The Rise of Otaku - ตอนที่ 94
บทที่ 94 ปฏิกิริยาลูกโซ่
หลังจากการพูดคุยกันอย่างยาวนานเกี่ยวกับความสําคัญของภาพยนตร์ในเรื่องเศรษฐกิจภายของประเทศ โจวหยูรู้สึกว่าเขาได้กลับไปโรงเรียนเพื่อศึกษาเศรษฐศาสตร์ที่น่าเบื่อและการตลาดอีกครั้ง เขารู้สึกเวียนหัวมากและแทบจําไม่ได้ว่าปีนี้เป็นอย่างไร แม้ว่าเขาจะรู้เมื่อปีที่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพวกรักชาติอย่างแท้จริง
และเธอก็ควรจะรู้ว่าระหว่างเขากับเธอนั้นเป็นคนที่ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากที่เธอเข้ามหาวิทยาลัยเธอจะลืมเรื่องนี้ไป
“หยุด!, หยุด!, หยุด! ฉันยอมแล้ว! เธอจะทําอะไรกับภาพยนตร์เรื่องนี้ของฉันก็แล้วแต่เลย ขอแค่อย่างเดียวเท่านั้น เธอเลิกพูดเรื่องนี้กับฉันเถอะ! “
โจวหยูยกมือขึ้นและยอมแพ้จากเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นเขาก็วิ่งออกจากโรงภาพยนตร์กลางแจ้งไปราวกับว่าเขากําลังวิ่งเพื่อเอาชีวิตรอด ก่อนหน้านี้เมื่อเขาโต้เถียงกับโจวชูวหยูเขาจะมีโอกาสชนะ 70 หรือ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากที่เธอเข้ามหาวิทยาลัยและเรียนรู้ความรู้ทั้งหมดนี้ เธอก็ไม่ได้เป็นมือใหม่ที่สามารถเอาชนะได้ง่ายอีกต่อไป
โจวชูวหยูเองก็ถอนหายใจได้ด้วยความผิดหวังเท่านั้น หากต้องการเปลี่ยนลักษณะของโอตาคุที่แปลกประหลาดคนนี้ซึ่งสนใจงานอดิเรกของเขาเพียงอย่างเดียวนั้นคงเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมาก แม้ว่าการดําเนินชีวิตของทุกคนจะแตกต่างกันไป แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่หายากมากที่จะเห็นใครบางคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงโลกใบนี้แบบสุดขั้ว
บริษัทเพนนิ้วมังงะให้ความสําคัญกับความร่วมมือกับโจวหยูในเรื่องนี้ “มาก” แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีข้อกําหนดแปลกๆมากมายก็ตาม แต่งานของเขาก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากเช่นกัน มังงะชุด“อัสแซส ซินส์” ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากผู้อ่าน แต่ก็มีคุณสมบัติที่ไม่พึงประสงค์เช่นกัน เนี้อหาส่วนใหญ่นั้นดาร์กเกินกว่าที่จะนําไปใช้กับอนิเมะทั่วไปได้ สิ่งที่พวกเขาทําได้ตอนนี้คือดูว่าพวกเขาสามารถสร้างความร่วมมือกับสตูดิโอจากต่างประเทศได้หรือไม่
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทําให้หลิงกูเสียวรู้สึกปวดหัวที่สุด ถึงตอนนี้มังงะเรื่องอัสแซสซินส์จะได้รับ รางวัลมากมายแน่นอนว่านี้เป็นเกียรติอย่างไม่เคยมีมาก่อนสําหรับพวกเขา อย่างไรก็ตามเมื่อเขาติดต่อกับไปที่โจวหยูเพื่อบอกให้อีกฝ่ายออกมารับรางวัล เขาก็ถูกโจวหยูปฏิเสธออกมาทันที
อีกฝ่ายได้ยกสัญญาที่พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้อย่าง จะไม่มีการเซ็นชื่อในมังงะ ไม่มีการพบปะแฟนๆ ไม่มีการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ ไม่มีการสัมภาษณ์นักข่าว และตอนนี้โจวหยูก็ขอเพิ่มเงื่อนไขอีกข้อหนึ่งอย่างเขาไม่ต้องการแม้แต่จะออกมารับรางวัล ราวกับว่าเขาต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในบ้านของเขาเอง จนถึงตอนนี้หลิงกูเสียวก็ยังไม่พบวิธีที่จะนํานายท่านคนนี้ออกจากบ้านของตัว เองได้
เมื่อใดก็ตามที่เขาได้รับคําเชิญจากรางวัล มันเป็นอะไรที่ทําให้รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก เพ ราะทุกครั้งเขาจะต้องอธิบายให้ผู้จัดงานทราบว่าทําไมโจวหยูถึงไม่มา มันทําให้ตอนนี้เขากลัวที่ จะได้รับรางวัลมากขึ้น ซึ่งถ้าเอาเรื่องนี้ไปพูดกับคนอื่นมันคงกลายเป็นเรื่องตลกอย่างแน่นอน
วันนี้หลิงกูเสียวยังคงทํางานตามปกติในออฟฟิศของเขา ทันใดนั้นผู้ช่วยของเขาก็เคาะประตูแล้วพูดอย่างเร่งรีบว่า “บรรณาธิการหลิงครับ! โจวหยศิลปินหลักของมังงะอัสแซสซินส์ ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านสู่หัวหรือปล่าวครับ”
แม้แต่ในบริษัทแพนกวินมังงะเองก็มีเพียงหลิงกูเสี่ยวและบางคนที่อยู่ด้านบนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับตัวตนของโจวหยู ผู้ช่วยนี้คนนี้ของเขาก็รู้เรื่องเกี่ยวกับโจวหยูคนนี้ไม่มากนัก
“ ใช่! แต่นายอย่าคิดว่าจะติดต่อเขาไปเด็ดขาด ชายคนนี้มีอารมณ์แปลกๆ ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเกิดไม่พอใจเราขึ้นมา”
“ไม่ใช่แบบนั้นครับบรรณาธิการหลิง แต่ อครับ?”
มันไม่ใช้ว่าจะไม่มีโจวหยอีกคนในหมู่บ้านลู่หัวเหร
คําถามของผู้ช่วยทําให้หลิงกูเสียวรู้สึกแปลกมากจากนั้น ผู้ช่วยที่เห็นแบบนั้นก็หยิบ แท็บเล็ตออกมาและเล่นวิดีโอที่เขาเพิ่งดูเมื่อกี้ให้กับหัวหน้าดูอีกครั้ง
วิดีโอนี้เป็น “การถ่ายเบื้องหลังของภาพยนตร์อนิเมชั่น – โจรสลัดผลไม้ ” นั้นเอง
มีขายหนุ่มแปลกๆในวิดีโอและตามวิดีโอเขากําลังถ่ายภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาได้เผาโมเดลเรือที่สวยงามมากมาย เพียงแค่นี้ก็แสดงได้แล้วขายหนุ่มคนนั้นมีเงินมากมาย เขาไม่สนใจด้วยซ้ําที่จะต้องสูญเสียเงินจํานวนมากแบบนี้
“เสี่ยวหยาน! เรื่องนี้นายควรส่งมอบให้กับแผนกข่าวซุบซิบไม่ใช้เหรอ? แล้วทําไมนายถึงมาให้ฉันดูกัน? ”
หลิงกูเสี่ยวนั้นดูถูกคนที่มีชื่อเสียงโดยใช้วิธีการดังกล่าว แต่เพื่อประโยชน์ของโมเดลเรือเหล่านั้น มันก็ไม่มีปัญหาที่เขาจะช่วยให้อีกฝ่ายโด่งดังขึ้นมา อย่างไรก็ตามสิ่งที่เสี่ยวหยานได้พูดต่อไปมันเกือบทําให้เขาพ้นขาในปากของเขาออกมา เพราะความตกใจ
“ไม่ใช้แบบนั้นครับ ก่อนที่ผมจะมาหาหัวหน้า ผมได้ตรวจสอบชายคนนี้มาแล้ว เขามี ชื่อว่าโจวหยูและสถานที่ถ่ายนี้เองก็ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านลู่หัวเหมือนกัน!”
หลิงกูเสี่ยวที่ได้ฟังแบบนั้นก็ตกใจมาก แน่นอนโจวหยูอาศัยอยู่ในหมู่บ้านลู่หัว มันเป็นชื่อที่คล้ายกันมากหรือว่าอีกฝ่ายจะเบื่อกับการวาดการ์ตูนแล้วเริ่มสร้างอนิเมชั่นกัน? ไม่มีใครสามารถคาดเดาสิ่งที่เขาคิดและสิ่งที่เขาจะทําต่อไปกับอารมณ์ประหลาดของเขาได้
หลิงกูเสียวรีบติดต่อกับโจวหยูทันทีถ้าคนแปลกๆคนนี้อยากจะเปลี่ยนไปทําอนิเมชั่นจริงๆ เขาต้องไปที่หมู่บ้านลู่หัวด้วยตัวเองซักครั้งแม้ว่ามันจะหมายความว่าเขาจะละเมิดข้อตกลงก็ตาม
น่าเสียดายที่โจวหยูไม่ได้ออนไลน์ตลอดเวลาและเวลาที่ใช้ในการรอคอยนั้นเจ็บปวดที่สุดเสมอ
หลิงกูเสี่ยวได้เดินไปทางซ้ายและขวาอย่างใจจดใจจ่อและพยายามทั้งไปกระตุ้นโจวหยูอย่างเงียบๆตลอดเวลา แต่เขาก็กลัวที่จะเห็นข้อความที่ว่า “ผมไม่ต้องการวาดการ์ตูนอีกต่อไป” ปรากฏขึ้นในหน้าต่างแชทของเขา
ในช่วงเวลาแห่งการรอคอยเสี่ยวหยานเองก็ได้กลับมาอีกครั้ง เวลานี้การแสดงออกของเขาก็ ยิ่งตกใจราวกับว่าเขาได้เห็นฝีมานั้นทําให้หัวใจของหลิงกูเสี่ยวจมลงทันที “มันยังมีข่าวที่เลวร้ายกว่านี้อีกเหรอ?
บรรณาธิการหลังครับ!ผมเพิ่งตรวจสอบภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง” โจรสลัดผลไม้ “บน อินเทอร์เน็ตมาและผมก็ได้รับสิ่งนี้เข้า! นี่มันเป็นอะไรที่น่าแปลกประหลาดมาก!”
สิ่งที่เสี่ยวหยานพูดก็คือตัวอย่างของ “โจรสลัดผลไม้” ที่โจวชูวหยูได้อัปโหลดหลังจากที่เธอกลับไปมหาลับและได้รับการแก้ไขร่วมกับเหอหยวนหยวนเพื่อนสาวของเธอ
เมื่อเหอหยวนหยวนได้เห็นภาพยนตร์เรื่องนี้ครั้งแรกการแสดงออกของเธอก็เกินจริงกว่าของโจวชูวหยไปมาก ในเวลานั้นปากของเธอเบิกกว้าง เธอเกือบต้องขอร้องให้เพื่อนของเธอช่วยเธอผลักกรามกลับไปที่เดิม
“นี้ทําขึ้นมาโดยโจวหยูจริงเหรอ?”
“เขาเป็นพวกประหลาดที่ชอบงานช่างไม้ไม่ใช้เหรอ?”
“ทําไมเขาถึงสามารถสร้างภาพยนตร์อนิเมชั่นได้กัน?
ชุดคําถามที่ซ่อนอยู่ในใจของเหอหยวนหยวนและมีมากมายจนไม่สามารถหาคําตอบได้
” ตกใจใช่มั้ยละ? ฉันก็เป็นแบบเธอเมื่อฉันได้เห็นมันครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์กลางแจ้งมันเกือบจะทําให้ฉันตกใจกลัวจนหัวใจวายจริงๆ ใครจะไปคิดว่าอีตาโอตาคุนั้นที่มีความสามารถในการทําเกม จะมีความสามารถในการทําภาพยนตร์อีกด้วย 4
โจวรหยุยังคงไม่สามารถยอมรับกับผลที่เกิดขึ้นนี้ กลับกันทางด้านเหอหยวนหยวนเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่า ทําไม่พี่ชายหยูถึงกล้าส่งต้นฉบับภาพยนตร์นี้มาให้พวกเธอง่ายๆแบบนี้ เขาไม่กลัวว่าพวกเธอจะฮุบมันไปหรือไง? โอ้ใช่แล้ว! เธอเกือบลืมไปแล้วว่าโจวชูวหยูบอกเธอว่าเขากําลังคิดที่จะปล่อยมันฟรีตั้งแต่แรก ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเขาคงจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้อย่างแน่ นอน
สายตาของเหอหยวนหยวนนั้นยังคงมีความลังเลที่จะละสายตาออกไปจากหน้าจอคอ มพิวเตอร์ในตอนนี้ “มันสวยมากจริงๆ นี้มันสามารถถือเป็นปาฏิหาริย์ของอนิเมชั่นในประเทศของเราก็ยังได้ที่สามารถทําอะไรสุดยอดแบบนี้ได้ ฉันคิดว่าเราควรจะนําเรื่องนี้ไปปรึกษาอาจารย์ของ เราไหม? ”
ข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธโดยโจวชูวหยูอย่างเด็ดขาด “ไม่! ภาพยนตร์เรื่องนี้มีค่ามาก! ยิ่งมีคนรู้ เรื่องนี้มากเท่าไรมันยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น อีตาบ้าโจวหยูนั้นเชื่อใจเรา ดังนั้นเราไม่สามารถเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการรั่วไหลของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ ฉันจะลบภาพยนตร์ต้นฉบับนี้ทันทีที่เราทําคลิปโปรโมตเสร็จ ”
โจวขวหยูนั้นเต็มไปด้วยความคิดทางการค้ามากมายและเธอต้องการทําให้เรื่องนี้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเธอรู้ว่าโอตาคุนั้นไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก และยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินเลย ยังไงอีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ที่เธอให้ความสําคัญกับเรื่องนี้ก็เพราะในช่วงท้ายของเครดิตนั้นมันมีชื่อของเธออยู่ เธอจะต้องทําให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นดาวกระลัดฟ้าให้ได้ เมื่อมันเป็นแบบนั้นในอนาคตมันก็จะเป็นไปเบิกทางให้เธอได้อย่างแน่นอน
เหอหยวนหยวนไม่รู้ว่าเพื่อนสาวข้างๆเธอนั้นกําลังคิดอะไรอยู่ ถ้าเกิดว่าเธอรู้เรื่องนี้เธอคงจะดี เพื่อนสาวอย่างโจวชูวหยูไปแล้ว แต่ตัวยการแสดงอย่างไร้ที่ติของโจวชูวหยู มันจึงทําให้เหอหยวนหยวนคิดว่าเรื่องที่เธอพูดนั้นมันสมเหตุสมผลมาก ดังนั้นพวกเธอจึงใช้เวลาครึ่งวันในการแก้ไขตัวอย่างภาพยนตร์แล้วลบภาพยนตร์ทั้งหมดก่อนที่จะอัพโหลดตัวอย่างไปยังอินเทอร์เน็ต
จากนั้นหลิงกูเสียวก็เห็นมัน