The Rise of Otaku - ตอนที่ 107
บทที่ 107 คู่มือช่างไม้ระดับกลาง
แม้ว่าโจวหยูจะไม่ใช่คนที่มีความรับผิดชอบมากนัก และเขายังเป็นพวกที่มักจะยอมแพ้ง่ายๆ เมื่อความสนใจของเขาหมดลง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ชอบคนที่ทําสิ่งที่ตัวเองชอบอย่างจริงจัง เขาถึงกับเคารพพวกนั้นด้วยซ้ํา เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสลูเองก็เป็นบุคคลที่น่านับถือแบบนั้น เขาไม่เคยล้มเลิกเกี่ยวกับความหวังของตัวเขาเอง เขาถึงกับยืนหยัดในการค้นหาเรื่องของโจวหยูเป็นเวลาหนึ่งปีและยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือกับเขาแบบฟรีๆอีกด้วย
แต่ถึงอย่างนั้นโจวหยูก็ยังบอกความจริงไม่ได้ สิ่งเดียวที่เขาสัญญากับชายชราตรงหน้า ก็คือพวกเขาจะทําภาพยนตร์แอนิเมชั่นต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน
ด้วยสัญญานี้ลูฮันเชงรู้สึกว่าจุดประสงค์ของการเดินทางของเขานั้นสําเร็จแล้ว แม้ว่าเขาจะยังรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถเห็นทีมที่ผู้สร้างภูเขาแห่งเพลิงได้ก็ตาม หลังจากนั้นเขาก็ยังคงอยู่ในสวนสนุกต่อไปพักหนึ่ง เขาไม่ได้สนใจอะไรมากในโครงการของสวนสนุกแห่งนี้ แต่เขากลับชอบบ้านพักตากอากาศที่แปลกใหม่พวกนั้นมากหว่า เขาถึงกับตรงไปถ่ายรูปพวกมันที่ละหลังเลยทีเดียว
‘ชายชราคนนี้ที่แท้แล้วก็มีมุมแปลกๆเช่นกัน’
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติกับคําพูดของอีกฝ่าย แม้ว่าสตูดิโอของเซียวฮวนและบริษัทแอนิเมชั่นของเขาเองทั้งหมดนั้นจะสามารถทํางานที่มีประสิทธิภาพดีออกมาได้ แต่มันก็ยังไม่สามารถทําให้อุสาหกรรมนี้เติบโตขึ้นได้อยู่ดี อาจจะพูดได้ว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมแอนนิเมชั่นในประเทศนั้นไม่สามารถขึ้นอยู่กับบุคคลใดคนหนึ่งได้
ตัวอย่างเช่น หากญี่ปุ่นมีโยดาฮิโระโทะกามเท่านั้นในสตูดิโอมังงะฮันเตอร์ มันก็ไม่สามารถทําให้อุตสาหกรรมอนิเมชั่นญี่ปุ่นทั้งหมดเติบโตได้อย่างปัจจุบัน ถ้าจะพูดอย่างง่ายๆก็คือมันจําเป็นที่จะต้องรวบรวมศิลปินที่มีความสามารถมากมายเท่านั้นที่จะสามารถพาอุสาหกรรมนี้ก้าวหน้าไป
ดังนั้นความปรารถนาของชายชราที่ต้องการให้สตูดิโอที่ยอดเยี่ยมของเขานั้นมาสนับสนุนอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นในประเทศจีนทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะให้เขาเปิดเผยตัวตนของสตูดิโอตัวเองเลย
“ถ้ามันเป็นอย่างที่เราคิด งั้นทําไมชายชราคนนี้ถึงต้องทําแบบนี้กัน?”
โจวหยูไม่ใช่นักยุทธศาสตร์และเขายังไม่เคยศึกษาคําถามจําพวกนี้มาก่อน เขารู้เพียงวิธีวิพากษ์วิจารณ์แอนิเมชั่นในประเทศเท่านั้น เขาไม่รู้วิธีตอบคําถามอะไรที่ยุ่งยากแบบนี้ด้วยซ้ํา เห็นได้ชัดว่าความคาดหวังของชายชราคนนั้นสูงเกินไป หรือบางทีอีกฝ่ายอาจจะมีความมั่นใจมากเกินไปในสตูดิโอของเซียวฮวนและความสามารถของบริษัทแอนิเมชันของเขา
อย่างไรก็ตามโจวหยูตัดสินใจที่จะจดจ่อกับสิ่งที่ตัวเองทํามากกว่า นั้นก็คือเขาให้ความสนใจในการสร้างสวนสนุกแห่งนี้ให้สําเร็จ ถึงแม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะใหญ่มากในสายตาของคนในโลก ACG แต่เขาก็หวังว่าด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้ มันจะสามารถดึงดูดให้พวกเขาเหล่านั้นย้ายมาอาศัยอยู่ที่นี้มากขึ้น
มันเป็นเรื่องหายากสําหรับโจวหยูที่จะคิดอะไรบางอย่างที่ลึกซึ้งแบบนี้ เมื่อความคิดนี้ปรากฏขึ้นมันก็ถึงกับทําให้เขารู้ตัวว่าจิตวิญญาณของตัวเองนั้นสูงขึ้นไปอีกระดับ นั้นเป็นสิ่งที่ดีและมันสมควรที่จะได้รับรางวัล
บนเส้นทางภายในสวนสนุกได้มีร้านอาหารที่ย้ายเข้ามาจํานวนมาก เนื่องจากมีจํานวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกวัน มันจึงทําให้ลุงฟูได้เพิ่มร้านค้าเข้ามาในสวนสนุกจํานวนหนึ่ง ในเรื่องนี้ไม่ได้เกิดประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่มันยังสําหรับโจวหยูด้วยเช่นกัน เขานั้นได้ซื้อและกินอาหารตลอดทางจนกระทั่งเขาไม่สามารถกินได้อีก
ระหว่างที่เขากําลังจะกลับไปยังบ้านนั้น เขาก็นึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้ไปหาลูกศิษย์ในนามคนนี้ของเขาเลย ดังนั้นเขาจึงได้ซื้ออาหารจําหนึ่งก่อนตรงไปยังบ้านพักของลูกศิษย์คนนี้
เมื่อเร็วๆนี้เขาได้รับข้อความจากลุงฟูว่าลูกศิษย์ของเขานั้นมีอะไรแปลกๆ ที่ว่าแปลก สําหรับลุงฟูนั้นก็คืออีกฝ่ายทํากิจวัตประจําวันเหมือนเดิมทุกวัน นั้นก็คือไปยังโรงอาหารและกับไปยังบ้านของตัวเอง แม้ในวันหยุดสุดสัปดาห์เธอก็ยังไม่หยุดทํามัน
เมื่อได้ฟังแบบนั้นโจวหยูก็รู้สึกว่าลูกศิษย์คนนี้ของเขาได้หมกมุ่นอยู่กับงานฝีมือมากจนทําให้เขากลัวเล็กน้อย ถ้าเธอยังทําแบบนี้เธออาจจะไม่สามารถหาแฟนได้ในอนาคต
“อืม … ไอ้เรื่องนี้อาจารย์อย่างฉันเองก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน”
แน่นอนว่าอู๋หยุนไม่ได้คิดอะไรไร้สาระแบบนั้น เธอยังคงทุ่มเทไปกับงานที่เธอรักตลอดเวลา และดูเหมือนว่าเธอจะสามารถใช้เครื่องมือต่างๆได้อย่างชํานาญอีกด้วย
ถึงแม้บางครั้งโจวหยูจะช่วยช่างไม้บีเวอร์ทํางานไม้บ้าง แต่มันก็ไม่สามารถช่วยให้ทักษะงานฝีมือของเขานั้นพัฒนาขึ้นเลย เมื่อนํามาเทียบกับทักษะที่อู๋หยุนมีนั้นมันช่างต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว
ทางด้านของช่างไม้บีเวอร์เองก็ไม่ได้ถอนหายใจออกมาทุกวันเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ตอนนี้ เขาถึงกับย้ายมาดูลูกศิษย์ของเขาตลอดเวลา และนั้นทําให้ในทุกครั้งที่โจวหยูมาหาอู๋หยุน เขาจะรีบมาพูดถึงข้อผิดพลาดที่ลูกศิษย์คนนี้ทําเอาไว้ จากนั้นโจวหยูก็ส่งขอความที่ได้รับให้กับอู๋หยุนอีกทีหนึ่ง
อู๋หยุนที่ได้ฟังแบบนั้นก็ถึงกับตกตะลึงไปทันที เธอไม่คิดว่าเพียงแค่การดูผ่านๆของอาจารย์ ก็สามารถชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดของเธอได้ทั้งหมด นั้นมันยิ่งทําให้เธอรู้สึกว่าการเลือกของเธอนั้นไม่ผิด
เมื่อเห็นโจวหยูเดินเข้ามาในครั้งนี้ เธอก็ได้วางกบไม้ลงและถามว่า “อาจารย์ค่ะ! ฉันคิดว่าฉัน เข้าใจคู่มือลับระดับเริ่มต้นแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะสอบได้เลยไหม?”
“อะไรนะ ! โจวหยูเคยอ่านคู่มือลับระดับเริ่มต้นมาก่อนเช่นกัน คู่มือระดับเริ่มต้นนี้ไม่เพียงแต่จะแนะนําการใช้เครื่องมือต่างๆ แต่ยังมีการพูดถึงทักษะพื้นฐานต่างๆอีกด้วย โดยทั่วไป การฝึกทักษะในคู่มือนั้นจะใช้เวลาหนึ่งหรือสองเดือนก่อนที่คนปกติจะเชี่ยวชาญได้
แต่เห็นได้ชัดว่าสําหรับผู้ที่มีพลังโอตาคุระดับ 8 อย่างหยุน แล้วนั้นมันกับใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นตั้งแต่ที่เธอได้รับการยอมรับว่าเป็นศิษย์ของเขา
“ไอ้หยา! นี้ฉันเพิ่งจะรับอัจฉริยะมาโดยบังเอิญเหรอเนี่ย?”
โจวหยูไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่อู๋หยุนพูดออกมา แต่เมื่อได้เห็นว่าช่างไม้บีเวอร์แสดงอาการภูมิใจมากขนาดไหน มันก็ทําให้เขารู้ว่าสิ่งที่ลูกศิษย์ในนามคนนี้พูดมานั้นเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อคิดถึงเรื่องสร้างคู่มือระดับสอง มันก็ทําให้โจวหยูถึงกับรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาอย่างมาทราบสาเหตุ ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายก็คือคู่มือระดับเริ่มต้นค่อนข้างเป็นอะไรที่สั้นๆ มันมีไม่เนื้อหาไม่กี่หน้าเท่านั้น แต่สําหรับคู่มือลับระดับกลางนั้นมันแตกต่างกันมาก นอกจากนี้มันยังได้เพิ่มไดอะแกรมและรูปภาพสําหรับมืออาชีพมากมาย ซึ่งมันจําเป็นที่จะต้องใช้เวลาทําขึ้นอย่างน้อยหนึ่งหรือสองสัปดาห์
แต่เดิมเขาคิดว่าเมื่อส่งมอบหนังสือคู่มือระดับเริ่มต้นให้กับลูกศิษย์ไปแล้ว มันคงทําให้เขามีเวลาว่างพักซัก 1-2 สัปดาห์ แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าลูกศิษย์คนนี้จะไม่ทําตามกฎปกติเลย เธอใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นในการทําความเข้าใจในคู่มือลับระดับเริ่มต้น มันจึงทําให้ตอนนี้เขาต้องรีบทําคู่มือลับระดับกลางให้สมบูรณ์แล้ว
“อืมม, ไอ … ไม่ต้องกังวลไป เธอสามารถทบทวนคู่มือเล่มนี้ไปก่อนได้ อาจารย์จําเป็นต้องใช้เวลาอีกสัปดาห์ในการจัดทําเนื้อหา ในเรื่องของการเตรียมตัวสอบเองก็จะจัดขึ้นใยเวลานั้นเช่นกัน โอ … ดูเหมือนว่าเธอจะยุ่งอยู่นะ อาจารย์ไม่กวนเธอแล้วละ … ลาก่อน! “
โจวหยูรีบวิ่งออกจากบ้านของอู่หยุนไปทันที ขณะเดียวกันเขาก็ลากช่างไม้บีเวอร์ออกมาด้วยเช่นกัน ที่ทําแบบนี้ก็เพราะเขาจําเป็นที่จะต้องรีบไปทําคู่มือลับระดับกลาง เขาไม่สามารถให้ลูกศิษย์ของเขารู้ได้ว่าเขาไม่ได้เตรียมอะไรเลย
จากนั้นสัปดาห์ต่อมาก็เป็นเหมือนนรกสําหรับเขา มันเป็นเรื่องง่ายๆสําหรับเขาที่จะต้องคอยพิมพ์ตัวหนังสือจํานวนมาก แต่สําหรับพวกรูปไดอะแกรมและรูปภาพประกอบพวกนั้นมันกับเป็นฝันร้ายสําหรับเขาแทน
คุณอาจคิดว่ามันเป็นเพียงหนังสือของช่างไม้ธรรมดา แต่เมื่อศึกษามันจริงๆแล้วทุกบรรทัดของตัวหนังสือมันเปรียบได้กับรูปทรงเรขาคณิตขั้นสูง ซึ่งนั้นทําให้โจวหยูรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังต้องวาดมันตามคําแนะนําของช่างไม้บีเวอร์
การสแกนรูปพวกนี้และจัดเรียงให้เรียบร้อย ในที่สุดหนังสือทักษะระดับกลางก็เสร็จสมบรูณ์และเขายังสามารถรักษาหน้าของอาจารย์เอาไว้ได้อีกด้วย
ในส่วนของการสอบจบการศึกษาระดับต้น คือการทํากล่องแต่งตัวอย่างอิสระ
คุณอาจคิดว่ากล่องแต่งตัวแบบนี้ทําง่าย บางครั้งคนที่ซับซ้อนอาจมีความซับซ้อนอย่างไร้เหตุผล กล่องแต่งตัวขนาดเล็กสามารถซ่อนกลไกที่ซ่อนอยู่หลายสิบอัน เมื่อมีการใช้งานมันสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้หลายวิธีเช่นเดียวกับหุ่นยนตร์ แน่นอนว่ามันเป็นเพียงการสอบเพื่อผ่านไประดับต่อไปเท่านั้น ช่างไม้บีเวอร์คงไม่โหดร้ายขนาดนั้น สิ่งที่อู๋หยุนต้องทําก็คือการทําให้เป็นเรื่องง่ายเข้าไว้
ขั้นแรกเธอต้องเลือกวัสดุทําชิ้นส่วน จากนั้นก็เริ่มประกอบเข้าด้วยกัน ช่างไม้บีเวอร์นั้นเป็นช่างไม้โบราณเขาจึงไม่ชอบการใช้ตะปูหรืออะไรที่นอกจากไม้เป็นตัวยึด ดังนั้นข้อต่อทุกส่วนของชิ้นงานจึงต้องได้รับการออกแบบอย่างระมัดระวัง โชคดีที่อู๋หยุนมีฝีมือเป็นอย่างมาก ด้วยทักษะที่เธอมีมันจึงทําให้งานนี้เสร็จสมบรูณ์อย่างไม่มีปัญหา
คนตรวจสอบแน่นอนว่าจะต้องเป็นช่างไม้บีเวอร์ ดังนั้นโจวหยูจึงทําเพียงแค่เดินไปรอบๆ งานเท่านั้น ก่อนที่เขาจะพูดถึงผลตัดสินที่ช่างไม้บีเวอร์พูดออกมาเท่านั้น
โดยรวมแล้วถือว่าอู๋หยุนนั้นผ่านการสอบ แต่มันก็ยังมีข้อที่ควรจะปรับปรุงเช่นกัน ในฐานนะอาจารย์ผู้เข้มงวดแล้ว การชี้ให้เห็นถึงจุดผิดพลาดของลูกศิษย์นั้นเป็นสิ่งที่จําเป็น
“ดีมาก! เธอได้ผ่านการทดสอบของระดับต้นแล้ว เอาละ! รับหนังสือคู่มือระดับกลางไปศึกษาได้เลย…แต่อาจารย์ยังต้องย้ําเธออีกครั้งว่าเธอไม่สามารถทําให้เนื้อหาในคู่มือนี้รั่วไหลออกไปได้ เพราะอาจารย์ได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการพิมพ์ .. อุ้ย! ไอ! อาจารย์หมายถึง … เพราะมันสําคัญมาก ” โจวหยูเกือบจะหลุดพูดไปแล้วว่าเขาใช้ความพยายามมากขนาดไหนในการพิมพ์นี้ หาพวกนี้ โชคยังดีที่เขานั้นสามารถหยุดเอาไว้ได้ทัน