The Rise of Otaku - ตอนที่ 50
บทที่ 50 ทีมงานถ่ายทำ
“พี่ชายหยูมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่!”
เด็กๆในหมู่บ้านลู่หัวต่างก็เริ่มส่งข่าวให้กันและวิ่งไปที่บ้านของพี่ชายหยูทันที
ว่ากันว่ามีวัสดุจำนวนมากถูกเตรียมเอาไว้ ดังนั้นสิ่งที่พี่ชายหยูจะสร้างนั้นจะต้องเป็นอะไรที่ใหญ่กว่าเรือบรรทุกเครื่องบินอย่างแน่นอน และมันจะเป็นความอัปยศอย่างมากถ้าพวกเขาไม่สามารถเห็นมันด้วยตาตัวเอง
ในลานหน้าบ้าน โจวหยูได้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดเป็น ‘ที่ทำงาน’ ซึ่งมันได้ล้อมรอบด้วยม้านั่งยาว วัสดุต่างๆเองก็ถูกซ้อนขึ้นเหมือนภูเขาเล็กๆ
วัสดุทั้งหมดเหล่านี้ผลิตโดยช่างไม้บีเวอร์และลิงช่างหินในชั่วข้ามคืน เด็กๆต่างก็ยืนอยู่ข้างนอกม้านั่งอย่างมีสติ โดยที่พวกเขาต่างก็จ้องมองไปที่พี่ชายหยูตลอดเวลา
เนื่องจากเป็นซี่รี่เรื่องนี้ฉากส่วนใหญ่จะเป็นฉากของโรงเรียนมัธยมปลาย ดังนั้นสิ่งแรกที่จำเป็นจะต้องสร้างก็คือ ‘โรงเรียนมัธยมลู่หัว’ โรงเรียนในสคริปต์ต้นฉบับไม่ได้เรียกชื่อนี้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากสถานที่ถ่ายทำอยู่ในหมู่บ้านลู่หัว และโจวหยูเองก็เป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญที่สุด ดังนั้นจึงไม่ยากที่จะเขาจะเปลี่ยนชื่อโรงเรียน
โรงเรียนมัธยมแห่งนี้ได้มีการออกแบบให้มีอาคารเรียนการสอนทั้งหมดสามแห่ง อาคารห้องปฏิบัติการ โรงอาหาร รวมถึงสนามฟุตบอล สนามบาสเก็ตบอล หอพักนักศึกษา โรงยิมในร่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ การทำให้พวกมันให้เสร็จทั้งหมดนั้นจำเป็นจะต้องใช้เวลามาก
นี้อาจจะเป็นโชคดีเพียงอย่างเดียวที่โจวหยูมี นั้นคือเขาไม่ได้ขาดเวลาเลย เขาจึงได้เริ่มลงมือประกอบสิ้นส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน มันเหมือนกับว่าเขากำลังลงมือต่อตัวเลโก้ยังไงยังงั้น
ในเวลากลางวันโจวหยูจะทำงานใน ‘ที่ทำงาน’ ในตอนเย็นเขาจะใช้ผ้าใบกันน้ำเพื่อคลุมพื้นที่ทำงานในกรณีฝนตก หลังจากผ่านไปสามวันของการทำงานหนัก ในที่สุดเขาก็สร้างโรงเรียนมัธยมขึ้นมาสำเร็จ
ในระหว่างนั้นโจวหยูรู้สึกว่าหลังจากที่ช่างไม้บีเวอร์กับลิงช่างหินทำงานด้วยกันแล้ว คุณภาพโดยรวมของงานก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ตัวเค้าโครงของทั้งโรงเรียนมัธยมนั้นมีทั้งความเป็นตรรกะและความประณีต
แม้ว่ามันจะเป็นอาคารของโรงเรียนมัธยม แต่มันก็เต็มไปด้วยบรรยากาศของศิลปะอย่างน่าอัศจรรย์ มันให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้คนในการมองแวบแรก
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องชะลอโครงการของการปรับปรุงบ้านของตัวเองในตอนนี้ หากในอนาคตเกิดว่าเขาสามารถหาสถาปนิกได้มากขึ้น เขาก็สามารถสร้างบ้านที่ดีกว่าได้ ดังนั้นในตอนนี้มันจึงไม่จำเป็นที่เขาจะต้องรีบเร่ง
และด้วยการติดธงชาติเข้าไป มันจึงทำให้โรงเรียนมัธยมปลายเล็กๆนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น
หมู่บ้านลูหัวเองก็มีโรงเรียนประถมเพียงแห่งเดียว และโรงเรียนมัธยมปลายที่ใกล้ที่สุดอยู่ในสังกัดเมือง อย่างไรก็ตามโรงเรียนมัธยมปลายลู่หัวขนาดจิ๋วนี้มีความสวยงามมากกว่าโรงเรียนมัธยมปลายที่อยู่ในเมืองเสียอีก
ในเวลาเดียวกันความชื่นชมของเด็กๆที่มีต่อพี่ชายหยูนั้นก็ได้เกินคำบรรยายใดๆไปแล้ว พวกเขาต่างก็เป็นพยานในกระบวนการก่อสร้างทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ แบบจำลองโรงเรียนนี้ไม่ได้เป็นเพียงเปลือกที่ว่างเปล่าเท่านั้น เพราะเมื่อเปิดประตูห้องเรียนออกมาก็จะมีชุดเต็มของโต๊ะ เก้าอี้ กระดานดำ และแท่นขนาดเล็ก แม้แต่มุมห้องก็มีอุปกรณ์ประกอบฉากเล็กๆ เช่น ไม้กวาดเล็ก และที่ตักขยะ
มันเป็นอะไรที่สวยงามและพิถีพิถันมาก ด้วยสิ่งนี้จึงไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเด็กๆไม่ให้จินตนาการถึงการเรียนในโรงเรียนประเภทนี้ได้
เซี่ยฮวนเองก็พอใจกับฉากถ่ายทำนี้มาก แม้แต่สถานที่ถ่ายภาพคุณภาพสูงก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงสั่งให้ทีมงานถ่ายทำของเขาเริ่มทำงานทันที ฉากหลักนั้นมีอยู่แล้วและส่วนที่เหลือจะต้องสร้างขึ้นอย่างช้า ๆ ตามตารางการถ่ายทำ
หยางกู่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการชั่วคราวและงานของบริษัทแอนิเมชันนั้นได้ถูกหยุดเอาไว้ชั่วคราว เขาที่เป็นแค่ผู้กำกับระดับธรรมดาไม่ใช่คนที่มีความสามารถมากมายอะไร แต่เมื่อเขาต้องรับมือกับกลุ่มที่มีคุณภาพต่ำหรือแย่กว่านักแสดงคุณภาพต่ำ เขาก็ยังสามารถจัดการพวกมันได้เป็นอย่างดี
และนั้นทำให้โจวหยูรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก หลังจากสังเกตลักษณะของนักแสดงแต่ละคนอย่างระมัดระวังแล้ว เขาก็รู้ว่านีเนียนของเขานั้นมีทักษะที่สูงที่สุดแล้วในกลุ่มนักแสดงทั้งหมด
‘เฮ้อ! บริษัทจัดการไอดอลจักวาล นี้แย่จริงๆ’
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักแสดงสนับสนุน แม้ว่าคุณสมบัติของเขาจะไม่เลว แต่เขาก็มาพร้อมกับทักษะเชิงลบอย่าง ‘เพิ่ม 30% ของอัตราอื้อฉาว’ ผู้ชายคนนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นระเบิดเวลา ไม่มีใครรู้ว่ามันจะระเบิดเมื่อไหร่ คงมีพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ดีว่าทำไมเซี่ยฮวนถึงกล้าใช้นักแสดงประเภทนี้
และบริษัท จัดการไอดอลจักวาล นั้นก็เป็นอะไรที่ยากจนอย่างแท้จริง พวกเขาถึงกับไม่มีเงินที่จะเช่าโรงแรมสำหรับพนักงานของพวกเขาด้วยซ้ำ นั้นทำให้ในไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเขาได้ตั้งค่ายในทุ่งนานอกหมู่บ้านเท่านั้น
แต่ตอนนี้โรงเรียนได้ถูกสร้างเสร็จสิ้นแล้ว มันจึงทำให้พวกเขาทั้งหมดได้ย้ายไปโรงเรียนและนอนบนพื้นโรงเรียนได้
โจวหยูที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็ได้มีความเห็นอกเห็นใจจนเกือบน้ำตาคลอออกมา ‘ยินดีด้วย! ลูกชายของฉัน! นายจะต้องผ่านพ้นเรื่องนี้ไปให้ได้! ‘
อย่างไรก็ตามหากเขาสามารถช่วยให้บริษัทนี้ประสบความสำเร็จได้ นั้นจะทำให้ลูกชายของเขาเป็นผู้มีส่วนร่วมอย่างมากให้กับบริษัท และในอนาคตเขาจะไม่ถูกไล่ออกจากบริษัทตราบใดที่เขาไม่ได้ทำผิดพลาดใหญ่ๆ ไม่อย่างนั้นด้วยคุณสมบัติที่น่าเศร้าของเจ้าตัว มันอาจจะทำให้เขาจะไม่สามารถได้รับบทบาทที่สำคัญได้ในอนาคต
การถ่ายทำเริ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทุกวันการได้ดูกลุ่มคนตัวเล็กๆที่ถ่ายซี่รี่ไปรอบๆโรงเรียนมัธยมปลาย มันเป็นอะไรที่น่าสนใจทีเดียว เมื่อโจวหยูว่างเขาก็มักจะอยู่ถัดไปไม่ไกลเพื่อที่ว่าเขาจะได้ศึกษามัน
นักแสดงนำฝ่ายหญิงนั้นค่อนข้างสวย เธอตัวเล็กและโอชะมาก เธอเป็นเหมือนผู้หญิงโลลิตัวเล็กๆ นี้มันเป็นประเภทลูกสาวที่โจวหยูฝันอยากจะมี
หากเขามีลูกสาวเช่นนี้เรียกเขาว่าพ่อทุกวัน มันก็เป็นไปได้ว่าร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยพลังงานอย่างมาก แต่มันก็เป็นอะไรที่น่าเสียดายที่ว่าจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้รับเมล็ดไอดอลใหม่เลย ดังนั้นเขาสามารถถอนหายใจได้ตลอดเวลาขณะดูเธอเท่านั้น
หลังจากที่ลูกเรือมาถึงหมู่บ้านนี้ ก็มีเรือบินผู้สื่อข่าวหลายลำเดินทางมาที่หมู่บ้านเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าพวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อรวบรวมข่าว อย่างไรก็ตามในวันนี้ค่อนข้างแปลกออกไป เพราะมีนักข่าวหลายสิบคนเข้ามาในครั้งเดียวและพวกเขาต่างก็แออัดที่ทางเข้าโรงเรียนนั้น เห็นได้ชัดว่าวันนี้ได้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น
เจ้าชายมังกรตัวที่สามที่มีจมูกยาวและบินไปทั่วในขณะนี้ พร้อมกับพูดพร้อมกับยิ้มเยาะบนใบหน้าของเขาพูดว่า “ประกาศ! ประกาศ! มีข่าวลือเกี่ยวกับนักแสดงสมทบว่ากำลังมีความสัมพันธ์เชิงลึกกับนักแสดงนำหญิง”
‘อ่า! ในที่สุดเอฟเฟคอื้อฉาว 30% ก็เปิดใช้งานในที่สุด’ โจวหยูไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นี้แค่ผ่านมาไม่กี่วันอีกฝ่ายก็สามารถ “พิชิต” นักแสดงนำหญิงได้แล้ว มันไม่น่าแปลกใจเลยที่ตอนนี้จะมีนักข่าวมากขนาดนี้
ทางด้านของนีเนียนตัวน้อยนั้นกับไม่ได้แสดงอาการสนใจอะไรออกมาเลย เพราะในท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นเพียงแค่เล่นคู่ในละครเท่านั้น พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันจริงๆเสียหน่อย!
แต่มันเป็นเรื่องแย่มากสำหรับผู้อำนวยการสร้างอย่างเซี่ยฮวน มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะรวมตัวกัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาไม่ได้ให้ความระวังมาก มันจึงเกิดเหตุการณ์อย่างนักแสดงสนับสนุนมีโอกาส ‘พิชิต’ นักแสดงนำหญิงได้ขึ้นมา
ในตอนนี้ซี่รี่เรื่องนี้ได้ดังขึ้นก่อนที่มันจะถ่ายทำเสร็จ! แต่นี้ไม่ใช่ความนิยมประเภทที่เซี่ยฮวนต้องการ มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาในอนาคต
หลังจากนั้นไม่นานก็มีกลุ่มคนปริศนามา พวกเขาได้แต่งตัวในชุดสูทสีดำ หลังจากการสอบสวนอย่างละเอียดเสร็จ พวกเขาก็ได้แสดงใบเหลืองให้กับนักแสดงสนับสนุนทันที นี้อาจเป็นคล้ายกับกฎกติกาฟุตบอล มันถือว่านี้เป็นคำเตือนก่อน และถ้ามีคนได้รับใบแดงแล้วพวกเขาก็จะถูกตัดสิทธิ์ในการแสดงและอาชีพการแสดงของพวกเขาจะจบลงทันที
เซี่ยฮวนที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับแสดงอาการโกรธจัดและเขาได้ดุด่านักแสดงสมทบนั้นทันที อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากนั้นเขาไม่สามารถทำอะไรได้อีก เพราะถ้าเขาต้องการควบคุมเรื่องอื้อฉาวนี้ให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาจำเป็นต้องมอบหมายผู้จัดการที่ทุ่มเทให้กับนักแสดงแต่ละคน อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาได้ใช้เงินที่มีทั้งหมดไปกับลงทุนหมดแล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจ้างผู้จัดการ
หลังจากที่โรงเรียนถูกปิดไม่ให้คนอื่นเข้าไปนอกจากทีมงานแล้ว ข่าวอื้อฉาวก่อนหน้านี้ก็ได้เริ่มลดลงในที่สุด จากนั้นเซี่ยฮวนก็ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวโดยคอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงของนักแสดงสมทบนั้น โชคดีที่หลังจากนั้นก็ไม่มีเรื่องอื้อฉาวครั้งที่สองขึ้นมา
อย่างไรก็ตามหลังจากการถ่ายทำจบลง เซี่ยฮวนผู้น่าสงสารก็มีดวงตาสีแดงกำที่ดูแล้วน่ากลัวเป็นอย่างมาก มันอาจจะแสดงให้เห็นว่าเขาต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหน และถ้าโจวหยูสังเกตไม่ผิดเขาได้เห็นว่าเซี่ยวฮวนนั้นถึงกับยืนในขณะนอนหลับได้อีกด้วย
เมื่อหยางกู่ตะโกนคำว่า “จบ!” เขาก็ถึงกับล้มตัวลงบนผ้าห่มที่เตรียมไว้แล้วทันที นี้แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป อีกฝ่ายจำเป็นที่จะต้องการเวลาพักสักครู่ก่อน
ทุกวันนี้มันไม่ง่ายเลยที่จะทำอะไรด้วยตัวคนเดียว แต่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเซี่ยฮวนนั้นสามารถรักษาอนาคตของบริษัทตัวเองเอาไว้ได้
‘อ่า!…นายทำได้ดีมาก! ฉันหวังว่านายจะเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้! และใช้มันเป็นเชื้อเพลิงในการต่อสู้ต่อไปในอนาคตนะ!’
โจวหยูได้ยืนอยู่ข้างๆและปรารถนาอย่างจริงใจให้เซี่ยฮวนเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะยังไงแล้วอนาคตของลูกชายของเขาจำเป็นต้องพึ่งอีกฝ่าย