The Rise of Otaku - ตอนที่ 139
บทที่ 139 ออกไปข้างนอกอีกครั้ง
เมื่อจัดการเรื่องที่ต้องทําเสร็จแล้ว โจวหยูก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ถ้าเขาจําไม่ผิดผู้คนจากโลก ACG นั้นไม่สามารถที่จะกระทําหรือจับต้องของอะไรที่มาจากโลกแห่งความจริงได้โดยตรง แล้วทําไมเงาถึงสามารถช่วยเขาปกป้องความปลอดภัยให้กับหมู่บ้านมินิลู่หัวได้กัน?
หรือว่าเงาจะมีหมายสามารถพิเศษที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์กัน?
มันคงจะเป็นอะไรที่น่ากลัวมากหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
ความคิดนี้ได้วนเวียนอยู่ในหัวของโจวหยูเป็นเวลาหลายวันแล้ว เพราะเมื่อดูเฉพาะความสามารถที่เงามีอยู่ในตอนนี้ มันก็เพียงพอที่จะปกป้องหมู่บ้านแห่งนี้เอาไว้ได้ แต่ถ้าเกิดว่าในอนาคตมีสมาชิกของเมืองใต้พิภพมาเพิ่มอีก มันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถแฮกอุปกรณ์ใดๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างง่ายดาย
แต่มันก็ควรจะมีข้อจํากัดเช่นกัน ไม่อย่างนั้นโลกแห่งความเป็นจริงควรจะมีสภาพยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว และผู้คนจํานวนมากก็ควรจะรับรู้ถึงโลก ACG ไปแล้ว มันไม่ควรจะเป็นความลับมาจนถึงตอนนี้ แต่ในช่วงเวลานี้เขาคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะคิดเกี่ยวกับมันหรือการคาดเดาอะไรทั้งนั้น เขารู้สึกว่าเขาจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้หลังจากที่เขาได้พูดคุยกับสมาชิกหมู่บ้านผู้ลึกลับคนนี้ในอนาคต
ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะปล่อยว่างเรื่องทั้งหมดลง และรอคอยการมาของอีกฝ่าย
ปัญหาของแฮ็กเกอร์ได้รับการแก้ไขเป็นการชั่วคราวซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี แต่มันก็มีเรื่องที่แย่เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะการโจมตีของแฮ็กเกอร์ในครั้งนี้ทําให้เวลาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเขาน้อยลง และเขายังไม่สามารถบันทึกอะไรลงในคอมได้อีกในอนาคตนี้
เขาไม่สามารถปล่อยให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับโลก ACG หลุดออกไปได้ เพราะเขาไม่รู้ว่าถ้าข้อมูลจําพวกนี้หลุดออกไปมันจะสร้างปัญหาอะไรตามมามากน้อยขนาดไหน ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เขาจึงตัดสินใจที่จะลดเวลาที่ใช้อยู่หน้าคอมลง รวมไปถึงการลงข้อมูลต่างๆที่นอกเหนือจากข้อมูลบริษัทคู่สัญญา ทั้งสองบริษัทเท่านั้น
ดอกไม้ที่ร่วงหล่นยังคงอยู่ในตู้เย็น และราวกับว่าเวลาได้ถูกแช่แข็งไปพร้อมๆกับมัน เพราะตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันได้อยู่สถานะดอกไม้ตอมอยู่ตลอดเวลา และยังถือว่าโจวหยูโชคดีอยู่บ้างที่จัดให้เจ้าตู้เย็นหลังนี้อยู่ในห้องนอนของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเมื่อมีคนอื่นเห็นพวกเขาคงเข้ามาสอบถามถึงพันธ์ดอกไม้นี้อย่างแน่นอน
เพราะเป็นเรื่องยากมากที่จะมีดอกไม้ที่จะเป็นดอกตูมยาวนานถึงหนึ่งเดือน
จนถึงตอนนี้โจวหยูเองก็ยังไม่มีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับตาน้ําตกที่ร่วงหล่น เดิมที่เขาคิดว่าจะได้รับไอเท็มชิ้นนี้ จากดันเจียนอันใหม่อย่างปราสาทที่ร่วงหล่น อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้หิงห้อยได้เข้าไปเคลียร์ดันเจี้ยนทุกวัน เธอยังเอาชนะเคานต์แดร็กคูล่ามาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่มันก็ไม่มีร่องรอยของไอเท็มชิ้นนี้เลย ส่วนการสืบเสาะข่าวเกี่ยวกับเบาะแสเรื่องนี้ในผับก็ดูเหมือนจะไม่มีความคืบหน้าอะไรเช่นกัน
จนกระทั่งวันหนึ่งนิ่งห้อยได้จับผู้นํากลุ่มผู้แฟนคลับของมู่ลี่ได้อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ผู้ร้ายได้พยายามแอบเข้าไปในสวนสนุกเพื่อที่จะลักพาตัวมู่ลี่ออกไป และมันก็เป็นอย่างเคยที่ตัวแทนของเมืองแบล็กสตาร์ได้มากที่นี้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้พวกเขาไม่เพียงแต่จะมาแลกตัวนักโทษตามปกติเหมือนอย่างเคย พวกเขามาพร้อมกับข้อเสนอสองแบบด้วยกัน นั้นคือของรางวัลเหมือนกับที่ผ่านๆมา หรือสิทธิ์การถามคําถาม
โจวหยูไม่ต้องใช้ความคิดอะไรเลย เขาได้เลือก “สิทธิ์การถามคําถาม” แล้วถามว่าตาน้ําตกที่ร่วงหล่นนั้นอยู่ที่ไหนและจะไปหาได้ที่ไหน เนื่องจากมันเป็นเมล็ดที่ร่วงหล่นมันจึงมีความเป็นไปได้ที่คนจากเมืองแบล็กสตาร์รู้เรื่องนี้
ตัวแทนของเมืองแบล็กสตาร์ได้พูดขึ้นมาแทบจะทันทีว่า “ตาน้ำตกที่ร่วงหล่นนั้นเป็นแร่พลังงานที่สําคัญในเมืองของเรา มันไม่สามารถหาพบได้จากธรรมชาติในโลกแห่งความจริง และมันยังไม่เคยถูกนํามาเป็นของแลกเปลี่ยนเลยซักครั้ง แต่ด้วยความร่วมมืออันดีตลอดมาของพวกเราทั้งสอง ฉันจึงยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษในครั้งนี้หรืออาจจะพูดได้ว่าข้าจะให้โอกาสคุณในการทําภารกิจรับมันไป”
จากนั้นตัวแทนก็ปล่อยเควสให้กับโจวหยูทนที่ ดูจากเนื้อหาภารกิจแล้วมันเป็นการสืบหาทั้งหมด – ภารกิจค้นหาตาน้ําตกที่ร่วงหล่น เป้าหมาย:หยานเฟิง นักศึกษามหาวิทยาลัยหญิงที่เรียนในแผนก XX ของมหาลัย XX เวลาที่เหลืออยู่: 38 ชั่วโมง 56 นาที 24 วินาที
มันเป็นภารกิจที่จํากัดเวลา แต่ยังถือว่าโชคดีที่มหาวิทยาลัยนี้อยู่ในตัวเมืองที่เขาอาศัยอยู่พอดี และด้วยเป้าหมายได้ถูกทําเครื่องหมายเอาไว้ มันจึงเป็นเรื่องง่ายอย่างมากที่จะค้นหา
แต่มันเป็นเพียงแค่ว่า … ภารกิจครั้งนี้เขาจะต้องออกจากบ้านไปอีกครั้ง…
ก่อนเดินทางกลับ ตัวแทนของเมืองแบล็กสตาร์ก็ได้พูดเป็นเชิงว่า “มิสเตอร์โจว! ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับข้อเสนอให้ทําภารกิจเพื่อแลกรางวัลเป็นแร่หายากตัวนี้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าคุณทําภารกิจล้มเหลวในครั้งนี้ จะมีโอกาสในครั้งหน้าละก็ ฉันต้องขอพูดเอาไว้เลยว่าคุณคิดผิด เพราะไม่เพียงแต่คุณเท่านั้นที่ต้องการแร่ชนิดนี้ มันยังมีกลุ่มคนอีกจํานวนมากที่ต้องการมัน ดังนั้นฉันหวังว่าคุณจะใช้โอกาสที่ได้รับนี้มาอย่างดี”
ข้อความที่อีกฝ่ายต้องการสื่อออกมานั้นง่ายมาก มันเป็นเพียงแค่ว่าหากเขาพลาดโอกาสนี้ไป มันจะไม่มีครั้งนี้อีกแล้ว…
ดังนั้นในครั้งนี้โจวหยูจึงได้เตรียมตัวที่จะออกไปท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งถ้าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนทั่วไป มันคงจะไม่มีใครประหลาดใจหรือให้ความสนใจเกี่ยวกับมัน แต่มันไม่ใช้กับตัวของโจวหยูเอง เมื่อทุกคนในสวนสนุกได้ยินว่าเจ้านายตัวน้อยของพวกเขาต้องการออกจากสวนสนุกเพื่อไปทําเรื่องสําคัญบางอย่าง มันก็ทําให้ทุกคนประหลาดใจเป็นอย่างมาก
แม้แต่การเจรจาต่อรองเรื่องสําคัญอย่างภาพยนตร์การ์ตูนก่อนหน้าที่ทั้งสองเรื่อง พวกมันต่างก็ถูกมอบหมายให้โจวฟูเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้มันคงไม่ใช่เรื่องเล่นๆอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามแม้แต่โจวฟูเองก็ไม่ทราบเป้าหมายที่โจวหยูต้องการไปแน่ชัด เขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าอีกฝ่ายมีแผนไปทําอะไรในตัวเมืองหลวงของมณฑลกันแน่? แม้แต่คําแนะนําของเขาในการจัดคนไปด้วยก็ถูกปฏิเสธกลับมา จากที่ฟังมานั้นโจวหยูได้พูดออกแนวว่าตัวเองนั้นไม่ใช้คนสําคัญอะไร เขาไม่จําเป็นต้องมีบอดี้การ์ดมาคอยคู่มกันแต่อย่างใด
เจ้านาย! คุณไม่เพียงแต่ไม่ใช่คนธรรมดาเท่านั้น แต่คุณยังเป็นถึงสุดยอดเศรษฐีที่มีชื่อเสียงอีกด้วย ถึงแม้ว่าตัวคุณจะไม่เคยปรากฏตัวบนจอโทรทัศน์แต่มันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวคุณเอง
น่าเสียดายที่โจวหยูยังยืนยันคําเดิม มันเป็นเพียงภารกิจออกไปเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น การที่นําคนไปมากเกินไปมันจะทําให้การเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นไม่สะดวกมากนัก และเขาอาจตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นได้ง่ายๆอีกด้วย ดังนั้นการไปทําภารกิจครั้งนี้เขาได้เลือกนําเจ้าเซอร์แบล็กไปกับเขาเท่านั้น
แน่นอนเมื่อโจวหยูได้เดินไปบนท้องถนน เขาไม่ได้กลายเป็นคนธรรมดาอย่างที่เขาคิดอีกต่อไป ถึงแม้ว่าเขาจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา รูปลักษณ์ก็แสนจะธรรมดาเหมือนคนทั่วไป แต่สําหรับคนที่คอยติดต่อการเคลื่อนของเขาตลอดมานั้น นี้ดูเหมือนจะเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวที่พระเจ้าประทานมาให้กับพวกเขา
เพราะตลอดเวลาที่โจวหยูอยู่แต่ในสวนสนุกนั้น ไม่เพียงแต่เขาจะทําตัวลึกลับเท่านั้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเดินทางไปไหน ก็จะมีเหล่าบอดี้การ์ดพร้อมกับสัตว์แปลกๆเดินล้อมรอบอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้เองทําให้หลายๆ คนไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้มากนัก
แต่เมื่อข่าวการออกเดินทางครั้งนี้ของโจวหยูหลุดออกไป มันก็ทําให้เหล่านักข่าวและพวกแฮ็กเกอร์จํานวนมากให้ความสนใจ เพราะไม่แน่ว่าการเดินทางครั้งนี้ของอีกฝ่ายอาจจะเกี่ยวข้องกับสตูดิโอทั้งสองก็เป็นได้
โจวหยูไม่รู้เลยว่าการออกไปข้างนอกแบบสบายๆของตัวเองได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนจํานวนมากขนาดไหน แน่นอนว่าเป้าหมายภารกิจในครั้งนี้เป็นเด็กผู้หญิง และดูเหมือนว่าเธอจะกําลังจัดปาร์ตี้สุดเหวียงกันอยู่ที่ร้าน KTV ในขณะนี้ นอกจากพวกเครื่องดื่มมึนเมาแล้ว บนโต๊ะยังมีผงสีขาวที่อธิบายไม่ได้อยู่ด้วยเช่นกัน