The Rise of Otaku - ตอนที่ 140
บทที่ 140 คนเก็บขยะ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่างานฉลองจําพวกนี้ทั้งฟุ่มเฟือยและเต็มไปแสงนีออนเหล่านี้ ต่างก็เป็นยาเสพติดชั้นดีที่ ทําให้ผู้คนมึนเมาไปกับพวกมัน และในเวลาเดียวกันชีวิตแบบนี้ก็เป็นหลุมดํามืดที่กลืนกินชายหญิงจํานวนนับไม่ถ้วนที่ไม่สามารถต้านทานการล่อลวงได้ อย่างไรก็ตามนี่คือสิ่งที่โลกเป็นอยู่ มันไม่มีอะไรที่คุณสามารถทําได้ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ตราบใดที่คุณไม่ต้องการเป็นนักบุญที่ต้องการช่วยทุกคน การอยู่เฉยๆดูจะเป็นอะไรที่เข้าท่ากว่ามาก
หยานเฟิง เป็นคนหนุ่มสาวธรรมดา เธอยังเรียนอยู่ในวิทยาลัยอยู่ในเวลานี้ ในขณะเดียวกันเธอก็เป็นคนประเภทที่หลงไหลในสีแสงทุกชนิด ด้วยสิ่งที่เรียกว่า “เพื่อน” เธอมักจะมายังสถานบันเทิงประเภทนี้ สําหรับตัวเธอ แล้วการทําสิ่งผิดกฎหมายนั้นเป็นอะไรที่ถ้าทายเสมอ และยังวิธีที่ทําให้เธอตกสู่บาปอย่างไม่รู้ตัว
ไม่ว่าเธอจะเป็นคนสวยขนาดไหน เธอก็ยังคงเป็นผู้หญิงประเภทที่โจวหยูไม่ชอบและไม่ต้องการติดต่อด้วยเป็นที่สุด ถ้าไม่มีภารกิจในครั้งนี้มาละก็ มีความเป็นไปได้มากที่พวกเขาทั้งสองจะไม่เจอกันในชีวิตนี้
‘เฮ้อ! หวังว่าภารกิจนี้มันจะไม่ยากอย่างที่คิด’
ครั้งแรกที่โจวหยูเห็นว่าหยานเพิ่งอยู่ในมหาลัย ในเวลานั้นเขาแสร้งทําเป็นผ่านไปผ่านมา พูดตามตรงว่า ครั้งแรกที่เห็นเธอนั้นเขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย อย่างน้อยเธอก็ถือว่าสวยกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยรู้จัก อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นเธอด้วยสายตาของโลก ACG ความรู้สึกดีก่อนหน้านี้ได้หายไป เพราะในสายตาเขานั้นภาพสวยงามจากก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในตอนนี้เธอกับเต็มไปด้วยควันสีดําลอยรอบตัวเธอเต็มไปหมด
เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว ความสนใจในเสน่ห์ที่โจวหยูมีต่อเป้าหมายได้หายไปหมด
เวลาที่เหลืออยู่: 30 ชั่วโมง, 28 นาที, 11 วินาที, ภารกิจยังไม่เสร็จ
ตัวแทนจากเมืองแบล็กสตาร์ได้พูดถึงแร่ตาน้ําตกที่ร่วงหล่นนี้ได้อีกวิธีหนึ่ง นั้นก็คือได้จากคนในโลกแห่งความจริงที่ตกลงสู่บาป แต่วิธีการนี้จําเป็นต้องต่อสู้กับสิ่งที่เรียกว่าคนเก็บขยะเสียก่อน ที่เป็นแบบนั้นก็เนื่องมาจากเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้มีความสามารถพิเศษที่จะรับรู้ได้ว่าคนไหนที่มีแร่ชนิดนี้ได้นั้นเอง
ดังนั้นเมื่อโจวหยูพบเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อย เขาจึงได้ลองมองไปที่ไหล่ของเธอ ก่อนที่จะพบว่าบริเวณนั้น มีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่เต็มไปด้วยตุ่มหนองทั่วร่างกายกําลังยืนอยู่ ขณะเดียวกันมันก็กําลังเลียใบหน้าของเป้าหมายด้วยลิ้นที่ยาวและมีรอยยิ้มที่น่ารังเกียจบนใบหน้าตลอดเวลา
“เฮ้อ! ใครมันจะไปคิดว่าสัตว์ประหลาดที่เรียกว่าคนเก็บขยะจะเป็นอะไรที่หน้าเกลียดหน้ากลัวแบบนี้”
และนี้ยังเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าผู้หญิงตรงหน้านั้นอยู่อีกไม่ไกลจากการตกลงสู่บาป แต่ในใจลึกๆเขาก็หวังว่าเธอจะต่อสู้กับมันเช่นกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายก็ตาม
โจวหยูรู้สึกเกลียดภารกิจประเภทนี้เป็นอย่างมาก การที่เขาจะต้องมานั่งคอยตามเด็กผู้หญิงคนหนึ่งตลอดทั้งคืน และยังต้องพยายามช่วยเหลือเธอจากการถูกเจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้นล่อลวงอีกด้วย
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พอใจมันมากขนาดไหน แต่เมื่อเขาคิดกลับไปยังลูกของเขาที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่ที่บ้าน เขาก็ทําได้เพียงอดทนกัดฟันสู้เท่านั้น
ดังนั้นเมื่อรู้ว่าตัวนี้ว่าไม่สามารถยอมแพ้ได้ เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะทํามันให้สําเร็จในช่วงเวลาสุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าการทดสอบในครั้งนี้อาจจะล้มเหลว แต่เขาก็จะไม่รู้สึกเสียใจกับมันอย่างแน่นอน
ในอีก 30 ชั่วโมงที่เหลือหยานเฟิงอยู่ในมหาลัยแทบจะตลอดเวลา ก่อนที่ช่วงดึกเธอถึงจะออกไปยังสถานบันเทิงยามค่ําคืนต่อ ในช่วงเวลานั้นเองโจวหยูก็ตัดสินใจที่จะกลับไปนอนในโรงแรม ก่อนที่จะกลับไปสะกดรอยตามเป้าหมายต่อไป
โจวหยูกําลังสะกดรอยตามเป้าหมายตลอดเวลา แต่ขญะเดียวกันเขาเองก็ถูกสะกดรอยตามจากคนอื่นเช่นกัน และเมื่อเวลาผ่านไปนานมากขึ้นจํานวนคนที่สะกดรอยตามเขาก็ทวีมากขึ้นเรื่อย ๆ แฮ็กเกอร์ตาเทพเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะได้ยอมรับความพ่ายแพ้ไปแล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมแพ้ไปเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโอกาสเพิ่งจะตกจากฟ้าแบบนี้ ถ้าเขาไม่คว้าเอาไว้มันคงเป็นอะไรที่หน้าเสียดายเป็นอย่างมาก
ดังนั้นจึงเกิดภารกิจอย่างการนับถอยหลังภารกิจ 24 ชั่วโมงขึ้นมา โดยที่ตาเทพได้ทําการติดตามและสืบค้นข้อมูลของเป้าหมายเป็นครั้งที่สอง
สําหรับวัตถุประสงค์ของการเดินทางของโจวหยูนั้น ตาเทพได้คิดไปถึงความเป็นไปได้มากมายความที่อาจจะเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือการไปพบสมาชิกของสตูดิโอลึกลับทั้งสองแห่ง ดังนั้นหากเขาสามารถสืบได้ว่าแท้ที่จริงแล้วสมาชิกผู้ลึกลับของสตูดิโอทั้งแสงแห่งเป็นใครกันบ้าง มันจะต้องเป็นการสร้างชื่อให้ตัวเองอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันทําให้เขาทั้งประหลาดใจและน่าผิดหวังในเวลาเดียวกัน เพราะหลังจากที่เป้าหมายมาถึงเมืองแล้ว อีกฝ่ายก็ทําเพียงอย่างเดียวนั้นคือการสะกดรอยตามนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง
“พระเจ้า! คุณเป็นคนรวยใช่ไหม? แล้วทําไมคุณทําตัวเป็นเหมือนพวกโรคจิตแบบนี้กัน? ทําไมคุณถึงไม่ใช้เงินซื้อเธอไปเลย? เพราะถ้าดูจากการแต่งตัวและการแสดงออกของเธอแล้ว มันมีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะตกลงเป็นแฟนคนคุณเพราะคุณรวย!”
“เฮ้อ! ใครมันจะไปรู้ว่าคนรวยต่างก็มีนิสัยแปลกๆอย่างที่คนอื่นพูดถึงกันจริงๆ! แต่คุณก็ควรจะแอบไปทําลับๆ ไม่ใช่เหรอไง? คุณทําแบบนี้ในที่สาธารณะแบบนี้ไม่กลัวว่าคนอื่นจะเห็นเหรอไง? …”
เนื่องจากอาชีพของตาเทพ ทําให้เป็นเรื่องง่ายที่จะแอบติดตามใครบางคน และเป้าหมายในครั้งนี้ของเขาเองก็ไม่พยายามปิดบังตัวเองเลยด้วยซ้ํา มันจึงยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ในการติดตามเป้าหมายไปรอบๆเมือง
เมื่อเขาเห็นว่าเป้าหมายได้ติดตามผู้หญิงคนนี้เป็นเวลานาน เขาก็ถึงกับส่ายหัวไปมาก่อนที่จะเริ่มตรวจสอบภูมิหลังของผู้หญิงคนนี้แทน
มันไม่ได้มีอะไรพิเศษสําหรับผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นแค่เด็กมหาลัยที่ชอบเที่ยวกลางคืนเป็นอย่างมาก ยิ่งเขาสืบค้นไปมากเท่าไหร่เขาก็ยังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้มากขึ้นเท่านั้น เพราะมันไม่มีข้อมูลไหนที่บอกได้เลยว่าคนทั้งสองรู้จักกัน
“คุณกําลังเล่นเกมประเภทไหนกันอยู่?”
คนที่สับสนไม่ใช่แค่ตาเทพเท่านั้น พวกสตอล์กเกอร์ที่ปรากฏขึ้นตามมาเองก็ไม่เข้าใจสถานการณ์การที่เกิดขึ้นเช่นกัน พวกเขาต่างก็ไม่สามารถหาคําอธิบายอะไรที่เข้าคู่กันได้
หยานเฟิงได้กลับไปที่บาร์พร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ดีของเธออีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้พวกเธอได้จัดเต็มกันมาไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า ผม เสื้อผ้า รวมไปถึงชุดชั้นใน แม้ว่าโจวหยูจะไม่ชอบสภาพแวดล้อมแบบนี้เลย แต่เขาไม่มีทางเลือกมากนัก ดังนั้นเขาจึงทําได้เพียงขมวดคิ้วเข้าเป็นปมแล้วเดินเข้าในนั้นเท่านั้น เพราะในตอนนี้มันเหลือเวลาเพียงเพียงสี่ชั่วโมงกว่าเท่านั้นที่ภารกิจได้กําหนดเอาไว้
ขณะเดียวกันคนเก็บขยะที่อยู่บนไหล่ของเธอเองก็มีขนาดใหญ่ขึ้น มันใหญ่จนสามารถพันรอบคอของเธอได้ เหมือนกับงูยักเลยที่เดียว
สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังทําให้คนที่อยู่ที่นี้ไม่สามารถคิดอะไรได้อย่างใจเย็น ทั้งหมดที่เขาทําได้คือนั่งห่างๆและดูเป้าหมายเต้นไปมากับกลุ่มเพื่อนๆได้เท่านั้น
พวกเธอต่างก็เต้นกันอยู่บนเวทีที่จัดเอาไว้ ถือเป็นโชคดีที่คนรอบตัวเธอไม่สามารถมองเห็นโลก ACG ได้ ไม่อย่างนั้นการที่มีเด็กผู้หญิงที่หน้าตาเป็นเหมือนซอมบี้พร้อมกับมีงูขนาดใหญ่หน้าเกลียดหน้ากลัวพันรอบคอ อาจจะทําให้ผู้คนรอบตัวต่างตกใจกลัวและวิ่งหนีไปได้
สนจึงตอนนี้โจวหยูก็ยังไม่รู้วิธีที่จะเปลี่ยนให้เธอกลับมาในเส้นทางที่ถูกต้อง และยิ่งเวลาใกล้หมดลงไปทุกวินาทีแบบนี้มันก็ยิ่งทําให้เขารู้สึกหดหูมากขึ้น
ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงไม่ได้หวังที่จะช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้อีกต่อไป เขาหวังแค่ให้เธอร้องไห้ออกมาเท่านั้น ขอเพียงแค่ให้เธอมีน้ําตาเพียงเล็กน้อย เขาก็ถือว่าการสะดกรอยตามตลอดทั้งวันของเขานั้นถือว่าคุ้มค่า
แต่การขโมยน้ําตาจากหญิงสาวคนหนึ่งมันก็เป็นงานที่ยากเช่นกัน และมันยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ถ้าเขาเป็นคนลงมือทําด้วยตัวเอง ดังนั้นในครั้งนี้โจวหยูจึงได้ขอร้องให้เจ้าเซอร์แบล็กและอัศวินนภาบบช่วยเท่านั้น เมื่อดูจากขนาดตัวและความเร็วที่ทั้งสองตัวทําได้แล้ว เขาคิดว่าภารกิจที่มอบหมายให้นั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ในขณะเดียวกันคนเก็บขยะที่พันอยู่รอบตัวของผู้หญิงเองก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นโจวหยูเข้าให้แล้ว มันค่อยๆลื่นลงจากคอของเธอก่อนที่จะกลายเป็นร่างมนุษย์แล้วเดินไปที่โจวหยู
สิ่งมีชีวิตในโลก ACG เช่นสัตว์ประหลาดนั้นสามารถเปลี่ยนขนาดร่างกายของพวกมันและยังกลายเป็นมนุษย์ได้อีกด้วย ความรู้พวกนี้โจวหยได้รู้มาก่อนแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาเห็นเหตุการณ์นี้จึงไม่ได้แสดงอาการแปลกใจอะไรออก
แต่สิ่งที่ทําให้เขาไม่เข้าใจก็คือ ทําไมเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ถึงตรงมาหาเขาทันทีที่เจอกัน?
หรือว่าอีกฝ่ายเองก็รู้ว่าเขาต้องการน้ําตาที่รวงหล่นนี้เช่นกัน ดังนั้นมันจึงเข้ามาเพื่อจัดการเขา?
“คุณโจวหยู! คุณโปรดยอมแพ้ไปเสียเถอะ! ในครั้งนี้ คุณจะไม่สามารถได้รับแร่น้ําตาที่ร่วงหล่นไปได้”
น้ําเสียงของคนเก็บขยะนั้นดูแข็งแรงและเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างมากเมื่อเขาพูดประโยคนี้ออกมา