The Rise of Otaku - ตอนที่ 99
บทที่ 99 การขยายตัวของอัศวินสัตว์
โจวฟูเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงมาโดยตลอด เขาได้อยู่ในโลกธุรกิจมานานหลายทศวรรษและมีประสบการณ์มากมาย ดังนั้นเมื่อเขาพบว่าสถานการณ์มันกลายเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่ได้ตื่นตกใจมากเกินไป
ด้วยสถานะแบบโจวหยู อีกฝ่ายคงได้ปฏิเสธการพบปะพวกตัวแทนจากบริษัทอื่นๆตามปกติและนั้นทําให้ตัวแทนจากบริษัทเหล่านั้นเบนเข็มมายังตัวเอง ดังนั้นมันคงมีแค่เขาเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลืออีกฝ่ายได้
ด้วยความคิดนี้โจวฟูจึงเริ่มการเดินทางของการเป็นหนังหน้าไฟ….เอ้ย! ไม่ใช้…ต้องพูดว่าเริ่มต้นเป็นผู้จัดการอย่างเป็นทางการ แน่นอนถ้าเขาสามารถทํามันได้มันจะเป็นเวทีใหม่ในชีวิตของเขาทันที
เมื่อคิดแบบนี้มันจึงทําให้เขาเริ่มทํางานอย่างแข็งขัน
หลังจากการพูดคุยในเชิงลึกแบบ “มิตรภาพ” การกระจายของผลกําไรในที่สุดก็ได้รับการตัดสินใจโดยคร่าวๆ หลังจากนั้นก็มีการแถลงข่าวในห้องประชุมเพื่อประกาศว่าภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง “โจรสลัดผลไม้” จะร่วมเผยแพร่โดยบริษัทเกมโอตาคุกับบริษัทเพนกวินมังงะ
และขั้นต่อไปก็เป็นขั้นตอนมาตรฐานอีกครั้ง โจวหยูที่เห็นแบบนั้นก็ศึกษาขั้นตอนนี้อย่างจริงจัง เขาหวังว่าหลังจากนี้เขาจะสามารถนํามันไปใช้ได้อย่างธรรมชาติ
หลังจากวันที่ยาวนานของเหตุการณ์นี้ ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะจบลงด้วยดี ในที่สุดบริษัทต่างๆ ที่ได้รับเค้กชิ้นหนึ่งก็กลับไปเตรียมตัว นักข่าวที่ได้รับข่าวก็ไม่มีเวลาว่างที่จะอยู่ที่นี้อีก พวกเขาต่างก็รีบกลับไปเขียนบทความเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้อย่างเร่งด่วน ดังนั้นในตอนนี้จึงมีเพียงคนทําความสะอาดในสวนสนุกเท่านั้นที่ทํางานอย่างหนักเพื่อทําความสะอาดพื้นที่ทั้งหมด ในขณะเดียวกันโจวฟูก็ยังคงคิดถึงทุกอย่างที่พึ่งผ่านมาด้วยความจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของตัวเองต่อหน้าสื่อจํานวนมาก! หรือการติดต่อเรื่องสําคัญจํานวนมากที่ผ่าน มันเริ่มทําให้เขาเริ่มเข้าใจว่าทําไมตลอดมาเจ้าเด็กน้อยโจวถึงพยายามหนีจากเรื่องพวกนี้
“เฮ้อ! นี้อาจจะเป็นทั้งพรและคําสาป การที่ฉันสามารถเข้าสู่วงการนี้ได้ต้องขอบคุณเด็กน้อยโจวจริงๆ “
โจวหยูไม่เข้าใจความรู้สึกของโจวฟู เขาไม่เข้าใจว่าการนั่งอยู่กับที่เหมือนเสาไฟฟ้าต้นหนึ่ง และยังต้องคอยตอบคําถามทุกข้อนั่นน่าสนใจตรงไหน? มันดีกว่าการเล่นกับลูกตัวเองอีกเหรอ?
พูดถึงเรื่องลูกแล้ว เมื่อเร็วๆนี้หิงห้อยดูไม่มีความสุขอย่างเห็นได้ชัดที่เป็นแบบนั้นก็เพราะเรื่องโจรสลัดของตัวเองนั้นไม่สามารถยิงปืนใหญ่ได้จริงๆ และถ้าเรือโจรสลัดยิงปืนใหญ่ไม่ได้ มันจะยังเรียกมันว่าเรือโจรสลัดได้อย่างไร? ดังนั้นความกระตือรือร้นของเธอต่อเรือโจรสลัดได้ลดลงอย่างช้าๆและจากนั้นเธอก็กลับไปสู่ยุคสมัยเก่าที่ค่อยสร้างปัญหาในทุกที่แทน
แจ็คที่รู้นี้รู้สึกเสียใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาต้องการที่จะสอนนิ่งห้อยเกี่ยวกับมารยาทของอัศวินและทําให้เธอกลายเป็นอัศวินที่มีคุณสมบัติที่ดีพร้อม แต่มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่นิ่งห้อยดูเหมือนจะไม่สนใจในเรื่องนี้ แต่ด้วยวิถีชีวิตที่ตรงไปตรงมาและไม่ถูกจํากัดของเธอ มันทําให้การเป็นโจรสลัดเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับเธอมากกว่า จากการวิเคราะห์บุคลิกภาพที่ผ่านๆมา มันเป็นเรื่องยากมากที่จะชักนําเธอมาสู่อัศวินได้ เช่นเดียวกันกับอัศวินนภา แม้ว่าอัศวินนภาจะไม่ได้มีข้อจํากัดมากนัก แต่มันก็มีมารยาทที่ซับซ้อนเช่นกัน
ด้วยเรื่องทั้งหมดนี้อัศวินทั้งสองจึงรีบวิ่งมาปรึกษากับโจวหยู นั้นทําให้เขาที่ได้ฟังเรื่องนี้ก็รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับอนาคตของลูกสาวคนนี้มาก พ่อคนนี้หวังว่าลูกสาวคนแรกจะไม่กลายเป็นโจรสลัดหรือผู้ร้ายหรอกนะ? แต่ถ้าเกิดว่าเธอเป็นแบบนั้นแล้วฉันจะทํายังไงดีนะ? นั่นคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน ไม่แน่ว่าแจ็คและบูบูจะกลายเป็นบ้าแล้วมาพาเธอไปอบรมวิธีแห่งอัศวินก็ได้?”
ความคิดของโจวหยุได้ร่องรอยไปไกล จนลุงฟูต้องเรียกเขาสองหรือสามครั้งกว่าที่เขาจะรู้สึกตัว “โอ้! ขอโทษครับ พอดีผมมีอะไรให้คิดนะครับ ไม่รู้ว่าลุงฟูมาหาผมต้องการพูดเรื่องอะไรเหรอครับ?”
โจวฟูที่ได้ฟังแบบนั้นก็ส่ายหัวและยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ทําไมเขาถึงคิดว่าที่อีกฝ่ายเป็นแบบนี้มันจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมากันนะ?
“เด็กน้อยโจว, ฉันจะมาบอกว่าโคโรเซียมได้สร้างเสร็จแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเธอจะเริ่มฝึกพวกสัตว์เลยไหม? และเธอต้องการให้ฉันช่วยจัดหาพวกสัตว์ให้เธอไหม? ”
แม้ว่าการทําอนิเมชั่นนั้นจะทํากําไรได้มาก แต่โจวฟูก็รู้ว่าการดําเนินงานเองก็มีมากเช่นกัน เขาไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าที่ภาพยนตร์หนึ่งเรื่องสามารถทําเงินได้ มันอาจจะเป็นเพียงหนึ่งเดือนหรืออาจจะมากกว่านั้น ดังนั้นเขาไม่สามารถคาดหวังเงินจากเรื่องนี้ได้มากนัก
“เอ่อ… เรื่องนั้นผมคิดว่ามันไม่ได้เร่งด่วนอะไรมากนัก ผมคิดว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมผมจะเริ่มมันเอง ลุงฟูไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ไป”
ที่โจวหยูพูดมานั้นก็เพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้ไข่จากเจ้าตู้ชากาปอง จนถึงตอนนี้เขาก็ได้รับไข่จากตู้นั้นเพียงสองครั้งเท่านั้น นี้แสดงให้เห็นว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะได้จากไข่นั้นยากขนาดไหน และเขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเจ้าตู้กาชาปองนั้นยังคงมีไข่อยู่ไหม?
ไม่แน่ว่าโครงการโคลีเซียมนี้จะถูกระงับเอาไว้ชั่วคราวหรือไม่?
โดยไม่คาดคิดปัญหานี้จะถูกแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ทั้งเจ้าเดียนเดียนและเจ้าเซอร์แบล็กได้เติบโตขึ้นในเวลาที่ผ่านมา พวกมันทั้งสองก็ได้เริ่มเปิดเผยสัญญาณบางอย่างที่แสดงว่าอยากจะมีคู่ครองขึ้นมา อย่างไรก็ตามโจวหยูซึ่งไม่เคยมีประสบการเรื่องพวกนี้มาก่อน ก็ไม่เข้าใจพวกสัญญาณเหล่านั้นมันหมายถึงอะไร ดังนั้นเมื่อมาถึงจุดที่เจ้าเดียนเดียนและเจ้าเซอร์แบล็กไม่สามารถทนได้อีกต่อไป พวกมันก็ทําพิธีกลายเป็นผู้ใหญ่ด้วยตนเอง
เดิมบ้านไกในทุ่งหญ้ามีไก่ธรรมดาบางตัว ไก่เหล่านั้นโดยทั่วไปอาศัยอยู่ในรั้วที่ล้อมรอบด้วยตาข่าย อย่างไรก็ตามรั้วตาข่ายนั้นไม่สามารถหยุดเจ้าเดียนเดียนได้ หลังจากที่มันเอาชนะไก่หัวหน้าสองตัวได้อย่างง่ายดาย มันก็แสดงสิทธิ์ของผู้ชนะและเริ่มที่จะผสมพันธุ์กับแม่ไก่เล้าทั้งหมด จากนั้นมันก็ได้รับประสบการณ์ฮาเร็มที่แม้แต่เจ้านายของมันก็ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
ก่อนหน้านี้ลุงชิงต้องการที่จะยืมเจ้าเดียนเดียนมาเพื่อเพาะพันธุ์ แต่โจวหยูไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าเดียนเดียนจะทําเรื่องนี้ด้วยตัวมันเอง ในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เขาไม่รู้อะไรต้องแต่ต้นใจจบเลย เขามารู้ก็เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าลูกสาวตัวน้อยของเขาอยู่ๆก็แสดงความสุขและพูดขึ้นว่า “ชายชรา! เจ้าเดียนเดียนมันมีลูกแล้วนะ! แต่มันกลับมีเพียงสองตัวเท่านั้นที่เข้าใจฉัน นอกนั้นมันกลับไม่สนใจฉันเลย..เฮ้อ! มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก”
“อะไรนะ? เจ้าเดียนเดียนมันไปมีลูกตอนไหน?
โจวหยูที่ตื่นตกใจรีบวิ่งไปที่เล้าไก่อย่างรวดเร็วและเห็นว่าในตอนนี้มีกลุ่มลูกไก่ร้องเสียงดังอยู่ในเล้าไก่จํานวนมาก ป้าเซียซานผู้ดูแลโรงเลี้ยงไก่ก็ยิ้มออกมาตลอดเวลาและเธอได้พูดกับโจวหยูว่า “บอสโจว! ดูสิ! พวกมันเป็นลูกของเดียเดียนทั้งหมด ป้าทําอาชีพนี้มานานยังไม่เคยเห็นลูกไก่ที่เต็มไปด้วยพลังและมีชีวิตชีวามากขนาดนี้มาก่อน นี้ต้องพูดว่าไก่นักสู้ไม่ให้กําเนิดลูกไก่บ้านจริงๆ”
แน่นอนว่าครอบครับของลุงชิงไม่สามารถรู้ได้ว่าที่ลูกไก่พวกนั้นเต็มไปด้วยพลังเพราะอะไร แต่นั้นไม่ใช้กับโจวหยู เขารู้ว่าที่เป็นแบบนี้ก็เนื่องจากมันได้มีเลือดของโลกACGไหลอยู่ ถึงแม้ว่ามันจะมีเพียงเล็กน้อยแต่แค่นั้นก็เพียงพอให้พวกมันมีศักยภาพมากกว่าไก่ธรรมดาไปมาก และในกลุ่มลูกไก่ทั้งหมดเขายังได้พบลูกไก่ที่ผิดปกติสองตัวอย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่มันจะดูเหมือนเจ้าเดียนเดียนตอนเด็กเท่านั้น แต่พวกมันมีกล้องโต้ตอบที่สามารถแสดงอารมณ์ของพวกมันได้นั้นเอง
ปรากฏว่าสัตว์จากตู้กาชาปองก็มีความสามารถในการสืบพันธุ์เช่นกัน อย่างไรก็ตามการถ่ายทอดทางพันธุกรรมดูเหมือนจะอ่อนแออย่างมาก ดูได้จากจํานวนที่มีในตอนนี้กับจํานวนลูกไก่ทั้งหมดที่เกิดมามันมีเพียงสองตัวเท่านั้นที่ได้รับมรดกของสายเลือดของอัศวิน คิดๆ ดูแล้วมันมีโอกาสน้อยกว่าร้อยละหนึ่งเสียอีก
อย่างไรก็ตามมันก็ยังถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีสองตัว หลังจากที่เขาได้คุยกับป้าเซียซานเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็ได้ขอเจ้าลูกไก่ทั้งสองตัวนี้ ก่อนที่เขาจะพาทั้งสองออกไป
คราวนี้แจ็คซึ่งมีเวลาว่างมากจนสามารถนอนตายได้ในที่สุดมันก็มีอะไรให้ทํา เขารีบนําเจ้าลูกไก่ทั้งสองนี้รับการฝึกฝนแบบอัศวินทันที โดยไม่สนใจสหายร่วมอาชีพอย่างบูบผู้ที่กําลังมองดูอย่างอิจฉาตาร้อน
“เจ้านาย! มันไม่ยุติธรรมเลย! ทําไมเจ้าหนูนั้นถึงได้รับอัศวินตั้งสองคน แต่ฉันกลับไม่ได้อะไรเลย”
เจ้าบูบูพยายามทําบีบน้ําตาระหว่างที่มันพูดเรื่องนี้ ต้องยอมรับว่าทักษะการแสดงของมันนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่คราวนี้โจวหยูไม่สามารถช่วยมันได้จริงๆ เขาได้พูดขึ้นว่า “พวกมันทั้งสองตัวเป็นลูกของเจ้าเดียนเดียน ถ้านายต้องการแบบนั้นนาย ก็ต้องบอกให้เจ้าเซอร์แบล็กทําลูกให้นายแล้วละ”
โจวหยได้รับเจ้าเซอร์แบล็กช้ากว่าเจ้าเดียนเดียน ดังนั้นเขาจึงเดาว่ากว่าที่มันจะพร้อมที่จะสืบพันธ์นั้นคงช้ากว่าอีกฝ่ายช่วงหนึ่ง
อย่างไรก็ตามพึ่งจะผ่านไปเพียงสองวันหลังจากที่แจ็คได้เริ่มพึ่งลูกๆของเจ้าเดียนเดียน เจ้าเซอร์แบล็กก็ได้กลับมาหาโจวหยู แต่มันไม่ได้กลับมาตัวเดียวมันกลับกับมาพร้อมกับลูกๆของตัวเองและนกพิราบตัวเมียอีกหนึ่งตัวด้วย
คราวนี้เจ้าบูบูไม่บ่นอะไรอีกต่อไป ก่อนหน้านี้มันยังคงอิจฉาเรื่องที่คู่แข่งของมัน ได้รับอัศวินเพิ่ม แต่มาตอนนี้เมื่อมันเห็นว่าเจ้าเซอร์แบล็กพาใครกับมามันก็ไม่มีความอิจฉาอีกต่อไป…