The Rise of Otaku - ตอนที่ 54
บทที่ 54 การจัดงานเลี้ยงหมู่บ้านมินิลู่หัวครั้งแรก
ในฤดูหนาวอาจเรียกอีกอย่างได้ว่าการเปลี่ยนตู้เสื้อผ้า หลังจากตื่นขึ้นมาในวันนี้ด้วยความรู้สึกเยือกแข็งในที่สุดโจวหยูก็จำได้ว่าเขาจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการเปลี่ยนตัว
อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดตู้เสื้อผ้าที่เก็บพวกเสื้อกันหนาวในปีที่ผ่านมา เขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยกลิ่นราที่รุนแรง มันเกือบทำให้เขาถึงกับเวียนหัวจริงๆ
หลังจากที่เขาพยายามกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์พวกนี้ออกไปหมดแล้ว เขาก็สังเกตเห็นว่ามีรูขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งอยู่บนกองเสื้อผ้าพวกนั้น เห็นได้ชัดว่านี้ต้องเป็นฝีมือของพวกพวกหนูอย่างแน่นอน
อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับตู้เสื้อผ้านี้มากเกินไปเป็น มันจึงทำให้เสื้อผ้าเกือบทั้งหมดเต็มไปด้วยเชื้อราและหลุมขนาดใหญ่ที่ทำโดยพวกหนู ส่วนด้านหลังของตู้เสื้อผ้าเองก็มีรูขนาดใหญ่ที่อาจจะเป็นทางผ่านของ ‘นักท่องเที่ยว’
ไม่ว่าโจวหยูจะเป็นคนหัวสมองช้าแค่ไหน เขาก็ตระหนักได้ว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงได้เผามันทั้งหมดในสนาม
โชคดีที่เขาได้รับเงินจำนวนมากในก่อนหน้านี้ ในเวลานี้เขาก็แค่ต้องซื้อพวกมันใหม่เท่านั้น และเขายังต้องการตู้เสื้อผ้าที่แข็งแกร่งอันใหม่เช่นกัน
โจวหยูไม่ใช้คนที่มีความต้องการเสื้อผ้าดีมากมายอะไร เขาแค่ต้องการเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้น ดังนั้นหลังจากที่เขาเข้าไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่อยู่ในหมู่บ้าน เขาก็ทำเพียงเหลือบมองเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะซื้อพวกมันในที่สุด
เจ้าของร้านขายเสื้อผ้านี้เองก็รู้จักโจวหยูเช่นกัน เพราะในท้ายที่สุดหมู่บ้านลู่หัวแห่งนี้ก็เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ดังนั้นในครั้งที่แล้วที่เกิดเหตุการณ์ “ปล้น” ขึ้นในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตที่ทำโดยกลุ่มเด็กๆ เขาเองก็เข้าใจได้ในที่สุดว่าหมู่บ้านลู่หัวแห่งนี้ได้ให้กำเนินชายหนุ่มที่ผู้ร่ำรวยขึ้นมา
และการมีลูกค้าที่ยอดเยี่ยมเช่นโจวหยูนี้เอง เจ้าของร้านไม่สามารถหยุดยิ้มได้ เมื่อเห็นสีหน้าของโจวหยูเจ้าของร้านรู้ว่าทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงพูดว่า “บอสโจว! ขอบคุณสำหรับการมาซื้อของในร้านเราในครั้งนี้ ผมจะให้โจวโจวนำเสื้อผ้าทั้งหมดที่บอสโจวซื้อไปส่งให้ที่บ้านทันที”
‘โอตาคุโจวหยู! ได้กลายเป็นบอสโจวหยูไปโดยไม่ได้ตั้งใจ’
หลังจากแก้ปัญหาเรื่องเสื้อผ้าได้แล้ว ความรู้สึกเยือกแข็งก่อนหน้านี้ก็ได้หายไปในที่สุด และเขาก็สามารถอยู่บ้านได้อย่างโอตาคุอย่างแท้จริง
หลังจากเปลี่ยนฤดูกาล ทิวทัศน์ที่เขามองเห็นได้จากสายตาของโลก ACG เองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ก่อนหน้านี้โลกถูกปกคลุมด้วยใบไม้สีน้ำตาลในฤดูใบไม้ร่วง แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเย็นและเยือกเย็น สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงหิมะปกคลุมทั้งหมู่บ้านเท่านั้น
ในหมู่บ้านมินิลู่หัวเองก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน จะเห็นได้ว่าชุดของชาวบ้านทุกคนต่างก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มีเฉพาะราชามังกรเฒ่าเท่านั้นที่ยังคงเหมือนเดิม เสื้อคลุมมังกรดำของอีกฝ่ายยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี นั้นทำให้โจวหยูอยากรู้ว่าเขาผ่านหน้าร้อนมาได้ยังไง? หรือว่ามันจะมีบางสิ่งที่พิเศษอยู่ในเสื้อผ้าของเขากัน?
เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ชาวบ้านของโลก ACG จึงไม่ค่อยออกไปไหน พวกเขามักจะรวมตัวกันในโรงเบียร์และเริ่มพูดคุยกัน เนื่องจากในเวลานี้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างพวกความบันเทิง มันจึงทำให้ตัวหมู่บ้านดูค่อนข้างว่างเปล่า อย่างไรก็ตามเงินของโจวหยูในช่วงนี้ก็อยู่ในตึงมือเป็นอย่างมาก
หลังจากล้างหน้าเสร็จ โจวหยูก็ได้ใช้เวลาว่างเล็กๆไปดูที่สวนผักเล็กๆของตัวเอง เขาสังเกตเห็นว่าผักดูเหมือนจะเติบโตได้ช้าเมื่อเข้ามาในฤดูหนาว แต่พวกมันก็ดูมีสุขภาพดีมาก ส่วนผักที่เติบโตเร็วที่สุดดูเหมือนว่าจะเป็นพวกถั่วงอกและต้นหอม ซึ่งในเวลานี้มันสามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว
ลุงกวนเออชาวไร่ ได้ออกมาจากกระท่อมขณะถือมีดแมเชเทตซึ่งค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับร่างของเขา ตอนนี้มันทำให้เขาดูเหมือนว่านักรบในตำนานยังไงยังงั้น
ถั่วงอกที่โตเต็มที่นั้นมีความสูงเท่ากับลุงกวนเอ๋อชาวไร่ หลังจากอีกฝ่ายหายใจเข้าลึกๆแล้วก็ยกมีดแมเชเทตขณะโบกมันไปมา ก่อนที่ถั่วงอกจะถูกตัดออกพร้อมราก
เห็นได้ชัดว่าทักษะมีดมีดแมเชเทตของอีกฝ่ายนั้นช่างน่าทึ่งจริงๆ
ต้นกระเทียมสดทั้งหมดเองก็ถูกเก็บเกี่ยวในเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีเช่นกัน ลุงกวนเออร์ชาวไร่ก็ได้มัดพวกมันอย่างชำนาญแล้วนำพวกมันทั้งหมดกลับไปที่กระท่อมของของตัวเอง แต่ละมัดต่างก็ถูกนับเป็นหนึ่งหน่วย หลังจากการคำนวณอย่างระมัดระวังแล้ว เก็บเกี่ยวผลผลิตครั้งนี้ ในส่วนของถั่วงอกคือ 20 หน่วยในขณะที่กระเทียมนั้นได้น้อยกว่ามันได้เพียง 15 หน่วยเท่านั้น
ถึงแม้ว่าจำนวนนี้ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามในสายตาของความเป็นจริงมันเป็นอะไรที่เพียงพอสำหรับการทำอาหารเพียงจานเดียวเท่านั้น แน่นอนว่ามันจะเป็นจานขนาดใหญ่ที่ทุกคนใช้ในบ้าน
ตอนนี้เขาก็มีผักแล้ว สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือการสร้างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เร็วที่สุด ในขณะเดียวกันขณะที่ลุงกวนเอ้อชาวไร่กำลังเก็บเกี่ยวผักอยู่นั้น ชายขี้เมาเฒ่าเองก็คอยอยู่ข้างๆพร้อมกับน้ำลายไหลออกมาไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายนั้นรอคอยที่จะดื่มแอลกอฮอล์มากขนาดไหน
เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของถั่วงอกสามหน่วยและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของหัวหอมสองหน่วยถูกผลิตขึ้นมาในที่สุด นับจากนี้เขาก็สามารถใช้เครื่องดื่มเหล่านี้เพื่อ “ขู่” ชายขี้เมาเฒ่าเพื่อทำงานเป็นอาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ได้ในที่สุด
‘โจวหยูไม่เคยละทิ้งความฝันในการฝึกกังฟูของเขา’
แต่ในเวลานี้เขาไม่สามารถสร้างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อีกแล้ว เหตุผลก็เพราะในตอนนี้ชาวบ้านคนอื่นกำลังรอทานผักของโลก ACG นี้เช่นกัน และในเวลานี้ชาวบ้านทุกคนต่างก็ได้นำโต๊ะและเก้าอี้มาสร้างเป็นงานเลี้ยงหมู่บ้านเป็นที่เรียบร้อย
แต่มันก็เกิดปัญหาขึ้นในที่สุดอีกครั้ง นั้นคือพวกเขา ‘ไม่มีพ่อครัว!’ในหมู่บ้าน
โดยปกติแล้วทุกคนมักจะใช้เตาทำอาหารเล็กๆที่บ้าน ทำอาหารเพียงอย่างเดียวที่พวกเขามีคือปลาของโลก ACG ปลาแต่ละตัวมีขนาดเล็กมาก ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถปรุงเองได้ แต่ส่วนผสมทั้งสองในตอนนี้มันกับมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับพวกเขา ถ้าไม่มีพ่อครัวมืออาชีพและอุปกรณ์ทำอาหารมืออาชีพ มันก็มีความเป็นไปได้ที่งานเลี้ยงครั้งแรกนี้อาจจะต้องจบลง
ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงได้เข้ามาขอให้โจวหยูเช่นได้เท่านั้น
โจวหยูที่ได้รับฟังคำขอแบบนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก บอกตามจริงถึงแม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่ในบ้านนี้เพียงคนเดียวมานานกว่าหนึ่งปี และแน่นอนเขาก็เคยทำอาหารจำพวกผักบ้างเป็นบางครั้ง แต่เขาก็ไม่ได้ทำอาหารเก่งเลย
เมื่อใดก็ตามที่เขาเริ่มที่จะปรุงอาหาร เขาก็จะหั่นผักเป็นชิ้นๆและทำเพียงอุ่นน้ำมัน ก่อนที่จะใส่วัตถุดิบลงไป จากนั้นก็ผัดผักในกระทะไปมา ไม่ว่าจะเป็นผักประเภทไหนเขาก็ทำแบบนี้ทั้งหมด เขาไม่เคยสนใจเรื่องของรสชาติมาก่อน ตราบใดที่อาหารที่เขาทำมานั้นมันยังกินได้ เขาก็ไม่เรื่องมากในเรื่องนี้
อาจจะพูดได้ว่าด้วยทักษะการทำอาหารนี้ มันก็โอเคที่จะทำอาหารสำหรับตัวเอง แต่ตอนนี้เขาต้องให้คนมากมายได้ลิ้มรส ‘พิษ’ ของเขา มันเป็นอะไรที่น่าอายมาก
‘เฮ้อ! เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาคงไปหาคนอื่นมาทำอาหารไม่ได้’
ดังนั้นภายใต้การสังเกตของฝูงชน โจวหยูจึงเริ่มทำการผัดผัก ในขณะนี้มันสายเกินไปที่จะตรวจสอบสูตรอาหารบางอย่างบนอินเทอร์เน็ต ดังนั้นเขาต้อง ‘ด้นสด’ ออกมาได้เท่านั้น
และ ‘ด้นสด’ ของเขายังคงเป็น : ตัดผักออกเป็นสิ้นเล็กๆ จากนั้นอุ่นน้ำมันให้ร้อน และเริ่มใส่พวกผักลงไป! เมื่อถั่วงอกถูกเทลงในกระทะมันก็ทำให้เกิดเสียงดังทันที อย่างไรก็ตามโจวหยูไม่ค่อยสนใจเสียงดังพวกนี้มากนัก เพื่อเป็นการประหยัดเวลาเขายังคงใส่พวกกระเทียม ต้อนหอมลงไป ก่อนที่จะผัดให้เข้ากัน เพื่อให้การทำอาหารนี้เสร็จสมบรูณ์ เขาจึงเติมซีอิ๊วขาวและเกลือลงไปแล้วผัดต่อไปพักหนึ่งก่อนที่จะเทลงในจาน
‘อย่างน้อยตอนนี้รูปร่างหน้าตาของมันก็ค่อนข้างดี’
เมื่อเห็นอาหารอยู่ตรงหน้า หน้าผากของทุกคนถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อทันที ทุกคนเห็นได้ชัดเจนเกี่ยวกับทักษะการทำอาหารของโจวหยู พวกเขายังคงประหลาดใจที่อีกฝ่ายสามารถอยู่รอดได้นานขนาดนี้
อย่างไรก็ตามนี่เป็นงานเลี้ยงครั้งแรกของหมู่บ้านมินิลู่หัว พวกเขาทำได้เพียงต้องกรวดฟันและลองทานดูเท่านั้น
‘ได้เวลาเสิร์ฟอาหารแล้ว และงานเลี้ยงในหมู่บ้านมินิลู่หัวก็เริ่มขึ้นในที่สุด!’