งดังมากขึ้นอีกเมื่อเป็นฝีมือของอาจารย์โจวหยูและฝีมือของลูกศิษย์ของเขาอย่างอู่หยุน อย่างไรก็ตามมันเป็นความอัปยศที่ในปัจจุบันกับมีช่างฝีมือเพียงคนเดียวที่ทํางานฝีมือออกมาซึ่งก็คือคู่หยุนซึ่งมันได้สวนทางกับความต้องการในตลาดเป็นอย่าง มาก มีอยู่บ่อยครั้งที่มีลูกค้าต้องการซื้อสินค้าแต่เธอกับไม่มีสินค้าขายดังนั้นเธอจึงคิดถึงการรับสมัครลูกมือให้กับอู่หยุนเพื่อที่ว่าเธอจะสามารถเพิ่มกําลังการผลิตได้
โจวฟูเพิ่งออกเดินทางไปทําธุรกิจเมื่อไม่นานมานี้ดังนั้นเรื่องนี้เธอจึงสามารถคุยกับโจวหยได้เท่านั้น
“ร้านขายของที่ระลึก? มันไม่ใช่ร้านขายของชําแบบทั่วไปเสียหน่อยที่ฉันเปิดร้านนี้มาก็เพื่อขายงานฝีมือชั้นยอดเท่านั้นเราจะไม่มีทางนําของเกรดต่ํามาขายในร้านอย่างเด็ดขาด! “
เซี่ยยงที่ได้ยินแบบนั้นก็บ่นออกมาในใจทันที เป็นที่รู้กันว่าของที่ขายในร้านนี้มีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มาจากฝีมือของอู่หยุน นอกนั้นเป็นงานฝีมือที่ซื้อมาจากหมู่บ้าน
แน่นอนว่าโมเดลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือโมเดลเรือรบที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง “โจรสลักผลไม้” และภาพยนตร์ “ล่าขุมทรัพย์มังกร”ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวมาสอบถามซื้อโมเดลพวกนี้แต่เธอก็ทําได้เพียงอบปฏิเสธไปได้เท่านั้นเพราะงานฝีมือพวกนี้ไม่มีมาขายได้ทุกวันมันเป็นงานที่ต้องใช้เวลาดังนั้นจึงมีเพียงนักท่องเที่ยวที่โชคดีเท่านั้นที่จะซื้อมันไปได้
“เอ่อ … ความสามารถของอู่หยุนในตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแต่เธอเป็นครูที่ดีได้ไหมนั้นเป็นอีกเรื่อง?”
อันที่จริงพลังโอตาคุของอู่หยุนนั้นสูงกว่าของโจวหยูมากแต่เธอเองก็เป็นคนที่ขี้อายมากเช่นกัน เขากลัวว่าเมื่อเธอเจอกับคนแปลกหน้าเธอจะไม่กล้าเผชิญหน้ากับพวกเขามากกว่า
“ในเรื่องนั้นเจ้านายไม่ต้องเป็นกังวลไปฉันจะเป็นคนไปหาคนเองแน่นอนว่าจะต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ ช่างไม้มาอย่างน้อยสิบปีโดยที่หน้าที่ของพวกเขาคือการทําชิ้นส่วนตามแบบต่างๆที่อาจารย์อู่หยุนบอกและในขั้นตอนสุดท้ายก็จะเป็นอาจารย์อู่หยุนเช่นกันที่จะทําหน้าที่ตรวจสอบดังนั้นของให้เจ้านายมั่นใจได้ว่าเราจะไม่มีทางนําผลิตภัณฑ์เกรดต่ํามาใส่เอาไว้ในร้านอย่างแน่นอน”
เมื่อเห็นว่าเซียยงวางแผนมาดีขนาดไหนโจวหยูก็รีบโบกมือไปมาทันทีและพูดว่า “โอเค! โอเค!ตราบใดที่อู่หยุนตกลงที่จะรับผู้ช่วยเธอสามารถจัดการได้ไม่จําเป็นต้องมาบอกฉัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้จัดการฟูกับมาเธอต้องรายงานเรื่องนี้ให้เขาทราบด้วยละกัน”
เมื่อโจวหยูพูดจบ เขาก็รีบวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็วเซี่ยยงที่เห็นแบบนั้นก็ทําได้เพียงถอนหายใจออกมาได้เท่านั้นเป็นที่รู้กันว่าเจ้านายคนนี้ไม่เคนสนใจเรื่องธุรกิจที่ตัวเองทําเลยอาจจะพูดได้ว่าเขาไม่คิดจะแตะต้องอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ สิ่งเดียวที่เขาทําคือการมีความสุขไปวันไม่ว่าจะเป็นการอนิเมชันหรือเล่นกับกลุ่มเด็กๆ
ทุกคนในสวนสนุกต่างก็อิจฉาเจ้านายตัวน้อยที่เป็นแบบนี้เขาดูมีอิสระจากความกังวลและปัญหาแต่ถึงแม้ว่าขาจะเป็นแบบนั้นแต่เขาก็ยังสามารถทําเงินได้มากมายยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่เข้าใจว่าทําไมสมาชิกของสตูดิโอลึกลับทั้งสองถึงยังคงเพื่อภักดีต่อเขา
หลังจากมีพลังงานโอตาคุที่เพียงพอความเร็วในการเรียนรู้ของโจวหยูก็ได้เพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นทักษะการทําอาหารหรือเทคนิคการใช้หอก ต่างก็มีความคืบหน้าการเรียนรู้ไปมากในตอนนี้เขาสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าฝีมือของเขากําลังพัฒนาขึ้นราวกับติดปีกบินหลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์เขาก็สามารถทําเมนูทอดให้เชฟสองคนพอใจได้และในแง่ของเทคนิคหอกอย่างน้อยที่สุดเขาไม่ถูกตีอย่างรุนแรงเหมือนวันแรกอีก
แม้ว่าเขาจะเป็นแบบนั้น แต่เขาก็ไม่รู้สึกภูมิใจกับมันมากนักเพราะนี้เป็นเพียงเมนูผักเพียงอันเดียวมันไม่มีอะไรให้หน้าภูมิใจเลยดังนั้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองในวันเดียวกันเขาได้แอบวางจานที่เขาทอดอย่างลับๆท่ามกลางอาหารจานอื่นแล้วดูปฏิกิริยาของพนักงานที่ด้านข้าง คนที่ลองชิมได้ลิ้มลองความแตกต่างในทันทีและพวกเขาไม่รอช้าที่จะชมทักษะการทําอาหารของเชฟคนนี้
พ่อครัวอ้วนลี่และพ่อครัวสองสามคนถึงกับเหงื่อตกเมื่อได้ฟังคําพูดพวกนี้
มันแปลกมาก! เพียงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเท่านั้นเจ้านายคนนี้ก็สามารถทําเมนูทอดออกมาได้สําเร็จไม่เพียงแต่จะแก้ไขข้อบกพร่องก่อนหน้านี้เท่านั้นแต่ฝีมือการทําเองก็ได้พัฒนาไปด้วยหรืออาจจะพูดได้ว่ามันอร่อยกว่าบางเมนูที่พวกเขาทําด้วยซ้ําหากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าพวกเขาได้เฝ้าดูเจ้านายอยู่ข้างๆทุกวันพวกเขาคงไม่เชื่อเลยว่ามันจะมีสิ่งที่เหลือเชื่อแบบนี้เกิดขึ้น
และด้วยความเร็วแบบนี้ หากเจ้านายยังคงฝึกฝนเช่นนี้ต่อไปคาดว่าภายในหนึ่งปีเขาจะกลายเป็นหัวหน้าพ่อครัวได้
หลังจากผ่านเหตุการณ์นี้ไปก็ไม่มีใครรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นเจ้านายกําลังทํางานในครัวเกือบทุกคนต่างก็ตั้งตารอคอยจานใหม่ที่เจ้านายทําการได้เห็นทักษะการทําอาหารของโจวหยูนพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วทําให้พ่อครัวคนอื่นๆสงสัยว่าเขาทําได้อย่างไร
อยู่มาวันหนึ่งเมื่อเห็นโจวหยูกําลังเตรียมอาหารที่พวกเขาไม่เคยเห็นพ่อครัวลี่ก็อดกลั้นความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไม่ได้เขาได้ถามขึ้นว่า”เจ้านาย!คุณไปเรียนวิธีการทําอาหารจานนี้มาจากไหนครับ?”
นี่เป็นสถานการณ์ที่แปลกประหลาดที่สุด เพราะพวกเขาต่างก็รู้ว่าเจ้านายของพวกเขานั้นไม่ได้ออกไปไหนมากนักดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะออกไปเรียนรู้ทักษะการทําอาหารที่อื่นและในสวนสนุกแห่งนี้ก็มีพ่อครัวเพียงไม่กี่คนและทุกคนต่างก็รู้ถึงฝีมือของกันและกันดีดังนั้นเมื่อมองดูอาหารที่เจ้านายกําลังทําอยู่ตอนนี้พวกเขารู้ว่านี้ไม่ใช้อาหารที่พวกเขาเคยเห็นมาก่อน
อย่างไรก็ตามทักษะการทําอาหารของเจ้านายได้เพิ่มขึ้นทุกวัน และตอนนี้เขาสามารถทําอาหารที่ดีออกมา ได้แล้ว มันสามารถนําไปเปรียบเทียบกับโรงแรมติดดาวได้เลยที่เดียว
แน่นอนว่าโจวหยูก็ชอบช่วยเหลือคนอื่นเช่นกันอย่างไรก็ตามการดํารงอยู่ของกาก้าและเบ็นเท็นนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่สําหรับตัวเกมที่เขาเล่นอยู่นั้น เขาคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะพูดออกไปดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นว่า “เป็นเพราะเกมที่ฉันเล่นตลอดช่วงนี้นะ! มันเป็นเกมทําอาหารและในนั้นมีอาหารที่แตกต่างกันมากมายให้ฉันลองทํา “
คําตอบนี้ทําให้พ่อครัวลี่รู้สึกไม่ค่อยเชื่อหากการเล่นเกมทําอาหารสามารถทําให้คนที่ไม่มีทักษะทําอาหารเลยกลายเป็นพ่อครัวได้ นั่นไม่ใช้หมายความว่าถ้าคนเราเล่นเกมจําลองการบินมันจะทําให้เขากลายเป็นนักบินหรือไง?
เมื่อเห็นว่าพ่อครัวลี่ไม่เชื่อเรื่องที่ตัวเองพูดออกโจวหยูก็ได้นําแผ่นดิสก์เกมที่บรรจุเกม “ห้องครัวสุขสัน”ออกมาก่อนที่จะพาพวกเขาไปยังบ้านพักของตัวเองพร้อมกับสาธิตการเล่นให้ดูแน่นอนว่าเมื่อพวกเขาเห็นวิธีการเล่นนี้ก็ได้อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
มันเป็นเกมทําอาหารจริงๆ แต่มันเป็นการเล่นเกมที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในตัวเองยังได้มีเมนูนต่างๆบรรจุเอาไว้จํานวนมากขั้นตอนการทําเองก็เป็นอย่างต้นตําหรับทุกอย่างซึ่งดูเหมือนว่าถ้าผู้เล่นชํานาญเมดูพวกนี้ แล้วสามารถออกไปเปิดร้านอาหารของตัวเองได้สบายๆเลยที่เดียว
เกมนี้มีรายละเอียดมากและการเปลี่ยนแปลงจากอาหารสดไปเป็นอาหารปรุงสุกในหน้าจอ CG มีความชัดเจนและระดับความร้อนและความเค็มหรือความหวานต่างก็มีการระบุไว้อย่างชัดเจนต้องปรุงอาหารนานแค่ไหนขั้นตอนใดที่จําเป็นต้องใช้ปริมาณและเวลาในการปรุงรสซึ่งทุกอย่างถูกระบุบเอาไว้ชัดเจน
นี่คือเกมที่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นแนวทางที่รวดเร็วในการทําอาหาร