The Rise of Otaku - ตอนที่ 17
ตอนที่ 17 เกมหมู่บ้านลู่หัว และ เรือบรรทุกเครื่องบินของโจวเฮา
หลังจากคลิกปุ่มเริ่มต้นการทำงาน การ์ดเขียนโปรแกรม การ์ดที่ได้จากสัตว์ร้ายตัวเล็กๆ รวมถึงเงินของเขาก็ได้หายไป ในตอนนี้เขาเหรียญเงินเพียง 458 เหรียญโมเท่านั้น
‘แค่คืนเดียวเขากลับไปที่ยังกลุ่มยากจนอีกครั้ง!’ อย่างไรก็ตามหลังจากรอมาระยะหนึ่งเขาก็ยังไม่เห็นเหล่าทีมนักพัฒนาออกมาจากที่พักของตัวเองแต่อย่างใด กลับกันมีเพียงรูเปิดขึ้นด้านบนของอาคารหลัก เช่นเดียวกับสตูดิโอการ์ตูน จากนั้นกระดาษแผ่นหนึ่งก็ปรากฏตัวออกมา
โจวหยูที่เห็นแบบนั้นก็หยิบมันขึ้นมาอย่างสงสัย เมื่อเขาดูมันอย่างละเอียดแล้วเขารู้สึกว่ากระดาษแผ่นนี้มันเป็นเหมือนกระดาษสอบยังไงยังงั้น
มันเริ่มต้นด้วยคำถามแบบตัวเลือก ตัวอย่างเช่น ประเภทของเกม ตัวเลือกคือ: สำหรับผู้เล่นคนเดี่ยว เกมออนไลน์ จากนั้นเป็นส่วนของแพลตฟอร์มของเกม ตัวเลือกคือ: มือถือ, คอนโซล, พีซี, ฯลฯ …
ประเภทของเกม ตัวเลือกได้แก่ : RPG, เกมวางแผน, เกมปริศนา หรือเกมจำลองสถานการณ์
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งโหลของคำถามที่มีให้เลือก โจวหยูก็เห็นว่าเขานั้นได้เติมคำถามที่ว่างทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างเช่น ชื่อของเกมและเนื้อหาของเกมที่ต้องการ คำถามนี้เป็นคำถามที่เขาเลือกได้ง่ายมากที่สุด แต่เมื่อถึงคำถามต่อไปเขาจำเป็นต้องใช้ความคิดอย่างรอบคอบเป็นอย่างมาก
จนในที่สุดเขาก็ได้เติมคำถามที่ว่างเปล่าเหล่านี้จนหมด ก่อนที่คำถามชุดต่อไปจะปรากฏขึ้นมา ซึ่งคำถามพวกนี้ก็เป็นคำถามทางเลือกเหมือนเดิม เช่น พล็อตหลักของเกม การตั้งค่าตัวละคร และการตั้งค่าสภาพแวดล้อม จนมาถึงคำถามที่ยุ้งยากมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าคำถามเหล่านั้นไม่ได้มีไว้สำหรับโจวหยูที่เป็นเพียงมือสมัครเล่น ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเหล่าทีมนักพัฒนาตัดสินใจด้วยตัวเอง
ดังนั้นหลังจากผ่านช่วงเวลาของการเลือกคำตอบจำนวนมากจบลงไปแล้ว แผนของเกมตัวแรกที่มีค่าสำหรับการจดจำนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดฉากขึ้น
ท้ายที่สุดแล้วเขาแค่ต้องค่อยตรวจสอบคุณภาพของเกมที่พวกนั้นจะทำออกมาเท่านั้น ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องใช้เวลาคิดมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องแปลกย่อยมากนัก และหากเกมระดับหนึ่งดาวที่พวกนั้นกำลังสร้างขึ้นมานั้นเหมือนกับเกม NES (ระบบความบันเทิงนินเท็นโด) ถ้าเป็นแบบนั้นในอนาคตเขาจะหลีกเลี่ยงการทำเกมระดับหนึ่งอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าการเล่นเกมแนว NES แบบเก่าจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาก็ตาม เพราะเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกคิดถึงวันวานหรือความทรงจำเก่าๆขึ้นมา เขาก็มักจะกลับไปเล่นประเภทนี้บางที่ อย่างไรก็ตามหากเกมใหม่ๆยังคงยึดอยู่ในรูปแบบดังเดิมนานๆ มันก็ทำให้เขาหมดความสนใจในการเล่นเกมไปได้
เพื่อที่จะตรวจสอบระดับความสามารถที่แท้จริงของเหล่าทีมพัฒนาชุดนี้ โจวหยูได้จงใจได้เลือกเกมแนวสถานการณ์จำลองบนพิซีขึ้นมา ซึ่งเป็นเกมประเภทที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เอฟเฟกต์พิเศษอะไรมากมาย
ชื่อของเกมเองก็ถูกตั้งชื่อว่า หมูบ้านลู่หัว สภาพแวดล้อมของเกมนั้นได้ถูกออกแบบให้อยู่ในบริเวณหมู่บ้านลู่หัวนี้ ในส่วนของตัวละครเองก็ได้นำเหล่าชาวบ้านจริงๆมาใช้เป็นตัวละครเช่นกัน
เนื้อหาของเกมมีความคล้ายคลึงกับเกมจำลองการทำฟาร์มตามปกติ ซึ่งเป็นการเพาะปลูกพืช การตกปลาและการขุดเหมือง ควบคู่ไปกับองค์ประกอบเกมอื่นๆที่ซ่อนอยู่ เช่น การรวบรวมภาพถ่ายสำหรับไกด์นำเที่ยว กรอบคร่าวๆของเกมเป็นเช่นนั้น
หลังจากโจวหยูกรอกข้อมูลทั้งหมดเสร็จแล้ว เขาก็ได้วางกระดาษกลับไปที่รูที่มันออกมาเหมือนเดิม ทันในนั้นทียอดบริษัทก็ได้ปรากฏไฟสีเขียวขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยเพลงเดินทัพทหารก่อนที่จะมีกลุ่มทหารเริ่มวิ่งเหยาะๆออกจากที่พักพนักงานและวิ่งเข้าไปในอาคารหลัก
ดูเหมือนว่าพวกเขาพร้อมที่จะพัฒนาเกมแล้วในตอนนี้ ด้านบนของอาคารเองก็มีตัวจับเวลานับถอยหลังปรากฏขึ้น หลังจากทหารทั้งหมดเข้าไปในอาคารหลัก เวลาที่เขาจำเป็นต้องรอคือ 48 ชั่วโมง
‘เขาจะต้องรอมันเป็นเวลาสองวัน’
…………………………
วันรุ่งขึ้น เรือบรรทุกเครื่องบินเองก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามของมัน ทำให้เหล่าเด็กๆในหมู่บ้านต่างก็อุทานด้วยความชื่นชมอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเกือบจะมาที่บ้านของโจวหยูทุกวันเพื่อเล่นกับของเล่นที่เขาทำ มีโรงเก็บของเล็กๆที่เป็นที่เก็บของเล่นทั้งหมดไว้ แม้ว่าจะไม่ใช่เด็กทุกคนที่มีของเล่นชิ้นเดียวพวกเขาก็มักจะตั้งของเล่นไว้รอบๆเพื่อให้เพื่อนมีโอกาสได้เล่นมัน
เด็กๆชอบเล่นกับของเล่นจำพวกอาวุธเป็นอย่างมาก พวกเขาต่างก็วิ่งไล่ล่ากันไปรอบๆบ้าน ในขณะที่มือของพวกเขาเองจับของเล่นไว้ และยังได้มีการตะโกนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากนั้นมันก็ทำให้เหล่าเด็กๆต่างก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
ในทางกลับกันเหล่าเด็กหญิงก็ถูกดึงดูดด้วยแบบจำลองฝีมือขนาดเล็กที่สวยงามเหล่านั้น พวกเธอมักจะหาบริเวณใกล้ๆที่เงียบสงบและร่มรื่นเพื่อเล่นการขายของกัน
แต่มันก็เกิดปัญหาขึ้นมาอยู่ดี และอาจจะเป็นปัญหาเดียวที่มี นั้นก็คือเมื่อเหล่าพ่อแม่ของพวกเด็กๆมาเพื่อพาพวกเขากลับบ้าน มันมักจะจบลงด้วยการที่เด็กๆหลายคนร้องไห้และปฏิเสธที่จะจากไป
นั้นแสดงให้เห็นว่าสถานที่บ้านของโจวหยูนั้นไม่เพียงเป็นที่สำหรับเล่นน้ำเท่านั้น แต่มันยังมีของเล่นอีกมากมายที่พวกเขาสามารถเล่นได้ นั้นจึงทำให้ตอนนี้เหล่าเด็กๆต่างก็เรียกสถานที่นี้ว่าสวรรค์ของพวกเขา
ในที่สุดสีบนเรือบรรทุกเครื่องบินก็แห้งหมดแล้ว โจวเฮาเด็กน้อยจอมซนคนนี้ไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไป ดูเหมือนว่าเขาต้องการนำเรืออันนี้ไปทดสอบในน้ำด้วยเร็วที่สุด เพราะจากสิ่งที่เขาเคยเห็นทางทีวีเจ้าเรือบรรทุกเครื่องบินอันนี้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และมันต่างก็เป็นความใฝ่ฝันของพวกเขาว่าต้องได้ครอบครองมัน