The Rise of Otaku - ตอนที่ 135
บทที่ 135 การพัฒนาฝีมือแบบติดจรวด
ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นเพียงเรื่องของความสนใจส่วนตัวเท่านั้น ทุกวันการทํางานในครัวเป็นเหมือนสนามรบ พวกเขาต่างก็ทํางานกันอย่างเร่งรีบตลอดเวลา ซึ่งนั้นทําให้โจวหยูไม่รู้สึกเบื่อเท่านั้นมันกับยิ่งกระตุ้นแรงยึดในส่วนลึกของเขาขึ้นมาอีกด้วย แน่นอนว่าด้วยการมีอาจารย์ที่ดี มันก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่เขาจะเก่งขึ้น
เห็นได้ชัดว่ากาก้านั้นเป็นพ่อครัวที่ดี แม้ว่าความสามารถในการทําอาหารของโจวหยูจะไม่สูงมากนักแต่เขาก็ยังสามารถสอนให้ทําอาหารออกมาได้ดีกว่าเดิมมาก นั้นจึงทําให้ทุกครั้งที่โจวหยูได้รับการฝึกจากลูกชายคนนี้ เขาจะพยายามเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่าอีคิวของเขาจะไม่สูงมากนักแต่ด้วยการทํางานแบบเดิมซ้ําๆมันก็ยังช่วยพัฒนาฝีมือขึ้นมาบ้างเช่นกัน
หลังจากที่โจวหยูหั่นผักทั้งหมดเสร็จแล้วเขาก็ถูกเรียกตัวออกไปโดยโจวฟู และนั้นทําให้พนักงานในครัวต่างก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มทําอาหารให้พนักงานคนอนต่อไป
ทางด้านของโจวหยูและโจวฟูออกไปจากห้องครัว พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ได้หาห้องว่างห้องหนึ่งเพื่อถามถึงเหตุผลที่ทําให้พฤติกรรมของโจวหยุผิดปกติไปช่วงนี้ “เอาละ! เธอบอกฉันได้ไหมว่าทําไมช่วงนี้เธอถึงไปที่ห้องครัวทุกวัน? เธอรู้ตัวไหมว่าการกระทําของเธอนั้นทําให้พนักงานในครัวต่างก็รู้สึกไม่สบายใจ หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือเธอกําลังทําให้พวกเขารู้สึกกดดัน ”
โจวหยูที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกงงขึ้นมา การที่เขาไปยังห้องครัวทุกวันเพียงแค่ต้องการฝึกทักษะการใช้มีดเท่านั้น มันไม่ใช้การไปจับผิดอะไรพวกนั้นจริงๆ
หลังจากที่โจวฟูได้อธิบายความกังวลของพนักงานที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้กับโจวหยูฟังทั้งหมดในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทําไมช่วงนี้พนักงานในครัวทุกคนต่างก็ทําตัวแปลกๆไป ที่แท้พวกเขาก็กลัวว่าอาจจะทําอะไรผิดพลาดต่อหน้าของเขานี้อีก
“ มันไม่มีอะไรจริงๆ! ผมไม่ได้เข้าไปจับผิดหรือหาเรื่องลําบากใจอะไรให้พวกเขาเลย ผมก็แค่เข้าไปใช้ห้องครัวเพื่อฝึกทักษะการทําอาหารเท่านั้น อาจจะเพราะผมไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ให้พ่อครัวลี่ฟังทั้งหมด มันจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา งั้นครั้งนี้ลุงฟูก็ช่วยผมพูดกับพ่อครัวลี่หน่อยนะผมต้องการทํางานในตําแหน่งคนหันผักนะ “
“การฝึกทําอาหาร? และดูจากรูปการที่เกิดขึ้นตอนนี้แล้วดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนี้จะสนใจเป็นอย่างมากอีกด้วย? * เดิมโจวฟูคิดว่าคนตรงหน้านั้นก็แค่สนุกชั่วคราวเท่านั้นเขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่จริงจังแบบนี้
แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องน่าตลกเล็กน้อยที่เจ้าของสวนสนุกรายใหญ่ต้องการทํางานในห้องครัวแต่เมื่อเป็นการตัดสินใจของเจ้านาย เขาที่เป็นเพียงคนบริหารทั่วไปของสวนสนุกก็ทําได้เพียงสนับสนุน
หลังจากได้ยืนยันเรื่องนี้หลายต่อหลายครั้งเป็นที่เรียบร้อย โจวฟูได้บอกเรื่องทั้งหมดให้กับพ่อครัวลี่ฟังและยังได้ขอตําแหน่งคนนั่นผักให้กับเจ้านานอีกด้วย แน่นอนว่าโจวหยูจะไม่เข้าไปทํางานในตําแหน่งเด็กฝึกงานจริงๆ
หลังจากแก้ปัญหานี้จบลงโจวฟูก็ได้หันเหความสนใจทั้งหมดไปยังโครงการเมืองล่าขุมทรัพย์มังกรในช่วงเวลานี้มีสถานีโทรทัศน์และบริษัทธุรกิจทุกประเภทต่างก็ขอเข้าร่วมจํานวนมากเห็นได้ชัดว่าการจัดการงานของโจวฟูนั้นดีเป็นอย่างมาก
ด้วยบุคลิกของโจวฟูที่แตกต่างจากโจวหยูมาก มันทําให้ผู้ร่วมงานต่างก็รู้สึกดีที่จะทํางานร่วมกัน
ในทางกลับกันหลังจากที่พ่อครัวลี่ได้รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เขาก็ได้จัดตําแหน่งคนนั่นผักให้กับเจ้านายตามที่ขอ แต่เขาก็ไม่คิดจะยกตําแหน่งนี้ให้อีกฝ่ายดูแลคนเดียว เขายังได้จัดให้พนักงานเก่ามาช่วยอีกด้วย เขาหวังว่าความสนใจของเจ้านายจะหมดไปเร็วๆนี้
อย่างไรก็ตามพระเจ้าไม่ได้ยินคําอธิษฐานของเขาเลย เพราะในเช้าและเที่ยงของทุกวันเจ้า นายได้มาตรงเวลา และค่อยทํางานนั่นผักตลอดทั้งเดือนโดยไม่มีหยุด
ทําให้ในทุกวันนี้พนักงานในครัวทุกคนต่างคุ้นเคยกับเจ้านายคนนี้มากขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนช่างพูดมากนัก แต่เขาก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้คนรอบข้างเช่นกัน มันเป็นเพียงแค่เขาเป็นคนพูดน้อยและชอบเก็บตัวเท่านั้น
หลังจากที่ทุกคนในครัวต่างก็เริ่มชินกับพฤติกรรมนี้แล้ว พ่อครัวลี่เป็นคนแรกที่มีความกล้าที่จะทําเรื่องตลกๆกับเจ้านาย และยังได้มอบหมายงานอื่นๆให้ทําอีกเล็กน้อย ถึงกับมีพนักงานบางคนที่นําโทรศัพท์ออกมาถ่ายทอดสดเกี่ยวกับการกระทํานี้ของโจวหยูเช่นกัน
จากนั้นไม่นานข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในสวนสนุก
” อะไรกัน? เจ้านายไปเป็นคนนั่นผักในครัวจริงๆเหรอ!”
เมื่อมีการพูดต่อๆกันไป ข่าวนี้ก็ได้ลอยไปถึงหูของทุกคนที่อยู่ในสวนสนุกแห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวและพนักงานบางคนที่ต้องการไปดูให้เห็นกับตา พวกเขาต่างก็ทําตัวเหมือนกําลังไปดูรายการทําอาหารยังไงยังงั้น
ในตอนแรกผลงานของโจวหยูนั้นค่อนข้างแย่เป็นอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เขาลงมือทําอะไรแบบนี้ ทําให้ผักที่นั่นมานั้นดูไม่ดีเล็กน้อย แต่ด้วยคําแนะนําของกาก้าอย่างต่อเนื่องทําให้ฝีมือการหั่นผักของเขาดีมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่มาตรฐานจะเป็นที่น่าพอใจกาก้าโดยที่สุด
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน การฝึกฝนอย่างหนัก” ทําให้ทักษะการใช้มีดของเขาได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว อาจกล่าวได้ว่าเขาไม่ได้เป็นมือใหม่อีกแล้วในตอนนี้ ทําให้ในตอนนี้การเคลื่อนไหวของเขาบนเคาน์เตอร์ของครัวเป็นไปอย่างราบรื่นมากและมันดูดีมากเช่นกันถึงแม้ว่าการฝึกทักษะมีดจะไม่ถือว่าเป็นอะไรที่เหนื่อยมากนัก แต่ที่ยากมากที่สุดในแต่ละวันคือการอดทนต่อการวิจารณ์ทุกประเภทจากกาก้ามากกว่า
กับเป็นพ่อครัวอ้วนสี่ที่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากกับฝีมือที่พัฒนาขึ้นของเจ้านาย เขาได้สังเกตอีกฝ่ายตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มทํางานในตําแหน่งนั่นส่วนผสมในครัว อาจกล่าวได้ว่าในเวลานั้นเขาเป็นเพียงมือใหม่เท่านั้น อย่างไรก็ตามเขาไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้อผิดพลาดที่เจ้านายเคยทําก่อนหน้านี้ เพราะเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ในครั้งต่อไปข้อผิดพลาดนั้นก็จะถูกแก้ไขอย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากนั้นเจ้านายยังสามารถนั่นผักได้อีกหลายรูปแบบราวกับว่าเขามีอาจารย์ที่มองไม่เห็นกําลังสอนเขาอยู่
หากเป็นการเปรียบเทียบเพียงความสามารถของทักษะมีดเพียงอย่างเดียว พ่อครัวลี่เชื่อว่าทักษะของโจวหยูนั้นเหนือกว่าเขาขั้นหนึ่ง
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้พ่อครัวสี่ก็รู้สถึงวิกฤตการณ์ที่กําลังเกิดขึ้น ด้วยเวลาเพียงเดือนเดียวเจ้านายก็มีทักษะที่เหนือกว่าเขาไปแล้ว ถ้าเขามีเวลานานกว่านี้ก็มีความเป็นไปได้ที่ทักษะการทําอาหารของอีกฝ่ายจะเหนือกว่าเขา
โจวหยูเองก็รู้สึกได้ถึงการพัฒนาทักษะการใช้มีดของตัวเองเช่นกัน บอกตามตรงว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นอัจฉริยะอะไรเลย มันเป็นเพียงแค่เพราะเขาได้รับการสั่งสอนจากพ่อครัวมืออาชีพตลอดเวลา มันจึงไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่ฝีมือของเขาจะพัฒนาเร็วแบบนี้
ด้วยการฝึกฝนเพียงเดือนเดียวเขาก็ได้กลายเป็นพ่อครัวระดับ 3 แล้ว เรื่องนี้ถึงกับทําให้บันดาเชฟต่างก็รู้สึกถึงวิกฤตขึ้นมาเช่นกัน
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพระเจ้าจะไม่รับฟังคําขอ เพราะในเวลาไม่นานทักษะการใช้มีดของเจ้านายก็ได้ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ไม่เพียงแต่การนั่นผักจะเป็นไปอย่างราบรื่นเท่านั้น แต่เขายังสามารถแกะสลักแครอทเป็นดอกไม้รูปร่างต่างๆได้อีกด้วย
ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความตกใจแก่คนรอบตัวเป็นอย่างมาก แต่สําหรับเจ้าตัวเองนั้นเขากับรู้สึ กว่ามันเป็นอะไรที่สมเหตุสมผล เพราะตลอดเวลาเขาได้รับการฝึกด้วยพ่อครัวมืออาชีพจากโลก ACG ตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝีมือของเขาจะพัฒนาไปไกลในเวลาอันสั้นแบบนี้
แต่มันก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้องเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยเรียนวิชาช่างไม้จากช่างไม้บีเวอร์และการแกะสลักหินจากลิงช่างหินอยู่พักหนึ่ง อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้เขายังอยู่ในระดับผู้ฝึกหัดเท่านั้น กลับกันอีหยุนที่เข้าเรียนทีหลังกับอยู่ในระดับกลางเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว อาจจะพูดได้ว่าการที่ทักษะใช้มีดของเขาพัฒนาขึ้นเร็วแบบนี้เป็นเพราะเขาเจออาชีพที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว
ในทํานองเดียวกันเขาได้ออกไปจับสัตว์ร้ายมานานกว่าหนึ่งปี แต่ความสามารถทางกายภาพของเขากับดีกว่าคนธรรมดาสามัญเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันไม่ได้ทําให้เขากลายเป็นซูเปอร์แมนอย่างที่คิด
อ่า! มันต้องหมายความว่าฉันมีความสามารถที่จะเป็นพ่อครัวแน่เลย?”
หลังจากดื่มกับความสุขเพียงเล็กน้อยในการมีพรสวรรค์แล้ว โจวหยูก็รีบส่ายหัวและปฏิเสธความเป็นไปได้นี้ออกไปแทบจะทันที จากนั้นเขาก็เริ่มค้นหาเรื่องนี้จาก “ไดอารี่ของเกม” โดยหวังว่าเขาจะสามารถหาเหตุผลว่าทําไมทักษะการทําอาหารของเขาจึงก้าวไปอย่างรวดเร็ว
“ไดอารี่ของเกม” ที่เรียกว่าเป็นคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งที่มาพร้อมกับการอัพเกรดระบบครั้งที่แล้วมันเป็นหนังสืออยู่ตรงมุมขวาล่างของสายตาของเขา ถ้าเขาเปิดมันเขาจะสามารถเห็นสิ่งสําคัญที่เขาทําในอดีตได้ ซึ่งแน่นอนว่ากิตกรรมพวกนั้นจํากัดอยู่เกี่ยวข้องกับโลกของ ACG เท่านั้น
เนื่องจากมีการอัปเดตกิจกรรมต่างๆโดยอัตโนมัติ จึงทําให้ตลอดมาเขาไม่ได้สนใจอะไรมากแต่เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นมันก็ถือว่าเป็นหนึ่งในคู่มือที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก